บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ |
๖๙. อาสยานุสยญาณนิทฺเทสวณฺณนา [๑๑๓] อาสยานุสยญาณนิทฺเทเส อิธ ตถาคโตติอาทิ ปญฺจธา ฐปิโต นิทฺเทโส. ตตฺถ อาสยานุสยา วุตฺตตฺถา เอว. จริตนฺติ ปุพฺเพ กตํ กุสลากุสลํ กมฺมํ. อธิมุตฺตินฺติ สมฺปติ กุสเล อกุสเล วา จิตฺตโวสฺสคฺโค. ภพฺพาภพฺเพติ ภพฺเพ @เชิงอรรถ: ๑ สี.ก. ภยตฺตา จ อภพฺเพ จ. อริยาย ชาติยา สมฺภวนฺติ ชายนฺตีติ ภพฺพา. วตฺตมานสมีเป วตฺตมานวจนํ. ภวิสฺสนฺติ ชายิสฺสนฺตีติ วา ภพฺพา, ภาชนภูตาติ อตฺโถ. เย อริยมคฺคปฏิเวธสฺส อนุจฺฉวิกา อุปนิสฺสยสมฺปนฺนา, เต ภพฺพา. วุตฺตปฏิปกฺขา อภพฺพา. กตโม จ ๑- สตฺตานํ อาสโยติอาทิ นิทฺเทสสฺส ปฏินิทฺโท. ตตฺถ สสฺสโตติ นิจฺโจ. โลโกติ อตฺตา. อิธ สรีรํเยว นสฺสติ, อตฺตา ปน อิธ ปรตฺถ จ โสเยวาติ มญฺญนฺติ. โส หิ สยํเยว อาโลเกตีติ กตฺวา "โลโก"ติ มญฺญนฺติ. อสสฺสโตติ อนิจฺโจ. อตฺตา สรีเรเนว สห นสฺสตีติ มญฺญนฺติ. อนฺตวาติ ปริตฺเต กสิเณ ฌานํ อุปฺปาเทตฺวา ตํปริตฺตกสิณารมฺมณํ จิตฺตํ สปริยนฺโต อตฺตาติ มญฺญนฺติ. อนนฺตวาติ น อนฺตวา อปฺปมาเณ กสิเณ ฌานํ อุปฺปาเทตฺวา ตํ อปฺปมาณกสิณารมฺมณํ จิตฺตํ สปริยนฺโต อตฺตาติ มญฺญนฺติ. ตํ ชีวํ ตํ สรีรนฺติ ชีโว จ สรีรญฺจ ตํเยว. ชีโวติ อตฺตา. ลิงฺควิปลฺลาเสน นปุํสกวจนํ กตํ. สรีรนฺติ ราสฏฺเฐน ขนฺธปญฺจกํ. อญฺญํ ชีวํ อญฺญํ สรีรนฺติ อญฺโญ ชีโว อญฺญํ ขนฺธปญฺจกํ. โหติ ตถาคโต ปรํ มรณาติ ขนฺธา อิเธว วินสฺสนฺติ, สตฺโต มรณโต ปรํ โหติ วิชฺชติ น นสฺสติ. "ตถาคโต"ติ เจตฺถ สตฺตาธิวจนนฺติ วทนฺติ. เกจิ ปน "ตถาคโตติ อรหา"ติ วทนฺติ. อิเม "น โหตี"ติ ปกฺเข โทสํ ทิสฺวา เอวํ คณฺหนฺติ. น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณาติ ขนฺธา อิเธว นสฺสนฺติ, ตถาคโต จ มรณโต ปรํ น โหติ อุจฺฉิชฺชติ วินสฺสติ. อิเม "โหตี"ติ ปกฺเข โทสํ ทิสฺวา เอวํ คณฺหนฺติ. โหติ จ น จ โหตีติ อิเม เอเกกปกฺขปริคฺคเห โทสํ ทิสฺวา อุภยปกฺขํ คณฺหนฺติ. เนว โหติ น น โหตีติ อิเม อุภยปกฺขปริคฺคเห โทสํ ทิสฺวา อุภยปกฺขปริคฺคเห อุภยโทสาปตฺตึ ทิสฺวา "โหตีติ จ น โหติ, เนว โหตีติ จ น โหตี"ติ อมราวิกฺเขปปกฺขํ คณฺหนฺติ. @เชิงอรรถ: ๑ ม. จ-สทฺโท นตฺถิ อยํ ปเนตฺถ อฏฺฐกถานโย "สสฺสโต โลโกติ วา"ติอาทีหิ ทสหากาเรหิ ทิฏฺฐปเภโทว วุตฺโต. ตตฺถ สสฺสโต โลโกติ จ ขนฺธปญฺจกํ โลโกติ คเหตฺวา "อยํ โลโก นิจฺโจ ธุโว สพฺพกาลิโก"ติ คณฺหนฺตสฺส สสฺสตนฺติ คหณาการปฺปวตฺตา ทิฏฺฐิ. อสสฺสโตติ ตเมว โลกํ "อุจฺฉิชฺชติ วินสฺสตี"ติ คณฺหนฺตสฺส อุจฺเฉทคฺคหณาการปฺปวตฺตา ทิฏฺฐิ. อนฺตวาติ ปริตฺตกสิณลาภิโน สุปฺปมตฺเต วา สราวมตฺเต วา กสิเณ สมาปนฺนสฺส อนฺโตสมาปตฺติยํ ปวตฺติตรูปารูปธมฺเม "โลโก"ติ จ กสิณปริจฺเฉทนฺเตน "อนฺตวา"ติ จ คณฺหสฺส "อนฺตวา โลโก"ติ คหณาการปฺปวตฺตา ทิฏฺฐิ. สา สสฺสตทิฏฺฐิปิ โหติ อุจฺเฉททิฏฺฐิปิ. วิปุลกสิณลาภิโน ปน ตสฺมึ กสิเณ สมาปนฺนสฺส อนฺโตสมาปตฺติยํ ปวตฺติตรูปรูปธมฺเม "โลโก"ติ จ กสิณปริจฺเฉทนฺเตน "น อนฺตวา"ติ จ คณฺหนฺตสฺส "อนนฺตวา โลโก"ติ คหณาการปฺปวตฺตา ทิฏฺฐิ. สา สสฺสตทิฏฺฐิปิ โหติ อุจฺเฉททิฏฺฐิปิ. ตํ ชีวํ ตํ สรีรนฺติ "เภทนธมฺมสฺส สรีรสฺเสว ชีวนฺ"ติ คหิตตฺตา "สรีเร อุจฺฉิชฺชมาเน ชีวมฺปิ อุจฺฉิชฺชตี"ติ อุจฺเฉทคฺคหณาการปฺปวตฺตา ทิฏฺฐิ. ทุติยปเท สรีรโต อญฺญสฺส ชีวสฺส คหิตตฺตา "สรีเร อุจฺฉิชฺชมาเนปิ ชีวํ น อุจฺฉิชฺชตี"ติ สสฺสตคฺคหณาการปฺปวตฺตา ทิฏฺฐิ. โหติ ตถาคโตติอาทีสุ "สตฺโต ตถาคโต นาม, โส ปรํ มรณา โหตี"ติ คณฺหโต ปฐมา สสฺสตทิฏฺฐิ. "น โหตี"ติ คณฺหโต ทุติยา อุจฺเฉททิฏฺฐิ. "โหติ จ น จ โหตี"ติ คณฺหโต ตติยา เอกจฺจสสฺสตทิฏฺฐิ. "เนว โหติ น น โหตี"ติ คณฺหโต จตุตฺถา อมราวิกฺเขปทิฏฺฐีติ. อิตีติ วุตฺตปฺปการทิฏฺฐินิสฺสยนิทสฺสนํ. ภวทิฏฺฐิสนฺนิสฺสิตา วา สตฺตา โหนฺติ วิภวทิฏฺฐิสนฺนิสฺสิตา วาติ ภโว วุจฺจติ สสฺสโต, สสฺสตวเสน อุปฺปชฺชมานทิฏฺฐิ ภวทิฏฺฐิ, ภโวติ ทิฏฺฐีติ วุตฺตํ โหติ. วิภโว วุจฺจติ อุจฺเฉโท, อุจฺเฉทวเสน อุปฺปชฺชมานา ทิฏฺฐิ วิภวทิฏฺฐิ, วิภโวติ ทิฏฺฐีติ วุตฺตํ โหติ. วุตฺตปฺปการา ทสวิธา ทิฏฺฐิ ภวทิฏฺฐิ จ วิภวทิฏฺฐิ จาติ ทฺวิธาว โหติ. ตาสุ ทฺวีสุ เอเกกํ สนฺนิสฺสิตา อปสฺสิตา อลฺลีนา สตฺตา โหนฺติ. เอเต วา ปน อุโภ อนฺเต อนุปคมฺมาติ เอตฺถ "อคฺคิโต วา อุทกโต วา มิถุเภทา วา"ติอาทีสุ ๑- วิย วาสทฺโท สมุจฺจยตฺโถ. เอเต วุตฺตปฺปกาเร สสฺสตุจฺเฉทวเสน เทฺว ปกฺเข จ น อุปคนฺตฺวา อนลฺลียิตฺวา ปหายาติ อตฺโถ. "อนุโลมิกา วา ขนฺตี"ติ วิกปฺปตฺโถว. อิทปฺปจฺจยตาปฏิจฺจสมุปฺปนฺเนสูติ อิเมสํ ชรามรณาทีนํ ปจฺจยา อิทปฺปจฺจยา, อิทปฺปจฺจยา เอว อิทปฺปจฺจยตา, อิทปฺปจฺจยานํ วา สมูโห อิทปฺปจฺยตา. ลกฺขณํ ปเนตฺถ สทฺทสตฺถโต ปริเยสิตพฺพํ. เต เต ปจฺจเย ปฏิจฺจ สห สมฺมา จ อุปฺปนฺนา ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนา. ตสฺสา อิทปฺปจฺจยตาย จ เตสุ ปฏิจฺจสมุปฺปนฺเนสุ จ ธมฺเมสุ. อนุโลมิกาติ โลกุตฺตรธมฺมานํ อนุโลมโต อนุโลมิกา. ขนฺตีติ ญาณํ. ญาณํ หิ ขมนโต ขนฺติ. ปฏิลทฺธา โหตีติ สตฺเตหิ อธิคตา โหติ อิทปฺปจฺจยตาย ขนฺติยา อุจฺเฉทตฺตานุปคโม โหติ ปจฺจยุปฺปนฺนธมฺมานํ ปจฺจยสามคฺคิยํ อายตฺตวุตฺติตฺตา ปจฺจยานุปรมทสฺสเนน ผลานุปรมทสฺสนโต. ปฏิจฺจสมุปฺปนฺเนสุ ธมฺเมสุ ขนฺติยา สสฺสตตฺตานุปคโม โหติ ปจฺจยสามคฺคิยํ นวนวานํ ปจฺจยุปฺปนฺนานํ ธมฺมานํ อุปฺปาททสฺสนโต. เอวเมเต อุโภ อนฺเต อนุปคมฺม ปฏิจฺจสมุปฺปาทปฏิจฺจสมุปฺปนฺนธมฺมทสฺสเนน น อุจฺเฉโท น สสฺสโตติ ปวตฺตํ สมฺมาทสฺสนํ "อนุโลมิกา ขนฺตี"ติ เวทิตพฺพํ. เอวํ หิ ตทุภยทิฏฺฐิปฏิปกฺขภูตา สมฺมาทิฏฺฐิ วุตฺตา โหติ. ยถาภูตํ วา ญาณนฺติ ยถาภูตํ ยถาสภาวํ เนยฺยํ. ตตฺถ ปวตฺตญาณมฺปิ วิสยโวหาเรน "ยถาภูตญาณนฺ"ติ วุตฺตํ. ตํ ปน สงฺขารุเปกฺขาปริยนฺตํ วิปสฺสนาญาณํ อิธาธิปฺเปตํ. เหฏฺฐา ปน "ยถาภูตญาณทสฺสนนฺ"ติ ภยตูปฏฺฐานญาณํ วุตฺตํ. ยถาภูตํ วา ญาณํ สตฺเตหิ ปฏิลทฺธํ โหตีติ สมฺพนฺโธ. อิทานิ "สสฺสโต โลโก"ติอาทีหิ มิจฺฉาทิฏฺฐิปริภาวิตํ "เอเต วา ปนา"ติอาทีหิ สมฺมาทิฏฺฐิปริภาวิตํ สตฺตสนฺตานํ ทสฺเสตฺวา "กามํ เสวนฺตญฺเญวา"ติอาทีหิ เสสากุสเลหิ เสสกุสเลหิ จ ปริภาวิตํ สตฺตสนฺตานํ ทสฺเสติ. ตตฺถ กามํ เสวนฺตํเยว @เชิงอรรถ: ๑ ที.มหา. ๑๐/๑๕๒/๘๐ ปุคฺคลํ ตถาคโต ชานาตีติ โยชนา กาตพฺพา. เสวนฺติ ๑- จ อภิณฺหสมุทาจารวเสน เสวมานํ. ปุพฺเพ อาเสวิตวเสน กิเลสกาโม ครุ อสฺสาติ กามครุโก. ตเถว กาโม อาสเย สนฺตาเน อสฺสาติ กามาสโย. สนฺตานวเสเนว กาเม อธิมุตฺโต ลคฺโคติ กามาธิมุตฺโต. เสเสสุปิ เอเสว นโย. เนกฺขมฺมาทีนิ วุตฺตตฺถาเนว. กามาทีหิ จ ตีหิ เสสากุสลา, เนกฺขมฺมาทีหิ ตีหิ เสสกุสลา คหิตาว โหนฺตีติ เวทิตพฺพา. "อยํ สตฺตานํ อาสโย"ติ ติธา วุตฺตํ สนฺตานเมว ทสฺเสติ. อยํ ปเนตฺถ อฏฺฐกถานโย "อิติ ภวทิฏฺฐิสนฺนิสฺสิตา วา"ติ เอวํ สสฺสตทิฏฺฐึ วา สนฺนิสฺสิตา. สสฺสตทิฏฺฐิ หิ เอตฺถ ภวทิฏฺฐีติ วุตฺตา, อุจฺเฉททิฏฺฐิ จ วิภวทิฏฺฐีติ. สพฺพทิฏฺฐีนํ หิ สสฺสตุจฺเฉททิฏฺฐีหิ สงฺคหิตตฺตา สพฺเพปิเม ทิฏฺฐิคติกา สตฺตา อิมาว เทฺว ทิฏฺฐิโย สนฺนิสฺสิตา โหนฺติ. วุตฺตมฺปิ เจตํ "ทฺวยนิสฺสิโต ขฺวายํ กจฺจาน โลโก เยภุยฺเยน อตฺถิตญฺเจว นตฺถิตญฺจา"ติ ๒-. เอตฺถ หิ อตฺถิตาติ สสฺสตํ นตฺถิตาติ อุจฺเฉโท. อยํ ตาว วฏฺฏนิสฺสิตานํ ปุถุชฺชานานํ สตฺตานํ อาสโย. อิทานิ วิวฏฺฏนิสฺสิตานํ สุทฺธสตฺตานํ อาสยํ ทสฺเสตุํ "เอเต วา ปน อุโภ อนฺเต อนุปคมฺมา"ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ "เอเต วา ปนา"ติ เอเตเยว. "อุโภ อนฺเต"ติ สสฺสตุจฺเฉทสงฺขาเต เทฺว อนฺเต. "อนุปคมฺมา"ติ น อลฺลียิตฺวา. "อิทปฺปจฺจยตาปฏิจฺจสมุปฺปนฺเนสุ ธมฺเมสู"ติ อิทปฺปจฺจยตาย เจว ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนธมฺเมสุ จ. "อนุโลมิกา ขนฺตี"ติ วิปสฺสนาญาณํ. "ยถาภูตํ ญาณนฺ"ติ มคฺคญาณํ. อิทํ วุตฺตํ โหติ:- "ยา ปฏิจฺจสมุปฺปาเท เจว ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนธมฺเมสุ จ เอเต อุโภ สสฺสตุจฺเฉทอนฺเต อนุปคนฺตฺวา วิปสฺสนา ปฏิลทฺธา, ยญฺจ ตโต อุตฺตรึ มคฺคญาณํ, อยํ สตฺตานํ อาสโย. อยํ วฏฺฏนิสฺสิตานญฺจ วิวฏฺฏนิสฺสิตานญฺจ สพฺเพสมฺปิ สตฺตานํ อาสโย อิทํ วสนฏฺฐานนฺ"ติ. อยํ อาจริยานํ สมานฏฺฐกถา. @เชิงอรรถ: ๑ ก. เสวนฺตญฺเญวาติ ๒ สํ.นิ. ๑๖/๑๕/๑๘ วิตณฺฑวาที ปนาห "มคฺโค นาม วาสํ วิทฺธํเสนฺโต คจฺฉติ, ตฺวํ มคฺโค วาโสติ วเทสี"ติ. โส วตฺตพฺโพ "ตฺวํ อริยวาสภาณโก โหสิ น โหสี"ติ. สเจ "น โหมี"ติ วทติ, "ตฺวํ อภาณกตาย น ชานาสี"ติ วตฺตพฺโพ. สเจ "ภาณโกสฺมี"ติ วทติ, "สุตฺตํ อาหรา"ติ วตฺตพฺโพ. สเจ อาหรติ, อิจฺเจตํ กุสลํ. โน เจ อาหรติ, สยํ อาหริตพฺพํ "ทสยิเม ภิกฺขเว อริยวาสา, ยทริยา อาวสึสุ วา อาวสนฺติ วา อาวสิสฺสนฺติ วา"ติ ๑- เอตํ หิ สุตฺตํ มคฺคสฺส วาสภาวํ ทีเปติ. ตสฺมา สุกถิตเมเวตนฺติ. อิมํ ปน ภควา สตฺตานํ อาสยํ ชานนฺโต อิเมสญฺจ ทิฏฺฐิคตานํ อิเมสญฺจ วิปสฺสนาญาณมคฺคญาณํ อปฺปวตฺตกฺขเณปิ ชานาติ เอว. ตสฺมาเยว จ "กามํ เสวนฺตํเยว ชานาตี"ติอาทิ วุตฺตนฺติ. อนุสยนิทฺเทเส อนุสยาติ เกนฏฺเฐน อนุสยา? อนุสยนฏฺเฐน. โก เอส อนุสยนฏฺโฐ นามาติ? อปฺปหีนฏฺโฐ. เอเต หิ อปฺปหีนฏฺเฐน ตสฺส ตสฺส สนฺตาเน อนุเสนฺติ นาม. ตสฺมา "อนุสยา"ติ วุจฺจนฺติ. อนุเสนฺตีติ อนุรูปํ การณํ ลภิตฺวา อุปฺปชฺชตีติ อตฺโถ. อถาปิ สิยา:- "อนุสยนฏฺโฐ นาม อปฺปหีนากาโร, โส จ อุปฺปชฺชตีติ วุตฺตํ น ยุชฺชติ, ตสฺมา น อนุสยา อุปฺปชฺชตีติ. ตตฺริทํ ปฏิวจนํ:- "น อปฺปหีนากาโร, อนุสโยติ ปน อปฺปหีนฏฺเฐน ถามคตกิเลโสติ วุจฺจติ. โส จิตฺตสมฺปยุตฺโต สารมฺมโณ สปฺปจฺจยฏฺเฐน สเหตุโก เอกนฺตากุสโล อตีโตปิ โหติ อนาคโตปิ ปจฺจุปฺปนฺโนปิ, ตสฺมา อุปฺปชฺชตี"ติ วตฺตุํ ยุชฺชติ. ตตฺริทํ ปมาณํ:- "อิเธว ตาว อภิสมยกถาย "ปจฺจุปฺปนฺเน กิเลเส ปชหตี"ติ ๒- ปุจฺฉํ กตฺวา อนุสยานํ ปจฺจุปฺปนฺนภาวสฺส อตฺถิตาย "ถามคโต อนุสยํ ปชหตี"ติ วุตฺตํ. ธมฺมสงฺคณิยํ โมหสฺส ปทภาชเน "อวิชฺชานุสโย อวิชฺชาปริยุฏฺฐานํ อวิชฺชาลงฺคี โมโห อกุสลมูลํ, อยํ ตสฺมึ สมเย โมโห โหตี"ติ ๓- อกุสลจิตฺเตน สทฺธึ โมหสฺส อุปฺปนฺนภาโว วุตฺโต. กถาวตฺถุสฺมึ "อนุสยา อพฺยากตา, อนุสยา อเหตุกา, อนุสยา @เชิงอรรถ: ๑ องฺ.ทสก. ๒๔/๑๙/๒๓ ๒ ขุ.ปฏิ. ๓๑/๒๑/๔๒๘ ๓ อภิ.สงฺ. ๓๔/๓๙๐/๑๐๙ จิตฺตวิปฺปยุตฺตา"ติ ๑- สพฺเพ วาทา ปฏิเสธิตา. อนุสยยมเก สตฺตนฺนํ มหาวารานํ อญฺญตรสฺมึ อุปฺปชฺชนวาเร "ยสฺส กามราคานุสโย อุปฺปชฺชติ ตสฺส ปฏิฆานุสโย อุปฺปชฺชตี"ติอาทิ ๒- วุตฺตํ. ตสฺมา "อนุเสนฺตีติ อนุรูปํ การณํ ลภิตฺวา อุปฺปชฺชนฺตี"ติ ยํ วุตฺตํ, ตํ อิมินา ตนฺติปฺปมาเณน ยุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. ยมฺปิ "จิตฺตสมฺปยุตฺโต สารมฺมโณ"ติอาทิ ๓- วุตฺตํ, ตมฺปิ สุวุตฺตเมว. อนุสโย หิ นาเมส ปรินิปฺผนฺโน จิตฺตสมฺปยุตฺโต อกุสลธมฺโม"ติ นิฏฺฐเมตฺถ คนฺตพฺพํ. กามราคานุสโยติอาทีสุ กามราโค จ โส อปฺปหีนฏฺเฐน อนุสโย จาติ กามราคานุสโย. เสสปเทสุปิ เอเสว นโย. กามราคานุสโย เจตฺถ โลภสหคตจิตฺเตสุ สหชาตวเสน อารมฺมณวเสน จ มนาเปสุ ๔- อวเสสกามาวจรธมฺเมสุ อารมฺมณวเสเนว อุปฺปชฺชมาโน โลโภ. ปฏิฆานุสโย จ โทมนสฺสสหคตจิตฺเตสุ สหชาตวเสน อารมฺมณวเสน จ อมนาเปสุ ๕- อวเสสกามาวจรธมฺเมสุ อารมฺมณวเสเนว อุปฺปชฺชมาโน โทโส. มานานุสโย ทิฏฺฐิคตวิปฺปยุตฺตโลภสหคตจิตฺเตสุ สหชาตวเสน อารมฺมณวเสน จ ทุกฺขเวทนาวชฺเชสุ อวเสสกามาวจรธมฺเมสุ รูปารูปาวจรธมฺเมสุ จ อารมฺมณวเสเนว อุปฺปชฺชมาโน มาโน. ทิฏฺฐานุสโย จตูสุ ทิฏฺฐิคตสมฺปยุตฺเตสุ. วิจิกิจฺฉานุสโย วิจิกิจฺฉาสหคเต. อวิชฺชานุสโย ทฺวาทสสุ อกุสลจิตฺเตสุ สหชาตวเสน อารมฺมณวเสน จ. ตโยปิ อวเสสเตภูมกธมฺเมสุ อารมฺมณวเสเนว อุปฺปชฺชมานา ทิฏฺฐิวิจิกิจฺฉาโมหา. ภวราคานุสโย จตูสุ ทิฏฺฐิคตวิปฺปยุตฺเตสุ อุปฺปชฺชมาโนปิ สหชาตวเสน น วุตฺโต, อารมฺมณวเสเนว ปน รูปารูปาวจรธมฺเมสุ อุปฺปชฺชมาโน โลโภ วุตฺโต. [๑๑๔] อิทานิ ยถาวุตฺตานํ อนุสยานํ อนุสยนฏฺฐานํ ทสฺเสนฺโต ยํ โลเกติอาทิมาห. ตตฺถ ยํ โลเก ปิยรูปนฺติ ยํ อิมสฺมึ โลเก ปิยชาติกํ ปิยสภาวํ. @เชิงอรรถ: ๑ อภิ.ก. ๓๗/๖๐๕/๓๖๙ ๒ อภิ.ย. ๓๘/๓๓๐/๕๔๓ @๓ สี.,อิ. อารมฺมโณ ๔ สี. อมนาเปสุ ๕ สี.,อิ. มเนเปสุ สาตรูปนฺติ สาตชาติกํ อสฺสาทปทฏฺฐานํ อิฏฺฐารมฺมณํ. เอตฺถ สตฺตานํ กามราคานุสโย อนุเสตีติ เอตสฺมึ อิฏฺฐารมฺมเณ สตฺตานํ อปฺปหีนฏฺเฐน กามราคานุสโย อนุเสติ. "ปิยรูปํ สาตรูปนฺ"ติ จ อิธ กามาวจรธมฺโมเยว อธิปฺเปโต. ยถา นาม อุทเก นิมุคฺคสฺส เหฏฺฐา จ อุปริ จ สมนฺตา จ อุทกเมว โหติ, เอวเมว อิฏฺฐารมฺมเณ ราคุปฺปตฺติ นาม สตฺตานํ อาจิณฺณสมาจิณฺณา. ตถา อนิฏฺฐารมฺมเณ ปฏิฆุปฺปตฺติ. อิติ อิเมสุ ทฺวีสุ ธมฺเมสูติ เอวํ อิเมสุ ทฺวีสุ อิฏฺฐานิฏฺฐารมฺมณธมฺเมสุ. อวิชฺชานุปติตาติ กามราคปฏิฆสมฺปยุตฺตา หุตฺวา อารมฺมณกรณวเสน อวิชฺชา อนุปติตา อนุคตา. วิจฺเฉทํ กตฺวาปิ ปาโฐ. ตเทกฏฺโฐติ ตาย อวิชฺชาย สหเชกฏฺฐวเสน เอกโต ฐิโต. มาโน จ ทิฏฺฐิ จ วิจิกิจฺฉา จาติ นววิธมาโน ทฺวาสฏฺฐิวิธา ทิฏฺฐิ อฏฺฐวตฺถุกา วิจิกิจฺฉา, ตเทกฏฺโฐ มาโน จ ตเทกฏฺฐา ทิฏฺฐิ จ ตเทกฏฺฐา วิจิกิจฺฉา จาติ โยชนา. ทฏฺฐพฺพาติ ปสฺสิตพฺพา อวคนฺตพฺพา. ตโย เอกโต กตฺวา พหุวจนํ กตํ. ภวราคานุสโย ปเนตฺถ กามราคานุสเยเนว สงฺคหิโตติ เวทิตพฺโพ. จริตนิทฺเทเส เตรส เจตนา ปุญฺญาภิสงฺขาโร. ทฺวาทส อปุญฺญาภิสงฺขาโร. จตสฺโส อาเนญฺชาภิสงฺขาโร. ตตฺถ กามาวจโร ปริตฺตภูมโก. อิตโร มหาภูมโก. ตีสุปิ วา เอเตสุ โย โกจิ อปฺปวิปาโก ปริตฺตภูมโก, มหาวิปาโก มหาภูมโกติ เวทิตพฺโพ. [๑๑๕] อธิมุตฺตนิทฺเทเส สนฺตีติ สํวิชฺชนฺติ. หีนาธิมุตฺติกาติ ลามกชฺฌาสยา. ปณีตาธิมุตฺติกาติ กลฺยาณชฺฌาสยา. เสวนฺตีติ นิสฺสยนฺติ อลฺลียนฺติ. ภชนฺตีติ อุปสงฺกมนฺติ. ปยิรุปาสนฺตีติ ปุนปฺปนํ อุปสงฺกมนฺติ. สเจ หิ อาจริยุปชฺฌายา น สีลวนฺโต โหนฺติ, อนฺเตวาสิกสทฺธิวิหาริกา สีลวนฺโต. เต อตฺตโน อาจริยุปชฺฌาเยปิ น อุปสงฺกมนฺติ, อตฺตโน สทิเส สารุปฺเป ภิกฺขูเยว อุปสงฺกมนฺติ. สเจปิ อาจริยุปชฺฌายา สารุปฺปา ภิกฺขู, อิตเร อสารุปฺปา, เตปิ น อาจริยุปชฺฌาเย อุปสงฺกมนฺติ, อตฺตโน สทิเส หีนาธิมุตฺติเกเยว อุปสงฺกมนฺติ. เอวํ อุปสงฺกมนํ ปน น เกวลํ เอตรหิเยว, อตีตานาคเตปีติ ทสฺเสตุํ อตีตมฺปิ อทฺธานนฺติอาทิมาห. ตตฺถ อตีตมฺปิ อทฺธานนฺติ อตีตสฺมึ กาเล, อจฺจนฺตสํโยคตฺเถ วา อุปโยควจนํ. เสสํ อุตฺตานตฺถเมว "อิทํ ปน ทุสฺสีลานํ ทุสฺสีลเสวนเมว, สีลวนฺตานํ สีลวนฺตเสวนเมว, ทุปฺปญฺญานํ ทุปฺปญฺญเสวนเมว, ปญฺญวนฺตานํ ปญฺญวนฺตเสวนเมว โก นิยาเมตีติ? อชฺฌาสยธาตุ นิยาเมตีติ. ภพฺพาภพฺพนิทฺเทเส ฉฑฺเฑตพฺเพ ปฐมํ นิทฺทิสิตฺวา คเหตพฺเพ ปจฺฉา นิทฺทิสิตุํ อุทฺเทสสฺส อุปฺปฏิปาฏิยา ปฐมํ อภพฺพา นิทฺทิฏฺฐา. อุทฺเทเส ปน ทฺวนฺทสมาเส อจฺจิตสฺส จ มนฺทกฺขรสฺส จ ปทสฺส ปุพฺพนิปาตลกฺขณวเสน ภพฺพสทฺโท ปุพฺพํ ปยุตฺโต กมฺมาวรเณนาติ ปญฺจวิเธน อานนฺตริยกมฺเมน. สมนฺนาคตาติ สมงฺคีภูตา. กิเลสาวรเณนาติ นิยตมิจฺฉาทิฏฺฐิยา. อิมานิ เทฺว สคฺคมคฺคานํ อาวรณโต อาวรณานิ. ภิกฺขุนีทูสกาทีนิ กมฺมานิปิ กมฺมาวรเณเนว สงฺคหิตานิ. วิปากาวรเณนาติ อเหตุกปฏิสนฺธิยา. ยสฺมา ปน ทุเหตุกานมฺปิ อริยมคฺคปฏิเวโธ นตฺถิ, ตสฺมา ทุเหตุกา ปฏิสนฺธิปิ วิปากาวรณเมวาติ เวทิตพฺพา. อสฺสทฺธาติ พุทฺธาทีสุ สทฺธารหิตา. อจฺฉนฺทิกาติ กตฺตุกมฺยตากุสลจฺฉนฺทรหิตา. อุตฺตรกุรุกา มนุสฺสา อจฺฉนฺทิกฏฺฐานํ ปวิฏฺฐา. ทุปฺปญฺญาติ ภวงฺคปญฺญาย ปริหีนา. ภวงฺคปญฺญาย ปน ปริปุณฺณายปิ ยสฺส ภวงฺคํ โลกุตฺตรสฺส ปาทกํ น โหติ, โสปิ ทุปฺปญฺโญเยว นาม. อภพฺพา นิยามํ โอกฺกมิตุํ กุสเลสุ ธมฺเมสุ สมฺมตฺตนฺติ กุสเลสุ ธมฺเมสุ สมฺมตฺตนิยามสงฺขาตํ อริยมคฺคํ โอกฺกมิตุํ อภพฺพา. อริยมคฺโค หิ สมฺมา สภาโวติ สมฺมตฺตํ, โสเยว อนนฺตรผลทาเน, สยเมว วา อจลภาวโต นิยาโม ตํ โอกฺกมิตุํ ปวิสิตุํ อภพฺพา. น กมฺมาวรเณนาติอาทีนิ วุตฺตวิปริยาเยเนว เวทิตพฺพานีติ. อาสยานุสยญาณนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺฐิตา.อรรถกถาภาษาบาลีอักษรไทย เล่มที่ ๔๘ หน้า ๔-๑๒. http://84000.org/tipitaka/atthapali/read_th.php?B=48&A=85&modeTY=2 The Pali Atthakatha in Roman :- http://84000.org/tipitaka/atthapali/read_rm.php?B=48&A=85&modeTY=2 อ่านอรรถกถาแปลไทย :- http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=31&i=277 เนื้อความพระไตรปิฎกฉบับหลวง :- http://84000.org/tipitaka/read/r.php?B=31&A=3079 พระไตรปิฎกฉบับบาลีอักษรไทย :- http://84000.org/tipitaka/read/pali_read.php?B=31&A=3579 The Pali Tipitaka in Roman Character :- http://84000.org/tipitaka/read/roman_read.php?B=31&A=3579 สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๓๑ http://84000.org/tipitaka/read/?index_31
|
บันทึก ๒๖ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๑.
การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจากอรรถกถาภาษาบาลีอักษรไทย.
หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]