ขอนอบน้อมแด่
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
                      พระองค์นั้น
บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ
อ่านหน้า[ต่าง] แรกอ่านหน้า[ต่าง] ที่แล้วไม่แสดงหมายเลขหน้า
ในกรณี :- 
   บรรทัดแรกของแต่ละหน้าอ่านหน้า[ต่าง] ถัดไปอ่านหน้า[ต่าง] สุดท้าย คลิกเพื่อเปลี่ยน ฐญ เป็นแบบดั้งเดิม  
อรรถกถาเล่มที่ ๕๒ ภาษาบาลีอักษรไทย จริยา.อ. (ปรมตฺถที.)

                       ๑๐. สสปณฺฑิตจริยาวณฺณนา
       [๑๒๕] ปุนาปรํ ยทา โหมิ        สสโก ปวนจาริโก
             ติณปณฺณสากผลภกฺโข       ปรเหฐนวิวชฺชิโต.
       [๑๒๖] มกฺกโฏ จ สิงฺคาโล จ     สุตฺตโปโต จหํ ตทา
             วสาม เอกสมคฺคา        สายํ ปาโต จ ทิสฺสเร.
       [๑๒๗] อหนฺเต อนุสาสามิ        กิริเย กลฺยาณปาปเก
             ปาปานิ ปริวชฺเชถ        กลฺยาเณ อภินิวิสฺสถาติ. ๑-
     #[๑๒๕-๖]  ทสเม ยทา โหมิ, สสโกติ อหํ สาริปุตฺต โพธิปริเยสนํ จรมาโน
ยทา สสปณฺฑิโต โหมิ. โพธิสตฺตา หิ กมฺมวสิปฺปตฺตาปิ ตาทิสานํ ติรจฺฉานานํ
อนุคฺคหณตฺถํ ติรจฺฉานโยนิยํ นิพฺพตฺตนฺติ. ปวนจาริโกติ มหาวนจารี. ทพฺพาทิติณานิ
รุกฺขคจฺเฉสุ ปณฺณานิ ยํ กิญฺจิ สากํ รุกฺขโต ปติตผลานิ จ ภกฺโข เอตสฺสาติ
ติณปณฺณสากผลภกฺโข.
@เชิงอรรถ:  ขุ.จริยา. ๓๓/๑๒๕-๒๗/๕๙๗

--------------------------------------------------------------------------------------------- หน้าที่ ๑๒๔.

ปรเหฐนวิวชฺชิโตติ ปรปีฬาวิรหิโต. สุตฺตโปโต จาติ อุทฺทโปโต จ. อหํ ตทาติ ยทา อหํ สสโก โหมิ, ตทา เอเต มกฺกฏาทโย ตโย สหาเย โอวทามิ. #[๑๒๗] กิริเย กลฺยาณปาปเกติ กุสเล เจว อกุสเล จ กมฺเม. ปาปานีติ อนุสาสนาการทสฺสนํ. ตตฺถ ปาปานิ ปริวชฺเชถาติ ปาณาติปาโต ฯเปฯ มิจฺฉาทิฏฺฐีติ อิมานิ ปาปานิ ปริวชฺเชถ. กลฺยาเณ อภินิวิสฺสถาติ ทานํ สีลํ ฯเปฯ ทิฏฺฐุชุกมฺมนฺติ อิทํ กลฺยาณํ, อิมสฺมึ กลฺยาเณ อตฺตโน กายวาจาจิตฺตานิ อภิมุขภาเวน นิวิสฺสถ, อิมํ กลฺยาณปฏิปตฺตึ ปฏิปชฺชถาติ อตฺโถ. เอวํ มหาสตฺโต ติรจฺฉานโยนิยํ นิพฺพตฺโตปิ ญาณสมฺปนฺนตาย กลฺยาณมิตฺโต หุตฺวา เตสํ ติณฺณํ ชนานํ กาเลน กาลํ อุปคตานํ โอวาทวเสน ธมฺมํ เทเสสิ. เต ตสฺส โอวาทํ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา อตฺตโน วสนฏฺฐานํ ปวิสิตฺวา วสนฺติ. เอวํ กาเล คจฺฉนฺเต โพธิสตฺโต อากาสํ โอโลเกตฺวา จนฺทปาริปูรึ ทิสฺวา "อุโปสถกมฺมํ กโรถา"ติ โอวทิ. เตนาห:- [๑๒๘] "อุโปสถมฺหิ ทิวเส จนฺทํ ทิสฺวา น ปูริตํ เอเตสํ ตตฺถ อาจิกฺขึ ทิวโส อชฺชุโปสโถ. [๑๒๙] ทานานิ ปฏิยาเทถ ทกฺขิเณยฺยสฺส ทาตเว ทตฺวา ทานํ ทกฺขิเณยฺเย อุปวสฺสถุโปสถนฺ"ติ. #[๑๒๘-๙] ตตฺถ จนฺทํ ทิสฺวา น ปูริตนฺติ ชุณฺหปกฺขจาตุทฺทสิยํ อีสกํ อปริปุณฺณภาเวน จนฺทํ น ปูริตํ ทิสฺวา ตโต วิภาตาย รตฺติยา อรุณุคฺคมนเวลายเมว อุโปสถมฺหิ ทิวเส ปณฺณรเส เอเตสํ มกฺกฏาทีนํ มยฺหํ สหายานํ ทิวโส อชฺชุโปสโถ, ตสฺมา "ทานานิ ปฏิยาเทถา"ติอาทินา ตตฺถ อุโปสถทิวเส ปฏิปตฺติวิธานํ อาจิกฺขินฺติ โยเชตพฺพํ. ตตฺถ ทานานีติ เทยฺยธมฺเม. ปฏิยาเทถาติ ยถาสตฺติ ยถาพลํ สชฺเชถ.

--------------------------------------------------------------------------------------------- หน้าที่ ๑๒๕.

ทาตเวติ ทาตุํ. อุปวสฺสถาติ อุโปสถกมฺมํ กโรถ, อุโปสถสีลานิ รกฺขถ, สีเล ปติฏฺฐาย ทินฺนทานํ มหปฺผลํ โหติ, ตสฺมา ยาจเก สมฺปตฺเต ตุเมฺหหิ ขาทิตพฺพาหารโต ทตฺวา ขาเทยฺยาถาติ ทสฺเสติ. เต "สาธู"ติ โพธิสตฺตสฺส โอวาทํ สิรสา สมฺปฏิจฺฉิตฺวา อุโปสถงฺคานิ อธิฏฺฐหึสุ. เตสุ อุทฺทโปโต ปาโตว "โคจรํ ปริเยสิสฺสามี"ติ นทีตีรํ คโต. อเถโก พาฬิสิโก สตฺต โรหิตมจฺเฉ อุทฺธริตฺวา วลฺลิยา อาวุณิตฺวา นทีตีเร วาลุกาย ปฏิจฺฉาเทตฺวา มจฺเฉ คณฺหนฺโต นทิยา อโธโสตํ ภสฺสิ. อุทฺโท มจฺฉคนฺธํ ฆายิตฺวา วาลิกํ วิยูหิตฺวา มจฺเฉ ทิสฺวา นีหริตฺวา "อตฺถิ นุ โข เอเตสํ สามิโก"ติ ติกฺขตฺตุํ โฆสิตฺวา สามิกํ อปสฺสนฺโต วลฺลิยํ ฑํสิตฺวา อตฺตโน วสนคุมฺเพ ฐเปตฺวา "เวลายเมว ขาทิสฺสามี"ติ อตฺตโน สีลํ อาวชฺเชนฺโต นิปชฺชิ. สิงฺคาโลปิ โคจรํ ปริเยสนฺโต เอกสฺส เขตฺตโคปกสฺส กุฏิยํ เทฺว มํสสูลานิ เอกํ โคธํ เอกญฺจ ทธิวารกํ ทิสฺวา "อตฺถิ นุ โข เอเตสํ สามิโก"ติ ติกฺขตฺตุํ โฆเสตฺวา สามิกํ อทิสฺวา ทธิวารกสฺส อุคฺคหณรชฺชุกํ คีวายํ ปเวเสตฺวา มํสสูเล จ โคธญฺจ มุเขน ฑํสิตฺวา อตฺตโน วสนคุมฺเพ ฐเปตฺวา "เวลายเมว ขาทิสฺสามี"ติ อตฺตโน สีลํ อาวชฺเชนฺโต นิปชฺชิ. มกฺกโฏปิ วนสณฺฑํ ปวิสิตฺวา อมฺพปิณฺฑํ อาหริตฺวา อตฺตโน วสนคุมฺเพ ฐเปตฺวา "เวลายเมว ขาทิสฺสามี"ติ อตฺตโน สีลํ อาวชฺเชนฺโต นิปชฺชิ. ติณฺณมฺปิ "อโห อิธ นูน ยาจโก อาคจฺเฉยฺยา"ติ จิตฺตํ อุปฺปชฺชิ. เตน วุตฺตํ:- [๑๓๐] "เต เม สาธูติ วตฺวาน ยถาสตฺติ ยถาพลํ ทานานิ ปฏิยาเทตฺวา ทกฺขิเณยฺยํ คเวสิสุนฺ"ติ. โพธิสตฺโต ปน "เวลายเมว นิกฺขมิตฺวา ทพฺพาทิติณานิ ขาทิสฺสามี"ติ อตฺตโน วสนคุมฺเพเยว นิสินฺโน จินฺเตสิ "มม สนฺติกํ อาคตานํ ยาจกานํ ติณานิ ขาทิตุํ น

--------------------------------------------------------------------------------------------- หน้าที่ ๑๒๖.

สกฺกา, ติลตณฺฑุลาทโยปิ มยฺหํ นตฺถิ, สเจ เม สนฺติกํ ยาจโก อาคมิสฺสติ, อหํ ติเณน ยาเปมิ, อตฺตโน สรีรมํสํ ทสฺสามี"ติ. เตนาห ภควา:- [๑๓๑] "อหํ นิสชฺช จินฺเตสึ ทานํ ทกฺขิณนุจฺฉวํ ยทิหํ ลเภ ทกฺขิเณยฺยํ กึ เม ทานํ ภวิสฺสติ. [๑๓๒] น เม อตฺถิ ติลา มุคฺคา มาสา วา ตณฺฑุลา ฆตํ อหํ ติเณน ยาเปมิ น สกฺกา ติณ ทาตเว. [๑๓๓] ยทิ โกจิ เอติ ทกฺขิเณยฺโย ภิกฺขาย มม สนฺติเก ทชฺชาหํ สกมตฺตานํ น โส ตุจฺโฉ คมิสฺสตี"ติ. #[๑๓๑-๓] ตตฺถ ทานํ ทกฺขิณนุจฺฉวนฺติ ทกฺขิณาภาเวน อนุจฺฉวิกํ ทานํ ทกฺขิเณยฺยสฺส ทาตพฺพํ เทยฺยธมฺมํ จินฺเตสึ. ยทิหํ ลเภติ ยทิ อหํ กิญฺจิ ทกฺขิเณยฺยํ อชฺช ลเภยฺยํ. กึ เม ทานํ ภวิสฺสตีติ กึ มม ทาตพฺพํ ภวิสฺสติ. น สกฺกา ติณ ทาตเวติ ยทิ ทกฺขิเณยฺยสฺส ทาตุํ ติลมุคฺคาทิกํ มยฺหํ นตฺถิ, ยํ ปน มม อาหารภูตํ, ตํ น สกฺกา ติณํ ทกฺขิเณยฺยสฺส ทาตุํ. ทชฺชาหํ สกมตฺตานนฺติ กึ วา มยฺหํ เอตาย เทยฺยธมฺมจินฺตาย, นนุ อิทเมว มยฺหํ อนวชฺชํ อปราธีนตาย สุลภํ ปเรสญฺจ ปริโภคารหํ สรีรํ สเจ โกจิ ทกฺขิเณยฺโย มม สนฺติกํ อาคจฺฉติ, ตยิทํ สกมตฺตานํ ตสฺส ทชฺชามหํ. เอวํ สนฺเต น โส ตุจฺโฉ มม สนฺติกํ อาคโต อริตฺตหตฺโถ หุตฺวา คมิสฺสตีติ. เอวํ มหาปุริสสฺส ยถาภูตสภาวํ ปริวิตกฺเกนฺตสฺส ปริวิตกฺกานุภาเวน สกฺกสฺส ปณฺฑุกมฺพลสิลาสนํ อุณฺหาการํ ทสฺเสสิ. โส อาวชฺเชนฺโต อิมํ การณํ ทิสฺวา "สสราชํ วีมํสิสฺสามี"ติ ปฐมํ อุทฺทสฺส วสนฏฺฐานํ คนฺตฺวา พฺราหฺมณเวเสน อฏฺฐาสิ. เตน "กิมตฺถํ พฺราหฺมณ ฐิโตสี"ติ จ วุตฺเต สเจ กิญฺจิ อาหารํ ลเภยฺยํ, อุโปสถิโก หุตฺวา สมณธมฺมํ กเรยฺยนฺติ. โส "สาธูติ เต อาหารํ ทสฺสามี"ติ อาห. เตน วุตฺตํ:-

--------------------------------------------------------------------------------------------- หน้าที่ ๑๒๗.

"สตฺต เม โรหิตา มจฺฉา อุทกา ถลมุพฺภตา อิทํ พฺราหฺมณ เม อตฺถิ เอตํ ภุตฺวา วเน วสา"ติ. ๑- พฺราหฺมโณ "ปเคว ตาว โหตุ, ปจฺฉา ชานิสฺสามี"ติ ตเถว สิงฺคาลสฺส มกฺกฏสฺส จ สนฺติกํ คนฺตฺวา เตหิปิ อตฺตโน วิชฺชมาเนหิ เทยฺยธมฺเมหิ นิมนฺติโต "ปเคว ตาว โหตุ, ปจฺฉา ชานิสฺสามี"ติ อาห. เตน วุตฺตํ:- "ทุสฺส เม เขตฺตปาลสฺส รตฺติภตฺตํ อปาภตํ มํสสูลา จ เทฺว โคธา เอกญฺจ ทธิวารกํ ๒- อิทํ พฺราหฺมณ เม อตฺถิ เอตํ ภุตฺวา วเน วสา"ติ. ๓- "อมฺพปกฺกํ ทกํ สีตํ สีตจฺฉายํ มโนรมํ ๔- อิทํ พฺราหฺมณ เม อตฺถิ เอตํ ภุตฺวา วเน วสา"ติ. ๓- ตตฺถ ทุสฺสาติ อมุสฺส. รตฺติภตฺตํ อปาภตนฺติ รตฺติโภชนโต อปนีตํ. มํสสูลา จ เทฺว โคธาติ องฺคารปกฺกานิ เทฺว มํสสูลานิ เอกา จ โคธา. ทธิวารกนฺติ ทธิวารโก. [๑๓๔] อถ พฺราหฺมโณ สสปณฺฑิตสฺส สนฺติกํ คโต. เตนาปิ "กิมตฺถํ อาคโตสี"ติ วุตฺเต ตเถวาห. เตน วุตฺตํ:- #[๑๓๔] มม สงฺกปฺปมญฺญาย สกฺโก พฺราหฺมณวณฺณินา อาสยํ เม อุปคจฺฉิ ทานํ วีมํสนาย เม. [๑๓๕] ตมหํ ทิสฺวา สนฺตุฏฺโฐ อิทํ วจนมพฺรวึ สาธุ โขสิ อนุปฺปตฺโต ฆาสเหตุ มมนฺติเก. [๑๓๖] อทินฺนปุพฺพํ ทานวรํ อชฺช ทสฺสามิ เต อหํ ตุวํ สีลคุณูเปโต อยุตฺตํ เต ปรเหฐนํ. @เชิงอรรถ: ขุ.ชา. ๒๗/๖๑/๑๐๔ สี.,ม. ทธิถาลกํ ขุ.ชา. ๒๗/๖๒-๓/๑๐๔ @ ฉ.ม. สีตจฺฉายา มโนรมา

--------------------------------------------------------------------------------------------- หน้าที่ ๑๒๘.

[๑๓๗] เอหิ อคฺคึ ปทีเปหิ นานากฏฺเฐ สมานย อหํ ปจิสฺสมตฺตานํ ปกฺกํ ตฺวํ ภกฺขยิสฺสสิ. [๑๓๘] สาธูติ โส หฏฺฐมโน นานากฏฺเฐ สมานยิ มหนฺตํ อกาสิ จิตกํ กตฺวานงฺคารคพฺภกํ. [๑๓๙] อคฺคึ ตตฺถ ปทีเปสิ ยถา โส ขิปฺปํ มหาภเว โผเฏตฺวา รชคเต คตฺเต เอกมนฺตํ อุปาวิสึ. [๑๔๐] ยทา มหากฏฺฐปุญฺโช อาทิตฺโต ธมธมายติ ตทุปฺปติตฺวา ปปติ มชฺเฌ ชาลสิขนฺตเร. [๑๔๑] ยถา สีโตทกํ นาม ปวิฏฺฐํ ยสฺส กสฺสจิ สเมติ ทรถปริฬาหํ อสฺสาทํ เทติ ปีติ จ. [๑๔๒] ตเถว ชลิตํ อคฺคึ ปวิฏฺฐสฺส มมํ ตทา สพฺพํ สเมติ ทรถํ ยถา สีโตทกํ วิยาติ. ๑- ตตฺถ มม สงฺกปฺปมญฺญายาติ ปุพฺเพ วุตฺตปฺปการํ ปริวิตกฺกํ ชานิตฺวา. พฺราหฺมณวณฺณินาติ พฺราหฺมณรูปวตา อตฺตภาเวน. อาสยนฺติ วสนคุมฺพํ. #[๑๓๕-๗] สนฺตุฏฺโฐติ สมํ สพฺพภาเคเนว ตุฏฺโฐ. ฆาสเหตูติ อาหารเหตุ. อทินฺนปุพฺพนฺติ เยหิ เกหิจิ อโพธิสตฺเตหิ อทินฺนปุพฺพํ. ทานวรนฺติ อุตฺตมทานํ. "อชฺช ทสฺสามิ เต อหนฺ"ติ วตฺวา ตุวํ สีลคุณูเปโต, อยุตฺตํ เต ปรเหฐนนฺติ ตํ ปาณาติปาตโต อปเนตฺวา อิทานิ ตสฺส ปริโภคโยคฺคํ อตฺตานํ กตฺวา ทาตุํ "เอหิ อคฺคึ ปทีเปหี"ติอาทิมาห. @เชิงอรรถ: ขุ.จริยา. ๓๓/๑๓๗-๔๒/๕๙๘

--------------------------------------------------------------------------------------------- หน้าที่ ๑๒๙.

ตตฺถ อหํ ปจิสฺสมตฺตานนฺติ ตยา กเต องฺคารคพฺเภ อหเมว ปติตฺวา อตฺตานํ ปจิสฺสํ. ปกฺกํ ตฺวํ ภกฺขยิสฺสสีติ ตถา ปน ปกฺกํ ตฺวํ ขาทิสฺสสิ. #[๑๓๘-๙] นานากฏฺเฐ สมานยีติ โส พฺราหฺมณเวสธารี สกฺโก นานาทารูนิ สมาเนนฺโต วิย อโหสิ. มหนฺตํ อกาสิ จิตกํ, กตฺวานงฺคารคพฺภกนฺติ วีตจฺจิกํ วิคตธูมํ องฺคารภริตพฺภนฺตรํ สมนฺตโต ชลมานํ มม สรีรสฺส นิมฺมุชฺชนปฺปโหนกํ ตงฺขณญฺเญว มหนฺตํ จิตฺตกํ อกาสิ, สหสา อิทฺธิยา อภินิมฺมินีติ อธิปฺปาโย. เตนาห "อคฺคึ ตตฺถ ปทีเปสิ, ยถา โส ขิปฺปํ มหาภเว"ติ. ตตฺถ โสติ โส อคฺคิกฺขนฺโธ สีฆํ มหนฺโต ยถา ภเวยฺย, ตถา ปทีเปสิ. โผเฏตฺวา รชคเต คตฺเตติ "สเจ โลมนฺตเรสุ ปาณกา อตฺถิ, เต มา มรึสู"ติ ปํสุคเต มม คตฺเต ติกฺขตฺตุํ วิธุนิตฺวา. เอกมนฺตํ อุปาวิสินฺติ น ตาว กฏฺฐานิ อาทิตฺตานีติ เตสํ อาทีปนํ อุทิกฺขนฺโต โถกํ เอกมนฺตํ นิสีทึ. #[๑๔๐] ยทา มหากฏฺฐปุญฺโช, อาทิตฺโต ธมธมายตีติ ยทา ปน โส ทารุราสิ สมนฺตโต อาทิตฺโต อายุเวคสมุทฺธตานํ ชาลสิขานํ วเสน "ธม ธมา"ติ เอวํ กโรติ. ตทุปฺปติตฺวา ปปติ, มชฺเฌ ชาลสิขนฺตเรติ ตทา ตสฺมึ กาเล "มม สรีรสฺส ฌาปนสมตฺโถ อยํ องฺคารราสี"ติ จินฺเตตฺวา อุปฺปติตฺวา อุลฺลงฺฆิตฺวา ชาลสิขานํ อพฺภนฺตรภูเต ตสฺส องฺคารราสิสฺส มชฺเฌ ปทุมปุญฺเช ราชหํโส วิย ปมุทิตจิตฺโต สกลสรีรํ ทานมุเข ทตฺวา ปปติ. #[๑๔๑-๒] ปวิฏฺฐํ ยสฺส กสฺสจีติ ยถา ฆมฺมกาเล สีตลํ อุทกํ เยน เกนจิ ปวิฏฺฐํ ตสฺส ทรถปริฬาหํ วูปสเมติ, อสฺสาทํ ปีติญฺจ อุปฺปาเทติ. ตเถว ชลิตํ อคฺคินฺติ เอวํ ตถา ปชฺชลิตํ องฺคารราสิ ตทา มม ปวิฏฺฐสฺส อุสุมมตฺตมฺปิ นาโหสิ. อญฺญทตฺถุ ทานปีติยา สพฺพทรถปริฬาหวูปสโม เอว อโหสิ. จิรสฺสํ วต เม ฉวิจมฺมาทิโก สพฺโพ สรีราวยโว ทานมุเข ชุหิตพฺพตํ อุปคโต อภิปตฺถิโต มโนรโถ มตฺถกํ ปตฺโตติ. เตน วุตฺตํ:-

--------------------------------------------------------------------------------------------- หน้าที่ ๑๓๐.

[๑๔๓] "ฉวึ จมฺมํ มํสํ นฺหารุํ อฏฺฐึ ๑- หทยพนฺธนํ เกวลํ สกลํ กายํ พฺราหฺมณสฺส อทาสหนฺ"ติ. ๒- #[๑๔๓] ตตฺถ หทยพนฺธนนฺติ ทหยมํสเปสิ. ตํ หิ หทยวตฺถุํ พนฺธิตฺวา วิย ฐิตตฺตา "หทยพนฺธนนฺ"ติ วุตฺตํ. อถ วา หทยพนฺธนนฺติ หทยญฺจ พนฺธนญฺจ, หทยมํสญฺเจว ตํ พนฺธิตฺวา วิย ฐิตยกนมํสญฺจาติ อตฺโถ. เกวลํ สกลํ กายนฺติ อนวเสสํ สพฺพํ สรีรํ. เอวํ ตสฺมึ อคฺคิมฺหิ อตฺตโน สรีเร โลมกูปมตฺตมฺปิ อุณฺหํ กาตุํ อสกฺโกนฺโต โพธิสตฺโตปิ หิมคพฺภํ ปวิฏฺโฐ วิย หุตฺวา พฺราหฺมณรูปธรํ สกฺกํ เอวมาห "พฺราหฺมณ ตยา กโต อคฺคิ อติสีตโล, กินฺนาเมตนฺ"ติ. ปณฺฑิต นาหํ พฺราหฺมโณ, สกฺโกหมสฺมิ, ตว วีมํสนตฺถํ อาคโต เอวมกาสินฺติ. "สกฺก ตฺวํ ตาว ติฏฺฐตุ, สกโลปิ เจ โลโก มํ ทาเนน วีมํเสยฺย, เนว เม อทาตุกามตํ กถญฺจิปิ อุปฺปาเทยฺย ปสฺเสถ นนฺ"ติ โพธิสตฺโต สีหนาทํ นทิ. อถ นํ สกฺโก "สสปณฺฑิต ตว คุณา สกลกปฺปมฺปิ ปากฏา โหนฺตู"ติ ปพฺพตํ ปีเฬตฺวา ปพฺพตรสํ อาทาย จนฺทมณฺฑเล สสลกฺขณํ อาลิขิตฺวา โพธิสตฺตํ ตสฺมึ วนสณฺเฑ ตตฺเถว วนคุมฺเพ ตรุณทพฺพติณปีเฐ นิปชฺชาเปตฺวา อตฺตโน เทวโลกเมว คโต. เตปิ จตฺตาโร ปณฺฑิตา สมคฺคา สมฺโมทมานา นิจฺจสีลํ อุโปสถสีลญฺจ ปูเรตฺวา ยถารหํ ปุญฺญานิ กตฺวา ยถากมฺมํ คตา. ตทา อุทฺโท อายสฺมา อานนฺโท อโหสิ, สิงฺคาโล มหาโมคฺคลฺลาโน, มกฺกโฏ สาริปุตฺโต, สสปณฺฑิโต ปน โลกนาโถ. ตสฺส อิธาปิ สีลาทิปารมิโย เหฏฺฐา วุตฺตนเยเนว ยถารหํ นิทฺธาเรตพฺพา. ตถา สติปิ ติรจฺฉานุปปตฺติยํ กุสลาทิธมฺเม กุสลาทิโต ยถาภูตาวโพโธ, เตสุ อณุมตฺตมฺปิ วชฺชํ ภยโต ทิสฺวา สุฏฺฐุ อกุสลโต โอรมณํ, สมฺมเทว จ กุสลธมฺเมสุ อตฺตโน ปติฏฺฐาปนํ, ปเรสญฺจ "อิเม นาม ปาปธมฺมา เต เอวํ คหิตา เอวํ ปรามฏฺฐา เอวํคติกา ภวนฺติ @เชิงอรรถ: ปาฬิ. ฉวิ จมฺมญฺจ มํสญฺจ นฺหารุ อฏฺฐิ... ขุ.จริยา. ๓๓/๑๔๓/๕๙๙

--------------------------------------------------------------------------------------------- หน้าที่ ๑๓๑.

เอวํอภิสมฺปรายา"ติ อาทีนวํ ทสฺเสตฺวา ตโต วิรมเณ นิโยชนํ, อิทํ ทานํ นาม, อิทํ สีลํ นาม, อิทํ อุโปสถกมฺมํ นาม, เอตฺถ ปติฏฺฐิตานํ เทวมนุสฺสสมฺปตฺติโย หตฺถคตา เอวาติอาทินา ปุญฺญกมฺเมสุ อานิสํสํ ทสฺเสตฺวา ปติฏฺฐาปนํ, อตฺตโน สรีรชีวิตนิรเปกฺขํ, ปเรสํ สตฺตานํ อนุคฺคณฺหนํ, อุฬาโร จ ทานชฺฌาสโยติ เอวมาทโย อิธ โพธิสตฺตสฺส คุณานุภาวา วิภาเวตพฺพา. เตเนตํ วุจฺจติ "เอวํ อจฺฉริยา เหเต ฯเปฯ ธมฺมสฺส อนุธมฺมโต"ติ. สสปณฺฑิตจริยาวณฺณนา นิฏฺฐิตา. --------------- อิทานิ "อกิตฺติพฺราหฺมโณ"ติอาทินา ยถาวุตฺเต ทสปิ จริยาวิเสเส อุทาเนตฺวา นิคเมติ. เตน วุตฺตํ:- "อกิตฺติพฺราหฺมโณ สงฺโข กุรุราชา ธนญฺชโย มหาสุทสฺสโน ราชา มหาโควินฺทพฺราหฺมโณ. เนมิ จนฺทกุมาโร จ สิวิ เวสฺสนฺตโร สโส อหเมว ตทา อาสึ โย เต ทานวเร อทา. เอเต ทานปริกฺขารา เอเต ทานสฺส ปารมี ชีวิตํ ยาจเก ทตฺวา อิมํ ปารมิ ปูรยินฺ"ติ. ตตฺถ อหเมว ตทา อาสึ, โย เต ทานวเร อทาติ โย ตานิ อุตฺตมทานานิ อทาสิ, โส อกิตฺติพฺราหฺมณาทิโก อหเมว ตทา ตสฺมึ กาเล อโหสึ, น อญฺโญติ. อิติ เตสุ อตฺตภาเวสุ สติปิ สีลาทิปารมีนํ ยถารหํ ปูริตภาเว อตฺตโน ปน ตทา ทานชฺฌาสยสฺส อติวิย อุฬารภาวํ สนฺธาย ทานปารมิวเสเนว เทสนํ อาโรเปสิ.

--------------------------------------------------------------------------------------------- หน้าที่ ๑๓๒.

เอเต ทานปริกฺขารา, เอเต ทานสฺส ปารมีติ เย อิเม อกิตฺติชาตกาทีสุ ๑- อเนกาการโวการา มยา ปวตฺติตา เทยฺยธมฺมปริจฺจาคา มม สรีราวยวปุตฺตทารปริจฺจาคา ปรมโกฏิกา, กิญฺจาปิ เต กรุณูปายโกสลฺลปริคฺคหิตตฺตา สพฺพญฺญุตญฺญาณเมว อุทฺทิสฺส ปวตฺติตตฺตา ทานสฺส ปรมุกฺกํสคมเนน ทานปารมี เอว, ตถาปิ มม ทานสฺส ปรมตฺถปารมิภูตสฺส ปริกฺขรณโต ๒- สนฺตานสฺส ปริภาวนาวเสน อภิสงฺขรณโต เอเต ทานปริกฺขารา นาม. ยสฺส ปเนเต ปริกฺขารา, ตํ ทสฺเสตุํ "ชีวิตํ ยาจเก ทตฺวา, อิมํ ปารมิ ปูรยินฺ"ติ วุตฺตํ. เอตฺถ หิ ฐเปตฺวา สสปณฺฑิตจริยํ เสสาสุ นวสุ จริยาสุ ยถารหํ ทานปารมิทานอุปปารมิโย เวทิตพฺพา, สสปณฺฑิตจริเย ๓- ปน ทานปรมตฺถปารมี. เตน วุตฺตํ:- "ภิกฺขาย อุปคตํ ทิสฺวา สกตฺตานํ ปริจฺจชึ ทาเนน เม สโม นตฺถิ เอสา เม ทานปารมี"ติ. ๔- กิญฺจาปิ หิ มหาปุริสสฺส ยถาวุตฺเต อกิตฺติพฺราหฺมณาทิกาเล อญฺญสฺมึ จ มหาชนกมหาสุตโสมาทิกาเล ทานปารมิยา ปูริตตฺตภาวานํ ปริมาณํ นาม นตฺถิ, ตถาปิ เอกนฺเตเนว สสปณฺฑิตกาเล ทานปารมิยา ปรมตฺถปารมิภาโว วิภาเวตพฺโพติ. อิติ ปรมตฺถทีปนิยา จริยาปิฏกสํวณฺณนาย ทสวิธจริยาสงฺคหสฺส วิเสสโต ทานปารมิวิภาวนสฺส ปฐมวคฺคสฺส อตฺถวณฺณนา นิฏฺฐิตา. ----------------- @เชิงอรรถ: ขุ.ชา. ๒๗/๘๓-๑๐๓/๒๘๐-๘๒ สี. ปริกฺขารคุณโต ขุ.จริยา. ๓๓/๑๒๕-๔๓/๕๙๗-๙๙ @ ขุ.จริยา. ๓๓/๕๙๙

             อรรถกถาภาษาบาลีอักษรไทย เล่มที่ ๕๒ หน้า ๑๒๓-๑๓๒. http://84000.org/tipitaka/atthapali/read_th.php?B=52&A=2704&modeTY=2&pagebreak=1              The Pali Atthakatha in Roman :- http://84000.org/tipitaka/atthapali/read_rm.php?B=52&A=2704&modeTY=2&pagebreak=1              อ่านอรรถกถาแปลไทย :- http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=33&i=218              เนื้อความพระไตรปิฎกฉบับหลวง :- http://84000.org/tipitaka/read/r.php?B=33&A=8906              พระไตรปิฎกฉบับบาลีอักษรไทย :- http://84000.org/tipitaka/read/pali_read.php?B=33&A=11640              The Pali Tipitaka in Roman Character :- http://84000.org/tipitaka/read/roman_read.php?B=33&A=11640              สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๓๓ http://84000.org/tipitaka/read/?index_33

อ่านหน้า[ต่าง] แรกอ่านหน้า[ต่าง] ที่แล้วไม่แสดงหมายเลขหน้า
ในกรณี :- 
   บรรทัดแรกของแต่ละหน้าอ่านหน้า[ต่าง] ถัดไปอ่านหน้า[ต่าง] สุดท้าย คลิกเพื่อเปลี่ยน ฐญ เป็นแบบดั้งเดิม

บันทึก ๒๖ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๑. การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจากอรรถกถาภาษาบาลีอักษรไทย. หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]