![]() |
บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ |
๓. มหาโคปาลกสุตฺตวณฺณนา [๓๔๖] เอวมฺเม สุตนฺติ มหาโคปาลกสุตฺตํ. ตตฺถ ติสฺโส กถา เอกนาลิกา, จตุรสฺสา, นิสินฺนวตฺติกาติ. ตตฺถ ปาลึ วตฺวา เอเกกปทสฺส อตฺถกถนํ เอกนาลิกา นาม. อปณฺฑิตํ โคปาลกํ ทสฺเสตฺวา, อปณฺฑิตํ ภิกฺขุ ํ ทสฺเสตฺวา, ปณฺฑิตํ โคปาลกํ ทสฺเสตฺวา, ปณฺฑิตํ ภิกฺขุ ํ ทสฺเสตฺวาติ ตํ จตุกฺกํ พนฺธิตฺวา กถนํ จตุรสฺสา นาม. อปณฺฑิตํ โคปาลกํ ทสฺเสตฺวา ปริโยสานคมนํ, อปณฺฑิตํ ภิกฺขุ ํ ทสฺเสตฺวา ปริโยสานคมนํ, ปณฺฑิตํ โคปาลกํ ทสฺเสตฺวา ปริโยสานคมนํ, ปณฺฑิตํ ภิกฺขุ ํ ทสฺเสตฺวา ปริโยสานคมนนฺติ อยํ นิสินฺนวตฺติกา นาม. อยํ อิธ สพฺพาจริยานํ อาจิณฺณา. เอกาทสหิ ภิกฺขเว องฺเคหีติ เอกาทสหิ อคุณโกฏฺฐาเสหิ. โคคณนฺติ โคมณฺฑลํ. ปริหริตุนฺติ ปริคฺคเหตฺวา วิจริตุ ํ. ผาตึ กาตุนฺติ วุฑฺฒิมาปาเทตุ ํ ๑- อิธาติ อิมสฺมึ โลเก. น รูปญฺญู โหตีติคณนโต วา วณฺณโต วา รูปํ น ชานาติ. คณนโต น ชานาติ นาม อตฺตโน คุนฺนํ สตํ วา สหสฺสํ วาติ สงฺขฺยํ น ชานาติ. โส คาวีสุ หตาสุ วา ปลาตาสุ วา โคคณํ คเณตฺวา อชฺช เอตฺตกา ๒- น ทิสฺสนฺตีติ เทฺว ตีณิ คามนฺตรานิ วา อฏวึ วา วิจรนฺโต น ปริเยสติ, อญฺเญสํ คาวีสุ อตฺตโน โคคณํ ปวิฏฺฐาสุปิ โคคณํ คเณตฺวา "อิมา เอตฺตกา คาโว น อมฺหากนฺ"ติ ยฏฺฐิยา โปเถตฺวา น นีหรติ, ตสฺส นฏฺฐา คาวิโย นฏฺฐาว โหนฺติ, ปรคาวิโย คเหตฺวา วิจรนฺตํ โคสามิกา ทิสฺวา "อยํ เอตฺตกํ กาลํ อมฺหากํ เธนุ ํ คณฺหาตี"ติ ตชฺเชตฺวา อตฺตโน คาวิโย คเหตฺวา คจฺฉนฺติ. ตสฺส โคคโณปิ ปริหายติ, ปญฺจโครสปริโภคโตปิ ปริพาหิโร โหติ. วณฺณโต น ชานาติ นาม "เอตฺตกา คาโว เสตา, เอตฺตกา รตฺตา, เอตฺตกา กาฬา, เอตฺตกา กพลา, เอตฺตกา นีลา"ติ น ชานาติ, โส คาวีสุ หตาสุ วา ปลาตาสุ วา ฯเปฯ ปญฺจโครสปริโภคโตปิ ปริพาหิโร โหติ. @เชิงอรรถ: ๑ ฉ.ม. วฑฺฒึ อาปาเทตุ ํ ๒ เอตฺติกา. เอวมุปริปิ น ลกฺขณกุสโล โหตีติ คาวีนํ สรีเร กตํ ธนุสตฺติสูลาทิเภทลกฺขณํ น ชานาติ, โส คาวีสุ หตาสุ วา ปลาตาสุ วา อชฺช อสุกลกฺขณา จ อสุกลกฺขณา จ คาโว น ทิสฺสนฺติ ฯเปฯ ปญฺจโครสปริโภคโตปิ ปริพาหิโร โหติ. น อาสาฏิกํ หาเรตาติ คุนฺนํ ขาณุกณฺฏกาทีหิ ปหตฏฺฐาเนสุ วโณ โหติ. ตตฺถ นีลมกฺขิกา อณฺฑานิ ปาเตนฺติ, เตสํ อาสาฏิกานิ นาม. ตานิ ทณฺฑเกน อปเนตฺวา เภสชฺชํ ทาตพฺพํ โหติ. พาโล โคปาลโก ตถา น กโรติ, เตน วุตฺตํ "น อาสาฏิกํ หาเรตา โหตี"ติ. ตสฺส คุนฺนํ วณา วฑฺฒนฺติ, คมฺภีรา โหนฺติ, ปาณกา กุจฺฉึ ปวิสนฺติ, ตา คาโว เคลญฺญาภิภูตา เนว ยาวทตฺถํ ติณานิ ขาทิตุ ํ, น ปานียํ ปาตุ ํ สกฺโกนฺติ. ตตฺถ คุนฺนํ ขีรํ ฉิชฺชติ, โคณานํ ชโว หายติ, อุภเยสํ ชีวิตนฺตราโยปิ โหติ. เอวมสฺส โคคโณปิ ปริหายติ, ปญฺจโครสโตปิ ปริพาหิโร โหติ. น วณํ ปฏิจฺฉาเทตา โหตีติ คุนฺนํ วุตฺตนเยเนว สญฺชาโต วโณ เภสชฺชํ ทตฺวา วาเกน วา จีรเกน วา พนฺธิตฺวา ปฏิจฺฉาเทตพฺโพ โหติ. พาโล โคปาลโก ตถา น กโรติ, อถสฺส ๑- คุนฺนํ วเณหิ ยูสา ปคฺฆรนฺติ, ตา อญฺญมญฺญํ นิคฺฆํเสนฺติ, เตน อญฺเญสํปิ วณา ชายนฺติ. เอวํ คาโว เคลญฺญาภิภูตา เนว ยาวทตฺถํ ติณานิ ขาทิตุ ํ ฯเปฯ ปริพาหิโร โหติ. น ธูมํ กตฺตา โหตีติ อนฺโตวสฺเส ฑํสมกสาทีนํ อุสฺสนฺนกาเล โคคเณ วชํ ปวิฏฺเฐ ตตฺถ ตตฺถ ธูโม กาตพฺโพ โหติ, อปณฺฑิโต โคปาลโก ตํ น กโรติ. โคคโณ สพฺพรตฺตึ ฑํสาทีหิ อุปทฺทุโต นิทฺทํ อลภิตฺวา ปุนทิวสํ ๒- อรญฺเญ ตตฺถ ตตฺถ รุกฺขมูลาทีสุ นิปชฺชิตฺวา นิทฺทายติ, เนว ยาวทตฺถํ ติณานิ ขาทิตุ ํ ฯเปฯ ปญฺจโครสปริโภคโตปิ ปริพาหิโร โหติ. น ติตฺถํ ชานาตีติ ติตฺถํ สมนฺติ วา วิสมนฺติ วา สคาหนฺติ วา วา นิคฺคาหนฺติ วา น ชานาติ, โส อติตฺเถน คาวิโย โอตาเรติ, ตาสํ วิสมติตฺเถ @เชิงอรรถ: ๑ สี. อวสฺสํ ๒ ฉ.ม. ปุนทิวเส ปาสาณาทีนิ อกฺกมนฺตีนํ ปาทา ภิชฺชนฺติ, สคาหํ คมฺภีรํ ติตฺถํ โอติณฺณา กุมฺภีลาทโย คาหา คณฺหนฺติ, อชฺช เอตฺตกา คาโว นฏฺฐา อชฺช เอตฺตกาติ วตฺตพฺพตํ อาปชฺชติ, เอวมสฺส โคคโณปิ ปริหายติ, ปญฺจโครสโตปิ ปริพาหิโร โหติ. น ปีตํ ชานาตีติ ปีตมฺปิ อปีตมฺปิ น ชานาติ. โคปาลเกน หิ "อิมาย คาวิยา ปีตํ, อิมาย น ปีตํ, อิมาย ปานียติตฺเถ โอกาโส ลทฺโธ, อิมาย น ลทฺโธ"ติ เอวํ ปีตาปีตํ ชานิตพฺพํ โหติ. อยํ ปน ทิวสภาคํ อรญฺเญ โคคณํ รกฺขิตฺวา ปานียํ ปาเยสฺสามีติ นทึ วา ตฬากํ วา คเหตฺวา คจฺฉติ. ตตฺถ มหาอุสภา จ อนุอุสภา จ พลวคาวิโย จ ทุพฺพลานิ เจว มหลฺลกานิ จ โครูปานิ สิงฺเคหิ วา ผาสุกาหิ วา ปหริตฺวา อตฺตโน โอกาสํ กตฺวา อูรุปฺปมาณํ อุทกํ ปวิสิตฺวา ยถากามํ ปิวนฺติ, อวเสสา โอกาสํ อลภมานา ตีเร ฐตฺวา กลลมิสฺสกํ อุทกํ ปิวนฺติ, อปีตา เอว วา โหนฺติ. อถ เน ๑- โคปาลโก ปิฏฺฐิยํ ปหริตฺวา ปุน อรญฺญํ ปเวเสติ, ตตฺถ อปีตคาวิโย ปิปาสาย สุกฺขมานา ยาวทตฺถํ ติณานิ ขาทิตุ ํ น สกฺโกนฺติ, ตตฺถ คุนฺนํ ขีรํ ฉิชฺชติ, โคคณานํ ๒- ชโว หายติ ฯเปฯ ปริพาหิโร โหติ. น วีถึ ชานาตีติ "อยํ มคฺโค สโม เขโม, อยํ วิสโม สาสงฺโก สปฺปฏิภโย"ติ น ชานาติ. โส สมํ เขมํ มคฺคํ วชฺเชตฺวา โคคณํ อิตรํ มคฺคํ ปฏิปาเทติ, ตตฺถ คาโว สีหพฺยคฺฆาทีนํ คนฺเธน โจรปริสฺสเยน วา อภิภูตา ภนฺตมิคสปฺปฏิภาคา คีวํ อุกฺขิปิตฺวา ติฏฺฐนฺติ, เนว ยาวทตฺถํ ติณานิ ขาทนฺติ, น อุทกํ ๓- ปิวนฺติ, ตตฺถ คุนฺนํ ขีรํ ฉิชฺชติ ฯเปฯ ปริพาหิโร โหติ. น โคจรกุสโล โหตีติ โคปาลเกน หิ โคจรกุสเลน ภวิตพฺพํ, ปญฺจาหิกวาโร วา สตฺตาหิกวาโร วา ชานิตพฺโพ, เอกทิสาย โคคณญฺจาเรตฺวา ปุนทิวเส ตตฺถ น จาเรตพฺโพ. มหตา หิ โคคเณน จิณฺณฏฺฐานํ เภริตลํ วิย @เชิงอรรถ: ๑ สี. โส ๒ ฉ.ม. โคณานํ ๓ ฉ.ม. ปานียํ สุทฺธํ โหติ นิตฺติณํ, อุทกํปิ อาลุฬิยติ. ตสฺมา ปญฺจเม วา สตฺตเม วา ทิวเส ปุน ตตฺถ จาเรตุ ํ วฏฺฏติ, เอตฺตเกน หิ ติณํปิ ปฏิวิรุหติ, อุทกํปิ ปสีทติ. อยํ ปน อิมํ ปญฺจาหิกวารํ วา สตฺตาหิกวารํ วา น ชานาติ, ทิวเส ทิวเส รกฺขิตฏฺฐาเนเยว รกฺขติ, อถสฺส โคคโณ หริตติณํ น ลภติ, สุกฺขติณํ ขาทนฺโต กลลมิสฺสกํ อุทกํ ปิวติ, ตตฺถ คุนฺนํ ขีรํ ฉิชฺชติ ฯเปฯ ปริพาหิโร โหติ. อนวเสสโทหี จ โหตีติ ปณฺฑิตโคปาลเกน ยาว วจฺฉกสฺส มํสโลหิตํ สณฺฐาติ, ตาว เอกํ เทฺว ถเน ฐเปตฺวา สาวเสสโทหินา ภวิตพฺพํ. อยํ วจฺฉกสฺส กิญฺจิ อนวเสเสตฺวา ทุหติ, ขีรปโก ๑- วจฺโฉ ขีรปิปาสาย สุกฺขติ, สณฺฐาเปตุ ํ ๒- อสกฺโกนฺโต กมฺปมาโน มาตุปุรโต ปติตฺวา กาลํ กโรติ. มาตา ปุตฺตกํ ทิสฺวา "มยฺหํ ปุตฺตโก อตฺตโน มาตุขีรํ ปาตุมฺปิ น ลภตี"ติ ปุตฺตโสเกน น ยาวทตฺถํ ติณานิ ขาทิตุ ํ, น ปานียํ ปาตุ ํ สกฺโกติ, ถเนสุ ขีรํ ฉิชฺชติ, เอวมสฺส โคคโณปิ ปริหายติ, ปญฺจโครสโตปิ ปริพาหิโร โหติ. คุนฺนํ ปิตุฏฺฐานํ กโรนฺตีติ โคปิตโร. คาโว ปริเนนฺติ ๓- ยถารุจึ คเหตฺวา คจฺฉนฺตีติ โคปรินายกา. น อติเรกปูชายาติ ปณฺฑิโต หิ โคปาลโก เอวรูเป อุสเภ อติเรกปูชาย ปูเชติ, ปณีตํ โคภตฺตํ เทติ, คนฺธปญฺจงฺคุลิเกหิ มณฺเฑติ, มาลํ ปิลนฺเธติ, สิงฺเค สุวณฺณรชตโกสเก ฐเปติ, ๔- รตฺตึ ปทีปํ ชาเลตฺวา เจลวิตานสฺส เหฏฺฐา สยาเปติ. อยํ ปน ตโต เอกสกฺการํปิ น กโรติ, อุสภา อติเรกปูชํ อลภมานา โคคณํ น รกฺขนฺติ, ปริสฺสยํ น วาเรนฺติ, เอวมสฺส โคคโณ ปริหายติ, ปญฺจโครสโต ปริพาหิโร โหติ. [๓๔๗] อิธาติ อิมสฺมึ สาสเน. น รูปญฺญู โหตีติ "จตฺตาริ มหาภูตานิ จตุนฺนญฺจ มหาภูตานํ อุปาทายรูปนฺ"ติ เอวํ วุตฺตรูปํ ทฺวีหากาเรหิ น ชานาติ คณนโต วา สมุฏฺฐานโต วา. คณนโต น ชานาติ นาม "จกฺขายตนํ โสตฆานชิวฺหา- กายายตนํ, รูปสทฺทคนฺธรสโผฏฺฐพฺพายตนํ, อิตฺถินฺทฺริยํ, ปุริสินฺทฺริยํ, ชีวิตินฺทฺริยํ, กายวิญฺญตฺติ, วจีวิญฺญตฺติ, อากาสธาตุ, อาโปธาตุ, รูปสฺส ลหุตา, @เชิงอรรถ: ๑ ม. ขีรูปโค ๒ ฉ.ม. สณฺฐาตุ ํ ๓ ฉ.ม. ปริณยนฺติ ๔ ฉ.ม. จ ธาเรติ, มุทุตา, กมฺมญฺญตา, อุปจโย, สนฺตติ, ชรตา, รูปสฺส อนิจฺจตา, กวฬิงฺกาโร อาหาโร"ติ เอวํ ปาลิยํ อาคตา ปญฺจวีสติ รูปโกฏฺฐาสาติ น ชานาติ. เสยฺยถาปิ โส โคปาลโก คณนโต คุนฺนํ รูปํ น ชานาติ, ตถูปโม อยํ ภิกฺขุ. โส คณนโต รูปํ อชานนฺโต รูปํ ปริคฺคเหตฺวา อรูปํ ววตฺถเปตฺวา รูปารูปํ ปริคฺคเหตฺวา ปจฺจยํ สลฺลกฺเขตฺวา ลกฺขณํ อาโรเปตฺวา กมฺมฏฺฐานํ มตฺถกํ ปาเปตุ ํ น สกฺโกติ. โส ยถา ตสฺส โคปาลกสฺส โคคโณ น วฑฺฒติ, เอวํ อิมสฺมึ สาสเน สีลสมาธิวิปสฺสนามคฺคผลนิพฺพาเนหิ น วฑฺฒติ, ยถา จ โส โคปาลโก ปญฺจหิ โครเสหิ ปริพาหิโร โหติ, เอวํ อเสกฺเขน สีลกฺขนฺเธน, อเสกฺเขน สมาธิปญฺญาวิมุตฺติญาณทสฺสนกฺขนฺเธนาติ ปญฺจหิ ธมฺมกฺขนฺเธหิ ปริพาหิโร โหติ. สมุฏฺฐานโต น ชานาติ นาม "เอตฺตกํ รูปํ เอกสมุฏฺฐานํ, เอตฺตกํ ทฺวิสมุฏฺฐานํ, เอตฺตกํ ติสมุฏฺฐานํ, เอตฺตกํ จตุสมุฏฺฐานํ, เอตฺตกํ น กุโตจิ สมุฏฺฐาตี"ติ น ชานาติ. เสยฺยถาปิ โส โคปาลโก วณฺณโต คุนฺนํ รูปํ น ชานาติ, ตถูปโม อยํ ภิกฺขุ. โส สมุฏฺฐานโต รูปํ อชานนฺโต รูปํ ปริคฺคเหตฺวา อรูปํ ววตฺถเปตฺวา ฯปฯ ปริพาหิโร โหติ. น ลกฺขณฺกุสโล โหตีติ กมฺมลกฺขโณ พาโล, กมฺมลกฺขโณ ปณฺฑิโตติ เอวํ วุตฺตํ กุสลากุสลกมฺมํ ปณฺฑิตพาลลกฺขณนฺติ น ชานาติ. โส เอวํ อชานนฺโต พาเล วชฺเชตฺวา ปณฺฑิเต น เสวติ, พาเล วชฺเชตฺวา ปณฺฑิเต อเสวนฺโต กปฺปิยากปฺปิยํ กุสลากุสลํ สาวชฺชานวชฺชํ ครุกลหุกํ สเตกิจฺฉาเตกิจฺฉํ การณาการณํ น ชานาติ, ตํ อชานนฺโต กมฺมฏฺฐานํ คเหตฺวา วฑฺเฒตุ ํ น สกฺโกติ. โส ยถา ตสฺส โคปาลกสฺส โคคโณ น วฑฺฒติ, เอวํ อิมสฺมึ สาสเน ยถาวุตฺเตหิ สีลาทีหิ น วฑฺฒติ, โคปาลโก วิย จ ปญฺจหิ โครเสหิ ปญฺจหิ ธมฺมกฺขนฺเธหิ ปริพาหิโร โหติ. น อาสาฏิกํ หาเรตา โหตีติ อุปฺปนฺนํ กามวิตกฺกนฺติ เอวํ วุตฺตกามวิตกฺกาทโย ๑- น วิโนเทติ, โส อิมํ อกุสลวิตกฺกํ อาสาฏิกํ อหาเรตฺวา ๒- วิตกฺกวสิโก @เชิงอรรถ: ๑ ฉ.ม. วุตฺเต กามวิตกฺกาทิเก ๒ สี. อสาเฏตฺวา, หุตฺวา วิจรนฺโต กมฺมฏฺฐานํ คเหตฺวา วฑฺเฒตุ ํ น สกฺโกติ, โส ยถา ตสฺส โคปาลกสฺส ฯเปฯ ปริพาหิโร โหติ. น วณํ ปฏิจฺฉาเทตา โหตีติ จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวา นิมิตฺตคฺคาหี โหตีติอาทินา นเยน สพฺพารมฺมเณสุ นิมิตฺตํ คณฺหนฺโต ยถา โส โคปาลโก วณํ น ปฏิจฺฉาเทติ, เอวํ สํวรํ น สมฺปาเทติ, โส วิวฏทฺวาโร วิจรนฺโต กมฺมฏฺฐานํ คเหตฺวา วฑฺเฒตุ ํ น สกฺโกติ ฯเปฯ ปริพาหิโร โหติ. น ธูมํ กตฺตา โหตีติ โส โคปาลโก ธูมํ วิย ธมฺมเทสนาธูมํ น กโรติ, ธมฺมกถํ วา สรภญฺญํ วา อุปนิสินฺนกถํ วา อนุโมทนํ วา น กโรติ, ตโต นํ มนุสฺสา พหุสฺสุโต คุณวาติ น ชานนฺติ, เต คุณาคุณํ อชานนฺตาว ๑- จตูหิ ปจฺจเยหิ สงฺคหํ น กโรนฺติ, โส ปจฺจเยหิ กิลมมาโน พุทฺธวจนํ สชฺฌายํ กาตุ ํ วตฺตปฏิปตฺตึ ปูเรตุ ํ กมฺมฏฺฐานํ คเหตฺวา วฑฺเฒตุ ํ น สกฺโกติ ฯเปฯ ปริพาหิโร โหติ. น ติตฺถํ ชานาตีติ ติตฺถภูเต พหุสฺสุตภิกฺขูน อุปสงฺกมติ, อุปสงฺกมนฺโต "อิทํ ภนฺเต พฺยญฺชนํ กถํ โรเปตพฺพํ, อิมสฺส ภาสิตสฺส โก อตฺโถ, อิมสฺมึ ปาลิฏฺฐาเน ปาลิ กึ วทติ, อิมสฺมึ ฐาเน อตฺโถ กึ ทีเปตี"ติ เอวํ น ปริปุจฺฉติ น ปริคฺคณฺหาติ ๒- น ปริปญฺหติ, น ชานาเปตีติ อตฺโถ. ตสฺส เต เอวํ อปริปุจฺฉโต อวิวฏญฺเจว น วิวรนฺติ, ภาเชตฺวา น ทสฺเสนฺติ, อนุตฺตานีกตญฺจ น อุตฺตานีกโรนฺติ, อปากฏํ น ปากฏํ กโรนฺติ. อเนกวิหิเตสุ จ กงฺขาฏฺฐานีเยสุ ธมฺเมสูติ อเนกวิธาสุ กงฺขาสุ เอกํ กงฺขํปิ น ปฏิวิโนเทนฺติ. กงฺขาเอว หิ กงฺขาฏฺฐานียา ธมฺมา นาม. ตตฺถ เอกํ กงฺขํปิ น นีหรนฺตีติ อตฺโถ. โส เอวํ พหุสฺสุตติตฺถํ อนุปสงฺกมิตฺวา สกงฺโข กมฺมฏฺฐานํ คเหตฺวา วฑฺเฒตุ ํ น สกฺโกติ. ยถา จ โส โคปาลโก ติตฺถํ น ชานาติ, เอวํ อยํปิ ภิกฺขุ ธมฺมติตฺถํ น ชานาติ, อชานนฺโต อวิสเย ปญฺหํ ปุจฺฉติ, อาภิธมฺมิกํ อุปสงฺกมิตฺวา กปฺปิยากปฺปิยํ ปุจฺฉติ, วินยธรํ อุปสงฺกมิตฺวา รูปารูปปริจฺเฉทํ ปุจฺฉติ, เต @เชิงอรรถ: ๑ ฉ.ม. อชานนฺตา ๒ ฉ.ม. อยํ ปาโฐ น ทิสฺสติ อวิสเย ปุฏฺฐา กเถตุ ํ น สกฺโกนฺติ, โส อตฺตนา สกงฺโข กมฺมฏฺฐานํ คเหตฺวา วฑฺเฒตุ ํ น สกฺโกติ ฯเปฯ ปริพาหิโร โหติ. น ปีตํ ชานาตีติ ยถา โส โคปาลโก ปีตาปีตํ น ชานาติ, เอวํ ธมฺมูปสญฺหิตํ ปาโมชฺชํ น ชานาติ น ลภติ, สวนมยํ ปุญฺญกิริยาวตฺถุ ํ นิสฺสาย อานิสํสํ น วินฺทติ, ธมฺมสฺสวนคฺคํ คนฺตฺวา สกฺกจฺจํ น สุณาติ, นิสินฺโน นิทฺทายติ, กถํ กเถติ, อญฺญวิหิตโก โหติ, โส สกฺกจฺจํ ธมฺมํ อสุณนฺโต กมฺมฏฺฐานํ คเหตฺวา วฑฺเฒตุ ํ น สกฺโกติ ฯเปฯ ปริพาหิโร โหติ. น วีถึ ชานาตีติ โส โคปาลโก มคฺคามคฺคํ วิย "อยํ โลกิโย อยํ โลกุตฺตโร"ติ อริยํ อฏฺฐงฺคิกํ มคฺคํ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ, อชานนฺโต โลกิยมคฺเค อภินิวิสิตฺวา โลกุตฺตรํ นิพฺพตฺเตตุ ํ น สกฺโกติ ฯเปฯ ปริพาหิโร โหติ. น โคจรกุสโล โหตีติ โส โคปาลโก ปญฺจาหสตฺตาหวาเร วิย ๑- จตฺตาโร สติปฏฺฐาเน "อิเม โลกิยา อิเม โลกุตฺตรา"ติ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ, อชานนฺโต สุขุมฏฺฐาเนสุ อตฺตโน ญาณํ จราเปตฺวา โลกิยสติปฏฺฐาเนสุ ๒- อภินิวิสิตฺวา โลกุตฺตรํ นิพฺพตฺเตตุ ํ น สกฺโกติ ฯเปฯ ปริพาหิโร โหติ. อนวเสสโทหี จ โหตีติ ปฏิคฺคหเณ มตฺตํ อชานนฺโต อนวเสสํ ทุหติ. นิทฺเทสวาเร ปนสฺส อภิหฏฺฐุ ํ ปวาเรนฺตีติ อภิหริตฺวา ปวาเรนฺติ. เอตฺถ เทฺว อภิหารา วาจาภิหาโร จ ปจฺจยาภิหาโร จ. วาจาภิหาโร นาม มนุสฺสา ภิกฺขุสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา "วเทยฺยาถ ภนฺเต เยนตฺโถ"ติ ปวาเรนฺติ. ปจฺจยาภิหาโร นาม วตฺถาทีนิ วา เตลผาณิตาทีนิ วา คเหตฺวา ภิกฺขุสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา "คณฺหถ ภนฺเต ยาวตเกน อตฺโถ"ติ วทนฺติ. ตตฺร ภิกฺขุ มตฺตํ น ชานาตีติ ภิกฺขุ เตสุ ปจฺจเยสุ ปมาณํ น ชานาติ, "ทายกสฺส วโส เวทิตพฺโพ, เทยฺยธมฺมสฺส วโส เวทิตพฺโพ, อตฺตโน ถาโม เวทิตพฺโพ"ติ รถวินีเต วุตฺตนเยน ปมาณยุตฺตํ อคฺคเหตฺวา ยํ อาหรนฺติ, ตํ สพฺพํ คณฺหาตีติ อตฺโถ. มนุสฺสา วิปฺปฏิสาริโน น ปุน อภิหริตฺวา ปวาเรนฺติ, โส ปจฺจเยหิ กิลมนฺโต กมฺมฏฺฐานํ คเหตฺวา วฑฺเฒตุ ํ น สกฺโกติ ฯเปฯ ปริพาหิโร โหติ. @เชิงอรรถ: ๑ ฉ.ม. ปญฺจาหิกวาเร สตฺตาหิกวาเร วิย ๒ ฉ.ม. โลกิยสติปฏฺฐาเน เต น อติเรกปูชาย ปูชิตา ๑- โหตีติ โส โคปาลโก มหาอุสเภ วิย เต เถเร ภิกฺขู อิมาย อาวิ เจว รโห จ เมตฺตากายกมฺมาทิกาย อติเรกปูชาย น ปูเชสิ. ๒- ตโต เถรา "อิเม อเมฺหสุ ครุจิตฺตีการํ น กโรนฺตี"ติ นวเก ภิกฺขู ทฺวีหิ สงฺคเหหิ น สงฺคณฺหนฺติ, ๓- เนว ธมฺมสงฺคเหน สงฺคณฺหนฺติ ๓- น อามิสสงฺคเหน จีวเรน วา ปตฺเตน วา ปตฺตปริยาปนฺเนน วา วสนฏฺฐาเนน วา. กิลมนฺเต มิลายนฺเตปิ นปฺปฏิชคฺคนฺติ. ปาลึ วา อฏฺฐกถํ วา ธมฺมกถาพนฺธํ วา คุยฺหคนฺถํ วา น สิกฺขาเปนฺติ. นวกา เถรานํ สนฺติกา สพฺพโส อิเม เทฺว สงฺคเห อลภมานา อิมสฺมึ สาสเน ปติฏฺฐาตุ ํ น สกฺโกนฺติ. ยถา ตสฺส โคปาลกสฺส โคคโณ น วฑฺฒติ, เอวํ สีลาทีนิ น วฑฺฒนฺติ. ยถา จ โส โคปาลโก ปญฺจหิ โครเสหิ ปริพาหิโร โหติ, เอวํ ปญฺจหิ ธมฺมกฺขนฺเธหิ ปริพาหิรา โหนฺติ. สุกฺกปกฺโข กณฺหปกฺเข วุตฺตวิปลฺลาสวเสน โยเชตฺวา เวทิตพฺโพติ. ปปญฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺฐกถาย มหาโคปาลกสุตฺตวณฺณนา นิฏฺฐิตา. -----------------อรรถกถาภาษาบาลีอักษรไทย เล่มที่ ๘ หน้า ๑๖๕-๑๗๒. http://84000.org/tipitaka/atthapali/read_th.php?B=8&A=4222&modeTY=2 The Pali Atthakatha in Roman :- http://84000.org/tipitaka/atthapali/read_rm.php?B=8&A=4222&modeTY=2 อ่านอรรถกถาแปลไทย :- http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=12&i=383 เนื้อความพระไตรปิฎกฉบับหลวง :- http://84000.org/tipitaka/read/r.php?B=12&A=7106 พระไตรปิฎกฉบับบาลีอักษรไทย :- http://84000.org/tipitaka/read/pali_read.php?B=12&A=8286 The Pali Tipitaka in Roman Character :- http://84000.org/tipitaka/read/roman_read.php?B=12&A=8286 สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๒ http://84000.org/tipitaka/read/?index_12
![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() |
![]() |
บันทึก ๒๖ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๑.
การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจากอรรถกถาภาษาบาลีอักษรไทย.
หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]