บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ |
๙. พฺรหฺมนิมนฺตนิกสุตฺตวณฺณนา [๕๐๑] เอวมฺเม สุตนฺติ พฺรหฺมนิมนฺตนิกสุตฺตํ. ตตฺถ ปาปกํ ทิฏฺฐิคตนฺติ ลามกา สสฺสตทิฏฺฐิ. อิทํ นิจฺจนฺติ อิทํ สโหกาเสน ๑- พฺรหฺมฏฺฐานํ อนิจฺจํ "นิจฺจนฺ"ติ. วทติ. ธุวาทีนิ ตสฺเสว เววจนานิ. ตตฺถ ธุวนฺติ ถิรํ. สสฺสตนฺติ สทา วิชฺชมานํ. เกวลนฺติ อขณฺฑํ สกลํ. อจวนธมฺมนฺติ อจวนสภาวํ. อิทํ หิ น ชายตีติอาทีสุ อิมสฺมึ ฐาเนปิ โกจิ ชายนโก วา ชิยฺยนโก วา มิยฺยนโก วา จวนโก วา อุปปชฺชนโก วา นตฺถีติ ๒- สนฺธาย วทติ, อิโต จ ปนญฺญนฺติ อิโต สห กายกา พฺรหฺมฏฺฐานา อุตฺตรึ อญฺญํ นิสฺสรณการณํ ๓- นาม นตฺถีติ เอวมสฺส ถามคตา สสฺสตทิฏฺฐิ อุปฺปนฺนา โหติ, เอวํวาที ปน โส อุปริ ติสฺโส ฌานภูมิโย จตฺตาโร มคฺคา จตฺตาริ ผลานิ นิพฺพานนฺติ สพฺพํ ปฏิพาหติ. อวิชฺชาคโตติ อวิชฺชาย คโต สมนฺนาคโต อญฺญาณี อนฺธภูโต. ๔- ยตฺร หิ นามาติ โย นาม. [๕๐๒] อถโข ภิกฺขเว มาโร ปาปิมาติ มาโร กถํ ภควนฺตํ อทฺทส? โส กิร อตฺตโน ภวเน นิสีทิตฺวา กาเลน กาลํ สตฺถารํ อาวชฺเชติ "อชฺช สมโณ @เชิงอรรถ: ๑ ฉ.ม. สห กาเยน ๒ ม. นตฺถิ ๓ ฉ.ม. นิสฺสรณํ ๔ ฉ.ม. อนฺธีภูโต โคตโม กตรสฺมึ คาเม วา นิคเม วา วสตี"ติ. อิมสฺมึ ปน กาเล อาวชฺเชนฺโต ๑- "อุกฺกฏฺฐํ นิสฺสาย สุภควเน วิหรตี"ติ ญตฺวา "กตฺถ นุ โข คโต"ติ โอโลเกนฺโต พฺรหฺมโลกํปิ ๒- คจฺฉนฺตํ ทิสฺวา "สมโณ โคตโม พฺรหฺมโลกํ คจฺฉติ, ยาว ตตฺถ ธมฺมกถํ กเถตฺวา พฺรหฺมคณํ มม วิสยา นาติกฺกเมติ, ตาว คนฺตฺวา ธมฺมเทสนาย วิจฺฉนฺทํ กริสฺสามี"ติ สตฺถุ ปทานุปทิโก คนฺตฺวา พฺรหฺมคณสฺส อนฺตเร อทิสฺสมาเนน กาเยน อฏฺฐาสิ, โส "สตฺถารา พกพฺรหฺมา อปสาทิโต"ติ ญตฺวา พฺรหฺมุโน อุปตฺถมฺภโก หุตฺวา อฏฺฐาสิ. เตน วุตฺตํ "อถโข ภิกฺขเว มาโร ปาปิมา"ติ. พฺรหฺมปาริสชฺชํ อนฺวาวิสิตฺวาติ เอกสฺส พฺรหฺมปาริสชฺชสฺส สรีรํ ปวิสิตฺวา. มหาพฺรหฺมานํ ปน พฺรหฺมปุโรหิเต ๓- วา อนฺวาวิสิตุํ น สกฺโกติ. เมตมาสโทติ มา เอตํ อปสาทยิตฺถ. อภิภูติ อภิภวิตฺวา ฐิโต เชฏฺฐโก. อนภิภูโตติ อญฺเญหิ อนภิภูโต. อญฺญทตฺถูติ เอกํสวจเน นิปาโต. ทสฺสนวเสน ทโส, สพฺพํ ปสฺสตีติ ทีเปติ. วสวตฺตีติ สพฺพํ ชนํ วเส วตฺเตติ. อิสฺสโรติ โลเก อิสฺสโร. กตฺตา นิมฺมาตาติ โลกสฺส กตฺตา จ นิมฺมาตา จ. ปฐวีหิมวนฺตสิเนรุจกฺก- วาฬมหาสมุทฺทจนฺทิมสุริยา จ อิมินา นิมฺมิตาติ ทีเปติ. เสฏฺโฐ สชฺชิตาติ อยํ โลกสฺส อุตฺตโม จ สชฺชิตา จ "ตฺวํ ขตฺติโย นาม โหหิ, ตฺวํ พฺราหฺมโณ นาม, เวสฺโส นาม, สุทฺโท นาม, คหฏฺโฐ นาม, ปพฺพชิโต นาม, อนฺตมโส โอฏฺโฐ โหหิ, โคโณ โหหี"ติ เอวํ สตฺตานํ สชฺชิตา ๔- อยนฺติ ทสฺเสติ. วสี ปิตา ภูตภพฺยานนฺติ อยํ จิณฺณวสิตฺตา ๕- วสี, อยํ ปิตา ภูตานญฺจ ภพฺยานญฺจาติ วทติ. ตตฺถ อณฺฑชชลาพุชา สตฺตา อนฺโตอณฺฑโกเส เจว อนฺโตวตฺถิมฺหิ จ ภพฺยา นาม, พหิ นิกฺขนฺตกาลโต ปฏฺฐาย ภูตา. สํเสทชา ปฐมจิตฺตกฺขเณ ภพฺยา, ทุติยโต ปฏฺฐาย ภูตา. โอปปาติกา ปฐมอิริยาปเถ ภพฺยา, ทุติยโต ปฏฺฐาย ภูตาติ เวทิตพฺพา. เต สพฺเพปิ เอตสฺส ปุตฺตาติ สญฺญาย "ปิตา ภูตภพฺยานนฺติ อาห. @เชิงอรรถ: ๑ ฉ.ม. อาวชฺชนฺโต ๒ ฉ.ม. พฺรหฺมโลกํ ๓ ฉ.ม. พฺรหฺมปุโรหิตานํ @๔ ฉ.ม. วิสเชตา ๕ ฉ.ม. จิณฺณวสิตาย ปฐวีครหกาติ ยถา ตฺวํ เอตรหิ "อนิจฺจา ทุกฺขา อนตฺตา"ติ ปฐวึ ครหสิ ชิคุจฺฉสิ, เอวํปิ เต ปฐวีครหกา อเหสุํ, น เกวลํ ตฺวํเยวาติ ทีเปติ. อาโปครหกาติอาทีสุปิ เอเสว นโย. หีเน กาเย ปติฏฺฐิตาติ จตูสุ อปาเยสุ นิพฺพตฺตา. ปฐวีปสํสกาติ ยถา ตฺวํ ครหสิ, เอวํ อครหิตฺวา "นิจฺจา ธุวา สสฺสตา อจฺเฉชฺชา อเภชฺชา อกฺขฺยา"ติ เอวํ ปฐวีปสํสกา ปฐวิยา วณฺณวาทิโน อเหสุนฺติ วทติ. ปฐวาภินนฺทิโนติ ตณฺหาทิฏฺฐิวเสน ปฐวิยา อภินนฺทิโน เสสปเทสุปิ ๑- เอเสว นโย. ปณีเต กาเย ปติฏฺฐิตาติ พฺรหฺมโลเก นิพฺพตฺตา. ตํตาหนฺติ เตน การเณน ตํ อหํ. อิงฺฆาติ โจทนตฺเถ นิปาโต. อุปาติวตฺติตฺโถติ อติกฺกมิตฺถ. "อุปาติวตฺติโต"ติปิ ปาโฐ, อยเมวตฺโถ. ทณฺเฑน ปฏิปฺปณาเมยฺยาติ จตุหตฺเถน มุคฺครทณฺเฑน โปเถตฺวา ปลาเปยฺยา. นรกปฺปปาเตติ สตโปริเส มหาโสพฺเภ. วิราเธยฺยาติ หตฺเถน คหณยุตฺเต วา ปาเทน ปติฏฺฐานยุตฺเต วา ฐาเน คหณปติฏฺฐานานิ กาตุํ น สกฺกุเณยฺย. นนุ ตฺวํ ภิกฺขุ ปสฺสสีติ ภิกฺขุ นนุ ตฺวํ อิมํ พฺรหฺมปริสํ สนฺนิปติตํ โอภาสมานํ วิโรจมานํ โชตยมานํ ปสฺสตีติ พฺรหฺมุโน โอวาเท ฐิตานํ อิทฺธานุภาวํ ทสฺเสติ. อิติ โข มํ ภิกฺขเว มาโร ปาปิมา พฺรหฺมปริสํ อุปเนสีติ ภิกฺขเว มาโร ปาปิมา นนุ ตฺวํ ภิกฺขุ ปสฺสสิ พฺรหฺมปริสํ ยเสน จ สิริยา จ โอภาสมานํ วิโรจมานํ โชตยมานํ, ยทิ ตฺวํปิ มหาพฺรหฺมุโน วจนํ อนติกฺกมิตฺวา ยเทว เต พฺรหฺมา วทติ, ตํ กเรยฺยาสิ, ตฺวํปิ เอวเมวํ ยเสน จ สิริยา จ วิโรเจยฺยาสีติ เอวํ วทนฺโต มํ พฺรหฺมปริสํ อุปเนสิ อุปสํหริ, มา ตฺวํ มญฺญิตฺโถติ มา ตฺวํ มญฺญิ. มาโร ตฺวมสิ ปาปิมาติ ปาปิม ตฺวํ มหาชนสฺส มารณโต มาโร นาม, ปาปกํ ลามกํ มหาชนสฺส อยสงฺกรณโต ปาปิมา นามาติ ชานามิ. [๕๐๓] กสิณํ อายุนฺติ สกลํ อายุํ. เต โข เอวํ ชาเนยฺยุนฺติ เต เอวํ มหนฺเตน ตโปกมฺเมน สมนฺนาคตา, ตฺวํ ปน ปุริมทิวเส ชาโต, กึ ชานิสฺสสิ, ยสฺส เต อชฺชาปิ มุเข ขีรคนฺโธ วายตีติ ฆเฏนฺโต วทติ. ปฐวึ อชฺโฌสิสฺสสีติ ปฐวึ อชฺโฌสาย คิลิตฺวา ปรินิฏฺฐเปตฺวา ตณฺหามานทิฏฺฐีหิ คณฺหิสฺสสิ. โอปสายิโก @เชิงอรรถ: ๑ ฉ.ม. เสเสสุปิ เม ภวิสฺสสีติ มยฺหํ สมีปสโย ภวิสฺสสิ, มํ คจฺฉนฺตํ อนุคจฺฉิสฺสสิ, ฐิตํ อุปติฏฺฐิสฺสสิ, นิสินฺนํ อุปนิสีทิสฺสสิ, นิปนฺนํ อุปนิปชฺชิสฺสสีติ อตฺโถ. วตฺถุสายิโกติ มม วตฺถุสฺมึ สยนโก. ยถากามกรณีโย พาหิเตยฺโยติ มยา อตฺตโน รุจิยา ยํ อิจฺฉามิ, ตํ กตฺตพฺโพ, วาหิตฺวา จ ปน ฌชฺฌริกาคุมฺพโตปิ ๑- นีจตโร ลกุณฺฑกตโร กาตพฺโพ ภวิสฺสสีติ อตฺโถ. อิมินา เอส ภควนฺตํ อุปลาเปติ วา อปสาเทติ วา. อุปลาเปติ นาม สเจ โข ตํ ๒- ภิกฺขุ ตณฺหาทีหิ ปฐวึ อชฺโฌสิสฺสสิ, โอปสายิโก เม ภวิสฺสสิ, มยิ คจฺฉนฺเต คจฺฉิสฺสสิ, ติฏฺฐนฺเต ฐสฺสสิ, นิสินฺเน นิสีทิสฺสสิ, นิปนฺเน นิปชฺชิสฺสสิ, อหํ ตํ เสสชนํ ปฏิพาเหตฺวา วิสฺสาสิกํ อพฺภนฺตริกํ กริสฺสามีติ เอวํ ตาว อุปลาเปติ นาม. เสสปเทหิ ปน อปสาเทติ นาม. อยเญฺหตฺถ อธิปฺปาโย:- สเจ ปฐวึ อชฺโฌสิสฺสสิ, วตฺถุสายิโก เม ภวิสฺสสิ, มม คมนาทีนิ อาคเมตฺวา คมิสฺสสิ วา ฐสฺสสิ วา นิสีทิสฺสสิ วา นิปชฺชิสฺสสิ วา, มม วตฺถุสฺมึ มยฺหํ อารกฺขํ คณฺหิสฺสสิ, อหํ ปน ตํ ยถากามํ กริสฺสามิ วาหิตฺวา จ ฌชฺฌริกาคุมฺพโตปิ ลกุณฺฑกตรนฺติ เอวํ อปสาเทติ นาม. อยํ ปน พฺรหฺมา มานนิสฺสิโต, ตสฺมา อิธ อปสาทนาว อธิปฺเปตา. อาปาทีสุปิ เอเสว นโย. อปิจ เต อหํ พฺรเหฺมติ อิทานิ ภควา "อยํ พฺรหฺมา มานนิสฺสิโต `อหํ ชานามี'ติ มญฺญติ, อตฺตโน ยเสน สมฺมโต สรีรํ ผุสิตุํปิ สมตฺถํ กิญฺจิ น ปสฺสติ, โถกํ นิคฺคเหตุํ วฏฺฏตี"ติ. จินฺเตตฺวา อิมํ เทสนํ อารภิ. ตตฺถ คติญฺจ ปชานามีติ นิปฺผตฺติญฺจ ปชานามิ. ชุติญฺจาติ อานุภาวญฺจ ปชานามิ. เอวํ มเหสกฺโขติ เอวํ มหายโส มหาปริวาโร. ยาวตา จนฺทิมสุริยา ปริหรนฺตีติ ยตฺตเก ฐาเน จนฺทิมสุริยา วิจรนฺติ. ทิสา ภนฺติ วิโรจนาติ ทิสาสุ วิโรจมานา โอภาสนฺติ, ทิสา วา เตหิ วิโรจมานา โอภาสนฺติ. ตาว สหสฺสธา โลโกติ ตตฺตเกน ปมาเณน สหสฺสธา โลโก, อิมินา จกฺกวาเฬน สทฺธึ จกฺกวาฬสหสฺสนฺติ อตฺโถ. เอตฺถ เต วตฺตตี วโสติ @เชิงอรรถ: ๑ ฉ.ม. ชชฺฌริกาคุมฺพโตปิ ๒ ฉ.ม. ตฺวํ เอตฺถ จกฺกวาฬสหสฺเส ตุยฺหํ วโส วตฺตติ. ปโรปรญฺจ ชานาสีติ เอตฺถ จกฺกวาฬสหสฺเส ปโรปเร อุจฺจนีเจ หีนปฺปณีเต สตฺเต ชานาสิ. อโถ ราควิราคินนฺติ น เกวลํ "อยํ อิทฺโธ อยํ ปกติมนุสฺโส"ติปิ ปโรปรํ, อยํ ปน สราโค อยํ วีตราโค"ติ เอวํ ราควิราคินํปิ ชนํ ชานาสิ. อิตฺถภาวญฺญถาภาวนฺติ อิตฺถํภาโวติ อิทํ จกฺกวาฬํ. อญฺญถาภาโวติ อิโต เสสํ เอกูนสหสฺสํ. สตฺตานํ อาคตึ คตินฺติ เอตฺถ จกฺกวาฬสหสฺเส ปฏิสนฺธิวเสน สตฺตานํ อาคตึ, จุติวเสน คติญฺจ ปชานาสิ. ๑- ตุยฺหํ ปน มหนฺโตหมสฺมีติ สญฺญา โหติ, สหสฺสีพฺรหฺมา นาม ตฺวํ, อญฺเญสํ ตยา อุตฺตริทฺวิสหสฺสานํ ติสหสฺสานํ จตุสหสฺสานํ ปญฺจสหสฺสานํ ทสสหสฺสานํ สตสหสฺสานญฺจ พฺรหฺมานํ ปมาณํ นตฺถิ, จตุหตฺถาย ปิโลติกาย ปฏปฺปมาณํ ๒- กาตุํ วายมนฺโต วิย มหนฺโตสฺมีติ สญฺญํ กโรสีติ นิคฺคณฺหาติ. [๕๐๔] อิธูปปนฺโนติ อิธ ปฐมชฺฌานภูมิยํ อุปปนฺโน. เตน ตํ ตฺวํ น ชานาสีติ เตน การเณน ตํ กายํ ตฺวํ น ชานาสิ. เนว เต สมสโมติ ชานิตพฺพฏฺฐานํ ปตฺวาปิ ตยา สมสโม น โหมิ. อภิญฺญายาติ อญฺญาย. ๓- กุโต นีเจยฺยนฺติ ตยา นีจตรภาโว ปน มยฺหํ กุโต. เหฏฺฐูปปตฺติโก กิเรส พฺรหฺมา อนุปฺปนฺเน พุทฺธุปฺปาเท อิสิปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา กสิณปริกมฺมํ กตฺวา สมาปตฺติโย นิพฺพตฺเตตฺวา อปริหีนชฺฌาโน กาลํ กตฺวา จตุตฺถชฺฌานภูมิยํ เวหปฺผลพฺรหฺมโลเก ปญฺจกปฺปสติกํ อายุํ คเหตฺวา นิพฺพตฺติ. ตตฺถ ยาวตายุกํ ฐตฺวา เหฏฺฐูปปตฺติกํ กตฺวา ตติยชฺฌานํ ปณีตํ ภาเวตฺวา สุภกิณฺหพฺรหฺมโลเก จตุสฏฺฐิกปฺปํ อายุํ คเหตฺวา นิพฺพตฺติ. ตตฺถ ทุติยชฺฌานํ ภาเวตฺวา อาภสฺสเรสุ อฏฺฐกปฺปอายุํ คเหตฺวา นิพฺพตฺติ. ตตฺถ ปฐมชฺฌานํ ภาเวตฺวา ปฐมชฺฌานภูมิยํ กปฺปายุโก หุตฺวา นิพฺพตฺติ, โส ปฐมกาเล อตฺตนา กตกมฺมญฺจ นิพฺพตฺตฏฺฐานํ จ อญฺญาสิ, กาเล ปน คจฺฉนฺเต อุภยํ ปมุสฺสิตฺวา สสฺสตทิฏฺฐึ อุปาเทสิ. เตน นํ ภควา "เตน ตํ ตฺวํ น ชานาสิ ฯเปฯ กุโต นีเจยฺยนฺ"ติ อาห. @เชิงอรรถ: ๑ ฉ.ม. ชานาสิ ๒ สี. ปริคฺคหณํ ๓ สี. ปญฺญาย อถ พฺรหฺมา จินฺเตสิ "สมโณ โคตโม มยฺหํ อายุญฺจ นิพฺพตฺตฏฺฐานญฺจ ปุพฺเพกตกมฺมญฺจ ชานาติ, หนฺท นํ ปุพฺเพ กตกมฺมํ ปุจฺฉามี"ติ สตฺถารํ อตฺตโน ปุพฺเพกตกมฺมํ ปุจฺฉิ. สตฺถา กเถสิ. ปุพฺเพ กิเรส กุลฆเร นิพฺพตฺติตฺวา กาเมสุ อาทีนวํ ทิสฺวา "ชาติชราพฺยาธิมรณสฺส อนฺตํ กริสฺสามี"ติ นิกฺขมฺม อิสิปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา สมาปตฺติโย นิพฺพตฺเตตฺวา อภิญฺญาปาทชฺฌานลาภี หุตฺวา คงฺคาตีเร ปณฺณสาลายํ กาเรตฺวา ฌานรติยา วีตินาเมติ. ตทา จ กาเลน กาลํ สตฺถวาหา ปญฺจหิ สกฏสเตหิ มรุกนฺตารํ ปฏิปชฺชนฺติ. มรุกนฺตาเร ปน ทิวา น สกฺกา คนฺตุํ, รตฺตึ คมนํ โหติ. อถ ปุริมสกฏสฺส อคฺคยุเค ยุตฺตพลิพทฺทา คจฺฉนฺตา นิวตฺติตฺวา อาคตมคฺคาภิมุขาว อเหสุํ. อิตรานิ สกฏานิ ๑- ตเถว นิวตฺติตฺวา ๒- อรุเณ อุคฺคเต นิวตฺติตภาวํ ชานึสุ. เตสํ จ ตทา กนฺตาราติกฺกมนทิวโส โหติ. ๓- สพฺพํ ทารูทกํ ปริกฺขีณํ, ตสฺมา "นตฺถิ ทานิ อมฺหากํ ชีวิตนฺ"ติ จินฺเตตฺวา โคเณ จกฺเกสุ พนฺธิตฺวา มนุสฺสา สกฏจฺฉายายํ ๔- ปวิสิตฺวา นิปชฺชึสุ. ตาปโสปิ กาลสฺเสว ปณฺณสาลโต นิกฺขมิตฺวา ปณฺณสาลทฺวาเร นิสินฺโนว คงฺคํ โอโลกยมาโน อทฺทส คงฺคํ มหตา อุทโกเฆน วุยฺหมานํ ปวตฺติตํ มณิกฺขนฺธํ วิย อาคจฺฉนฺตึ. ทิสฺวา จินฺเตสิ "อตฺถิ นุ โข อิมสฺมึ โลเก เอวรูปสฺส มธุโรทกสฺส อลาเภน กิลิสฺสมานา สตฺตา"ติ. โส เอวํ อาวชฺเชนฺโต มรุกนฺตาเร ตํ สตฺถํ ทิสฺวา "อิเม สตฺตา มา นสฺสนฺตู"ติ "อิโต มหา อุทกกฺขนฺโธ ฉิชฺชิตฺวา มรุกนฺตาเร สตฺถาภิมุโข คจฺฉตู"ติ อภิญฺญาจิตฺเตน อธิฏฺฐาสิ. สห จิตฺตุปฺปาเทน มาติการุฬฺหํ วิย อุทกํ ตตฺถ อคมาสิ. มนุสฺสา อุทกสทฺเทน วุฏฺฐาย อุทกํ ทิสฺวา หฏฺฐตุฏฺฐา นฺหาตฺวา ๕- ปิวิตฺวา โคเณปิ ปาเยตฺวา โสตฺถินา อิจฺฉิตฏฺฐานํ อคมํสุ. สตฺถา ตํ พฺรหฺมุโน ปุพฺพกมฺมํ ทสฺเสนฺโต:- @เชิงอรรถ: ๑ สี. สพฺพสกฏานิ ๒ สี. นิวตฺตึสุ ๓ ฉ.ม. อโหสิ @๔ ฉ.ม. สกฏปจฺฉายายํ ๕ ฉ.ม. นหายิตฺวา "ยํ ตฺวํ อปาเยสิ พหู มนุสฺเส ปิปาสิเต ฆมฺมนิ สมฺปเรเต ตนฺเต ปุราณํ วตสีลวตฺตํ ๑- สุตฺตปฺปพุทฺโธว อนุสฺสรามี"ติ ๒- อิมํ คาถมาห. อปรสฺมึ สมเย ตาปโส คงฺคาตีเร ปณฺณสาลํ มาเปตฺวา อารญฺญกคามํ อุปนิสฺสาย วสติ. เตน จ สมเยน โจรา ตํ คามํ ปหริตฺวา หตฺถสารํ คเหตฺวา คาวิโย จ กรมเร จ คเหตฺวา คจฺฉนฺติ. คาโวปิ สุนขาปิ มนุสฺสาปิ มหาวิรวํ วิรวนฺติ. ตาปโส ตํ สทฺทํ สุตฺวา "กึ นุ โข เอตนฺ"ติ อาวชฺเชนฺโต "มนุสฺสานํ ภยํ อุปฺปนฺนนฺ"ติ ญตฺวา "มยิ ปสฺสนฺเต อิเม สตฺตา มา นสฺสนฺตู"ติ อภิญฺญาปาทกชฺฌานํ สมาปชฺชิตฺวา วุฏฺฐาย อภิญฺญาจิตฺเตน โจรานํ ปฏิปเถ จตุรงฺคินิเสนํ มาเปสิ กมฺมสชฺชํ อาคจฺฉนฺตึ, โจรา ทิสฺวา ๓- "ราชา"ติ เต มญฺญมานา ๓- วิโลปํ ฉฑฺเฑตฺวา ปกฺกมึสุ. ตาปโส "ยํ ยสฺส สนฺตกํ, ตํ ตสฺเสว โหตู"ติ อธิฏฺฐาสิ, ตํ ตเถว อโหสิ. มหาชโน โสตฺถิภาวํ ปาปุณิ. สตฺถา อิทํปิ ตสฺส ปุพฺพกมฺมํ ทสฺเสนฺโต:- "ยํ เอณิกูลสฺมิ ชนํ คหีตํ อโมจยี คยฺหก นียมานํ ตนฺเต ปุราณํ วตสีลวตฺตํ สุตฺตปฺปพุทฺโธว อนุสฺสรามี"ติ ๔- อิมํ คาถมาห. เอตฺถ เอณิกูลสฺมินฺติ คงฺคาตีเร. ปุน เอกสฺมึ สมเย อุปริคงฺคาวาสิกํ กุลํ เหฏฺฐาคงฺคาวาสิเกน กุเลน สทฺธึ มิตฺตสนฺถวํ กตฺวา นาวาสงฺฆาฏํ พนฺธิตฺวา พหุํ ขาทนียโภชนียํ เจว คนฺธมาลาทีนิ จ อาโรเปตฺวา คงฺคาโสเตน อาคจฺฉติ. มนุสฺสา ขาทมานา ภุญฺชมานา นจฺจนฺตา คายนฺตา เทววิมาเนน คจฺฉนฺตา วิย พลวโสมนสฺสา อเหสุํ. คงฺเคยฺยโก นาโค ทิสฺวา กุปิโต "อิเม มยิ สญฺญํปิ น กโรนฺติ, @เชิงอรรถ: ๑ วตสีลวตฺตนฺติ สมาทานวเสน วตภูตํ จาริตฺตสีลาภาเวน สมาจิณฺณตฺตา @สีลวตฺตนฺติ ฏีกา ๒ ขุ. สตฺตก. ๒๗/๑๐๓๘/๒๒๒ พกพฺรหฺมชาตก (สฺยา) @๓-๓ สี. ราชา มญฺเญ อาคโตติ ๔ ขุ. สตฺตก. ๒๗/๑๐๓๙/๒๒๒ พกพฺรหฺมชาตก (สฺยา) อิทานิ เน สมุทฺทเมว ปาเปสฺสามี"ติ มหนฺตํ อตฺตภาวํ มาเปตฺวา อุทกํ ทฺวิธา ภินฺทิตฺวา อุฏฺฐาย ผณํ กตฺวา สุสฺสูการํ ๑- กโรนฺโต อฏฺฐาสิ. มหาชโน ทิสฺวา ภีโต วิสฺสรมกาสิ. ตาปโส ปณฺณสาลาย นิสินฺโน สุตฺวา "อิเม คายนฺตา นจฺจนฺตา โสมนสฺสชาตา อาคจฺฉนฺติ, อิทานิ ปน มรณภยรวํ ๒- รวึสุ, กินฺนุ โข"ติ อาวชฺเชนฺโต นาคราชํ ทิสฺวา "มยิ ปสฺสนฺเต อิเม สตฺตา มา นสฺสนฺตู"ติ อภิญฺญาปาทกชฺฌานํ สมาปชฺชิตฺวา อตฺตภาวํ วิชหิตฺวา สุปณฺณวณฺณํ มาเปตฺวา นาคราชสฺส ทสฺเสสิ. นาคราชา ภีโต ผณํ สํหริตฺวา อุทกํ ปวิฏฺโฐ. มหาชโน โสตฺถิภาวํ สมฺปาปุณิ, ๓- สตฺถา อิทํปิ ตสฺส ปุพฺพกมฺมํ ทสฺเสนฺโต:- "คงฺคาย โสตสฺมึ คหีตนาวํ ลุทฺเทน นาเคน มานุสฺสกมฺปา อโมจยิตฺถ พลสา ปสยฺห ๔- ตนฺเต ปุราณํ วตสีลวตฺตํ สุตฺตปฺปพุทฺโธว อนุสฺสรามี"ติ ๕- อิมํ คาถมาห. อปรสฺมึ สมเย เอส อิสิปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา เกสโว นาม ตาปโส อโหสิ. เตน สมเยน อมฺหากํ โพธิสตฺโต กปฺโป นาม มาณโว เกสวสฺส พทฺธจโร อนฺเตวาสิโก หุตฺวา อาจริยสฺส กึการปฏิสฺสาวี มนาปจารี พุทฺธิสมฺปนฺโน อตฺถจโร อโหสิ, เกสโว ตํ วินา วตฺติตุํ นาสกฺขิ, ตนฺนิสฺสาเยว ชีวิตํ กปฺเปสิ, สตฺถา อิทํปิ ตสฺส ปุพฺพกมฺมํ ทสฺเสนฺโต:- "กปฺโป จ เต พทฺธจโร อโหสิ สมฺพุทฺธิมนฺตํ วตินํ อมญฺญิ ตนฺเต ปุราณํ วตสีลวตฺตํ สุตฺตปฺปพุทฺโธว อนุสฺสรามี"ติ ๖- อิมํ คาถมาห. @เชิงอรรถ: ๑ ฏีกา. สุสุการํ ๒ ฉ.ม. ภยรวํ ๓ ฉ.ม. ปาปุณิ @๔ ปาลิ. อโมจยี ตฺวํ พลสา ปสยฺห ๕ ขุ. สตฺตก. ๒๗/๑๐๔๐/๒๒๒-๓ พกพฺรหฺมชาตก (สฺยา) @๖ ขุ. สตฺตกก. ๒๗/๑๐๔๑/๒๒๓ พกพฺรหฺมชาตก (สฺยา) เอวํ พฺรหฺมุโน นานตฺตภาเวสุ กตกมฺมํ สตฺถา ปกาเสสิ. สตฺถริ กเถนฺเตเยว พฺรหฺมา สลฺลกฺเขสิ, ทีปสหสฺเส อุชฺชลิเต รูปานิ วิย สพฺพกมฺมานิสฺส ปากฏานิ อเหสุํ. โส ปสนฺนจิตฺโต อิมํ คาถมาห:- "อทฺธา ปชานาสิ มเมตมายุํ อญฺญํปิ ชานาสิ ตถาหิ พุทฺโธ ตถาหิ ตายํ ชลิตานุภาโว โอภาสยํ ติฏฺฐติ พฺรหฺมโลกนฺ"ติ. ๑- อถสฺส ภควา อุตฺตรึปิ อสมสมตํ ปกาเสนฺโต ปฐวึ โข อหํ พฺรเหฺมติอาทิมาห. ตตฺถ ปฐวิยา ปฐวฏฺเฐน ๒- อนนุภูตนฺติ ปฐวิยา ปฐวีสภาเวน อนนุภูตํ อปฺปตฺตํ. กึ ปน ตนฺติ? นิพฺพานํ. ตญฺหิ สพฺพสงฺขตา นิสฺสฏตฺตา ปฐวีสภาเวน อปฺปตฺตํ นาม. ตทภิญฺญายาติ ตํ นิพฺพานํ ชานิตฺวา สจฺฉิกตฺวา ปฐวึ นาปโหสินฺติ ๓- ปฐวึ ตณฺหาทิฏฺฐิมานคาเหหิ น คณฺหึ. อาปาทีสุปิ เอเสว นโย. วิตฺถาโร ปน มูลปริยาเย วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ. สเจ โข เต มาริส สพฺพสฺส สพฺพตฺเตนาติ อิทเมว พฺรหฺมา อตฺตโน วาทิตาย สพฺพนฺติ อกฺขรํ ทสฺเสตฺวา ๔- อกฺขเร โทสํ คณฺหนฺโต อาห. สตฺถา ปน สกฺกายํ สนฺธาย "สพฺพนฺ"ติ วทติ, พฺรหฺมา สพฺพสพฺพํ สนฺธาย. ตฺวํ "สพฺพนฺ"ติ วทสิ, "สพฺพสฺส สพฺพตฺเตน อนนุภูตนฺ"ติ วทสิ, ยทิ สพฺพํ อนนุภูตํ ๕- นตฺถิ, อถสฺส อนนุภูตํ อตฺถิ. มาเหว เต ริตฺตกเมว อโหสิ ตุจฺฉกเมว อโหสีติ ตุยฺหํ วจนํ ริตฺตกํ มา โหตุ, ตุจฺฉกํ มา โหตูติ สตฺถารํ มุสาวาเทน นิคฺคณฺหาติ. สตฺถา ปน เอตสฺมา พฺรหฺมุนา สตคุเณน สหสฺสคุเณน สตสหสฺสคุเณน วาทีตโร, ตสฺมา อหํ สพฺพํ ปวกฺขามิ, ๖- อนนุภูตํ ๗- วกฺขามิ, สุณาหิ เมติ ตสฺส วาทมทฺทนตฺถํ การณํ อาหรนฺโต วิญฺญาณนฺติอาทิมาห. ตตฺถ วิญฺญานนฺติ @เชิงอรรถ: ๑ ขุ. สตฺตก. ๒๗/๑๐๔๒/๒๒๓ พกพฺรหฺมชาตก (สฺยา) @๒ ปฐวิตฺเตนาติ ปาลิ. ฏีกา ตุ ปฐวฏฺเฐนาติ ปฐวีอตฺเถนาติ @๓ ปฐวี นาโหสีติ ปาลิ. นาปโหสินฺติ น ปาปุณินฺติ ฏีกา. ๔ ฉ.ม. นิทฺทิสิตฺวา @๕ สี. อนุภูตํ ๖ ฉ.ม. สพฺพญฺจ วกฺขามิ ๗ อนนุภูตญฺจ วิชานิตพฺพํ. อนิทสฺสนนฺติ จกฺขุวิญฺญาณสฺส อาปาถํ อนุปคมนโต อนิทสฺสนํ นาม, ปททฺวเยนปิ นิพฺพานเมว วุตฺตํ. อนนฺตนฺติ ตยิทํ อุปฺปาทวยอนฺตรหิตตฺตา อนนฺตํ นาม. วุตฺตํปิ เหตํ:- "อนฺตวนฺตานิ ภูตานิ อสมฺภูตํ อนนฺตกํ ภูเต อนฺตานิ ทิสฺสนฺติ ภูเต อนฺตา ปกาสิตา"ติ. สพฺพโตปภนฺติ สพฺพโส ปภาสมฺปนฺนํ. นิพฺพานโต หิ อญฺโญ ธมฺโม สปภตโร วา โชติวนฺตตโร วา ปริสุทฺธตโร วา ปณฺฑรตโร วา นตฺถิ, สพฺพโต วา ตถา ปภูตเมว, น กตฺถจิ นตฺถีติ สพฺพโตปภํ. ปุรตฺถิมทิสาทีสุ หิ อสุกทิสาย นาม นิพฺพานํ นตฺถีติ น วตฺตพฺพํ. อถวา ปภนฺติ ติตฺถสฺส นามํ, สพฺพโต ปภมสฺสาติ สพฺพโตปภํ. นิพฺพานสฺส กิร ยถา มหาสมุทฺทสฺส ยโต ยโต โอตริตุกามา โหนฺติ, ตํ ตเทว ติตฺถํ, อติตฺถํ นาม นตฺถิ, เอวเมว อฏฺฐตฺตึสาย กมฺมฏฺฐาเนสุ เยน เยน มุเขน นิพฺพานํ โอตริตุกามา โหนฺติ, ตํ ตเทว ติตฺถํ. นิพฺพานสฺส อติตฺถํ นาม กมฺมฏฺฐานํ นตฺถิ. เตน วุตฺตํ สพฺพโตปภนฺติ. ตํ ปฐวิยา ปฐวตฺเตนาติ ตํ นิพฺพานํ ปฐวิยา ปฐวีสภาเวน ตโต ปเรสํ อาปาทีนํ อาปาทิสภาเวน จ อนนุภูตํ. อิติ ยํ ตุมฺหาทิสานิ วิสยภูตํ สพฺพํ เตภูมิกธมฺมชาตํ, ตสฺส สพฺพตฺเตน ตํ วิญฺญาณํ อนิทสฺสนํ อนนฺตํ สพฺพโตปภํ อนนุภูตนฺติ วาทํ ปติฏฺฐาเปสิ. ตโต พฺรหฺมา คหิตคหิตํ สตฺถารา วิสฺสชฺชาปิโต กิญฺจิ คเหตพฺพํ อทิสฺวา ลทฺธิคตํ ๑- กาตุกาโม หนฺท จรหิ เต มาริส อนฺตรธายามีติ อาห. ตตฺถ อนฺตรธายามีติ อทิสฺสมานกํ ปาฏิหาริยํ กโรมีติ อาห. สเจ วิสหสีติ ยทิ สกฺโกสิ มยฺหํ อนฺตรธายิตุํ, อนฺตรธายิ, ๒- ปาฏิหาริยํ กโรหีติ. เนวสฺสุ เม สกฺโกติ อนฺตรธายิตุนฺติ มยฺหํ อนฺตรธายิตุํ เนว สกฺโกติ. กึ ปเนส กตฺตุกาโม อโหสีติ. มูลปฏิสนฺธึ คนฺตุกาโม อโหสิ. พฺรหฺมานํ หิ มูลปฏิสนฺธิกอตฺตภาโว สุขุโม, อญฺเญสํ อนาปาโถ, อภิสงฺขตกาเยเนว ติฏฺฐนฺติ. สตฺถา ตสฺส มูลปฏิสนฺธึ คนฺตุํ น อทาสิ. มูลปฏิสนฺธึ วา อคนฺตฺวาปิ เยน ตเมน อตฺตานํ อนฺตรธาเปตฺวา อทิสฺสมานโก @เชิงอรรถ: ๑ ฉ.ม. ลฬิตกํ ๒ ฉ.ม. อนฺตรธายสิ ภเวยฺย, สตฺถา ตํ ตมํ วิโนเทสิ, ตสฺมา อนฺตรธายิตุํ นาสกฺขิ. โส อสกฺโกนฺโต วิมาเน นิลียติ, กปฺปรุกฺเข นิลียติ, อุกฺกุฏิโก นิสีทติ. พฺรหฺมคโณ เกฬิมกาสิ "เอส โข พโก พฺรหฺมา วิมาเน นิลียติ, กปฺปรุกฺเข นิลียติ, อุกฺกุฏิโก นิสีทติ, พฺรเหฺม ตฺวํ อนฺตรหิโตมฺหี"ติ สญฺญํ อุปฺปาเทสิ นามาติ. โส พฺรหฺมคเณน อุปฺปณฺฑิโต มงฺกุ อโหสิ. เอวํ วุตฺเต อหํ ภิกฺขเวติ ภิกฺขเว เอเตน พฺรหฺมุนา "หนฺท จรหิ เต มาริส อนฺตรธายามี"ติ เอวํ วุตฺเต ตํ อนฺตรธายิตุํ อสกฺโกนฺตํ ทิสฺวา อหํ เอตทโวจํ. อิทํ คาถมภาสินฺติ กสฺมา ภควา คาถมภาสีติ? สมณสฺส โคตมสฺส อิมสฺมึ ฐาเน อตฺถิภาโว วา นตฺถิภาโว วา กถํ สกฺกา ชานิตุนฺติ เอวํ พฺรหฺมคณสฺส วจโนกาโส มา โหตูติ อนฺตรหิโตว คาถมภาสิ. ตตฺถ ภเววาหํ ภยํ ทิสฺวาติ อหํ ภเว ภยํ ทิสฺวาเยว. ภวญฺจ วิภเวสินนฺติ อิมญฺจ กามภวาทิติวิธํปิ สตฺตภวํ วิภเวสินํ วิภวํ คเวสมานํ ปริเยสมานํปิ ปุนปฺปุนํ ภเวเยว ทิสฺวา. ภวํ นาภิวทินฺติ ตณฺหาทิฏฺฐิวเสน กิญฺจิ ภวํ น อภิวทึ, น คเวสินฺติ อตฺโถ. นนฺทิญฺจ น อุปาทิยินฺติ ภวตณฺหํ น อุปคญฺฉึ, น อคฺคเหสินฺติ อตฺโถ. อิติ จตฺตาริ สจฺจานิ ปกาเสนฺโต สตฺถา ธมฺมํ เทเสสิ. เทสนาปริโยสาเน เทสนานุสาเรน วิปสฺสนาคพฺภํ คาหาเปตฺวา ทสมตฺตานิ พฺรหฺมสหสฺสานิ มคฺคผลามตปานํ ปิวึสุํ. อจฺฉริยพฺภุตจิตฺตชาตาติ อจฺฉริยชาตา อพฺภุตชาตา ตุฏฺฐิชาตา จ อเหสุํ. สมูลํ ภวํ อุทพฺพหีติ โพธิมณฺเฑ อตฺตโน ตาย ตาย เทสนาย อญฺเญสํปิ พหูนํ เทวมนุสฺสานํ สมูลกํ ภวํ อุทพฺพหิ, อุทฺธริ อุปฺปาเฏสีติ อตฺโถ. [๕๐๕] ตสฺมึ ปน สมเย มาโร ปาปิมา โกธาภิภูโต หุตฺวา "มยิ วิจรนฺเตเยว สมเณน โคตเมน ธมฺมํ กถยิตฺวา ๑- ทสมตฺตานิ พฺรหฺมสหสฺสานิ มม วสํ อติวตฺติตานี"ติ โกธาภิภูตตาย อญฺญตรสฺส พฺรหฺมปาริสชฺชสฺส สรีเร อธิมุจฺจิ, ตํ ทสฺเสตุํ อถโข ภิกฺขเวติอาทิมาห. ตตฺถ สเจ ตฺวํ เอวํ อนุพุทฺโธติ @เชิงอรรถ: ๑ ฉ.ม. ธมฺมกถํ กเถตฺวา สเจ ตฺวํ เอวํ อตฺตนาว จตฺตาริ สจฺจานิ อนุพุทฺโธ. มา สาวเก อุปเนสีติ คิหิสาวเก วา ปพฺพชิตสาวเก วา ตํ ธมฺมํ มา อุปนยสิ. หีเน กาเย ปติฏฺฐิตาติ จตูสุ อปาเยสุ ปติฏฺฐิตา. ปณีเต กาเย ปติฏฺฐิตาติ พฺรหฺมโลเก ปติฏฺฐิตา. อิทํ เก สนฺธาย วทติ? พาหิรปพฺพชฺชํ ปพฺพชิเต ตาปสปริพฺพาชเก. อนุปฺปนฺเน หิ พุทฺธุปฺปาเท กุลปุตฺตา ตาปสปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา กสฺสจิ กิญฺจิ อวิจาเรตฺวา ๑- เอกจรา หุตฺวา สมาปตฺติโย นิพฺพตฺเตตฺวา พฺรหฺมโลเก อุปฺปชฺชึสุ, เต สนฺธาย เอวมาห. อนกฺขาตํ กุสลญฺหิ มาริสาติ ปเรสํ อนกฺขาตํ อโนวทนํ ธมฺมกถาย อกถนํ กุสลํ เอตํ เสยฺโย. มา ปรํ โอวทาหีติ กาเลน มนุสฺสโลกํ, กาเลน เทวโลกํ, กาเลน พฺรหฺมโลกํ, กาเลน นาคโลกํ อาหิณฺฑนฺโต มา วิจริ, เอกสฺมึ ฐาเน นิสินฺโน ฌานมคฺคผลสุเขน วีตินาเมหีติ. อนาลปนตายาติ อนุลฺลปนตาย. พฺรหฺมุโน จ อภินิมนฺตนตายาติ พกพฺรหฺมุโน จ อิทญฺหิ มาริส นิจฺจนฺติอาทินา นเยน สโหกาสเกน ๒- พฺรหฺมฏฺฐาเนน นิมนฺตนวจเนน. ตสฺมาติ เตน การเณน. อิมสฺส เวยฺยากรณสฺส พฺรหฺมนิมนฺตนิกํเตฺวว อธิวจนํ สงฺขา สมญฺญา ปณฺณตฺติ ๓- ชาตา. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ. ๔- ปปญฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺฐกถาย พฺรหฺมนิมนฺตนิกสุตฺตวณฺณนา นิฏฺฐิตา. ------------ @เชิงอรรถ: ๑ ม. อวิตริตฺวา ๒ ฉ.ม. สห กายเกน ๓ ฉ.ม. ปญฺญตฺติ @๔ ฉ.ม. อุตฺตานตฺถเมวาติอรรถกถาภาษาบาลีอักษรไทย เล่มที่ ๘ หน้า ๓๑๒-๓๒๓. http://84000.org/tipitaka/atthapali/read_th.php?B=8&A=7994&modeTY=2 The Pali Atthakatha in Roman :- http://84000.org/tipitaka/atthapali/read_rm.php?B=8&A=7994&modeTY=2 อ่านอรรถกถาแปลไทย :- http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=12&i=551 เนื้อความพระไตรปิฎกฉบับหลวง :- http://84000.org/tipitaka/read/r.php?B=12&A=10134 พระไตรปิฎกฉบับบาลีอักษรไทย :- http://84000.org/tipitaka/read/pali_read.php?B=12&A=11936 The Pali Tipitaka in Roman Character :- http://84000.org/tipitaka/read/roman_read.php?B=12&A=11936 สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๒ http://84000.org/tipitaka/read/?index_12
|
บันทึก ๒๖ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๑.
การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจากอรรถกถาภาษาบาลีอักษรไทย.
หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]