ขอนอบน้อมแด่
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
                      พระองค์นั้น
บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ
อ่านหน้า[ต่าง] แรกอ่านหน้า[ต่าง] ที่แล้วแสดงหมายเลขหน้า
ในกรณี :- 
   บรรทัดแรกของแต่ละหน้าอ่านหน้า[ต่าง] ถัดไปอ่านหน้า[ต่าง] สุดท้าย คลิกเพื่อเปลี่ยน ฐญ เป็นแบบไทย  
อรรถกถาเล่มที่ ๙ ภาษาบาลีอักษรไทย ม.อ. (ปปญฺจ.๓)

                          ๙. สุภสุตฺตวณฺณนา
      [๔๖๒] เอวมฺเม สุตนฺติ สุภสุตฺตํ. ตตฺถ โตเทยฺยปุตฺโตติ ตุทิคามวาสิโน
โตเทยฺยพฺราหฺมณสฺส ปุตฺโต. อาราธโก โหตีติ สมฺปาทโก โหติ ปริปูรโก.
ายํ ธมฺมนฺติ การณธมฺมํ. กุสลนฺติ อนวชฺชํ.
      [๔๖๓] มิจฺฉาปฏิปตฺตินฺติ อนิยฺยานิกํ อกุสลปฏิปทํ. สมฺมาปฏิปตฺตินฺติ
นิยฺยานิกํ กุสลปฏิปทํ.
      มหตฺถนฺติอาทีสุ มหนฺเตหิ เวยฺยาวจฺจกเรหิ วา อุปกรเณหิ วา พหูหิ
อตฺโถ เอตฺถาติ มหตฺถํ. มหนฺตานิ นามคฺคหณมงฺคลาทีนิ กิจฺจานิ เอตฺถาติ
มหากิจฺจํ. อิทํ อชฺช กตฺตพฺพํ, อิทํ เสฺวติ เอวํ มหนฺตานิ อธิการสงฺขาตานิ
อธิกรณานิ เอตฺถาติ มหาธิกรณํ. พหุนฺนํ กมฺเม ยุตฺตปฺปยุตฺตตาวเสน ปีฬาสงฺขาโต
มหาสมารมฺโภ เอตฺถาติ มหาสมารมฺภํ. ฆราวาสกมฺมฏฺานนฺติ ฆราวาสกมฺมํ.
@เชิงอรรถ:  สี. อนตีติ
เอวํ สพฺพวาเรสุ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. กสิกมฺเม เจตฺถ นงฺคลโกฏึ อาทึ กตฺวา
อุปกรณานํ ปริเยสนวเสน มหตฺถตา, วณิชฺชาย ยถาิตํเยว ภณฺฑํ คเหตฺวา
ปริวตฺตนวเสน อปฺปตฺถตา เวทิตพฺพา. วิปชฺชมานนฺติ อวุฏฺิอติวุฏฺิอาทีหิ
กสิกมฺมํ, มณิสุวณฺณาทีสุ อจฺเฉกตาทีหิ จ วณิชฺชกมฺมํ อปฺปผลํ โหติ, มูลจฺเฉทมฺปิ
ปาปุณาติ, วิปริยาเยน สมฺปชฺชมานํ มหปฺผลํ จูฬนฺเตวาสิกสฺส วิย.
      [๔๖๔] เอวเมว โขติ ยถา กสิกมฺมฏฺานํ วิปชฺชมานํ อปฺปผลํ โหติ,
เอวํ ฆราวาสกมฺมฏฺานมฺปิ, อกตกลฺยาโณ หิ กาลํ กตฺวา นิรเย นิพฺพตฺตติ.
มหาทตฺตเสนาปติ นาม กิเรโก พฺราหฺมณภโฏ ๑- อโหสิ, ตสฺส มรณสมเย
นิรโย อุปฏฺาสิ. โส พฺราหฺมเณหิ "กึ ปสฺสสี"ติ วุตฺโต โลหิตฆรนฺติ อาห.
พฺรหฺมโลโก โภ เอโสติ. พฺรหฺมโลโก นาม โภ กหนฺติ. อุปรีติ. มยฺหํ เหฏฺา
อุปฏฺาตีติ. กิญฺจาปิ เหฏฺา อุปฏฺาติ, ตถาปิ อุปรีติ กาลํ กตฺวา นิรเย
นิพฺพตฺโต. "อิมินา อมฺหากํ ยญฺเ โทโส ทินฺโน"ติ สหสฺสํ คเหตฺวา
นีหริตุํ อทํสุ. สมฺปชฺชมานํ ปน  มหปฺผลํ โหติ. กตกลฺยาโณ หิ กาลํ กตฺวา
สคฺเค นิพฺพตฺตติ. สกลาย คุตฺติลวิมานกถาย ทีเปตพฺพํ. ยถา ปน ตํ
วณิชฺชกมฺมฏฺานํ วิปชฺชมานํ อปฺปผลํ โหติ, เอวํ สีเลสุ อปริปูรการิโน
อเนสนาย ยุตฺตสฺส ปพฺพชฺชา กมฺมฏฺานมฺปิ. เอวรูปา หิ เนว ฌานาทิสุขํ
น สคฺคโมกฺขสุขํ ๒- ลภนฺติ. สมฺปชฺชมานํ ปน มหปฺผลํ โหติ. สีลานิ หิ ปูเรตฺวา
วิปสฺสนํ วฑฺเฒนฺโต อรหตฺตมฺปิ ปาปุณาติ.
      พฺราหฺมณา โภ โคตมาติ อิธ กึ ปุจฺฉามีติ ปุจฺฉติ? พฺราหฺมณา
วทนฺติ "ปพฺพชิโต อิเม ปญฺจ ธมฺเม ปูเรตุํ สมตฺโถ นาม นตฺถิ, คหฏฺโว
ปูเรตี"ติ. สมโณ ปน โคตโม "คิหิสฺส วา อหํ มาณว ปพฺพชิตสฺส วา"ติ
ปุนปฺปุนํ วทติ, เนว ปพฺพชิตํ มุญฺจติ, มยฺหเมว ปุจฺฉํ มญฺเ น สลฺลกฺเขตีติ
จาคสีเสน ปญฺจ  ธมฺเม ปุจฺฉามีติ ปุจฺฉติ. สเจ เต อครูติ สเจ ตุยฺหํ ยถา
พฺราหฺมณา ปญฺเปนฺติ, ตถา อิธ ภาสิตุํ ภาริยํ น โหติ, ยทิ น โกจิ
อผาสุกภาโว โหติ, ภาสสฺสูติ อตฺโถ. น โข เม โภติ กึ สนฺธายาห?
ปณฺฑิตปติรูปกานํ หิ สนฺติเก กเถตุํ ทุกฺขํ โหติ, เต ปเท ปเท อกฺขรกฺขเร
@เชิงอรรถ:  ฉ.ม. พฺราหฺมณภตฺโต                 ฉ.ม. สคฺคโมกฺขํ
โทสเมว วทนฺติ. เอกนฺตปณฺฑิตา ปน กถํ สุตฺวา สุกถิตํ ปสํสนฺติ, ทุกฺกถิเต
ปาฬิปทอตฺถพฺยญฺชเนสุ ยํ ยํ วิรุชฺฌติ, ตํ ตํ อุชุํ กตฺวา เทนฺติ. ภควตา จ
สทิโส เอกนฺตปณฺฑิโต นาม นตฺถิ, เตนาห "น โข เม โภ โคตม ครุ,
ยตฺถสฺสุ ภวนฺโต วา นิสินฺนา ภวนฺตรูปา วา"ติ. สจฺจนฺติ วจีสจฺจํ.
ตปนฺติ ตปจริยํ. พฺรหฺมจริยนฺติ เมถุนวิรตึ. อชฺเฌนนฺติ มนฺตคหณํ. จาคนฺติ
อามิสปริจฺจาคํ.
      [๔๖๖] ปาปิโต ภวิสฺสตีติ อชานนภาวํ ปาปิโต ภวิสฺสติ. เอตทโวจาติ
ภควตา อนฺธเวณูปมาย นิคฺคหิโต ตํ ปจฺจาหริตุํ อสกฺโกนฺโต ยถา นาม
ทุพฺพลสุนโข มิคํ อุฏฺเปตฺวา สามิกสฺส อภิมุขํ กตฺวา สยํ อปสกฺกมติ, เอวเมว
อาจริยํ อปทิสนฺโต เอตํ "พฺราหฺมโณ"ติอาทิวจนํ อโวจ. ตตฺถ โปกฺขรสาตีติ
อิทํ ตสฺส นามํ, "โปกฺขรสาตี"ติปิ ๑- วุจฺจติ. ตสฺส กิร กาโย เสตโปกฺขรสทิโส
เทวนคเร อุสฺสาปิตรชตโตรณํ วิย โสภติ, สีสํ ปนสฺส กาฬวณฺณอินฺทนีลมณิมยํ ๒-
วิย, มสฺสุปิ จนฺทมณฺฑเล กาฬเมฆราชิ วิย ขายติ, อกฺขีนิ นีลุปฺปลสทิสานิ,
นาสา รชตปนาฬิกา วิย สุวฏฺฏิตา สุปริสุทฺธา, หตฺถปาทตลานิ เจว มุขญฺจ
กตลาขารสปริกมฺมํ วิย โสภติ. อติวิย โสภคฺคปฺปตฺโต พฺราหฺมณสฺส อตฺตภาโว.
อราชเก าเน ราชานํ กาตุํ ยุตฺตมิมํ พฺราหฺมณํ, ๓- เอวเมส ๔- สสฺสิรีโก, อิติ
นํ โปกฺขรสทิสตฺตา "โปกฺขรสาตี"ติ สญฺชานนฺติ, โปกฺขเร ปน โส นิพฺพตฺโต,
น มาตุกุจฺฉิยนฺติ อิติ นํ โปกฺขเร  สยิตตฺตา "โปกฺขรสายี"ติ สญฺชานนฺติ.
โอปมญฺโติ อุปมญฺโคตฺโต. สุภควนิโกติ อุกฺกฏฺาย สุภควนสฺส อิสฺสโร.
หสฺสกํเยวาติ หสิตพฺพกญฺเว. นามกํเยวาติ ลามกญฺเว. ตเทว ตํ อตฺถาภาเวน
ริตฺตกํ. ริตฺตกตฺตา จ ๕- ตุจฺฉกํ. อิทานิ ตํ ภควา สาจริยกํ นิคฺคหิตุํ กึ ปน
มาณวาติอาทิมาห.
      [๔๖๗] ตตฺถ กตมา เนสํ เสยฺโยติ กตมา วาจา เตสํ เสยฺโย,
ปาสํสตโรติ ๖- อตฺโถ. สมฺมุจฺจาติ สมฺมติยา โลกโวหาเรน. มนฺตาติ ตุลยิตฺวา
ปริคฺคณฺหิตฺวา. ปฏิสงฺขายาติ ชานิตฺวา. อตฺถสญฺหิตนฺติ การณนิสฺสิตํ. เอวํ
@เชิงอรรถ:  ฉ.ม. โปกฺขรสายีติปิ       ฉ.ม. กาฬวณฺณอินฺทนีลมยํ
@ ม. ยุตฺโต พฺราหฺมโณ    สี., ม., ก. เอวเมว     สี. ริตฺตกตฺตาว
@ สี. เสยฺยํสา วรตราติ
สนฺเตติ โลกโวหารํ อมุญฺจิตฺวา ตุลยิตฺวา ชานิตฺวา การณนิสฺสิตํ กตฺวา กถิตาย
เสยฺยภาเว สติ. อาวุโตติ อาวริโต. นิวุโตติ นิวาริโต. โอผุโฏติ โอนทฺโธ.
ปริโยนทฺโธติ ปลิเวิโต.
      [๔๖๘] คธิโตติอาทีนิ วุตฺตตฺถาเนว. สเจ ตํ โภ โคตม านนฺติ สเจ เอตํ
การณมตฺถิ. สฺวาสฺสาติ ธูมฉาริกาทีนํ อภาเวน โส อสฺส อคฺคิ อจฺจิมา จ วณฺณิมา
จ ปภสฺสโร จาติ. ตถูปมาหํ มาณวาติ ตปฺปฏิภาคํ อหํ. อิทํ วุตฺตํ โหติ:- ยเถว
หิ ติณกฏฺุปาทานํ ปฏิจฺจ ชลมาโน อคฺคิ ธูมฉาริกาองฺคารานํ อตฺถิตาย สโทโส โหติ.
เอวํ ๑- ปญฺจ กามคุเณ ปฏิจฺจ อุปฺปนฺนา ปีติ ชาติชราพฺยาธิมรณโสกาทีนํ
อตฺถิตาย สโทสา. ยถา ปน ปริจฺจตฺตติณกฏฺุปาทาโน ธูมาทีนํ อภาเวน ปริสุทฺโธ,
เอวเมว โลกุตฺตรชฺฌานทฺวยสมฺปยุตฺตปีติ ชาติอาทีนํ อภาเวน ปริสุทฺธาติ อตฺโถ.
      [๔๖๙] อิทานิ เย เต พฺราหฺมเณหิ จาคสีเสน ปญฺจ ธมฺมา ปญฺตฺตา,
เตปิ ยสฺมา ปญฺเจว หุตฺวา น นิจฺจลา ติฏฺนฺติ, อนุกมฺปาชาติเกน สทฺธึ ฉ
อาปชฺชนฺติ. ตสฺมา ตํ โทสํ ทสฺเสตุํ เย เต มาณวาติอาทิมาห. ตตฺถ
อนุกมฺปาชาติกนฺติ อนุกมฺปาสภาวํ.
      กตฺถ พหุลํ สมนุปสฺสสีติ อิทํ ภควา ยสฺมา "เอส อิเม ปญฺจ ธมฺเม
ปพฺพชิโต ปริปูเรตุํ สมตฺโถ นาม นตฺถิ, คหฏฺโ ปริปูเรตี"ติ อาห, ตสฺมา
"ปพฺพชิโตว อิเม ปูเรติ, คหฏฺโ ปูเรตุํ สมตฺโถ นาม นตฺถี"ติ เตเนว
มุเขน ภณาเปตุํ ปุจฺฉติ.
      น สตตํ สมิตํ สจฺจวาทีติอาทีสุ คหฏฺโ อญฺสฺมึ อสติ วลญฺชนกมุสาวาทมฺปิ
กโรติเยว, ปพฺพชิตา อสินา สีเส ฉิชฺชนฺเตปิ เทฺว กถา น กเถนฺติ. คหฏฺโ
จ อนฺโตเตมาสมตฺตมฺปิ สิกฺขาปทํ รกฺขิตุํ น สกฺโกติ, ปพฺพชิโต นิจฺจํ ๒-
ตปสฺสี สีลวา ตปนิสฺสิตโก โหติ. คหฏฺโ มาสสฺส อฏฺทิวสมตฺตมฺปิ
อุโปสถกมฺมํ กาตุํ น สกฺโกติ, ปพฺพชิตา ยาวชีวํ พฺรหฺมจาริโน โหนฺติ. คหฏฺโ
รตนสุตฺตมงฺคลสุตฺตมตฺตมฺปิ โปตฺถเก ลิขิตฺวา เปติ, ปพฺพชิตา นิจฺจํ สชฺฌายนฺติ.
คหฏฺโ สลากภตฺตมฺปิ อขณฺฑํ กตฺวา ทาตุํ น สกฺโกติ, ปพฺพชิตา อญฺสฺมึ
@เชิงอรรถ:  ฉ.ม. เอวเมวํ                             ก, นิจจกาลเมว
อสติ กากสุนขาทีนมฺปิ ปิณฺฑํ เทนฺติ, ภณฺฑคฺคาหกทหรสฺสปิ ปตฺเต ปกฺขิปนฺเตวาติ
เอวมตฺโถ ทฏฺพฺโพ. จิตฺตสฺสาหํ เอเตติ อหํ เอเต ปญฺจ ธมฺเม เมตฺตจิตฺตสฺส
ปริวาเร วทามีติ อตฺโถ.
      [๔๗๐] ชาตวฑฺโฒติ ชาโต จ วฑฺฒิโต จ. โย หิ เกวลํ ตตฺถ ชาโตว
โหติ, อญฺตฺถ วฑฺฒิโต, ตสฺส สมนฺตา คามมคฺคา ๑- น สพฺพโส ปจฺจกฺขา
โหนฺติ, ตสฺมา ชาตวฑฺโฒติ อาห. ชาตวฑฺโฒปิ หิ โย จิรํ นิกฺขนฺโต, ตสฺส
น สพฺพโส ปจฺจกฺขา โหนฺติ, ตสฺมา ตาวเทว อวสฏนฺติ อาห, ตํขณเมว
นิกฺขนฺตนฺติ อตฺโถ. ทนฺธายิตตฺตนฺติ "อยํ นุ โข มคฺโค อยํ นนุ โข"ติ
กงฺขาวเสน จิรายิตตฺตํ. วิตฺถายิตตฺตนฺติ ยถา สุขุมํ อตฺถชาตํ สหสา ปุจฺฉิตสฺส
กสฺสจิ สรีรํ ถทฺธภาวํ คณฺหาติ, เอวํ ถทฺธภาวคหณํ, น เตฺววาติ อิมินา
สพฺพญฺุตาณสฺส อปฺปฏิหตภาวํ ทสฺเสติ. ตสฺส หิ ปุริสสฺส มาราวฏฺฏนาทีนํ
วเสน สิยา าณสฺส ปฏิฆาโต, เตน โส ทนฺธาเยยฺย วา วิตฺถาเยยฺย วา,
สพฺพญฺุตาณํ ปน อปฺปฏิหตํ, น สกฺกา ตสฺส เกนจิ อนฺตราโย กาตุนฺติ ทีเปติ.
      เสยฺยถาปิ มาณว พลวา สงฺขธโมติ เอตฺถ พลวาติ พลสมฺปนฺโน. สงฺขธโมติ
สงฺขธมโก. อปฺปกสิเรนาติ อกิจฺเฉน อทุกฺเขน. ทุพฺพโล หิ สงฺขธมโก สงฺขํ ธมนฺโตปิ
น สกฺโกติ จตสฺโส ทิสา สเรน วิญฺาเปตุํ, นาสฺส สงฺขสทฺโท สพฺพโส ผริ. พลวโต
ปน วิปฺผาริโก ๒- โหติ, ตสฺมา พลวาติ อาห. เมตฺตาย เจโตวิมุตฺติยาติ เอตฺถ
เมตฺตายาติ วุตฺเต อุปจาโรปิ อปฺปนาปิ วฏฺฏติ, เจโตวิมุตฺติยาติ วุตฺเต ปน
อปฺปนาว วฏฺฏติ. ยํ ปมาณกตํ กมฺมนฺติ ปมาณกตํ กมฺมํ นาม กามาวจรํ วุจฺจติ,
อปฺปมาณกตํ กมฺมํ นาม รูปารูปาวจรํ. เตสุปิ อิธ พฺรหฺมวิหารกมฺมญฺเว
อธิปฺเปตํ. ตญฺหิ ปมาณํ อติกฺกมิตฺวา โอทิสฺสกอโนทิสฺสกทิสาผรณวเสน วฑฺเฒตฺวา
กตตฺตา อปฺปมาณกตนฺติ วุจฺจติ. น ตํ ตตฺราวสิสฺสติ, น ตํ ตตฺราวติฏฺตีติ ตํ
กามาวจรกมฺมํ ตสฺมึ รูปารูปาวจรกมฺเม น โอหียติ น ติฏฺติ. กึ วุตฺตํ โหติ:- ตํ
๓- กามาวจรกมฺมํ ตสฺส รูปารูปาวจรกมฺมสฺส อนฺตรา ลคฺคิตุํ วา าตุํ วา
รูปารูปาวจรกมฺมํ ผริตฺวา ปริยาทิยิตฺวา อตฺตโน โอกาสํ คเหตฺวา ปติฏฺาตุํ น
สกฺโกติ, อถโข รูปารูปาวจรกมฺมเมว
@เชิงอรรถ:  ม. สมนฺตคาเม มคฺคา        สี. วิตฺถาริโก       ฉ.ม. อยํ ปาโ น ทิสฺสติ
กามาวจรํ มโหโฆ วิย ปริตฺตํ อุทกํ ผริตฺวา ปริยาทิยิตฺวา อตฺตโน โอกาสํ
คเหตฺวา ติฏฺติ, ตสฺส วิปากํ ปฏิพาหิตฺวา สยเมว พฺรหฺมสหพฺยตํ อุปเนตีติ.
เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.
                    ปปญฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย
                        สุภสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
                            --------


             อรรถกถาภาษาบาลีอักษรไทย เล่มที่ ๙ หน้า ๓๑๗-๓๒๒. http://84000.org/tipitaka/atthapali/read_th.php?B=9&A=7993&modeTY=1              The Pali Atthakatha in Roman :- http://84000.org/tipitaka/atthapali/read_rm.php?B=9&A=7993&modeTY=1              อ่านอรรถกถาแปลไทย :- http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=13&i=709              เนื้อความพระไตรปิฎกฉบับหลวง :- http://84000.org/tipitaka/read/r.php?B=13&A=11249              พระไตรปิฎกฉบับบาลีอักษรไทย :- http://84000.org/tipitaka/read/pali_read.php?B=13&A=13289              The Pali Tipitaka in Roman Character :- http://84000.org/tipitaka/read/roman_read.php?B=13&A=13289              สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๓ http://84000.org/tipitaka/read/?index_13

อ่านหน้า[ต่าง] แรกอ่านหน้า[ต่าง] ที่แล้วแสดงหมายเลขหน้า
ในกรณี :- 
   บรรทัดแรกของแต่ละหน้าอ่านหน้า[ต่าง] ถัดไปอ่านหน้า[ต่าง] สุดท้าย คลิกเพื่อเปลี่ยน ฐญ เป็นแบบไทย

บันทึก ๒๖ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๑. การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจากอรรถกถาภาษาบาลีอักษรไทย. หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]