![]() |
|
บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ | |
|
พจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์ สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ป.อ. ปยุตฺโต) พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต) พระธรรมปิฎก (ประยุทธ์ ปยุตฺโต) การค้นหาคำว่า อกุศลกรรมบถ ผลการค้นหาพบ 13 ตำแหน่ง ดังนี้ :-
![]() |
![]() |
มีคำอธิบายแบบครอบคลุมด้วยว่า กรรมทั้งหลายทั่วไป ชื่อว่าเป็นกรรมบถ เพราะเป็นทางแห่งสุคติและทุคติ และเป็นทางแห่งความสุขความทุกข์ของผู้ที่เกิดในคตินั้นๆ, กรรมบถแยกเป็น กุศลกรรมบถ ๑๐ และอกุศลกรรมบถ ๑๐
กรรมดีอันเป็นทางนำไปสู่สุคติ มี ๑๐ อย่างคือ ก. กายกรรม ๓ ได้แก่ ๑. ปาณาติปาตา เวรมณี เว้นจากทำลายชีวิต ๒. อทินนาทานา เวรมณี เว้นจากถือเอาของที่เขามิได้ให้ ๓. กาเมสุมิจฉาจารา เวรมณี เว้นจากประพฤติผิดในกาม ข. วจีกรรม ๔ ได้แก่ ๔. มุสาวาทา เวรมณี เว้นจากพูดเท็จ ๕. ปิสุณาย วาจาย เวรมณี เว้นจากพูดส่อเสียด ๖. ผรุสาย วาจาย เวรมณี เว้นจากพูดคำหยาบ ๗. สัมผัปปลาปา เวรมณี เว้นจากพูดเพ้อเจ้อ ค. มโนกรรม ๓ ได้แก่ ๘. อนภิชฌา ไม่โลภคอยจ้องอยากได้ของเขา ๙. อพยาบาท ไม่คิดร้ายเบียดเบียนเขา ๑๐. สัมมาทิฏฐิ เห็นชอบตามคลองธรรม; เทียบ อกุศลกรรมบถ, ดู กรรมบถ
(ข้อ ๕ ในอกุศลกรรมบถ ๑๐)
(ข้อ ๖ ในอกุศลกรรมบถ ๑๐)
ทางชั่ว เช่น คิดเพ่งเล็งจ้องจะเอาของเขา ทางดี เช่น คิดช่วยเหลือผู้อื่น; ดู กุศลกรรมบถ, อกุศลกรรมบถ
(ข้อ ๔ ในกรรมกิเลส ๔, ข้อ ๗ ในมละ ๙, ข้อ ๔ ในอกุศลกรรมบถ ๑๐)
ที่ดี เช่น พูดจริง พูดคำสุภาพ ที่ชั่ว เช่น พูดเท็จ พูดคำหยาบ; ดู กุศลกรรมบถ, อกุศลกรรมบถ
ประมวลบทบัญญัติข้อกำหนดสำหรับควบคุมความประพฤติ ไม่ให้เสื่อมเสียและฝึกฝนให้ประพฤติดีงามเป็นคุณเกื้อกูลยิ่งขึ้น, ประมวลสิกขาบท; วินัยมี ๒ อย่างคือ ๑. อนาคาริยวินัย วินัยของผู้ไม่ครองเรือน คือวินัยของบรรพชิต หรือวินัยของพระสงฆ์ ได้แก่ การไม่ต้องอาบัติทั้ง ๗ หรือโดยสาระ ได้แก่ ปาริสุทธิศีล ๔ ๒. อาคาริยวินัย วินัยของผู้ครองเรือน คือ วินัยของชาวบ้าน ได้แก่ การงดเว้นจากอกุศลกรรมบถ ๑๐ โดยนัยก็คือ กุศลกรรมบถ ๑๐
(ข้อ ๗ ในอกุศลกรรมบถ ๑๐)
กรรมชั่วอันเป็นทางนำไปสู่ทุคติ มี ๑๐ อย่าง คือ ก. กายกรรม ๓ ได้แก่ ๑. ปาณาติบาต การทำลายชีวิต ๒. อทินนาทาน ถือเอาของที่เขามิได้ให้ ๓. กาเมสุมิจฉาจาร ประพฤติผิดในกาม ข. วจีกรรม ๔ ได้แก่ ๔. มุสาวาท พูดเท็จ ๕. ปิสุณาวาจา พูดส่อเสียด ๖. ผรุสวาจา พูดคำหยาบ ๗. สัมผัปปลาปะ พูดเพ้อเจ้อ ค. มโนกรรม ๓ ได้แก่ ๘. อภิชฌา ละโมบคอยจ้องอยากได้ของเขา ๙. พยาบาท คิดร้ายเขา ๑๐. มิจฉาทิฏฐิ เห็นผิดจากคลองธรรม; เทียบ กุศลกรรมบถ, ดู กรรมบถ
(ข้อ ๒ ในกรรมกิเลส ๔ ในอกุศลกรรมบถ ๑๐)
(ข้อ ๘ ในอกุศลกรรมบถ ๑๐)
อาฆาตวัตถุ ๑๐ คือ ๑. ผูกอาฆาตว่า ผู้นั้นได้ประพฤติการเสียหายแก่เราแล้ว ๒. ผูกอาฆาตว่า ผู้นั้นกำลังประพฤติการเสียหายแก่เรา ๓. ผูกอาฆาตว่า ผู้นั้นจักประพฤติการเสียหายแก่เรา ๔. ผูกอาฆาตว่า ผู้นั้นได้ประพฤติการเสียหายแก่ผู้เป็นที่รักที่ชอบใจของเราแล้ว ๕. ผูกอาฆาตว่า ผู้นั้นกำลังประพฤติการเสียหายแก่ผู้เป็นที่รักที่ชอบใจของเรา ๖. ผูกอาฆาตว่า ผู้นั้นจักประพฤติการเสียหายแก่ผู้เป็นที่รักที่ชอบใจของเรา ๗. ผูกอาฆาตว่า ผู้นั้นได้ประพฤติการเป็นประโยชน์แก่ผู้ไม่เป็นที่รักไม่เป็นที่ชอบใจของเราแล้ว ๘. ผูกอาฆาตว่า ผู้นั้นกำลังประพฤติการเป็นประโยชน์แก่ผู้ไม่เป็นที่รักไม่เป็นที่ชอบใจของเรา ๙. ผูกอาฆาตว่า ผู้นั้นจักประพฤติการเป็นประโยชน์แก่ผู้ไม่เป็นที่รักไม่เป็นที่ชอบใจของเรา ๑๐. โกรธในกรณีอันมิใช่ฐานะ (ในเรื่องไม่เป็นเรื่อง) (องฺ.ทสก.๒๔/๗๙ อาฆาตวัตถุ ๑๐ นี้ ในพระอภิธรรมก็แสดงไว้ แต่ใช้สำนวนความต่างออกไปเล็กน้อย เช่นว่า ๑. ความอาฆาตเกิดขึ้นด้วยคิดว่า ผู้นั้นได้ประพฤติการเสียหายแก่เราแล้ว ๙. ความอาฆาตเกิดขึ้นด้วยคิดว่า ผู้นั้นจักประพฤติการเป็นประโยชน์แก่ผู้ไม่เป็นที่รักไม่เป็นที่ชอบใจของเรา ๑๐. ความอาฆาตเกิดขึ้นในกรณีอันมิใช่ฐานะ (อภิ.วิ. ๓๕/๑๐๒๗ ในพระสูตรหลายแห่ง และพระอภิธรรมบางแห่ง แสดง อาฆาตวัตถุ ๙ (ไม่มีข้อ ๑๐) (เช่น องฺ.นวก. ๒๓/๒๓๓ อาฆาตวัตถุ ๙ ข้อแรกนั้นมีความชัดอยู่แล้ว ส่วนข้อ ๑๐ ที่ว่าโกรธว่าอาฆาตในกรณีอันมิใช่ฐานะ เข้าใจได้ง่ายด้วยตัวอย่างเช่นว่า โกรธฝนว่าทำให้ตนมีเสื้อผ้าเปียก โกรธพระอาทิตย์ว่าทำให้แดดร้อน โกรธต้นโพธิ์ว่าใบมากกวาดไม่ไหว โกรธลมพัดว่าทำให้ห่มจีวรไม่ได้ โกรธตอไม้ว่าทำให้สะดุดถลาไปแทบจะล้ม ฯลฯ, ในอาฆาตวัตถุ ๙ ข้อแรก อาฆาตเกิดขึ้นต่อสัตว์บุคคล ทำให้เสียกรรมบถ (คือเป็นอกุศลกรรมบถ) ส่วนในข้อ ๑๐ อาฆาตเกิดต่อสังขาร เป็นแค่กรรม (=อกุศลกรรม) แต่ไม่เป็นกรรมบถ (ไม่เป็นอกุศลกรรมบถ) [หลักทั่วไปมีอยู่ว่า ความโกรธเกิดขึ้นต่อสังขาร เป็นกรรม ไม่เป็นกรรมบถ, ความโกรธเกิดขึ้นต่อสัตว์ ถ้าเพียงโกรธเคืองเขา ก็เป็นกรรม ยังไม่เป็นกรรมบถ ต่อเมื่อคิดจะให้เขาถูกฆ่า หรือพินาศวอดวาย จึงเป็นกรรมบถ] ในพระวินัย กล่าวถึงทั้งอาฆาตวัตถุ ๙ และอาฆาตวัตถุ ๑๐ (ไม่แจกข้อย่อยไว้) และกล่าวว่า อาฆาตวัตถุ ๙ เป็นเหตุให้สงฆ์แตกกันได้ (วินย. ๘/๑๒๗๒ |
พจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์
https://84000.org/tipitaka/dic/v_seek.php?text=อกุศลกรรมบถ&detail=on
https://84000.org/tipitaka/dic/v_seek.php?text=%CD%A1%D8%C8%C5%A1%C3%C3%C1%BA%B6&detail=on
![]() ![]() | |
![]() | |
บันทึก ๒, ๓๐ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๔๗ การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจาก พจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์ พิมพ์ครั้งที่ ๑๐ พ.ศ. ๒๕๔๖ บันทึก ๓ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖๘ พิมพ์ครั้งที่ ๓๕ พ.ศ. ๒๕๖๔ หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]