ขอนอบน้อมแด่
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
                      พระองค์นั้น
บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ
     ฉบับหลวง   ฉบับมหาจุฬาฯ   บาลีอักษรไทย   PaliRoman 
พระไตรปิฎกเล่มที่ ๓๓ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๕ [ฉบับมหาจุฬาฯ] ขุททกนิกาย อปทาน ภาค ๒ -พุทธวังสะ-จริยาปิฎก
๑๕. ธัมมทัสสีพุทธวงศ์
ว่าด้วยพระประวัติของพระธัมมทัสสีพุทธเจ้า
[๑] ในมัณฑกัปนั้นแล ได้มีพระพุทธเจ้าพระนามว่าธัมมทัสสี ผู้มีพระยศยิ่งใหญ่ทรงขจัดความมืดแล้ว ทรงรุ่งเรืองอย่างยิ่งในโลกพร้อมทั้งเทวโลก [๒] แม้ในการที่พระองค์ผู้มีพระเดชไม่มีอะไรเปรียบเทียบ ทรงประกาศพระธรรมจักร เทวดาและมนุษย์ประมาณ ๑๐๐,๐๐๐ โกฏิ ได้บรรลุธรรมครั้งที่ ๑ [๓] ในกาลที่พระพุทธเจ้าพระนามว่าธัมมทัสสี ทรงแนะนำสัญชัยฤาษี เทวดาและมนุษย์ประมาณ ๙๐ โกฏิ ได้บรรลุธรรมครั้งที่ ๒ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๓ หน้า : ๖๖๕}

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย พุทธวงศ์ ๑๕. ธัมมทัสสีพุทธวงศ์

[๔] ในกาลที่ท้าวสักกะพร้อมทั้งบริษัท เสด็จเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าทรงเป็นผู้นำวิเศษ เทวดาและมนุษย์ประมาณ ๘๐ โกฏิ ได้บรรลุธรรมครั้งที่ ๓ [๕] แม้พระพุทธเจ้าพระองค์นั้นผู้เป็นเทพยิ่งกว่าเทพ ก็มีการประชุมแห่งพระขีณาสพผู้ปราศจากมลทิน มีจิตสงบระงับ ผู้คงที่ ๓ ครั้ง [๖] ในกาลที่พระธัมมทัสสีพุทธเจ้า ทรงเสด็จจำพรรษาที่สรณนคร พระขีณาสพประมาณ ๑,๐๐๐ โกฏิ มาประชุมกัน เป็นครั้งที่ ๑ [๗] ต่อมา ในกาลที่พระพุทธเจ้า เสด็จลงจากเทวโลกมายังโลกมนุษย์ พระขีณาสพประมาณ ๑๐๐ โกฏิ มาประชุมกัน เป็นครั้งที่ ๒ [๘] ต่อมา ในกาลที่พระพุทธเจ้าทรงประกาศธุดงค์คุณ พระขีณาสพจำนวน ๘๐ โกฏิ มาประชุมกัน เป็นครั้งที่ ๓ [๙] สมัยนั้น เราเป็นท้าวสักกปุรินททะ๑- ได้บูชาด้วยของหอมมาลาและดนตรีทิพย์ [๑๐] แม้พระพุทธเจ้าพระองค์นั้น ประทับนั่งท่ามกลางเทวดา ก็ทรงพยากรณ์เราว่า “ใน ๑๑๘ กัป ท้าวสักกปุรินททะนี้จักเป็นพระพุทธเจ้า” พระตถาคตได้เสด็จออกจากกรุงกบิลพัสดุ์ที่น่ารื่นรมย์ [๑๑] พระตถาคตทรงเริ่มตั้งความเพียร บำเพ็ญทุกรกิริยา จักประทับนั่งที่โคนต้นอชปาลนิโครธ ทรงรับข้าวปายาสในที่นั้น แล้วเสด็จไปยังแม่น้ำเนรัญชรา @เชิงอรรถ : @ ปุรินททะ หมายถึงผู้ให้ทานในชาติก่อน เป็นชื่อของท้าวสักกะ (ขุ.วิ.อ. ๙๗๗/๓๐๑) {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๓ หน้า : ๖๖๖}

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย พุทธวงศ์ ๑๕. ธัมมทัสสีพุทธวงศ์

พระชินเจ้าพระองค์นั้น จักเสวยข้าวปายาส ที่ริมฝั่งแม่น้ำเนรัญชราแล้วเสด็จไปที่โคนต้นโพธิ์ ตามหนทางอันประเสริฐที่ตกแต่งไว้แล้ว จากนั้น พระองค์ผู้มีพระยศยิ่งใหญ่ จักทำประทักษิณโพธิมัณฑ์อันยอดเยี่ยมแล้ว ตรัสรู้ที่โคนต้นอัสสัตถพฤกษ์ พระมารดาผู้ให้กำเนิดพระชินเจ้าพระองค์นี้ จักมีพระนามว่ามายา พระบิดาจักมีพระนามว่าสุทโธทนะ พระชินเจ้าพระองค์นี้จักมีพระนามว่าโคดม พระโกลิตเถระและพระอุปติสสเถระ ผู้ไม่มีอาสวะ สิ้นราคะ มีจิตสงบ ตั้งมั่นดี จักเป็นพระอัครสาวก พระเถระนามว่าอานนท์ จักเป็นพระอุปัฏฐาก บำรุงพระชินเจ้าพระองค์นี้ พระเขมาเถรีและพระอุบลวรรณาเถรี ผู้ไม่มีอาสวะ สิ้นราคะ มีจิตสงบ ตั้งมั่นดี จักเป็นพระอัครสาวิกา ต้นไม้เป็นที่ตรัสรู้ของพระผู้มีพระภาคพระองค์นั้น ชาวโลกเรียกว่า ต้นอัสสัตถพฤกษ์ จิตตคหบดีอุบาสกและหัตถกคหบดีอุบาสก ชาวเมืองอาฬวีจักเป็นอัครอุปัฏฐาก นันทมารดาอุบาสิกาและขุชชุตตราอุบาสิกา จักเป็นอัครอุปัฏฐายิกา พระโคดมผู้มียศพระองค์นั้นจักมีพระชนมายุประมาณ ๑๐๐ ปี เทวดาและมนุษย์ได้ฟังพระดำรัสนี้ ของพระพุทธเจ้าผู้ไม่มีใครเสมอเหมือน {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๓ หน้า : ๖๖๗}

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย พุทธวงศ์ ๑๕. ธัมมทัสสีพุทธวงศ์

ผู้แสวงหาคุณอันยิ่งใหญ่แล้ว ต่างก็มีความชื่นชมกล่าวว่า ‘ท่านผู้นี้เป็นหน่อพุทธางกูร’ สัตว์ทั้งหลายในหมื่นจักรวาลพร้อมทั้งเทวดา ต่างก็เปล่งเสียงโห่ร้องปรบมือ ร่าเริง ประนมมือนมัสการว่า ‘ถ้าเราทั้งหลายจักพลาดศาสนาของพระโลกนาถพระองค์นี้ เราทั้งหลายก็จักพร้อมหน้าหน่อพุทธางกูรนี้ในอนาคตกาล มนุษย์ทั้งหลายเมื่อจะข้ามแม่น้ำ พลาดท่าเฉพาะหน้าแล้ว ก็ยึดเอาท่าถัดไปจึงข้ามแม่น้ำใหญ่ไป ฉันใด เราทั้งหมดก็ฉันนั้นเหมือนกัน ถ้าพลาดพระชินเจ้าพระองค์นี้ ก็จักพร้อมหน้าหน่อพุทธางกูรนี้ในอนาคตกาล’ [๑๒] เราได้ฟังพระดำรัสของพระพุทธเจ้าแม้พระองค์นั้นแล้ว ก็ทำจิตให้เลื่อมใสอย่างยิ่ง ได้อธิษฐานวัตรเพื่อบำเพ็ญบารมี ๑๐ ประการให้ยิ่งขึ้นไป [๑๓] กรุงชื่อว่าสรณะ กษัตริย์พระนามว่าสรณะเป็นพระชนก พระเทวีพระนามว่าสุนันทาเป็นพระชนนี ของพระศาสดาพระนามว่าธัมมทัสสี [๑๔] พระองค์ทรงครองฆราวาสอยู่ ๘,๐๐๐ ปี มีปราสาทที่อุดมอยู่ ๓ หลัง คืออรชปราสาท วิรชปราสาท และสุทัศนปราสาท [๑๕] มีนางสนมกำนัล ๔๐,๐๐๐ นาง ล้วนประดับประดาสวยงาม พระมเหสีนามว่าวิจิโกสี พระราชโอรสพระนามว่าปุญญวัฑฒนะ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๓ หน้า : ๖๖๘}

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย พุทธวงศ์ ๑๕. ธัมมทัสสีพุทธวงศ์

[๑๖] พระองค์ผู้สูงสุดแห่งบุรุษทรงเห็นนิมิต ๔ ประการ จึงเสด็จออกจากปราสาทไปผนวช ทรงบำเพ็ญเพียรอยู่ ๗ วัน(จึงได้บรรลุพระโพธิญาณ) [๑๗] พระมหาวีระพระนามว่าธัมมทัสสี ผู้องอาจกว่านรชน เป็นผู้สูงสุดแห่งนรชน ผู้อันพรหมทูลอาราธนาแล้ว ทรงประกาศพระธรรมจักรที่มฤคทายวัน [๑๘] พระปทุมเถระและพระปุสสเทวเถระเป็นพระอัครสาวก พระเถระนามว่าสุทัตตะเป็นพระอุปัฏฐาก ของพระศาสดานามว่าธัมมทัสสี [๑๙] พระเขมาเถรีและพระสัจจนามาเถรีเป็นพระอัครสาวิกา ต้นไม้เป็นที่ตรัสรู้ของพระผู้มีพระภาคพระองค์นั้น ชาวโลกเรียกว่า ต้นมะกล่ำหลวง [๒๐] สุภัททอุบาสกและกฏิสสหอุบาสกเป็นอัครอุปัฏฐาก สาฬิสาอุบาสิกาและกฬิสสาอุบาสิกาเป็นอัครอุปัฏฐายิกา [๒๑] แม้พระพุทธเจ้าพระองค์นั้นผู้ไม่มีใครเสมอเหมือน ทรงมีพระวรกายสูง ๘๐ ศอก ทรงรุ่งเรืองยิ่งด้วยพระเดชในโลกธาตุมีหมื่นจักรวาล [๒๒] พระองค์ทรงงามสง่าดังต้นพญาไม้สาละที่มีดอกบานสะพรั่ง เหมือนสายฟ้าในท้องฟ้า และเหมือนดวงอาทิตย์ในยามเที่ยงวัน [๒๓] แม้พระพุทธเจ้าผู้มีพระจักษุ มีพระเดชไม่มีอะไรเปรียบเทียบ ทรงดำรงชีวิตอยู่ในโลก ๑๐๐,๐๐๐ ปีถ้วน [๒๔] พระองค์พร้อมทั้งสาวก ทรงแสดงพระรัศมีอันสว่างไสว ทำศาสนาให้ปราศจากมลทิน เสด็จดับขันธปรินิพพาน ดังดวงจันทร์บนท้องฟ้าเคลื่อนลับไป {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๓ หน้า : ๖๖๙}

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย พุทธวงศ์ ๑๖. สิทธัตถพุทธวงศ์

[๒๕] พระมหาวีระพระนามว่าธัมมทัสสี เสด็จดับขันธปรินิพพานที่เกสาราม พระสถูปอันประเสริฐของพระองค์นั้น สูงถึง ๓ โยชน์ ฉะนี้แล
ธัมมทัสสีพุทธวงศ์ที่ ๑๕ จบ


                  เนื้อความพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาฯ เล่มที่ ๓๓ หน้าที่ ๖๖๕-๖๗๐. http://84000.org/tipitaka/english/m_siri.php?B=33&siri=207              ฟังเนื้อความพระไตรปิฎก : [1], [2].                   อ่านเทียบพระไตรปิฎกฉบับหลวง :- http://84000.org/tipitaka/english/v.php?B=33&A=7999&Z=8044                   ศึกษาอรรถกถานี้ได้ที่ :- http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=33&i=196              พระไตรปิฏกฉบับภาษาบาลีอักษรไทย :- http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/pali_item_s.php?book=33&item=196&items=1              อ่านอรรถกถาภาษาบาลีอักษรไทย :- http://84000.org/tipitaka/atthapali/read_th.php?B=51&A=7046              The Pali Tipitaka in Roman :- http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/roman_item_s.php?book=33&item=196&items=1              The Pali Atthakatha in Roman :- http://84000.org/tipitaka/atthapali/read_rm.php?B=51&A=7046                   สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๓๓ http://84000.org/tipitaka/read/?index_mcu33



บันทึก ๓๑ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๙ บันทึกล่าสุด ๒๒ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๐ การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจากพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]

สีพื้นหลัง :