ขอนอบน้อมแด่
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
                      พระองค์นั้น
บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ
     ฉบับหลวง   ฉบับมหาจุฬาฯ   บาลีอักษรไทย   PaliRoman 
พระไตรปิฎกเล่มที่ ๓๓ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๕ [ฉบับมหาจุฬาฯ] ขุททกนิกาย อปทาน ภาค ๒ -พุทธวังสะ-จริยาปิฎก
๒๕. โคตมพุทธวงศ์
ว่าด้วยพระประวัติของพระโคดมพุทธเจ้า
[๑] ในกาลบัดนี้ ตถาคตเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้านามว่าโคดม เจริญในศากยสกุล บำเพ็ญความเพียรแล้ว ได้บรรลุสัมโพธิญาณอันประเสริฐ [๒] ผู้อันพรหมทูลอาราธนาแล้ว ประกาศพระธรรมจักร เทวดาและมนุษย์ประมาณ ๑๘ โกฏิ ได้บรรลุธรรมครั้งที่ ๑ [๓] จากนั้น เราเมื่อแสดงธรรมในสมาคมเทวดาและมนุษย์ การบรรลุธรรมครั้งที่ ๒ ไม่ต้องกล่าวถึงจำนวน [๔] ต่อมา ในคราวที่เรากล่าวสอนบุตรของเรา บัดนี้ ณ ที่นี้แล การบรรลุธรรมครั้งที่ ๓ ไม่ต้องกล่าวถึงจำนวน [๕] เรามีการประชุมสาวก ผู้แสวงหาคุณอันยิ่งใหญ่ครั้งเดียว ภิกษุประมาณ ๑,๒๕๐ รูป ได้มาประชุมกัน {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๓ หน้า : ๗๑๘}

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย พุทธวงศ์ ๒๕. โคตมพุทธวงศ์

[๖] เราผู้ปราศจากมลทิน รุ่งเรืองอยู่ในท่ามกลางภิกษุสงฆ์ ให้สิ่งที่ปรารถนาทุกอย่างเหมือนแก้วสารพัดนึก ให้สิ่งที่ต้องการทั้งปวง ฉะนั้น [๗] เราประกาศอริยสัจ ๔ เพื่ออนุเคราะห์สัตว์ทั้งหลาย ผู้หวังผล ผู้แสวงธรรมเป็นเครื่องละความพอใจในภพ [๘] เทวดาและมนุษย์ประมาณ ๒๐๐,๐๐๐ องค์ ได้บรรลุธรรม การบรรลุธรรมครั้งละองค์สององค์ นับจำนวนไม่ได้เลย [๙] คำสั่งสอนของเราผู้เป็นศากยมุนี กว้างขวางรู้กันโดยมาก เจริญแพร่หลาย งอกงามดี บริสุทธิ์ผ่องแผ้ว ในโลกนี้ [๑๐] ภิกษุหลายร้อยรูปเป็นผู้ไม่มีอาสวะสิ้นราคะ มีจิตสงบ ตั้งมั่น แวดล้อมเราทุกเมื่อ [๑๑] ในกาลนี้ บัดนี้ ภิกษุเหล่าใด เป็นพระเสขะ ยังไม่บรรลุอรหัตตผล๑- ละภพมนุษย์ไป ภิกษุเหล่านั้น ถูกวิญญูชนตำหนิ [๑๒] นรชนทั้งหลายชมเชยทางพระอริยะ ยินดีในธรรมทุกเมื่อ มีความรุ่งเรือง ถึงจะท่องเที่ยวอยู่ในสงสารก็จักบรรลุได้ [๑๓] กรุงของเราชื่อกบิลพัสดุ์ พระเจ้าสุทโธทนะเป็นพระบิดาของเรา พระมารดาบังเกิดเกล้าของเราชาวโลกเรียกพระนามว่ามายาเทวี [๑๔] เราครองฆราวาสอยู่ ๒๙ ปี มีปราสาทที่อุดมอยู่ ๓ หลัง คือสุจันทปราสาท โกกนุทปราสาท และโกญจปราสาท [๑๕] มีนางสนมกำนัล ๔๐,๐๐๐ นาง ล้วนประดับประดาสวยงาม พระมเหสีของเราชื่อว่ายโสธรา พระโอรสของเราชื่อว่าราหุล @เชิงอรรถ : @ ยังไม่บรรลุอรหัตตผล แปลมาจากศัพท์ว่า อปฺปตฺตมานสา (ดู มงฺคลตฺถ. ๒/๕๖๒/๔๓๓) {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๓ หน้า : ๗๑๙}

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย พุทธวงศ์ ๒๕. โคตมพุทธวงศ์

[๑๖] เราเห็นนิมิต ๔ ประการ จึงทรงราชพาหนะคือม้าออกผนวชแล้ว ได้บำเพ็ญเพียรประพฤติทุกรกิริยาอยู่ ๖ ปี (จึงได้บรรลุพระโพธิญาณ) [๑๗] เราเป็นพระชินสีห์ประกาศพระธรรมจักร ที่ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน เขตกรุงพาราณสี เราเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าชื่อว่าโคดม เป็นที่พึ่งของสรรพสัตว์ [๑๘] ภิกษุ ๒ รูป ชื่ออุปติสสะและโกลิตะเป็นอัครสาวกของเรา ภิกษุชื่อว่าอานนท์เป็นอุปัฏฐากอยู่ในสำนักของเรา ภิกษุณีชื่อเขมาและภิกษุณีชื่ออุบลวรรณาเป็นอัครสาวิกา [๑๙] จิตตคหบดีอุบาสกและหัตถกคหบดีอุบาสก ชาวเมืองอาฬวีเป็นอัครอุปัฏฐาก นันทมารดาอุบาสิกาและอุตตราอุบาสิกาเป็นอัครอุปัฏฐายิกา [๒๐] เราบรรลุสัมโพธิญาณอย่างประเสริฐ ที่โคนต้นอัสสัตถพฤกษ์ เรามีรัศมีวาหนึ่ง ฟุ้งขึ้นไป ๑๖ ศอกทุกเมื่อ [๒๑] บัดนี้ อายุของเรามีน้อยประมาณ ๑๐๐ ปี ถึงเราจะดำรงอยู่เพียงนั้น ก็ช่วยหมู่ชนให้ข้ามพ้นได้เป็นจำนวนมาก [๒๒] เราตั้งคบเพลิงคือธรรมไว้สำหรับให้คนรุ่นหลังได้ตรัสรู้ อีกไม่นานเลยแม้เรากับสงฆ์สาวก ก็จักปรินิพพาน ณ ที่นี้ เหมือนไฟสิ้นเชื้อ(ดับไป) [๒๓] คู่อัครสาวกเป็นต้นเหล่านั้นมีเดชไม่มีอะไรเทียบเคียง มียศและกำลัง เรามีร่างกายทรงไว้ซึ่งคุณ มีร่างกายวิจิตรด้วยพระลักษณะอันประเสริฐ ๓๒ ประการ๑- @เชิงอรรถ : @ ดูเชิงอรรถหน้า ๑๐ ในเล่มนี้ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๓ หน้า : ๗๒๐}

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย พุทธวงศ์ ๒๖. พุทธปกิณณกกัณฑ์

[๒๔] เรามีรัศมี ๖ ประการ สว่างไสวไปทั่วทั้ง ๑๐ ทิศ ดุจดวงอาทิตย์ ทุกอย่างล้วนจักอันตรธานไปหมดสิ้น สังขารทั้งปวงเป็นสภาพว่างเปล่าหนอ ฉะนี้แล
โคตมพุทธวงศ์ที่ ๒๕ จบ


                  เนื้อความพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาฯ เล่มที่ ๓๓ หน้าที่ ๗๑๘-๗๒๑. http://84000.org/tipitaka/english/m_siri.php?B=33&siri=217              ฟังเนื้อความพระไตรปิฎก : [คลิกเพื่อฟัง]                   อ่านเทียบพระไตรปิฎกฉบับหลวง :- http://84000.org/tipitaka/english/v.php?B=33&A=8517&Z=8562                   ศึกษาอรรถกถานี้ได้ที่ :- http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=33&i=206              พระไตรปิฏกฉบับภาษาบาลีอักษรไทย :- http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/pali_item_s.php?book=33&item=206&items=1              อ่านอรรถกถาภาษาบาลีอักษรไทย :- http://84000.org/tipitaka/atthapali/read_th.php?B=51&A=8601              The Pali Tipitaka in Roman :- http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/roman_item_s.php?book=33&item=206&items=1              The Pali Atthakatha in Roman :- http://84000.org/tipitaka/atthapali/read_rm.php?B=51&A=8601                   สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๓๓ http://84000.org/tipitaka/read/?index_mcu33



บันทึก ๓๑ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๙ บันทึกล่าสุด ๒๒ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๐ การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจากพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]

สีพื้นหลัง :