ขอนอบน้อมแด่
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
                      พระองค์นั้น
บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ
     ฉบับหลวง   ฉบับมหาจุฬาฯ   บาลีอักษรไทย   PaliRoman 
พระไตรปิฎกเล่มที่ ๓๔ พระอภิธรรมปิฎกเล่มที่ ๑ [ฉบับมหาจุฬาฯ] ธรรมสังคณีปกรณ์

พระอภิธรรมปิฎก ธัมมสังคณี [๔. อัฏฐกถากัณฑ์]

ทุกอัตถุทธาระ เหตุโคจฉกะ

ทุกอัตถุทธาระ
๑. เหตุโคจฉกะ
๑. เหตุทุกะ
[๑๔๔๑] สภาวธรรมที่เป็นเหตุ เป็นไฉน กุศลเหตุ ๓ อกุศลเหตุ ๓ อัพยากตเหตุ ๓ อโลภกุศลเหตุ อโทสกุศลเหตุ เกิด ขึ้นในกุศลทั้ง ๔ ภูมิ อโมหกุศลเหตุเกิดขึ้นในกุศลทั้ง ๔ ภูมิ เว้นจิตตุปบาทที่เป็น ญาณวิปปยุตฝ่ายกามาวจรกุศล ๔ โลภะเกิดขึ้นในจิตตุปบาทที่สหรคตด้วยโลภะ ๘ โทสะเกิดขึ้นในจิตตุปบาทที่ สหรคตด้วยโทมนัส ๒ โมหะเกิดขึ้นในอกุศลทั้งหมด อโลภวิปากเหตุ อโทสวิปากเหตุเกิดขึ้นในวิบากทั้ง ๔ ภูมิ เว้นอเหตุกจิตตุป- บาทฝ่ายวิบากแห่งกามาวจร อโมหวิปากเหตุเกิดขึ้นในวิบากทั้ง ๔ ภูมิ เว้น อเหตุกจิตตุปบาทฝ่ายวิบากแห่งกามาวจรและจิตตุปบาทที่เป็นญาณวิปปยุต ๔ อโลภกิริยาเหตุ อโทสกิริยาเหตุเกิดขึ้นในกิริยาทั้ง ๓ ภูมิ เว้นอเหตุกจิตตุปบาท ฝ่ายกามาวจรกิริยา อโมหกิริยาเหตุเกิดขึ้นในกิริยาทั้ง ๓ ภูมิ เว้นอเหตุกจิตตุปบาท ฝ่ายกามาวจรกิริยาและเว้นจิตตุปบาทที่เป็นญาณวิปปยุต ๔ สภาวธรรมเหล่านี้ชื่อ ว่าเป็นเหตุ [๑๔๔๒] สภาวธรรมที่ไม่เป็นเหตุ เป็นไฉน เว้นเหตุทั้งหมดแล้ว กุศลในภูมิ ๔ อกุศล วิบากในภูมิ ๔ อัพยากตกิริยาใน ภูมิ ๓ รูป และนิพพาน สภาวธรรมเหล่านี้ชื่อว่าไม่เป็นเหตุ
๒. สเหตุทุกะ
[๑๔๔๓] สภาวธรรมที่มีเหตุ เป็นไฉน อกุศลที่เหลือ เว้นโมหะที่สหรคตด้วยวิจิกิจฉาและโมหะที่สหรคตด้วยอุทธัจจะ แล้ว กุศลในภูมิ ๔ วิบากในภูมิ ๔ เว้นอเหตุกจิตตุปบาทฝ่ายวิบากแห่งกามาวจร อัพยากตกิริยาในภูมิ ๓ เว้นอเหตุกจิตตุปบาทฝ่ายกามาวจรกิริยาแล้ว สภาวธรรม เหล่านี้ชื่อว่ามีเหตุ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๔ หน้า : ๓๕๕}

พระอภิธรรมปิฎก ธัมมสังคณี [๔. อัฏฐกถากัณฑ์]

ทุกอัตถุทธาระ เหตุโคจฉกะ

[๑๔๔๔] สภาวธรรมที่ไม่มีเหตุ เป็นไฉน โมหะที่สหรคตด้วยวิจิกิจฉา และโมหะที่สหรคตด้วยอุทธัจจะ ทวิปัญจ- วิญญาณ มโนธาตุ ๓ อเหตุกมโนวิญญาณธาตุ ๕ รูป และนิพพาน สภาวธรรม เหล่านี้ชื่อว่าไม่มีเหตุ
๓. เหตุสัมปยุตตทุกะ
[๑๔๔๕] สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยเหตุ เป็นไฉน อกุศลที่เหลือ เว้นโมหะที่สหรคตด้วยวิจิกิจฉาและโมหะที่สหรคตด้วยอุทธัจจะ กุศลในภูมิทั้ง ๔ วิบากในภูมิ ๔ เว้นอเหตุกจิตตุปบาทฝ่ายวิบากแห่งกามาวจร อัพยากตกิริยาในภูมิ ๓ เว้นอเหตุกจิตตุปบาทฝ่ายกามาวจรกิริยา สภาวธรรมเหล่า นี้ชื่อว่าสัมปยุตด้วยเหตุ [๑๔๔๖] สภาวธรรมที่วิปปยุตจากเหตุ เป็นไฉน โมหะที่สหรคตด้วยวิจิกิจฉาและโมหะที่สหรคตด้วยอุทธัจจะ ทวิปัญจวิญญาณ มโนธาตุ ๓ อเหตุกมโนวิญญาณธาตุ ๕ รูป และนิพพาน สภาวธรรมเหล่านี้ชื่อว่า วิปปยุตจากเหตุ
๔. เหตุสเหตุกทุกะ
[๑๔๔๗] สภาวธรรมที่เป็นเหตุและมีเหตุ เป็นไฉน เหตุ ๒ เหตุ ๓ เกิดขึ้นร่วมกันในสภาวธรรมใด สภาวธรรมเหล่านี้ชื่อว่าเป็น เหตุและมีเหตุ [๑๔๔๘] สภาวธรรมที่มีเหตุแต่ไม่เป็นเหตุ เป็นไฉน กุศลในภูมิ ๔ อกุศล วิบากในภูมิ ๔ เว้นอเหตุกจิตตุปบาทฝ่ายวิบากแห่ง กามาวจร อัพยากตกิริยาในภูมิ ๓ เว้นอเหตุกจิตตุปบาทฝ่ายกามาวจรกิริยา เว้น เหตุทั้งหมดที่เกิดในจิตตุปบาทนี้แล้ว สภาวธรรมเหล่านี้ชื่อว่ามีเหตุแต่ไม่เป็นเหตุ สภาวธรรมที่ไม่มีเหตุกล่าวไม่ได้ว่า เป็นเหตุ มีเหตุ หรือมีเหตุแต่ไม่เป็นเหตุ
๕. เหตุเหตุสัมปยุตตทุกะ
[๑๔๔๙] สภาวธรรมที่เป็นเหตุและสัมปยุตด้วยเหตุ เป็นไฉน {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๔ หน้า : ๓๕๖}

พระอภิธรรมปิฎก ธัมมสังคณี [๔. อัฏฐกถากัณฑ์]

ทุกอัตถุทธาระ จูฬันตรทุกะ

เหตุ ๒ เหตุ ๓ เกิดขึ้นร่วมกันในสภาวธรรมใด สภาวธรรมเหล่านี้ชื่อว่าเป็น เหตุและสัมปยุตด้วยเหตุ [๑๔๕๐] สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยเหตุแต่ไม่เป็นเหตุ เป็นไฉน กุศลในภูมิ ๔ อกุศล วิบากในภูมิ ๔ เว้นอเหตุกจิตตุปบาทฝ่ายวิบากแห่ง กามาวจร อัพยากตกิริยาในภูมิ ๓ เว้นอเหตุกจิตตุปบาทฝ่ายกามาวจรกิริยา และ เว้นเหตุทั้งหมดที่เกิดขึ้นในจิตตุปบาทนี้ สภาวธรรมเหล่านี้ชื่อว่าสัมปยุตด้วยเหตุแต่ ไม่เป็นเหตุ สภาวธรรมที่วิปปยุตจากเหตุกล่าวไม่ได้ว่า เป็นเหตุและสัมปยุตด้วยเหตุ หรือสัมปยุตด้วยเหตุแต่ไม่เป็นเหตุ
๖. นเหตุสเหตุกทุกะ
[๑๔๕๑] สภาวธรรมที่ไม่เป็นเหตุแต่มีเหตุ เป็นไฉน กุศลในภูมิ ๔ อกุศล วิบากในภูมิ ๔ เว้นอเหตุกจิตตุปบาทฝ่ายวิบากแห่ง กามาวจร อัพยากตกิริยาในภูมิ ๓ เว้นอเหตุกจิตตุปบาทฝ่ายกามาวจรกิริยา และเว้น เหตุทั้งหมดที่เกิดขึ้นในจิตตุปบาทนี้ สภาวธรรมเหล่านี้ชื่อว่าไม่เป็นเหตุแต่มีเหตุ [๑๔๕๒] สภาวธรรมที่ไม่เป็นเหตุและไม่มีเหตุ เป็นไฉน ทวิปัญจวิญญาณ มโนธาตุ ๓ อเหตุกมโนวิญญาณธาตุ ๕ รูป และนิพพาน สภาวธรรมเหล่านี้ชื่อว่าไม่เป็นเหตุและไม่มีเหตุ สภาวธรรมที่เป็นเหตุกล่าวไม่ได้ว่า ไม่เป็นเหตุแต่มีเหตุหรือไม่เป็นเหตุและไม่มีเหตุ
เหตุโคจฉกะ จบ


                  เนื้อความพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาฯ เล่มที่ ๓๔ หน้าที่ ๓๕๕-๓๕๗. http://84000.org/tipitaka/english/m_siri.php?B=34&siri=67              ฟังเนื้อความพระไตรปิฎก : [คลิกเพื่อฟัง]                   อ่านเทียบพระไตรปิฎกฉบับหลวง :- http://84000.org/tipitaka/english/v.php?B=34&A=7834&Z=7897                   ศึกษาอรรถกถานี้ได้ที่ :- http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=34&i=900              พระไตรปิฏกฉบับภาษาบาลีอักษรไทย :- http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/pali_item_s.php?book=34&item=900&items=6              อ่านอรรถกถาภาษาบาลีอักษรไทย :- http://84000.org/tipitaka/atthapali/read_th.php?B=53&A=11965              The Pali Tipitaka in Roman :- http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/roman_item_s.php?book=34&item=900&items=6              The Pali Atthakatha in Roman :- http://84000.org/tipitaka/atthapali/read_rm.php?B=53&A=11965                   สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๓๔ http://84000.org/tipitaka/read/?index_mcu34



บันทึก ๓๑ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๙ บันทึกล่าสุด ๒๒ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๐ การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจากพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]

สีพื้นหลัง :