ขอนอบน้อมแด่
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
                      พระองค์นั้น
บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ
     ฉบับหลวง   ฉบับมหาจุฬาฯ   บาลีอักษรไทย   PaliRoman 
พระไตรปิฎกเล่มที่ ๓๕ พระอภิธรรมปิฎกเล่มที่ ๒ [ฉบับมหาจุฬาฯ] วิภังคปกรณ์

พระอภิธรรมปิฎก วิภังค์ [๑๘. ธัมมหทยวิภังค์]

๒. อุปปัตตานุปปัตติวาร ๑. กามธาตุ

๒. อุปปัตตานุปปัตติวาร
(วาระว่าด้วยการแสดงสภาวธรรมที่เกิดได้และไม่ได้)
๑. กามธาตุ
(ธาตุในกามภูมิ)
[๙๙๑] ในกามธาตุ ขันธ์มีเท่าไร อายตนะมีเท่าไร ธาตุมีเท่าไร สัจจะ มีเท่าไร อินทรีย์มีเท่าไร เหตุมีเท่าไร อาหารมีเท่าไร ผัสสะมีเท่าไร เวทนา มีเท่าไร สัญญามีเท่าไร เจตนามีเท่าไร จิตมีเท่าไร ในกามธาตุ ขันธ์มี ๕ อายตนะมี ๑๒ ธาตุมี ๑๘ สัจจะมี ๓ อินทรีย์มี ๒๒ เหตุมี ๙ อาหารมี ๔ ผัสสะมี ๗ เวทนามี ๗ สัญญามี ๗ เจตนามี ๗ จิตมี ๗ [๙๙๒] บรรดาสภาวธรรมเหล่านั้น ขันธ์ ๕ ในกามธาตุ เป็นไฉน ขันธ์ ๕ ในกามธาตุ คือ ๑. รูปขันธ์ ๒. เวทนาขันธ์ ๓. สัญญาขันธ์ ๔. สังขารขันธ์ ๕. วิญญาณขันธ์ เหล่านี้เรียกว่า ขันธ์ ๕ ในกามธาตุ (๑) อายตนะ ๑๒ ในกามธาตุ เป็นไฉน อายตนะ ๑๒ ในกามธาตุ คือ ๑. จักขายตนะ ๒. รูปายตนะ ฯลฯ ๑๑. มนายตนะ ๑๒. ธัมมายตนะ เหล่านี้เรียกว่า อายตนะ ๑๒ ในกามธาตุ (๒) ธาตุ ๑๘ ในกามธาตุ เป็นไฉน ธาตุ ๑๘ ในกามธาตุ คือ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๕ หน้า : ๖๓๙}

พระอภิธรรมปิฎก วิภังค์ [๑๘. ธัมมหทยวิภังค์]

๒. อุปปัตตานุปปัตติวาร ๑. กามธาตุ

๑. จักขุธาตุ ๒. รูปธาตุ ๓. จักขุวิญญาณธาตุ ฯลฯ ๑๖. มโนธาตุ ๑๗. ธัมมธาตุ ๑๘. มโนวิญญาณธาตุ เหล่านี้เรียกว่า ธาตุ ๑๘ ในกามธาตุ (๓) สัจจะ ๓ ในกามธาตุ เป็นไฉน สัจจะ ๓ ในกามธาตุ คือ ๑. ทุกขสัจ ๒. สมุทยสัจ ๓. มัคคสัจ เหล่านี้เรียกว่า สัจจะ ๓ ในกามธาตุ (๔) อินทรีย์ ๒๒ ในกามธาตุ เป็นไฉน อินทรีย์ ๒๒ ในกามธาตุ คือ ๑. จักขุนทรีย์ ๒. โสตินทรีย์ ฯลฯ ๒๒. อัญญาตาวินทรีย์ เหล่านี้เรียกว่า อินทรีย์ ๒๒ ในกามธาตุ (๕) เหตุ ๙ ในกามธาตุ เป็นไฉน เหตุ ๙ ในกามธาตุ คือ กุศลเหตุ ๓ อกุศลเหตุ ๓ และอัพยากตเหตุ ๓ ฯลฯ เหล่านี้เรียกว่า เหตุ ๙ ในกามธาตุ (๖) อาหาร ๔ ในกามธาตุ เป็นไฉน อาหาร ๔ ในกามธาตุ คือ ๑. กวฬิงการาหาร (อาหารคือคำข้าว) ๒. ผัสสาหาร (อาหารคือผัสสะ) ๓. มโนสัญเจตนาหาร (อาหารคือมโนสัญเจตนา) ๔. วิญญาณาหาร (อาหารคือวิญญาณ) เหล่านี้เรียกว่า อาหาร ๔ ในกามธาตุ (๗) {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๕ หน้า : ๖๔๐}

พระอภิธรรมปิฎก วิภังค์ [๑๘. ธัมมหทยวิภังค์]

๒. อุปปัตตานุปปัตติวาร ๑. กามธาตุ

ผัสสะ ๗ ในกามธาตุ เป็นไฉน ผัสสะ ๗ ในกามธาตุ คือ ๑. จักขุสัมผัส ฯลฯ ๗. มโนวิญญาณธาตุสัมผัส เหล่านี้เรียกว่า ผัสสะ ๗ ในกามธาตุ (๘) เวทนา ๗ ในกามธาตุ เป็นไฉน เวทนา ๗ ในกามธาตุ คือ ๑. เวทนาที่เกิดแต่จักขุสัมผัส ฯลฯ ๗. เวทนาที่เกิดแต่มโนวิญญาณธาตุสัมผัส เหล่านี้เรียกว่า เวทนา ๗ ในกามธาตุ (๙) สัญญา ๗ ในกามธาตุ เป็นไฉน สัญญา ๗ ในกามธาตุ คือ ๑. สัญญาที่เกิดแต่จักขุสัมผัส ฯลฯ ๗. สัญญาที่เกิดแต่มโนวิญญาณธาตุสัมผัส เหล่านี้เรียกว่า สัญญา ๗ ในกามธาตุ (๑๐) เจตนา ๗ ในกามธาตุ เป็นไฉน เจตนา ๗ ในกามธาตุ คือ ๑. เจตนาที่เกิดแต่จักขุสัมผัส ฯลฯ ๗. เจตนาที่เกิดแต่มโนวิญญาณธาตุสัมผัส เหล่านี้เรียกว่า เจตนา ๗ ในกามธาตุ (๑๑) {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๕ หน้า : ๖๔๑}

พระอภิธรรมปิฎก วิภังค์ [๑๘. ธัมมหทยวิภังค์]

๒. อุปปัตตานุปปัตติวาร ๒. รูปธาตุ

จิต ๗ ในกามธาตุ เป็นไฉน จิต ๗ ในกามธาตุ คือ ๑. จักขุวิญญาณ ๒. โสตวิญญาณ ๓. ฆานวิญญาณ ๔. ชิวหาวิญญาณ ๕. กายวิญญาณ ๖. มโนธาตุ ๗. มโนวิญญาณธาตุ เหล่านี้เรียกว่า จิต ๗ ในกามธาตุ (๑๒)
๒. รูปธาตุ
(ธาตุในรูปภูมิ)
[๙๙๓] ในรูปธาตุ ขันธ์มีเท่าไร ฯลฯ จิตมีเท่าไร ในรูปธาตุ ขันธ์มี ๕ อายตนะมี ๖ ธาตุมี ๙ สัจจะมี ๓ อินทรีย์มี ๑๔ เหตุ มี ๘ อาหารมี ๓ ผัสสะมี ๔ เวทนามี ๔ สัญญามี ๔ เจตนามี ๔ จิตมี ๔ [๙๙๔] บรรดาสภาวธรรมเหล่านั้น ขันธ์ ๕ ในรูปธาตุ เป็นไฉน ขันธ์ ๕ ในรูปธาตุ คือ ๑. รูปขันธ์ ฯลฯ ๕. วิญญาณขันธ์ เหล่านี้เรียกว่า ขันธ์ ๕ ในรูปธาตุ (๑) อายตนะ ๖ ในรูปธาตุ เป็นไฉน อายตนะ ๖ ในรูปธาตุ คือ ๑. จักขายตนะ ๒. รูปายตนะ ๓. โสตายตนะ ๔. สัททายตนะ ๕. มนายตนะ ๖. ธัมมายตนะ เหล่านี้เรียกว่า อายตนะ ๖ ในรูปธาตุ (๒) {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๕ หน้า : ๖๔๒}

พระอภิธรรมปิฎก วิภังค์ [๑๘. ธัมมหทยวิภังค์]

๒. อุปปัตตานุปปัตติวาร ๒. รูปธาตุ

ธาตุ ๙ ในรูปธาตุ เป็นไฉน ธาตุ ๙ ในรูปธาตุ คือ ๑. จักขุธาตุ ๒. รูปธาตุ ๓. จักขุวิญญาณธาตุ ๔. โสตธาตุ ๕. สัททธาตุ ๖. โสตวิญญาณธาตุ ๗. มโนธาตุ ๘. ธัมมธาตุ ๙. มโนวิญญาณธาตุ เหล่านี้เรียกว่า ธาตุ ๙ ในรูปธาตุ (๓) สัจจะ ๓ ในรูปธาตุ เป็นไฉน สัจจะ ๓ ในรูปธาตุ คือ ๑. ทุกขสัจ ๒. สมุทยสัจ ๓. มัคคสัจ เหล่านี้เรียกว่า สัจจะ ๓ ในรูปธาตุ (๔) อินทรีย์ ๑๔ ในรูปธาตุ เป็นไฉน อินทรีย์ ๑๔ ในรูปธาตุ คือ ๑. จักขุนทรีย์ ๒. โสตินทรีย์ ๓. มนินทรีย์ ๔. ชีวิตินทรีย์ ๕. โสมนัสสินทรีย์ ๖. อุเปกขินทรีย์ ๗. สัทธินทรีย์ ๘. วิริยินทรีย์ ๙. สตินทรีย์ ๑๐. สมาธินทรีย์ ๑๑. ปัญญินทรีย์ ๑๒. อนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ ๑๓. อัญญินทรีย์ ๑๔. อัญญาตาวินทรีย์ เหล่านี้เรียกว่า อินทรีย์ ๑๔ ในรูปธาตุ (๕) เหตุ ๘ ในรูปธาตุ เป็นไฉน เหตุ ๘ ในรูปธาตุ คือ กุศลเหตุ ๓ อกุศลเหตุ ๒ และอัพยากตเหตุ ๓ บรรดาเหตุ ๘ นั้น กุศลเหตุ ๓ ในรูปธาตุ เป็นไฉน กุศลเหตุ ๓ ในรูปธาตุ คือ กุศลเหตุคืออโลภะ กุศลเหตุคืออโทสะ และ กุศลเหตุคืออโมหะ เหล่านี้ชื่อว่ากุศลเหตุ ๓ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๕ หน้า : ๖๔๓}

พระอภิธรรมปิฎก วิภังค์ [๑๘. ธัมมหทยวิภังค์]

๒. อุปปัตตานุปปัตติวาร ๒. รูปธาตุ

อกุศลเหตุ ๒ เป็นไฉน อกุศลเหตุ ๒ คือ อกุศลเหตุคือโลภะ และอกุศลเหตุคือโมหะ เหล่านี้ชื่อว่าอกุศลเหตุ ๒ อัพยากตเหตุ ๓ เป็นไฉน อัพยากตเหตุ ๓ คือ อโลภะ อโทสะ และอโมหะ ฝ่ายวิปากแห่งสภาวธรรม ที่เป็นกุศล หรือในสภาวธรรมที่เป็นอัพยากตกิริยา เหล่านี้ชื่อว่าอัพยากตเหตุ ๓ เหล่านี้เรียกว่า เหตุ ๘ ในรูปธาตุ (๖) อาหาร ๓ ในรูปธาตุ เป็นไฉน อาหาร ๓ ในรูปธาตุ คือ ๑. ผัสสาหาร ๒. มโนสัญเจตนาหาร ๓. วิญญาณาหาร เหล่านี้เรียกว่า อาหาร ๓ ในรูปธาตุ (๗) ผัสสะ ๔ ในรูปธาตุ เป็นไฉน ผัสสะ ๔ ในรูปธาตุ คือ ๑. จักขุสัมผัส ๒. โสตสัมผัส ๓. มโนธาตุสัมผัส ๔. มโนวิญญาณธาตุสัมผัส เหล่านี้เรียกว่า ผัสสะ ๔ ในรูปธาตุ (๘) เวทนา ๔ ฯลฯ สัญญา ๔ ฯลฯ เจตนา ๔ ฯลฯ จิต ๔ ในรูปธาตุ เป็นไฉน จิต ๔ ในรูปธาตุ คือ ๑. จักขุวิญญาณ ๒. โสตวิญญาณ ๓. มโนธาตุ ๔. มโนวิญญาณธาตุ เหล่านี้เรียกว่า จิต ๔ ในรูปธาตุ (๙-๑๒) {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๕ หน้า : ๖๔๔}

พระอภิธรรมปิฎก วิภังค์ [๑๘. ธัมมหทยวิภังค์]

๒. อุปปัตตานุปปัตติวาร ๓. อรูปธาตุ

๓. อรูปธาตุ
(ธาตุในอรูปภูมิ)
[๙๙๕] ในอรูปธาตุ ขันธ์มีเท่าไร ฯลฯ จิตมีเท่าไร ในอรูปธาตุ ขันธ์มี ๔ อายตนะมี ๒ ธาตุมี ๒ สัจจะมี ๓ อินทรีย์มี ๑๑ เหตุมี ๘ อาหารมี ๓ ผัสสะมี ๑ เวทนามี ๑ สัญญามี ๑ เจตนามี ๑ จิตมี ๑ [๙๙๖] บรรดาสภาวธรรมเหล่านั้น ขันธ์ ๔ ในอรูปธาตุ เป็นไฉน ขันธ์ ๔ ในอรูปธาตุ คือ ๑. เวทนาขันธ์ ๒. สัญญาขันธ์ ๓. สังขารขันธ์ ๔. วิญญาณขันธ์ เหล่านี้เรียกว่า ขันธ์ ๔ ในอรูปธาตุ (๑) อายตนะ ๒ ในอรูปธาตุ เป็นไฉน อายตนะ ๒ ในอรูปธาตุ คือ มนายตนะ และธัมมายตนะ เหล่านี้เรียกว่า อายตนะ ๒ ในอรูปธาตุ (๒) ธาตุ ๒ ในอรูปธาตุ เป็นไฉน ธาตุ ๒ ในอรูปธาตุ คือ มโนวิญญาณธาตุ และธัมมธาตุ เหล่านี้เรียกว่า ธาตุ ๒ ในอรูปธาตุ (๓) สัจจะ ๓ ในอรูปธาตุ เป็นไฉน สัจจะ ๓ ในอรูปธาตุ คือ ๑. ทุกขสัจ ๒. สมุทยสัจ ๓. มัคคสัจ เหล่านี้เรียกว่า สัจจะ ๓ ในอรูปธาตุ (๔) อินทรีย์ ๑๑ ในอรูปธาตุ เป็นไฉน {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๕ หน้า : ๖๔๕}

พระอภิธรรมปิฎก วิภังค์ [๑๘. ธัมมหทยวิภังค์]

๒. อุปปัตตานุปปัตติวาร ๓. อรูปธาตุ

อินทรีย์ ๑๑ ในอรูปธาตุ คือ ๑. มนินทรีย์ ๒. ชีวิตินทรีย์ ๓. โสมนัสสินทรีย์ ๔. อุเปกขินทรีย์ ๕. สัทธินทรีย์ ๖. วิริยินทรีย์ ๗. สตินทรีย์ ๘. สมาธินทรีย์ ๙. ปัญญินทรีย์ ๑๐. อัญญินทรีย์ ๑๑. อัญญาตาวินทรีย์ เหล่านี้เรียกว่า อินทรีย์ ๑๑ ในอรูปธาตุ (๕) เหตุ ๘ ในอรูปธาตุ เป็นไฉน เหตุ ๘ ในอรูปธาตุ คือ กุศลเหตุ ๓ อกุศลเหตุ ๒ อัพยากตเหตุ ๓ ฯลฯ เหล่านี้เรียกว่า เหตุ ๘ ในอรูปธาตุ (๖) อาหาร ๓ ในอรูปธาตุ เป็นไฉน อาหาร ๓ ในอรูปธาตุ คือ ๑. ผัสสาหาร ๒. มโนสัญเจตนาหาร ๓. วิญญาณาหาร เหล่านี้เรียกว่า อาหาร ๓ ในอรูปธาตุ (๗) ผัสสะ ๑ ในอรูปธาตุ เป็นไฉน ผัสสะ ๑ ในอรูปธาตุ คือ มโนวิญญาณธาตุสัมผัส นี้เรียกว่า ผัสสะ ๑ ในอรูปธาตุ (๘) เวทนา ๑ ฯลฯ สัญญา ๑ ฯลฯ เจตนา ๑ ฯลฯ จิต ๑ ในอรูปธาตุ เป็นไฉน จิต ๑ ในอรูปธาตุ คือ มโนวิญญาณธาตุ นี้เรียกว่า จิต ๑ ในอรูปธาตุ (๙-๑๒) {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๕ หน้า : ๖๔๖}

พระอภิธรรมปิฎก วิภังค์ [๑๘. ธัมมหทยวิภังค์]

๒. อุปปัตตานุปปัตติวาร ๔. อปริยาปันนะ

๔. อปริยาปันนะ
(ธรรมที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์)
[๙๙๗] ในธรรมที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ ขันธ์มีเท่าไร ฯลฯ จิตมีเท่าไร ในธรรมที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ ขันธ์มี ๔ อายตนะมี ๒ ธาตุมี ๒ สัจจะมี ๒ อินทรีย์มี ๑๒ เหตุมี ๖ อาหารมี ๓ ผัสสะมี ๑ เวทนามี ๑ สัญญามี ๑ เจตนามี ๑ จิตมี ๑ [๙๙๘] บรรดาสภาวธรรมเหล่านั้น ขันธ์ ๔ ในธรรมที่ไม่นับเนื่องใน วัฏฏทุกข์ เป็นไฉน ขันธ์ ๔ ในธรรมที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ คือ ๑. เวทนาขันธ์ ๒. สัญญาขันธ์ ๓. สังขารขันธ์ ๔. วิญญาณขันธ์ เหล่านี้เรียกว่า ขันธ์ ๔ ในธรรมที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ (๑) อายตนะ ๒ ในธรรมที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ เป็นไฉน อายตนะ ๒ ในธรรมที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ คือ มนายตนะ และธัมมายตนะ เหล่านี้เรียกว่า อายตนะ ๒ ในธรรมที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ (๒) ธาตุ ๒ ในธรรมที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ เป็นไฉน ธาตุ ๒ ในธรรมที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ คือ มโนวิญญาณธาตุ และธัมมธาตุ เหล่านี้เรียกว่า ธาตุ ๒ ในธรรมที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ (๓) สัจจะ ๒ ในธรรมที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ เป็นไฉน สัจจะ ๒ ในธรรมที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ คือ มัคคสัจ และนิโรธสัจ เหล่านี้เรียกว่า สัจจะ ๒ ในธรรมที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ (๔) อินทรีย์ ๑๒ ในธรรมที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ เป็นไฉน อินทรีย์ ๑๒ ในธรรมที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ คือ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๕ หน้า : ๖๔๗}

พระอภิธรรมปิฎก วิภังค์ [๑๘. ธัมมหทยวิภังค์]

๒. อุปปัตตานุปปัตติวาร ๔. อปริยาปันนะ

๑. มนินทรีย์ ๒. ชิวหินทรีย์ ๓. โสมนัสสินทรีย์ ๔. อุเปกขินทรีย์ ๕. สัทธินทรีย์ ๖. วิริยินทรีย์ ๗. สตินทรีย์ ๘. สมาธินทรีย์ ๙. ปัญญินทรีย์ ๑๐. อนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ ๑๑. อัญญินทรีย์ ๑๒. อัญญาตาวินทรีย์ เหล่านี้เรียกว่า อินทรีย์ ๑๒ ในธรรมที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ (๕) เหตุ ๖ ในธรรมที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ เป็นไฉน เหตุ ๖ ในธรรมที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ คือ กุศลเหตุ ๓ และอัพยากตเหตุ ๓ บรรดาเหตุ ๖ เหล่านั้น กุศลเหตุ ๓ เป็นไฉน กุศลเหตุ ๓ คือ ๑. กุศลเหตุคืออโลภะ ๒. กุศลเหตุคืออโทสะ ๓. กุศลเหตุคืออโมหะ เหล่านี้ชื่อว่ากุศลเหตุ ๓ อัพยากตเหตุ ๓ เป็นไฉน อัพยากตเหตุ ๓ คือ อโลภะ อโทสะ และอโมหะ ฝ่ายวิบากแห่งสภาวธรรม ที่เป็นกุศล เหล่านี้ชื่อว่าอัพยากตเหตุ ๓ เหล่านี้เรียกว่า เหตุ ๖ ในธรรมที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ (๖) อาหาร ๓ ในธรรมที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ เป็นไฉน อาหาร ๓ ในธรรมที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ คือ ๑. ผัสสาหาร ๒. มโนสัญเจตนาหาร ๓. วิญญาณาหาร เหล่านี้เรียกว่า อาหาร ๓ ในธรรมที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ (๗) {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๕ หน้า : ๖๔๘}

พระอภิธรรมปิฎก วิภังค์ [๑๘. ธัมมหทยวิภังค์]

๓. ปริยาปันนาปริยาปันนวาร ๑. กามธาตุ

ผัสสะ ๑ ในธรรมที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ เป็นไฉน ผัสสะ ๑ ในธรรมที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ คือ มโนวิญญาณธาตุสัมผัส นี้เรียกว่า ผัสสะ ๑ ในธรรมที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ (๘) เวทนา ๑ ฯลฯ สัญญา ๑ ฯลฯ เจตนา ๑ ฯลฯ จิต ๑ ในธรรมที่ไม่ นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ เป็นไฉน จิต ๑ ในธรรมที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ คือ มโนวิญญาณธาตุ นี้เรียกว่า จิต ๑ ในธรรมที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ (๙-๑๒)


                  เนื้อความพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาฯ เล่มที่ ๓๕ หน้าที่ ๖๓๙-๖๔๙. http://84000.org/tipitaka/english/m_siri.php?B=35&siri=79              ฟังเนื้อความพระไตรปิฎก : [1], [2], [3].                   อ่านเทียบพระไตรปิฎกฉบับหลวง :- http://84000.org/tipitaka/english/v.php?B=35&A=13973&Z=14102                   ศึกษาอรรถกถานี้ได้ที่ :- http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=35&i=1087              พระไตรปิฏกฉบับภาษาบาลีอักษรไทย :- http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/pali_item_s.php?book=35&item=1087&items=4              The Pali Tipitaka in Roman :- http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/roman_item_s.php?book=35&item=1087&items=4                   สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๓๕ http://84000.org/tipitaka/read/?index_mcu35              อ่านเทียบฉบับแปลอังกฤษ Compare with English Translation :- https://suttacentral.net/vb18/en/thittila#pts-p-pi404



บันทึก ๓๑ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๙ บันทึกล่าสุด ๒๒ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๐ การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจากพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]

สีพื้นหลัง :