บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ | |
|
|
ฉบับหลวง ฉบับมหาจุฬาฯ บาลีอักษรไทย PaliRoman |
พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน]
๑. กุสลติกะ ๑. ปฏิจจวาร
๒. ปัจจยปัจจนียะ ๑. วิภังควาร ปัจจนียะ นเหตุปัจจัย [๘๖] สภาวธรรมที่เป็นอกุศลอาศัยสภาวธรรมที่เป็นอกุศลเกิดขึ้นเพราะ นเหตุปัจจัย ได้แก่ โมหะที่สหรคตด้วยวิจิกิจฉาและที่สหรคตด้วยอุทธัจจะอาศัยขันธ์ ที่สหรคตด้วยวิจิกิจฉาและที่สหรคตด้วยอุทธัจจะเกิดขึ้น (๑) สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตอาศัยสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตเกิดขึ้นเพราะ นเหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ และจิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอเหตุกะซึ่งเป็น อัพยากตวิบากและที่เป็นอัพยากตกิริยาเกิดขึ้น ขันธ์ ๑ และจิตตสมุฏฐานรูปอาศัย ขันธ์ ๓ เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ และจิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ ที่เป็นอเหตุกะ๑- ขันธ์ ๓ และกฏัตตารูปอาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอัพยากตวิบากเกิดขึ้น ขันธ์ ๑ และกฏัตตารูปอาศัยขันธ์ ๓ เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ และกฏัตตารูปอาศัย ขันธ์ ๒ เกิดขึ้น หทัยวัตถุอาศัยขันธ์เกิดขึ้น ขันธ์อาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้น มหา- ภูตรูป ๓ อาศัยมหาภูตรูป ๑ เกิดขึ้น มหาภูตรูป ๑ อาศัยมหาภูตรูป ๓ เกิดขึ้น มหาภูตรูป ๒ อาศัยมหาภูตรูป ๒ เกิดขึ้น จิตตสมุฏฐานรูปและกฏัตตารูปที่เป็น อุปาทายรูปอาศัยมหาภูตรูปเกิดขึ้น... ที่เป็นภายนอก... ที่มีอาหารเป็นสมุฏฐาน... ที่มีอุตุเป็นสมุฏฐาน... สำหรับเหล่าอสัญญสัตตพรหม มหาภูตรูป ๓ อาศัยมหา- ภูตรูป ๑ เกิดขึ้น มหาภูตรูป ๑ อาศัยมหาภูตรูป ๓ เกิดขึ้น มหาภูตรูป ๒ อาศัย มหาภูตรูป ๒ เกิดขึ้น กฏัตตารูปที่เป็นอุปาทายรูปอาศัยมหาภูตรูปเกิดขึ้น (๑)นอารัมมณปัจจัย [๘๗] สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตอาศัยสภาวธรรมที่เป็นกุศลเกิดขึ้นเพราะ นอารัมมณปัจจัย ได้แก่ จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ที่เป็นกุศลเกิดขึ้น (๑) สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตอาศัยสภาวธรรมที่เป็นอกุศลเกิดขึ้นเพราะนอารัมมณ- ปัจจัย ได้แก่ จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ที่เป็นอกุศลเกิดขึ้น (๑) @เชิงอรรถ : @๑ ได้แก่ อุเปกขาสันตีรณจิต ๒ ขณะทำหน้าที่ปฏิสนธิของทุคคติอเหตุกบุคคลและสุคติอเหตุกบุคคลใน @กามภูมิ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า : ๔๕}
พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน]
๑. กุสลติกะ ๑. ปฏิจจวาร
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตอาศัยสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตเกิดขึ้นเพราะ นอารัมมณปัจจัย ได้แก่ จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ที่เป็นอัพยากตวิบากและที่เป็น อัพยากตกิริยาเกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ กฏัตตารูปอาศัยขันธ์ที่เป็นอัพยากตวิบาก เกิดขึ้น หทัยวัตถุอาศัยขันธ์เกิดขึ้น มหาภูตรูป ๓ อาศัยมหาภูตรูป ๑ เกิดขึ้น มหาภูตรูป ๑ อาศัยมหาภูตรูป ๓ เกิดขึ้น มหาภูตรูป ๒ อาศัยมหาภูตรูป ๒ เกิดขึ้น จิตตสมุฏฐานรูปและกฏัตตารูปที่เป็นอุปาทายรูปอาศัยมหาภูตรูปเกิดขึ้น ... ที่เป็น ภายนอก ... ที่มีอาหารเป็นสมุฏฐาน ... ที่มีอุตุเป็นสมุฏฐาน ... สำหรับเหล่า อสัญญสัตตพรหม มหาภูตรูป ๓ อาศัยมหาภูตรูป ๑ เกิดขึ้น มหาภูตรูป ๑ อาศัยมหาภูตรูป ๓ เกิดขึ้น มหาภูตรูป ๒ อาศัยมหาภูตรูป ๒ เกิดขึ้น กฏัตตารูป ที่เป็นอุปาทายรูปอาศัยมหาภูตรูปเกิดขึ้น (๑) สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตอาศัยสภาวธรรมที่เป็นกุศลและที่เป็นอัพยากฤต เกิดขึ้นเพราะนอารัมมณปัจจัย ได้แก่ จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ที่เป็นกุศลและ มหาภูตรูปเกิดขึ้น (๑) สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตอาศัยสภาวธรรมที่เป็นอกุศลและที่เป็นอัพยากฤต เกิดขึ้นเพราะนอารัมมณปัจจัย ได้แก่ จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ที่เป็นอกุศลและ มหาภูตรูปเกิดขึ้น (๑)นอธิปติปัจจัย [๘๘] สภาวธรรมที่เป็นกุศลอาศัยสภาวธรรมที่เป็นกุศลเกิดขึ้นเพราะนอธิปติ- ปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นกุศลเกิดขึ้น ขันธ์ ๑ อาศัยขันธ์ ๓ เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น (๑) สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตอาศัยสภาวธรรมที่เป็นกุศลเกิดขึ้นเพราะนอธิปติ- ปัจจัย ได้แก่ จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ที่เป็นกุศลเกิดขึ้น (๑) สภาวธรรมที่เป็นกุศลและที่เป็นอัพยากฤตอาศัยสภาวธรรมที่เป็นกุศลเกิดขึ้น เพราะนอธิปติปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ และจิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นกุศล เกิดขึ้น ขันธ์ ๑ และจิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ ๓ เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ และจิตต- สมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น (๑) {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า : ๔๖}
พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน]
๑. กุสลติกะ ๑. ปฏิจจวาร
สภาวธรรมที่เป็นอกุศลอาศัยสภาวธรรมที่เป็นอกุศลเกิดขึ้นเพราะนอธิปติปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอกุศลเกิดขึ้น ขันธ์ ๑ อาศัยขันธ์ ๓ เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น (๑) สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตอาศัยสภาวธรรมที่เป็นอกุศลเกิดขึ้นเพราะนอธิปติ- ปัจจัย ได้แก่ จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ที่เป็นอกุศลเกิดขึ้น (๑) สภาวธรรมที่เป็นอกุศลและที่เป็นอัพยากฤตอาศัยสภาวธรรมที่เป็นอกุศล เกิดขึ้นเพราะนอธิปติปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ และจิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ ๑ ที่ เป็นอกุศลเกิดขึ้น ขันธ์ ๑ และจิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ ๓ เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ และ จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น (๑) สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตอาศัยสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตเกิดขึ้นเพราะ นอธิปติปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ และจิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอัพยากต- วิบาก และที่เป็นอัพยากตกิริยาเกิดขึ้น ขันธ์ ๑ และจิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ ๓ เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ และจิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๓ และกฏัตตารูปอาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอัพยากตวิบากเกิดขึ้น ขันธ์ ๑ และ กฏัตตารูปอาศัยขันธ์ ๓ เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ และกฏัตตารูปอาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น หทัยวัตถุอาศัยขันธ์เกิดขึ้น ขันธ์อาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้น มหาภูตรูป ๓ อาศัยมหา- ภูตรูป ๑ เกิดขึ้น มหาภูตรูป ๑ อาศัยมหาภูตรูป ๓ เกิดขึ้น มหาภูตรูป ๒ อาศัย มหาภูตรูป ๒ เกิดขึ้น จิตตสมุฏฐานรูป และกฏัตตารูปที่เป็นอุปาทายรูปอาศัย มหาภูตรูปเกิดขึ้น ... ที่เป็นภายนอก ... ที่มีอาหารเป็นสมุฏฐาน ... ที่มีอุตุเป็น สมุฏฐาน ... สำหรับเหล่าอสัญญสัตตพรหม มหาภูตรูป ๓ อาศัยมหาภูตรูป ๑ เกิดขึ้น มหาภูตรูป ๑ อาศัยมหาภูตรูป ๓ เกิดขึ้น มหาภูตรูป ๒ อาศัยมหาภูตรูป ๒ เกิดขึ้น กฏัตตารูปที่เป็นอุปาทายรูปอาศัยมหาภูตรูปเกิดขึ้น (๑) สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตอาศัยสภาวธรรมที่เป็นกุศลและที่เป็นอัพยากฤต เกิดขึ้นเพราะนอธิปติปัจจัย ได้แก่ จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ที่เป็นกุศลและอาศัย มหาภูตรูปเกิดขึ้น (๑) สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตอาศัยสภาวธรรมที่เป็นอกุศลและที่เป็นอัพยากฤต เกิดขึ้นเพราะนอธิปติปัจจัย ได้แก่ จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ที่เป็นอกุศลและ อาศัยมหาภูตรูปเกิดขึ้น (๑) {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า : ๔๗}
พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน]
๑. กุสลติกะ ๑. ปฏิจจวาร
นอนันตรปัจจัยและนสมนันตรปัจจัย [๘๙] สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตอาศัยสภาวธรรมที่เป็นกุศลเกิดขึ้นเพราะ นอนันตรปัจจัย เพราะนสมนันตรปัจจัย ได้แก่ จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ที่เป็นกุศล เกิดขึ้น (นอนันตรปัจจัยและนสมนันตรปัจจัยเหมือนกับนอารัมมณปัจจัย)นอัญญมัญญปัจจัย [๙๐] สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตอาศัยสภาวธรรมที่เป็นกุศลเกิดขึ้นเพราะ นอัญญมัญญปัจจัย ได้แก่ จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ที่เป็นกุศลเกิดขึ้น (๑) สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตอาศัยสภาวธรรมที่เป็นอกุศลเกิดขึ้นเพราะ นอัญญมัญญปัจจัย ได้แก่ จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ที่เป็นอกุศลเกิดขึ้น (๑) สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตอาศัยสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตเกิดขึ้นเพราะ นอัญญมัญญปัจจัย ได้แก่ จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ที่เป็นอัพยากตวิบากและที่ เป็นอัพยากตกิริยาเกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ กฏัตตารูปอาศัยขันธ์ที่เป็นอัพยากต- วิบากเกิดขึ้น จิตตสมุฏฐานรูปและกฏัตตารูปที่เป็นอุปาทายรูปอาศัยมหาภูตรูปเกิด ขึ้น อุปาทายรูปอาศัยมหาภูตรูปที่เป็นภายนอกเกิดขึ้น อุปาทายรูปอาศัยมหาภูตรูป ที่มีอาหารเป็นสมุฏฐานเกิดขึ้น อุปาทายรูปอาศัยมหาภูตรูปที่มีอุตุเป็นสมุฏฐาน เกิดขึ้น สำหรับเหล่าอสัญญสัตตพรหม กฏัตตารูปที่เป็นอุปาทายรูปอาศัยมหา- ภูตรูปเกิดขึ้น (๑) สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตอาศัยสภาวธรรมที่เป็นกุศลและที่เป็นอัพยากฤต เกิดขึ้นเพราะนอัญญมัญญปัจจัย ได้แก่ จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ที่เป็นกุศลและ อาศัยมหาภูตรูปเกิดขึ้น (๑) สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตอาศัยสภาวธรรมที่เป็นอกุศลและที่เป็นอัพยากฤต เกิดขึ้นเพราะนอัญญมัญญปัจจัย ได้แก่ จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ที่เป็นอกุศลและ อาศัยมหาภูตรูปเกิดขึ้น (๑) {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า : ๔๘}
พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน]
๑. กุสลติกะ ๑. ปฏิจจวาร
นอุปนิสสยปัจจัย [๙๑] ภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตอาศัยสภาวธรรมที่เป็นกุศลเกิดขึ้นเพราะ นอุปนิสสยปัจจัย ได้แก่ จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ที่เป็นกุศลเกิดขึ้น (นอุปนิสสย- ปัจจัยเหมือนกับนอารัมมณปัจจัย)นปุเรชาตปัจจัย [๙๒] สภาวธรรมที่เป็นกุศลอาศัยสภาวธรรมที่เป็นกุศลเกิดขึ้นเพราะนปุเร- ชาตปัจจัย ได้แก่ ในอรูปาวจรภูมิ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นกุศลเกิดขึ้น ขันธ์ ๑ อาศัยขันธ์ ๓ เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น (๑) สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตอาศัยสภาวธรรมที่เป็นกุศลเกิดขึ้นเพราะนปุเรชาต- ปัจจัย ได้แก่ จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ที่เป็นกุศลเกิดขึ้น (๒) สภาวธรรมที่เป็นอกุศลอาศัยสภาวธรรมที่เป็นอกุศลเกิดขึ้นเพราะนปุเรชาตปัจจัย ได้แก่ ในอรูปาวจรภูมิ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอกุศลเกิดขึ้น ขันธ์ ๑ อาศัย ขันธ์ ๓ เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น (๑) สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตอาศัยสภาวธรรมที่เป็นอกุศลเกิดขึ้นเพราะนปุเรชาต- ปัจจัย ได้แก่ จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ที่เป็นอกุศลเกิดขึ้น (๒) สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตอาศัยสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตเกิดขึ้นเพราะ นปุเรชาตปัจจัย ได้แก่ ในอรูปาวจรภูมิ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอัพยากตวิบาก และที่เป็นอัพยากตกิริยาเกิดขึ้น ขันธ์ ๑ อาศัยขันธ์ ๓ เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ อาศัย ขันธ์ ๒ เกิดขึ้น จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ที่เป็นอัพยากตวิบากและที่เป็น อัพยากตกิริยาเกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๓ และกฏัตตารูปอาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอัพยากตวิบากเกิดขึ้น ขันธ์ ๑ และกฏัตตารูปอาศัยขันธ์ ๓ เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ และกฏัตตารูปอาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น หทัยวัตถุอาศัยขันธ์เกิดขึ้น ขันธ์อาศัย หทัยวัตถุเกิดขึ้น มหาภูตรูป ๓ อาศัยมหาภูตรูป ๑ เกิดขึ้น มหาภูตรูป ๑ อาศัยมหาภูตรูป ๓ เกิดขึ้น มหาภูตรูป ๒ อาศัยมหาภูตรูป ๒ เกิดขึ้น {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า : ๔๙}
พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน]
๑. กุสลติกะ ๑. ปฏิจจวาร
จิตตสมุฏฐานรูป๑- และกฏัตตารูป๒- ที่เป็นอุปาทายรูปอาศัยมหาภูตรูปเกิดขึ้น ... ที่ เป็นภายนอก ... ที่มีอาหารเป็นสมุฏฐาน ... ที่มีอุตุเป็นสมุฏฐาน ... สำหรับเหล่า อสัญญสัตตพรหม มหาภูตรูป ๓ อาศัยมหาภูตรูป ๑ เกิดขึ้น มหาภูตรูป ๑ อาศัยมหาภูตรูป ๓ เกิดขึ้น มหาภูตรูป ๒ อาศัยมหาภูตรูป ๒ เกิดขึ้น กฏัตตารูปที่ เป็นอุปาทายรูปอาศัยมหาภูตรูปเกิดขึ้น (๑) สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตอาศัยสภาวธรรมที่เป็นกุศลและที่เป็นอัพยากฤต เกิดขึ้นเพราะนปุเรชาตปัจจัย ได้แก่ จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ที่เป็นกุศลและ อาศัยมหาภูตรูปเกิดขึ้น (๑) สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตอาศัยสภาวธรรมที่เป็นอกุศลและที่เป็นอัพยากฤต เกิดขึ้นเพราะนปุเรชาตปัจจัย ได้แก่ จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ที่เป็นอกุศลและ อาศัยมหาภูตรูปเกิดขึ้น (๑)นปัจฉาชาตปัจจัยและนอาเสวนปัจจัย [๙๓] สภาวธรรมที่เป็นกุศลอาศัยสภาวธรรมที่เป็นกุศลเกิดขึ้นเพราะนปัจฉา- ชาตปัจจัย ได้แก่ ... อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นกุศล ฯลฯ สภาวธรรมที่เป็นกุศลอาศัยสภาวธรรมที่เป็นกุศลเกิดขึ้นเพราะนอาเสวนปัจจัย ได้แก่ ... อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นกุศล ฯลฯ (นปัจฉาชาตปัจจัยและนอาเสวนปัจจัย เหมือนกับนอธิปติปัจจัย)นกัมมปัจจัย [๙๔] สภาวธรรมที่เป็นกุศลอาศัยสภาวธรรมที่เป็นกุศลเกิดขึ้นเพราะนกัมม- ปัจจัย ได้แก่ เจตนาที่เป็นกุศลอาศัยขันธ์ที่เป็นกุศลเกิดขึ้น (๑) สภาวธรรมที่เป็นอกุศลอาศัยสภาวธรรมที่เป็นอกุศลเกิดขึ้นเพราะนกัมมปัจจัย ได้แก่ เจตนาที่เป็นอกุศลอาศัยขันธ์ที่เป็นอกุศลเกิดขึ้น (๑) @เชิงอรรถ : @๑ ในที่นี้ได้แก่ จิตตชรูป ๑๓ @๒ ในที่นี้ได้แก่ กัมมชรูป ๑๖ ที่เกิดพร้อมกับอุปาทขณะของปฏิสนธิวิญญาณ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า : ๕๐}
พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน]
๑. กุสลติกะ ๑. ปฏิจจวาร
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตอาศัยสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตเกิดขึ้นเพราะ นกัมมปัจจัย ได้แก่ เจตนาที่เป็นอัพยากตกิริยาอาศัยขันธ์ที่เป็นอัพยากตกิริยาเกิดขึ้น ... ที่เป็นภายนอก ... ที่มีอาหารเป็นสมุฏฐาน ... มหาภูตรูป ๓ อาศัยมหาภูตรูป ๑ ที่มีอุตุเป็นสมุฏฐานเกิดขึ้น มหาภูตรูป ๑ อาศัยมหาภูตรูป ๓ เกิดขึ้น มหา- ภูตรูป ๒ อาศัยมหาภูตรูป ๒ เกิดขึ้น อุปาทายรูปอาศัยมหาภูตรูปเกิดขึ้น (๑)นวิปากปัจจัย [๙๕] สภาวธรรมที่เป็นกุศลอาศัยสภาวธรรมที่เป็นกุศลเกิดขึ้นเพราะนวิปาก- ปัจจัย ได้แก่ ... อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นกุศล ... มี ๓ วาระ สภาวธรรมที่เป็นอกุศลอาศัยสภาวธรรมที่เป็นอกุศลเกิดขึ้นเพราะนวิปากปัจจัย ... มี ๓ วาระ สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตอาศัยสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตเกิดขึ้นเพราะ นวิปากปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ และจิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอัพยากต- กิริยาเกิดขึ้น ขันธ์ ๑ และจิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ ๓ เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ และ จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น มหาภูตรูป ๓ อาศัยมหาภูตรูป ๑ เกิด ขึ้น ฯลฯ จิตตสมุฏฐานรูปที่เป็นอุปาทายรูปอาศัยมหาภูตรูปเกิดขึ้น ... ที่เป็น ภายนอก ... ที่มีอาหารเป็นสมุฏฐาน ... ที่มีอุตุเป็นสมุฏฐาน ... สำหรับเหล่า อสัญญสัตตพรหม มหาภูตรูป ๓ อาศัยมหาภูตรูป ๑ เกิดขึ้น ฯลฯ กฏัตตารูป ที่เป็นอุปาทายรูปอาศัยมหาภูตรูปเกิดขึ้น (๑) สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตอาศัยสภาวธรรมที่เป็นกุศลและที่เป็นอัพยากฤต เกิดขึ้นเพราะนวิปากปัจจัย ได้แก่ จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ที่เป็นกุศลและ อาศัยมหาภูตรูปเกิดขึ้น (๑) สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตอาศัยสภาวธรรมที่เป็นอกุศลและที่เป็นอัพยากฤต เกิดขึ้นเพราะนวิปากปัจจัย ได้แก่ จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ที่เป็นอกุศลและ อาศัยมหาภูตรูปเกิดขึ้น (๑) {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า : ๕๑}
พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน]
๑. กุสลติกะ ๑. ปฏิจจวาร
นอาหารปัจจัย [๙๖] สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตอาศัยสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตเกิดขึ้น เพราะนอาหารปัจจัย ได้แก่ ... ที่เป็นภายนอก ... ที่มีอุตุเป็นสมุฏฐาน ... สำหรับ เหล่าอสัญญสัตตพรหม มหาภูตรูป ๓ อาศัยมหาภูตรูป ๑ เกิดขึ้น ฯลฯ กฏัตตารูปที่เป็นอุปาทายรูปอาศัยมหาภูตรูปเกิดขึ้น (๑)นอินทรียปัจจัย [๙๗] สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตอาศัยสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตเกิด ขึ้นเพราะนอินทรียปัจจัย ได้แก่ ... ที่เป็นภายนอก ... ที่มีอาหารเป็นสมุฏฐาน ... มหาภูตรูป ๓ อาศัยมหาภูตรูป ๑ ที่มีอุตุเป็นสมุฏฐานเกิดขึ้น ฯลฯ อุปาทายรูป อาศัยมหาภูตรูปเกิดขึ้น สำหรับเหล่าอสัญญสัตตพรหม รูปชีวิตินทรีย์อาศัย มหาภูตรูปเกิดขึ้นนฌานปัจจัย [๙๘] สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตอาศัยสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตเกิดขึ้น เพราะนฌานปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่สหรคตด้วยปัญจวิญญาณเกิด ขึ้น ขันธ์ ๑ อาศัยขันธ์ ๓ เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น ... ที่เป็น ภายนอก ... ที่มีอาหารเป็นสมุฏฐาน ... ที่มีอุตุเป็นสมุฏฐาน ... สำหรับเหล่า อสัญญสัตตพรหม มหาภูตรูป ๓ อาศัยมหาภูตรูป ๑ เกิดขึ้น ฯลฯ กฏัตตารูป ที่เป็นอุปาทายรูปอาศัยมหาภูตรูปเกิดขึ้น (๑)นมัคคปัจจัย [๙๙] สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตอาศัยสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตเกิดขึ้น เพราะนมัคคปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ และจิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอเหตุกะ ซึ่งเป็นอัพยากตวิบากและอัพยากตกิริยาเกิดขึ้น ขันธ์ ๑ และจิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ ๓ เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ และจิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น ใน {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า : ๕๒}
พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน]
๑. กุสลติกะ ๑. ปฏิจจวาร
ปฏิสนธิขณะที่เป็นอเหตุกะ ขันธ์ ๓ และกฏัตตารูปอาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอัพยากต- วิบากเกิดขึ้น ขันธ์ ๑ และกฏัตตารูปอาศัยขันธ์ ๓ เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ และกฏัตตารูป อาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น หทัยวัตถุอาศัยขันธ์เกิดขึ้น ขันธ์อาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้น มหาภูตรูป ๓ อาศัยมหาภูตรูป ๑ เกิดขึ้น มหาภูตรูป ๑ อาศัยมหาภูตรูป ๓ เกิดขึ้น มหาภูตรูป ๒ อาศัยมหาภูตรูป ๒ เกิดขึ้น จิตตสมุฏฐานรูปและกฏัตตารูปที่เป็น อุปาทายรูปอาศัยมหาภูตรูปเกิดขึ้น ... ที่เป็นภายนอก ... ที่มีอาหารเป็นสมุฏฐาน ... ที่มีอุตุเป็นสมุฏฐาน ... สำหรับเหล่าอสัญญสัตตพรหม มหาภูตรูป ๓ อาศัย มหาภูตรูป ๑ เกิดขึ้น ฯลฯ กฏัตตารูปที่เป็นอุปาทายรูปอาศัยมหาภูตรูปเกิดขึ้น (๑)นสัมปยุตตปัจจัย [๑๐๐] สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตอาศัยสภาวธรรมที่เป็นกุศลเกิดขึ้นเพราะ นสัมปยุตตปัจจัย ได้แก่ จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ที่เป็นกุศลเกิดขึ้น (ปัจจัยนี้ เหมือนกับนอารัมมณปัจจัย)นวิปปยุตตปัจจัย [๑๐๑] สภาวธรรมที่เป็นกุศลอาศัยสภาวธรรมที่เป็นกุศลเกิดขึ้นเพราะนวิปป- ยุตตปัจจัย ได้แก่ ในอรูปาวจรภูมิ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นกุศลเกิดขึ้น ขันธ์ ๑ อาศัยขันธ์ ๓ เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น (๑) สภาวธรรมที่เป็นอกุศลอาศัยสภาวธรรมที่เป็นอกุศลเกิดขึ้นเพราะนวิปปยุตต- ปัจจัย ได้แก่ ในอรูปาวจรภูมิ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอกุศลเกิดขึ้น ขันธ์ ๑ อาศัยขันธ์ ๓ เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น (๑) สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตอาศัยสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตเกิดขึ้นเพราะ นวิปปยุตตปัจจัย ได้แก่ ในอรูปาวจรภูมิ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอัพยากต- วิบากและที่เป็นอัพยากตกิริยาเกิดขึ้น ขันธ์ ๑ อาศัยขันธ์ ๓ เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น ... ที่เป็นภายนอก ... ที่มีอาหารเป็นสมุฏฐาน ... ที่มีอุตุเป็น สมุฏฐาน ... สำหรับเหล่าอสัญญสัตตพรหม มหาภูตรูป ๓ อาศัยมหาภูตรูป ๑ เกิดขึ้น ฯลฯ กฏัตตารูปที่เป็นอุปาทายรูปอาศัยมหาภูตรูปเกิดขึ้น (๑) {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า : ๕๓}
พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน]
๑. กุสลติกะ ๑. ปฏิจจวาร
โนนัตถิปัจจัยและโนวิคตปัจจัย [๑๐๒] สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตอาศัยสภาวธรรมที่เป็นกุศลเกิดขึ้นเพราะ โนนัตถิปัจจัย เพราะโนวิคตปัจจัย ได้แก่ จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ที่เป็นกุศล เกิดขึ้น (สองปัจจัยนี้เหมือนกับนอารัมมณปัจจัย)๒. ปัจจยปัจจนียะ ๒. สังขยาวาร คณนมูลกนัย [๑๐๓] นเหตุปัจจัย มี ๒ วาระ นอารัมมณปัจจัย มี ๕ วาระ นอธิปติปัจจัย มี ๙ วาระ นอนันตรปัจจัย มี ๕ วาระ นสมนันตรปัจจัย มี ๕ วาระ นอัญญมัญญปัจจัย มี ๕ วาระ นอุปนิสสยปัจจัย มี ๕ วาระ นปุเรชาตปัจจัย มี ๗ วาระ นปัจฉาชาตปัจจัย มี ๙ วาระ นอาเสวนปัจจัย มี ๙ วาระ นกัมมปัจจัย มี ๓ วาระ นวิปากปัจจัย มี ๙ วาระ นอาหารปัจจัย มี ๑ วาระ นอินทรียปัจจัย มี ๑ วาระ นฌานปัจจัย มี ๑ วาระ นมัคคปัจจัย มี ๑ วาระ นสัมปยุตตปัจจัย มี ๕ วาระ นวิปปยุตตปัจจัย มี ๓ วาระ โนนัตถิปัจจัย มี ๕ วาระ โนวิคตปัจจัย มี ๕ วาระ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า : ๕๔}
พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน]
๑. กุสลติกะ ๑. ปฏิจจวาร
นเหตุทุกนัย [๑๐๔] นอารัมมณปัจจัย กับนเหตุปัจจัย มี ๑ วาระ นอธิปติปัจจัย มี ๒ วาระ นอนันตรปัจจัย มี ๑ วาระ นสมนันตรปัจจัย มี ๑ วาระ นอัญญมัญญปัจจัย มี ๑ วาระ นอุปนิสสยปัจจัย มี ๑ วาระ นปุเรชาตปัจจัย มี ๒ วาระ นปัจฉาชาตปัจจัย มี ๒ วาระ นอาเสวนปัจจัย มี ๒ วาระ นกัมมปัจจัย มี ๑ วาระ นวิปากปัจจัย มี ๒ วาระ นอาหารปัจจัย มี ๑ วาระ นอินทรียปัจจัย มี ๑ วาระ นฌานปัจจัย มี ๑ วาระ นมัคคปัจจัย มี ๑ วาระ นสัมปยุตตปัจจัย มี ๑ วาระ นวิปปยุตตปัจจัย มี ๒ วาระ โนนัตถิปัจจัย มี ๑ วาระ โนวิคตปัจจัย มี ๑ วาระติกนัย [๑๐๕] นอธิปติปัจจัย กับนเหตุปัจจัยและนอารัมมณปัจจัย มี ๑ วาระ นอนันตรปัจจัย มี ๑ วาระ นสมนันตรปัจจัย มี ๑ วาระ นอัญญมัญญปัจจัย มี ๑ วาระ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า : ๕๕}
พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน]
๑. กุสลติกะ ๑. ปฏิจจวาร
นอุปนิสสยปัจจัย กับนเหตุปัจจัยและนอารัมมณปัจจัย มี ๑ วาระ นปุเรชาตปัจจัย มี ๑ วาระ นปัจฉาชาตปัจจัย มี ๑ วาระ นอาเสวนปัจจัย มี ๑ วาระ นกัมมปัจจัย มี ๑ วาระ นวิปากปัจจัย มี ๑ วาระ นอาหารปัจจัย มี ๑ วาระ นอินทรียปัจจัย มี ๑ วาระ นฌานปัจจัย มี ๑ วาระ นมัคคปัจจัย มี ๑ วาระ นสัมปยุตตปัจจัย มี ๑ วาระ นวิปปยุตตปัจจัย มี ๑ วาระ โนนัตถิปัจจัย มี ๑ วาระ โนวิคตปัจจัย มี ๑ วาระ ฯลฯวีสกนัย [๑๐๖] โนวิคตปัจจัย กับนเหตุปัจจัย นอารัมมณปัจจัย นอธิปติปัจจัย นอนันตรปัจจัย นสมนันตรปัจจัย นอัญญมัญญปัจจัย นอุปนิสสยปัจจัย นปุเร- ชาตปัจจัย นปัจฉาชาตปัจจัย นอาเสวนปัจจัย นกัมมปัจจัย นวิปากปัจจัย นอาหารปัจจัย นอินทรียปัจจัย นฌานปัจจัย นมัคคปัจจัย นสัมปยุตตปัจจัย นวิปปยุตตปัจจัย และโนนัตถิปัจจัย มี ๑ วาระนเหตุมูลกนัย จบ นอารัมมณทุกนัย [๑๐๗] นเหตุปัจจัย กับนอารัมมณปัจจัย มี ๑ วาระ นอธิปติปัจจัย มี ๕ วาระ นอนันตรปัจจัย มี ๕ วาระ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า : ๕๖}
พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน]
๑. กุสลติกะ ๑. ปฏิจจวาร
นสมนันตรปัจจัย กับนอารัมมมณปัจจัย มี ๕ วาระ นอัญญมัญญปัจจัย มี ๕ วาระ นอุปนิสสยปัจจัย มี ๕ วาระ นปุเรชาตปัจจัย มี ๕ วาระ นปัจฉาชาตปัจจัย มี ๕ วาระ นอาเสวนปัจจัย มี ๕ วาระ นกัมมปัจจัย มี ๑ วาระ นวิปากปัจจัย มี ๕ วาระ นอาหารปัจจัย มี ๑ วาระ นอินทรียปัจจัย มี ๑ วาระ นฌานปัจจัย มี ๑ วาระ นมัคคปัจจัย มี ๑ วาระ นสัมปยุตตปัจจัย มี ๕ วาระ นวิปปยุตตปัจจัย มี ๑ วาระ โนนัตถิปัจจัย มี ๕ วาระ โนวิคตปัจจัย มี ๕ วาระ ฯลฯจตุกกนัย [๑๐๘] นอนันตรปัจจัย กับนอารัมมณปัจจัย นเหตุปัจจัย และนอธิปติปัจจัย มี ๑ วาระ ฯลฯ โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ ฯลฯนอธิปติทุกนัย [๑๐๙] นเหตุปัจจัย กับนอธิปติปัจจัย มี ๒ วาระ นอารัมมณปัจจัย มี ๕ วาระ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า : ๕๗}
พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน]
๑. กุสลติกะ ๑. ปฏิจจวาร
นอนันตรปัจจัย กับนอธิปติปัจจัย มี ๕ วาระ นสมนันตรปัจจัย มี ๕ วาระ นอัญญมัญญปัจจัย มี ๕ วาระ นอุปนิสสยปัจจัย มี ๕ วาระ นปุเรชาตปัจจัย มี ๗ วาระ นปัจฉาชาตปัจจัย มี ๙ วาระ นอาเสวนปัจจัย มี ๙ วาระ นกัมมปัจจัย มี ๓ วาระ นวิปากปัจจัย มี ๙ วาระ นอาหารปัจจัย มี ๑ วาระ นอินทรียปัจจัย มี ๑ วาระ นฌานปัจจัย มี ๑ วาระ นมัคคปัจจัย มี ๑ วาระ นสัมปยุตตปัจจัย มี ๕ วาระ นวิปปยุตตปัจจัย มี ๓ วาระ โนนัตถิปัจจัย มี ๕ วาระ โนวิคตปัจจัย มี ๕ วาระติกนัย [๑๑๐] นอารัมมณปัจจัย กับนอธิปติปัจจัยและนเหตุปัจจัย มี ๑ วาระ นอนันตรปัจจัย มี ๑ วาระ นสมนันตรปัจจัย มี ๑ วาระ นอัญญมัญญปัจจัย มี ๑ วาระ นอุปนิสสยปัจจัย มี ๑ วาระ นปุเรชาตปัจจัย มี ๒ วาระ นปัจฉาชาตปัจจัย มี ๒ วาระ นอาเสวนปัจจัย มี ๒ วาระ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า : ๕๘}
พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน]
๑. กุสลติกะ ๑. ปฏิจจวาร
นกัมมปัจจัย กับนอธิปติปัจจัยและนเหตุปัจจัย มี ๑ วาระ นวิปากปัจจัย มี ๒ วาระ นอาหารปัจจัย มี ๑ วาระ นอินทรียปัจจัย มี ๑ วาระ นฌานปัจจัย มี ๑ วาระ นมัคคปัจจัย มี ๑ วาระ นสัมปยุตตปัจจัย มี ๑ วาระ นวิปปยุตตปัจจัย มี ๒ วาระ โนนัตถิปัจจัย มี ๑ วาระ โนวิคตปัจจัย มี ๑ วาระจตุกกนัย [๑๑๑] นอนันตรปัจจัย กับนอธิปติปัจจัย นเหตุปัจจัย และนอารัมมณปัจจัย มี ๑ วาระ (ทุกปัจจัยมีปัจจัยละ ๑ วาระ) นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ ฯลฯนอนันตรปัจจัยเป็นต้น [๑๑๒] ... กับนอนันตรปัจจัย นสมนันตรปัจจัย นอัญญมัญญปัจจัย และ นอุปนิสสยปัจจัย (ปัจจัยนี้เหมือนกับนอารัมมณปัจจัย)นปุเรชาตทุกนัย [๑๑๓] นเหตุปัจจัย กับนปุเรชาตปัจจัย มี ๒ วาระ นอารัมมณปัจจัย มี ๕ วาระ นอธิปติปัจจัย มี ๗ วาระ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า : ๕๙}
พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน]
๑. กุสลติกะ ๑. ปฏิจจวาร
นอนันตรปัจจัย กับนปุเรชาตปัจจัย มี ๕ วาระ นสมนันตรปัจจัย มี ๕ วาระ นอัญญมัญญปัจจัย มี ๕ วาระ นอุปนิสสยปัจจัย มี ๕ วาระ นปัจฉาชาตปัจจัย มี ๗ วาระ นอาเสวนปัจจัย มี ๗ วาระ นกัมมปัจจัย มี ๓ วาระ นวิปากปัจจัย มี ๗ วาระ นอาหารปัจจัย มี ๑ วาระ นอินทรียปัจจัย มี ๑ วาระ นฌานปัจจัย มี ๑ วาระ นมัคคปัจจัย มี ๑ วาระ นสัมปยุตตปัจจัย มี ๕ วาระ นวิปปยุตตปัจจัย มี ๓ วาระ โนนัตถิปัจจัย มี ๕ วาระ โนวิคตปัจจัย มี ๕ วาระติกนัย [๑๑๔] นอารัมมณปัจจัย กับนปุเรชาตปัจจัย และนเหตุปัจจัย มี ๑ วาระ นอธิปติปัจจัย มี ๒ วาระ นอนันตรปัจจัย มี ๑ วาระ นสมนันตรปัจจัย มี ๑ วาระ นอัญญมัญญปัจจัย มี ๑ วาระ นอุปนิสสยปัจจัย มี ๑ วาระ นปัจฉาชาตปัจจัย มี ๒ วาระ นอาเสวนปัจจัย มี ๒ วาระ นกัมมปัจจัย มี ๑ วาระ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า : ๖๐}
พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน]
๑. กุสลติกะ ๑. ปฏิจจวาร
นวิปากปัจจัย กับนปุเรชาตปัจจัยและนเหตุปัจจัย มี ๒ วาระ นอาหารปัจจัย มี ๑ วาระ นอินทรียปัจจัย มี ๑ วาระ นฌานปัจจัย มี ๑ วาระ นมัคคปัจจัย มี ๑ วาระ นสัมปยุตตปัจจัย มี ๑ วาระ นวิปปยุตตปัจจัย มี ๒ วาระ โนนัตถิปัจจัย มี ๑ วาระ โนวิคตปัจจัย มี ๑ วาระจตุกกนัย [๑๑๕] นอธิปติปัจจัย กับนปุเรชาตปัจจัย นเหตุปัจจัยและนอารัมมณปัจจัย มี ๑ วาระ นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ (ทุกปัจจัยมีปัจจัยละ ๑ วาระ) โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ ฯลฯนปัจฉาชาตะและนอาเสวนทุกนัย [๑๑๖] นเหตุปัจจัย กับนปัจฉาชาตปัจจัยและนอาเสวนปัจจัย มี ๒ วาระ นอารัมมณปัจจัย มี ๕ วาระ นอธิปติปัจจัย มี ๙ วาระ นอนันตรปัจจัย มี ๕ วาระ นสมนันตรปัจจัย มี ๕ วาระ นอัญญมัญญปัจจัย มี ๕ วาระ นอุปนิสสยปัจจัย มี ๕ วาระ นปุเรชาตปัจจัย มี ๗ วาระ นปัจฉาชาตปัจจัย มี ๙ วาระ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า : ๖๑}
พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน]
๑. กุสลติกะ ๑. ปฏิจจวาร
นกัมมปัจจัย กับนปัจฉาชาตปัจจัยและนอาเสวนปัจจัย มี ๓ วาระ นวิปากปัจจัย มี ๙ วาระ นอาหารปัจจัย มี ๑ วาระ นอินทรียปัจจัย มี ๑ วาระ นฌานปัจจัย มี ๑ วาระ นสัมปยุตตปัจจัย มี ๕ วาระ นวิปปยุตตปัจจัย มี ๓ วาระ โนนัตถิปัจจัย มี ๕ วาระ โนวิคตปัจจัย มี ๕ วาระติกนัย [๑๑๗] นอารัมมณปัจจัย กับนอาเสวนปัจจัย และนเหตุปัจจัย มี ๑ วาระ นอธิปติปัจจัย มี ๒ วาระ นอนันตรปัจจัย มี ๑ วาระ นสมนันตรปัจจัย มี ๑ วาระ นอัญญมัญญปัจจัย มี ๑ วาระ นอุปนิสสยปัจจัย มี ๑ วาระ นปุเรชาตปัจจัย มี ๒ วาระ นปัจฉาชาตปัจจัย มี ๒ วาระ นกัมมปัจจัย มี ๑ วาระ นวิปากปัจจัย มี ๒ วาระ นอาหารปัจจัย มี ๑ วาระ นอินทรียปัจจัย มี ๑ วาระ นฌานปัจจัย มี ๑ วาระ นมัคคปัจจัย มี ๑ วาระ นสัมปยุตตปัจจัย มี ๑ วาระ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า : ๖๒}
พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน]
๑. กุสลติกะ ๑. ปฏิจจวาร
นวิปปยุตตปัจจัย กับนอาเสวนปัจจัยและนเหตุปัจจัย มี ๒ วาระ โนนัตถิปัจจัย " " มี ๑ วาระ โนวิคตปัจจัย " " มี ๑ วาระจตุกกนัย [๑๑๘] นอธิปติปัจจัย กับนอาเสวนปัจจัย นเหตุปัจจัย และนอารัมมณปัจจัย มี ๑ วาระ นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ (ทุกปัจจัยมีปัจจัยละ ๑ วาระ) โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ ฯลฯนกัมมทุกนัย [๑๑๙] นเหตุปัจจัย กับนกัมมปัจจัย มี ๑ วาระ นอารัมมณปัจจัย มี ๑ วาระ นอธิปติปัจจัย มี ๓ วาระ นอนันตรปัจจัย มี ๑ วาระ นสมนันตรปัจจัย มี ๑ วาระ นอัญญมัญญปัจจัย มี ๑ วาระ นอุปนิสสยปัจจัย มี ๑ วาระ นปุเรชาตปัจจัย มี ๓ วาระ นปัจฉาชาตปัจจัย มี ๓ วาระ นอาเสวนปัจจัย มี ๓ วาระ นวิปากปัจจัย มี ๓ วาระ นอาหารปัจจัย มี ๑ วาระ นอินทรียปัจจัย มี ๑ วาระ นฌานปัจจัย มี ๑ วาระ นมัคคปัจจัย มี ๑ วาระ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า : ๖๓}
พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน]
๑. กุสลติกะ ๑. ปฏิจจวาร
นสัมปยุตตปัจจัย กับนกัมมปัจจัย มี ๑ วาระ นวิปปยุตตปัจจัย มี ๓ วาระ โนนัตถิปัจจัย มี ๑ วาระ โนวิคตปัจจัย มี ๑ วาระติกนัย [๑๒๐] นอารัมมณปัจจัย กับนกัมมปัจจัย และนเหตุปัจจัย มี ๑ วาระ นอธิปติปัจจัย มี ๑ วาระ (ทุกปัจจัยมีปัจจัยละ ๑ วาระ) โนนัตถิปัจจัย มี ๑ วาระ โนวิคตปัจจัย มี ๑ วาระ ฯลฯนวิปากทุกนัย [๑๒๑] นเหตุปัจจัย กับนวิปากปัจจัย มี ๒ วาระ นอารัมมณปัจจัย มี ๕ วาระ นอธิปติปัจจัย มี ๙ วาระ นอนันตรปัจจัย มี ๕ วาระ นสมนันตรปัจจัย มี ๕ วาระ นอัญญมัญญปัจจัย มี ๕ วาระ นอุปนิสสยปัจจัย มี ๕ วาระ นปุเรชาตปัจจัย มี ๗ วาระ นปัจฉาชาตปัจจัย มี ๙ วาระ นอาเสวนปัจจัย มี ๙ วาระ นกัมมปัจจัย มี ๓ วาระ นอาหารปัจจัย มี ๑ วาระ นอินทรียปัจจัย มี ๑ วาระ นฌานปัจจัย มี ๑ วาระ นมัคคปัจจัย มี ๑ วาระ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า : ๖๔}
พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน]
๑. กุสลติกะ ๑. ปฏิจจวาร
นสัมปยุตตปัจจัย กับนวิปากปัจจัย มี ๕ วาระ นวิปปยุตตปัจจัย มี ๓ วาระ โนนัตถิปัจจัย มี ๕ วาระ โนวิคตปัจจัย มี ๕ วาระติกนัย [๑๒๒] นอารัมมณปัจจัย กับนวิปากปัจจัยและนเหตุปัจจัย มี ๑ วาระ นอธิปติปัจจัย มี ๒ วาระ นอนันตรปัจจัย มี ๑ วาระ นสมนันตรปัจจัย มี ๑ วาระ นอัญญมัญญปัจจัย มี ๑ วาระ นอุปนิสสยปัจจัย มี ๑ วาระ นปุเรชาตปัจจัย มี ๒ วาระ นปัจฉาชาตปัจจัย มี ๒ วาระ นอาเสวนปัจจัย มี ๒ วาระ นกัมมปัจจัย มี ๑ วาระ นอาหารปัจจัย มี ๑ วาระ นอินทรียปัจจัย มี ๑ วาระ นฌานปัจจัย มี ๑ วาระ นมัคคปัจจัย มี ๑ วาระ นสัมปยุตตปัจจัย มี ๑ วาระ นวิปปยุตตปัจจัย มี ๒ วาระ โนนัตถิปัจจัย มี ๑ วาระ โนวิคตปัจจัย มี ๑ วาระจตุกกนัย [๑๒๓] นอธิปติปัจจัย กับนวิปากปัจจัย นเหตุปัจจัย และนอารัมมณปัจจัย มี ๑ วาระ (ทุกปัจจัยมีปัจจัยละ ๑ วาระ) {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า : ๖๕}
พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน]
๑. กุสลติกะ ๑. ปฏิจจวาร
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ ฯลฯทุกนัยมีนอาหารปัจจัยเป็นต้น [๑๒๔] นเหตุปัจจัย กับนอาหารปัจจัย ฯลฯ นอินทรียปัจจัย ฯลฯ นฌานปัจจัย ฯลฯ นมัคคปัจจัย มี ๑ วาระ (ทุกปัจจัยมีปัจจัยละ ๑ วาระ) โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ ฯลฯนสัมปยุตตทุกนัย [๑๒๕] นเหตุปัจจัย กับนสัมปยุตตปัจจัย มี ๑ วาระ นอารัมมณปัจจัย มี ๕ วาระ (ปัจจัยนี้เหมือนกับนอารัมมณปัจจัย) โนวิคตปัจจัย มี ๕ วาระนวิปปยุตตทุกนัย [๑๒๖] นเหตุปัจจัย กับนวิปปยุตตปัจจัย มี ๒ วาระ นอารัมมณปัจจัย มี ๑ วาระ นอธิปติปัจจัย มี ๓ วาระ นอนันตรปัจจัย มี ๑ วาระ นสมนันตรปัจจัย มี ๑ วาระ นอัญญมัญญปัจจัย มี ๑ วาระ นอุปนิสสยปัจจัย มี ๑ วาระ นปุเรชาตปัจจัย มี ๓ วาระ นปัจฉาชาตปัจจัย มี ๓ วาระ นอาเสวนปัจจัย มี ๓ วาระ นกัมมปัจจัย มี ๓ วาระ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า : ๖๖}
พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน]
๑. กุสลติกะ ๑. ปฏิจจวาร
นวิปากปัจจัย กับนวิปปยุตตปัจจัย มี ๓ วาระ นอาหารปัจจัย มี ๑ วาระ นอินทรียปัจจัย มี ๑ วาระ นฌานปัจจัย มี ๑ วาระ นมัคคปัจจัย มี ๑ วาระ นสัมปยุตตปัจจัย มี ๑ วาระ โนนัตถิปัจจัย มี ๑ วาระ โนวิคตปัจจัย มี ๑ วาระติกนัย [๑๒๗] นอารัมมณปัจจัย กับนวิปปยุตตปัจจัยและนเหตุปัจจัย มี ๑ วาระ นอธิปติปัจจัย มี ๒ วาระ นอนันตรปัจจัย มี ๑ วาระ นสมนันตรปัจจัย มี ๑ วาระ นอัญญมัญญปัจจัย มี ๑ วาระ นอุปนิสสยปัจจัย มี ๑ วาระ นปุเรชาตปัจจัย มี ๒ วาระ นปัจฉาชาตปัจจัย มี ๒ วาระ นอาเสวนปัจจัย มี ๒ วาระ นกัมมปัจจัย มี ๑ วาระ นวิปากปัจจัย มี ๒ วาระ นอาหารปัจจัย มี ๑ วาระ นอินทรียปัจจัย มี ๑ วาระ นฌานปัจจัย มี ๑ วาระ นมัคคปัจจัย มี ๑ วาระ นสัมปยุตตปัจจัย มี ๑ วาระ โนนัตถิปัจจัย มี ๑ วาระ โนวิคตปัจจัย มี ๑ วาระ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า : ๖๗}
พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน]
๑. กุสลติกะ ๑. ปฏิจจวาร
จตุกกนัย [๑๒๘] นอธิปติปัจจัย กับนวิปปยุตตปัจจัย นเหตุปัจจัย และนอารัมมณปัจจัย มี ๑ วาระ นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ (ทุกปัจจัยมีปัจจัยละ ๑ วาระ) โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ ฯลฯโนนัตถิและโนวิคตทุกนัย [๑๒๙] นเหตุปัจจัย กับโนนัตถิปัจจัยและโนวิคตปัจจัย มี ๑ วาระ นอารัมมณปัจจัย มี ๕ วาระ นอธิปติปัจจัย มี ๕ วาระ นอนันตรปัจจัย มี ๕ วาระ นสมนันตรปัจจัย มี ๕ วาระ นอัญญมัญญปัจจัย มี ๕ วาระ นอุปนิสสยปัจจัย มี ๕ วาระ นปุเรชาตปัจจัย มี ๕ วาระ นปัจฉาชาตปัจจัย มี ๕ วาระ นอาเสวนปัจจัย มี ๕ วาระ นกัมมปัจจัย มี ๑ วาระ นวิปากปัจจัย มี ๕ วาระ นอาหารปัจจัย มี ๑ วาระ นอินทรียปัจจัย มี ๑ วาระ นฌานปัจจัย มี ๑ วาระ นมัคคปัจจัย มี ๑ วาระ นสัมปยุตตปัจจัย มี ๕ วาระ นวิปปยุตตปัจจัย มี ๑ วาระ โนนัตถิปัจจัย มี ๕ วาระ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า : ๖๘}
พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน]
๑. กุสลติกะ ๑. ปฏิจจวาร
ติกนัย [๑๓๐] นอารัมมณปัจจัย กับโนวิคตปัจจัยและนเหตุปัจจัย มี ๑ วาระ นอธิปติปัจจัย มี ๑ วาระ (ทุกปัจจัยมีปัจจัยละ ๑ วาระ) นวิปปยุตตปัจจัย มี ๑ วาระ โนนัตถิปัจจัย มี ๑ วาระ ฯลฯปัจจนียะ จบ เนื้อความพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาฯ เล่มที่ ๔๐ หน้าที่ ๔๕-๖๙. http://84000.org/tipitaka/english/m_siri.php?B=40&siri=28 ฟังเนื้อความพระไตรปิฎก : [1], [2], [3], [4], [5], [6], [7]. อ่านเทียบพระไตรปิฎกฉบับหลวง :- http://84000.org/tipitaka/english/v.php?B=40&A=930&Z=1498 ศึกษาอรรถกถานี้ได้ที่ :- http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=40&i=87 พระไตรปิฏกฉบับภาษาบาลีอักษรไทย :- http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/pali_item_s.php?book=40&item=87&items=46 อ่านอรรถกถาภาษาบาลีอักษรไทย :- http://84000.org/tipitaka/atthapali/read_th.php?B=55&A=10899 The Pali Tipitaka in Roman :- http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/roman_item_s.php?book=40&item=87&items=46 The Pali Atthakatha in Roman :- http://84000.org/tipitaka/atthapali/read_rm.php?B=55&A=10899 สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๔๐ http://84000.org/tipitaka/read/?index_mcu40
บันทึก ๓๑ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๙ บันทึกล่าสุด ๒๒ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๐ การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจากพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]