ขอนอบน้อมแด่
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
                      พระองค์นั้น
บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ
     ฉบับหลวง   ฉบับมหาจุฬาฯ   บาลีอักษรไทย   PaliRoman 
พระไตรปิฎกเล่มที่ ๔๒ พระอภิธรรมปิฎกเล่มที่ ๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ] มหาปัฏฐานปกรณ์ ภาค ๓
๒. สเหตุกทุกะ ๓. ปัจจยวาร
๑. ปัจจยานุโลม ๑. วิภังควาร
เหตุปัจจัย
[๗๒] สภาวธรรมที่มีเหตุทำสภาวธรรมที่มีเหตุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะเหตุ- ปัจจัย (บทที่มีสภาวธรรมที่มีเหตุเป็นมูล เหมือนกับปฏิจจวาร) สภาวธรรมที่ไม่มีเหตุทำสภาวธรรมที่ไม่มีเหตุ ฯลฯ (เหมือนกับปฏิจจวาร นั่นเอง) (๑) {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๒ หน้า : ๓๙}

พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ทุกปัฏฐาน]

๒. สเหตุกทุกะ ๓. ปัจจยวาร

สภาวธรรมที่มีเหตุทำสภาวธรรมที่ไม่มีเหตุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ที่มีเหตุทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ สัมปยุตตขันธ์ทำโมหะ ที่สหรคตด้วยวิจิกิจฉาและที่สหรคตด้วยอุทธัจจะให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ ใน ปฏิสนธิขณะ ฯลฯ ขันธ์ที่มีเหตุทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (๒) สภาวธรรมที่มีเหตุและที่ไม่มีเหตุทำสภาวธรรมที่ไม่มีเหตุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ที่มีเหตุทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ จิตต- สมุฏฐานรูปทำมหาภูตรูปให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ สัมปยุตตขันธ์และจิตต- สมุฏฐานรูปทำโมหะที่สหรคตด้วยวิจิกิจฉาและที่สหรคตด้วยอุทธัจจะให้เป็นปัจจัย เกิดขึ้น ฯลฯ ในปฏิสนธิขณะ ... ทำหทัยวัตถุ ฯลฯ (๓) [๗๓] สภาวธรรมที่มีเหตุทำสภาวธรรมที่มีเหตุและที่ไม่มีเหตุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ ทำขันธ์ ๑ ที่มีเหตุและทำหทัยวัตถุให้เป็น ปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ ทำขันธ์ ๒ ฯลฯ ขันธ์ ๓ ทำขันธ์ ๑ และโมหะที่สหรคตด้วย วิจิกิจฉาและที่สหรคตด้วยอุทธัจจะให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ ทำขันธ์ ๒ ฯลฯ ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ (๑) สภาวธรรมที่ไม่มีเหตุทำสภาวธรรมที่มีเหตุและที่ไม่มีเหตุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ จิตตสมุฏฐานรูปทำขันธ์ที่มีเหตุและทำมหาภูตรูปให้เป็น ปัจจัยเกิดขึ้น จิตตสมุฏฐานรูปทำขันธ์และโมหะที่สหรคตด้วยวิจิกิจฉาและที่สหรคต ด้วยอุทธัจจะให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ (๒) สภาวธรรมที่มีเหตุและที่ไม่มีเหตุทำสภาวธรรมที่มีเหตุและที่ไม่มีเหตุให้เป็นปัจจัย เกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ ทำขันธ์ ๑ ที่มีเหตุและทำหทัยวัตถุให้ เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ ทำขันธ์ ๒ ฯลฯ จิตตสมุฏฐานรูปทำขันธ์ที่มีเหตุและทำ มหาภูตรูปให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ขันธ์ ๓ และจิตตสมุฏฐานรูปทำขันธ์ ๑ และ โมหะที่สหรคตด้วยวิจิกิจฉาและที่สหรคตด้วยอุทธัจจะให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ ทำ ขันธ์ ๒ ฯลฯ ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๓ ทำขันธ์ ๑ ที่มีเหตุและทำหทัยวัตถุให้เป็น ปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ ทำขันธ์ ๒ ฯลฯ กฏัตตารูปทำขันธ์ที่มีเหตุและทำมหาภูตรูป ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (๓) {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๒ หน้า : ๔๐}

พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ทุกปัฏฐาน]

๒. สเหตุกทุกะ ๓. ปัจจยวาร

อารัมมณปัจจัย
[๗๔] สภาวธรรมที่มีเหตุทำสภาวธรรมที่มีเหตุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะ อารัมมณปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ ทำขันธ์ ๑ ที่มีเหตุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ (๑) สภาวธรรมที่ไม่มีเหตุทำสภาวธรรมที่มีเหตุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นพราะอารัมมณ- ปัจจัย ได้แก่ โมหะที่สหรคตด้วยวิจิกิจฉาและที่สหรคตด้วยอุทธัจจะทำขันธ์ที่ สหรคตด้วยวิจิกิจฉาและที่สหรคตด้วยอุทธัจจะให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (๒) สภาวธรรมที่มีเหตุและที่ไม่มีเหตุทำสภาวธรรมที่มีเหตุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะ อารัมมณปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ และโมหะทำขันธ์ ๑ ที่สหรคตด้วยวิจิกิจฉาและที่ สหรคตด้วยอุทธัจจะให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ ทำขันธ์ ๒ ฯลฯ (๓) [๗๕] สภาวธรรมที่ไม่มีเหตุทำสภาวธรรมที่ไม่มีเหตุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะ อารัมมณปัจจัย ได้แก่ ... ทำขันธ์ ๑ ที่ไม่มีเหตุ ฯลฯ ทำขันธ์ ๒ ฯลฯ ใน ปฏิสนธิขณะ ขันธ์ทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น จักขุวิญญาณทำจักขายตนะให้ เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ กายวิญญาณทำกายายตนะให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ที่ไม่มีเหตุทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (๑) สภาวธรรมที่มีเหตุทำสภาวธรรมที่ไม่มีเหตุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะอารัมมณ- ปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ที่มีเหตุทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ สัมปยุตตขันธ์ ทำโมหะที่สหรคตด้วยวิจิกิจฉาและที่สหรคตด้วยอุทธัจจะให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ (๒) สภาวธรรมที่มีเหตุและที่ไม่มีเหตุทำสภาวธรรมที่ไม่มีเหตุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น เพราะอารัมมณปัจจัย ได้แก่ ขันธ์และโมหะที่สหรคตด้วยวิจิกิจฉาและที่สหรคต ด้วยอุทธัจจะทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (๓) [๗๖] สภาวธรรมที่มีเหตุทำสภาวธรรมที่มีเหตุและที่ไม่มีเหตุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น เพราะอารัมมณปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ ทำขันธ์ ๑ ที่มีเหตุและทำหทัยวัตถุให้เป็น ปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๓ ทำขันธ์ ๑ และโมหะที่สหรคตด้วยวิจิกิจฉาและที่สหรคต ด้วยอุทธัจจะให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ ทำขันธ์ ๒ ฯลฯ ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ (๑) {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๒ หน้า : ๔๑}

พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ทุกปัฏฐาน]

๒. สเหตุกทุกะ ๓. ปัจจยวาร

สภาวธรรมที่ไม่มีเหตุทำสภาวธรรมที่มีเหตุและที่ไม่มีเหตุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น เพราะอารัมมณปัจจัย ได้แก่ โมหะที่สหรคตด้วยวิจิกิจฉาและที่สหรคตด้วยอุทธัจจะ ทำขันธ์ที่สหรคตด้วยวิจิกิจฉาและที่สหรคตด้วยอุทธัจจะ และทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัย เกิดขึ้น (๒) สภาวธรรมที่มีเหตุและที่ไม่มีเหตุทำสภาวธรรมที่มีเหตุและที่ไม่มีเหตุให้เป็นปัจจัย เกิดขึ้นเพราะอารัมมณปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ และโมหะทำขันธ์ ๑ ที่สหรคตด้วย วิจิกิจฉาและที่สหรคตด้วยอุทธัจจะ และทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๒ และโมหะทำขันธ์ ๒ ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (๓)
อธิปติปัจจัย
[๗๗] สภาวธรรมที่มีเหตุทำสภาวธรรมที่มีเหตุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะ อธิปติปัจจัย (อธิปติปัจจัย มี ๙ วาระ เฉพาะปวัตติกาลเท่านั้น)
อนันตรปัจจัยเป็นต้น
[๗๘] สภาวธรรมที่มีเหตุทำสภาวธรรมที่มีเหตุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะ อนันตรปัจจัย เพราะสมนันตรปัจจัย เพราะสหชาตปัจจัย มี ๓ วาระ (เหมือนกับ ปฏิจจวาร) สภาวธรรมที่ไม่มีเหตุทำสภาวธรรมที่ไม่มีเหตุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะสหชาต- ปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ และจิตตสมุฏฐานรูปทำขันธ์ ๑ ที่ไม่มีเหตุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ ทำขันธ์ ๒ ฯลฯ ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ (พึงเพิ่มข้อความจนถึงอสัญญสัตต- พรหม) จักขุวิญญาณทำจักขายตนะให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ กายวิญญาณทำ กายายตนะให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ขันธ์ที่ไม่มีเหตุทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (๑) สภาวธรรมที่มีเหตุทำสภาวธรรมที่ไม่มีเหตุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะสหชาต- ปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ที่มีเหตุทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น สัมปยุตตขันธ์ทำโมหะ ที่สหรคตด้วยวิจิกิจฉาและที่สหรคตด้วยอุทธัจจะให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ในปฏิสนธิ- ขณะ ฯลฯ (๒) {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๒ หน้า : ๔๒}

พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ทุกปัฏฐาน]

๒. สเหตุกทุกะ ๓. ปัจจยวาร

สภาวธรรมที่มีเหตุและที่ไม่มีเหตุทำสภาวธรรมที่ไม่มีเหตุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น เพราะสหชาตปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ที่มีเหตุทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ จิตตสมุฏฐานรูปทำมหาภูตรูปให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น สัมปยุตตขันธ์และจิตตสมุฏฐาน- รูปทำโมหะที่สหรคตด้วยวิจิกิจฉาและที่สหรคตด้วยอุทธัจจะให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ใน ปฏิสนธิขณะ ... ทำหทัยวัตถุ ฯลฯ (๓) [๗๙] สภาวธรรมที่มีเหตุทำสภาวธรรมที่มีเหตุและที่ไม่มีเหตุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น เพราะสหชาตปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ ทำขันธ์ ๑ ที่มีเหตุและทำหทัยวัตถุให้เป็น ปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ ทำขันธ์ ๒ ฯลฯ ขันธ์ ๓ ทำขันธ์ ๑ และโมหะที่สหรคตด้วย วิจิกิจฉาและที่สหรคตด้วยอุทธัจจะให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ ทำขันธ์ ๒ ฯลฯ ใน ปฏิสนธิขณะ ฯลฯ (๑) สภาวธรรมที่ไม่มีเหตุทำสภาวธรรมที่มีเหตุและที่ไม่มีเหตุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น เพราะสหชาตปัจจัย ได้แก่ จิตตสมุฏฐานรูปทำขันธ์ที่มีเหตุและทำมหาภูตรูปให้ เป็นปัจจัยเกิดขึ้น จิตตสมุฏฐานรูปทำขันธ์และโมหะที่สหรคตด้วยวิจิกิจฉาและที่ สหรคตด้วยอุทธัจจะให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ โมหะที่สหรคตด้วย วิจิกิจฉาและที่สหรคตด้วยอุทธัจจะทำขันธ์ที่สหรคตด้วยวิจิกิจฉาและที่สหรคตด้วย อุทธัจจะ และทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (๒) สภาวธรรมที่มีเหตุและที่ไม่มีเหตุทำสภาวธรรมที่มีเหตุและที่ไม่มีเหตุให้เป็นปัจจัย เกิดขึ้นเพราะสหชาตปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ ทำขันธ์ ๑ ที่มีเหตุและทำหทัยวัตถุให้ เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ ทำขันธ์ ๒ ฯลฯ จิตตสมุฏฐานรูปทำขันธ์ที่มีเหตุและ มหาภูตรูปให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ขันธ์ ๓ ทำขันธ์ ๑ ที่สหรคตด้วยวิจิกิจฉาและที่ สหรคตด้วยอุทธัจจะ และทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ ทำขันธ์ ๒ ฯลฯ จิตตสมุฏฐานรูปทำขันธ์ที่มีเหตุและทำมหาภูตรูปให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ขันธ์ ๓ และ จิตตสมุฏฐานรูปทำขันธ์ ๑ และโมหะที่สหรคตด้วยวิจิกิจฉาและที่สหรคตด้วย อุทธัจจะให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ ทำขันธ์ ๒ ฯลฯ ขันธ์ ๓ และโมหะทำขันธ์ ๑ ที่สหรคตด้วยวิจิกิจฉาและที่สหรคตด้วยอุทธัจจะและทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ ทำขันธ์ ๒ ฯลฯ ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๓ ทำขันธ์ ๑ ที่มีเหตุและทำ หทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ ทำขันธ์ ๒ ฯลฯ กฏัตตารูปทำขันธ์ที่มีเหตุและ มหาภูตรูปให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (๓) {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๒ หน้า : ๔๓}

พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ทุกปัฏฐาน]

๒. สเหตุกทุกะ ๓. ปัจจยวาร

อัญญมัญญปัจจัยเป็นต้น
[๘๐] สภาวธรรมที่มีเหตุทำสภาวธรรมที่มีเหตุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะ อัญญมัญญปัจจัย ฯลฯ เพราะอวิคตปัจจัย
๑. ปัจจยานุโลม ๒. สังขยาวาร
[๘๑] เหตุปัจจัย มี ๙ วาระ อารัมมณปัจจัย มี ๙ วาระ อธิปติปัจจัย มี ๙ วาระ (ทุกปัจจัยมีปัจจัยละ ๙ วาระ) อวิคตปัจจัย มี ๙ วาระ (พึงนับอย่างนี้)
อนุโลม จบ
๒. ปัจจยปัจจนียะ ๑. วิภังควาร
นเหตุปัจจัย
[๘๒] สภาวธรรมที่ไม่มีเหตุทำสภาวธรรมที่มีเหตุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะ นเหตุปัจจัย ได้แก่ โมหะที่สหรคตด้วยวิจิกิจฉาและที่สหรคตด้วยอุทธัจจะทำขันธ์ที่ สหรคตด้วยวิจิกิจฉาและที่สหรคตด้วยอุทธัจจะให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (๑) สภาวธรรมที่ไม่มีเหตุทำสภาวธรรมที่ไม่มีเหตุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะนเหตุ- ปัจจัย ได้แก่ ... ทำขันธ์ ๑ ที่ไม่มีเหตุ ฯลฯ ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ (พึงเพิ่ม ข้อความจนถึงอสัญญสัตตพรหม) จักขุวิญญาณทำจักขายตนะให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ กายวิญญาณทำกายายตนะให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ที่ไม่มีเหตุและ โมหะทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (๑) สภาวธรรมที่ไม่มีเหตุทำสภาวธรรมที่มีเหตุและที่ไม่มีเหตุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น เพราะนเหตุปัจจัย ได้แก่ โมหะที่สหรคตด้วยวิจิกิจฉาและที่สหรคตด้วยอุทธัจจะ ทำขันธ์ที่สหรคตด้วยวิจิกิจฉาและที่สหรคตด้วยอุทธัจจะ และทำหทัยวัตถุให้เป็น ปัจจัยเกิดขึ้น (ย่อ) (๑) {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๒ หน้า : ๔๔}

พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ทุกปัฏฐาน]

๒. สเหตุกทุกะ ๓. ปัจจยวาร

๒. ปัจจยปัจจนียะ ๒. สังขยาวาร
สุทธนัย
[๘๓] นเหตุปัจจัย มี ๓ วาระ นอารัมมณปัจจัย มี ๓ วาระ นอธิปติปัจจัย มี ๙ วาระ นอนันตรปัจจัย มี ๓ วาระ นสมนันตรปัจจัย มี ๓ วาระ นอัญญมัญญปัจจัย มี ๓ วาระ นอุปนิสสยปัจจัย มี ๓ วาระ นปุเรชาตปัจจัย มี ๙ วาระ นปัจฉาชาตปัจจัย มี ๙ วาระ นอาเสวนปัจจัย มี ๙ วาระ นกัมมปัจจัย มี ๔ วาระ นวิปากปัจจัย มี ๙ วาระ นอาหารปัจจัย มี ๑ วาระ นอินทรียปัจจัย มี ๑ วาระ นฌานปัจจัย มี ๑ วาระ นมัคคปัจจัย มี ๑ วาระ นสัมปยุตตปัจจัย มี ๓ วาระ นวิปปยุตตปัจจัย มี ๖ วาระ โนนัตถิปัจจัย มี ๓ วาระ โนวิคตปัจจัย มี ๓ วาระ (พึงนับอย่างนี้)
ปัจจนียะ จบ
๓. ปัจจยานุโลมปัจจนียะ
เหตุทุกนัย
[๘๔] นอารัมมณปัจจัย กับเหตุปัจจัย มี ๓ วาระ นอธิปติปัจจัย ” มี ๙ วาระ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๒ หน้า : ๔๕}

พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ทุกปัฏฐาน]

๒. สเหตุกทุกะ ๓. ปัจจยวาร

นอนันตรปัจจัย ” มี ๓ วาระ นสมนันตรปัจจัย ” มี ๓ วาระ นอัญญมัญญปัจจัย ” มี ๓ วาระ นอุปนิสสยปัจจัย ” มี ๓ วาระ นปุเรชาตปัจจัย ” มี ๙ วาระ นปัจฉาชาตปัจจัย ” มี ๙ วาระ นอาเสวนปัจจัย ” มี ๙ วาระ นกัมมปัจจัย ” มี ๓ วาระ นวิปากปัจจัย ” มี ๙ วาระ นสัมปยุตตปัจจัย ” มี ๓ วาระ นวิปปยุตตปัจจัย ” มี ๓ วาระ โนนัตถิปัจจัย ” มี ๓ วาระ โนวิคตปัจจัย ” มี ๓ วาระ (พึงนับอย่างนี้)
อนุโลมปัจจนียะ จบ
๔. ปัจจยปัจจนียานุโลม
นเหตุทุกนัย
[๘๕] อารัมมณปัจจัย กับนเหตุปัจจัย มี ๓ วาระ อนันตรปัจจัย ” มี ๓ วาระ ฯลฯ มัคคปัจจัย ” มี ๓ วาระ สัมปยุตตปัจจัย ” มี ๓ วาระ ฯลฯ อวิคตปัจจัย ” มี ๓ วาระ (พึงนับอย่างนี้)
ปัจจนียานุโลม จบ
(นิสสยวารเหมือนกับปัจจยวาร)
{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๒ หน้า : ๔๖}


                  เนื้อความพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาฯ เล่มที่ ๔๒ หน้าที่ ๓๙-๔๖. http://84000.org/tipitaka/english/m_siri.php?B=42&siri=4              ฟังเนื้อความพระไตรปิฎก : [1], [2], [3].                   อ่านเทียบพระไตรปิฎกฉบับหลวง :- http://84000.org/tipitaka/english/v.php?B=42&A=1109&Z=1289                   ศึกษาอรรถกถานี้ได้ที่ :- http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=42&i=59              พระไตรปิฏกฉบับภาษาบาลีอักษรไทย :- http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/pali_item_s.php?book=42&item=59&items=11              The Pali Tipitaka in Roman :- http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/roman_item_s.php?book=42&item=59&items=11                   สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๔๒ http://84000.org/tipitaka/read/?index_mcu42



บันทึก ๓๑ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๙ บันทึกล่าสุด ๒๒ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๐ การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจากพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]

สีพื้นหลัง :