บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ | |
| |
ฉบับหลวง ฉบับมหาจุฬาฯ บาลีอักษรไทย PaliRoman |
พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค [๒. เทวปุตตสังยุต]
๑. ปฐมวรรค ๘. ตายนสูตร
พราหมณ์ ท่านจงพยายามตัดกระแส๑- จงบรรเทากามเสียเถิด เพราะหากมุนีไม่ละกาม ย่อมเข้าถึงความมีจิตแน่วแน่๒- ไม่ได้ ถ้าบุคคลจะทำความเพียร พึงทำความเพียรนั้นจริงๆ พึงบากบั่นทำความเพียรนั้นให้มั่นคง เพราะว่าการบรรพชาที่ปฏิบัติย่อหย่อน ย่อมโปรยธุลีคือกิเลสให้แปดเปื้อนยิ่งขึ้น ความชั่วไม่ทำเสียเลยดีกว่า เพราะทำแล้วย่อมเดือดร้อนภายหลัง ความดีใดทำแล้วไม่เดือดร้อนภายหลัง ทำความดีนั้นดีกว่า หญ้าคาที่บุคคลจับไม่ดี ย่อมบาดมือแน่นอน ฉันใด ความเป็นสมณะที่บุคคลปฏิบัติไม่ดี ย่อมฉุดเข้าไปในนรก ฉันนั้น กรรมที่ย่อหย่อนอย่างใดอย่างหนึ่ง วัตรที่เศร้าหมอง และพรหมจรรย์ที่พึงระลึกถึงด้วยความระแวงสงสัย ทั้ง ๓ นั้นไม่มีผลมาก๓- ตายนเทพบุตรครั้นกล่าวดังนี้แล้ว ได้ถวายอภิวาทพระผู้มีพระภาค กระทำ ประทักษิณแล้วหายตัวไป ณ ที่นั้นเอง @เชิงอรรถ : @๑ กระแส ในที่นี้หมายถึงกระแสแห่งตัณหา (สํ.ส.อ. ๑/๘๙/๑๐๓) @๒ ความมีจิตแน่วแน่ หมายถึงฌาน (สํ.ส.อ. ๑/๘๙/๑๐๓) @๓ ดู ขุ.ธ. ๒๕/๓๑๑-๓๑๔/๗๐-๗๑ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๑๕ หน้า : ๙๔}
พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค [๒. เทวปุตตสังยุต]
๑. ปฐมวรรค ๘. ตายนสูตร
ครั้นเมื่อราตรีนั้นล่วงไปแล้ว พระผู้มีพระภาครับสั่งเรียกภิกษุทั้งหลายมาตรัสว่า ภิกษุทั้งหลาย เมื่อคืนนี้ ตายนเทพบุตรผู้เคยเป็นเจ้าลัทธิมาก่อน มีวรรณะงดงาม ยิ่งนัก เมื่อราตรีผ่านไป เปล่งรัศมีให้สว่างทั่วพระเชตวัน เข้ามาหาเราถึงที่อยู่ อภิวาท แล้วยืนอยู่ ณ ที่สมควร ได้กล่าวคาถานี้ในสำนักของเราว่า พราหมณ์ ท่านจงพยายามตัดกระแส จงบรรเทากามเสียเถิด เพราะหากมุนีไม่ละกาม ย่อมเข้าถึงความมีจิตแน่วแน่ไม่ได้ ถ้าบุคคลจะทำความเพียร พึงทำความเพียรนั้นจริงๆ พึงบากบั่นทำความเพียรนั้นให้มั่นคง เพราะว่าการบรรพชาที่ปฏิบัติย่อหย่อน ย่อมโปรยธุลีคือกิเลสให้แปดเปื้อนยิ่งขึ้น ความชั่วไม่ทำเสียเลยดีกว่า เพราะทำแล้วย่อมเดือดร้อนภายหลัง ความดีใดทำแล้วไม่เดือดร้อนภายหลัง ทำความดีนั้นดีกว่า หญ้าคาที่บุคคลจับไม่ดี ย่อมบาดมือแน่นอน ฉันใด ความเป็นสมณะที่บุคคลปฏิบัติไม่ดี ย่อมฉุดเข้าไปในนรก ฉันนั้น กรรมที่ย่อหย่อนอย่างใดอย่างหนึ่ง วัตรที่เศร้าหมอง และพรหมจรรย์ที่พึงระลึกถึงด้วยความระแวงสงสัย ทั้ง ๓ นั้นไม่มีผลมาก ตายนเทพบุตรครั้นกล่าวดังนี้แล้วได้อภิวาทเรา กระทำประทักษิณแล้วหาย ตัวไป ณ ที่นั้นเอง เธอทั้งหลาย จงศึกษา เล่าเรียน ทรงจำตายนคาถาไว้ ภิกษุ ทั้งหลาย ตายนคาถาประกอบด้วยประโยชน์ เป็นเบื้องต้นแห่งพรหมจรรย์๑-ตายนสูตรที่ ๘ จบ @เชิงอรรถ : @๑ พรหมจรรย์ หมายถึงมรรคพรหมจรรย์ (สํ.ส.อ. ๑/๘๙/๑๐๓) {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๑๕ หน้า : ๙๕}
เนื้อความพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาฯ เล่มที่ ๑๕ หน้าที่ ๙๔-๙๕. http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/m_read.php?B=15&A=2463&w= http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/m_siri.php?B=15&siri=89 ฟังเนื้อความพระไตรปิฎก : [คลิกเพื่อฟัง] อ่านเทียบพระไตรปิฎกฉบับหลวง :- http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=15&A=1505&Z=1552&pagebreak=0 ศึกษาอรรถกถานี้ได้ที่ :- http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=15&i=238 ศึกษาพระไตรปิฏกฉบับภาษาบาลี อักษรไทย :- http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/pali_item_s.php?book=15&item=238&items=3 ศึกษาพระไตรปิฏกฉบับภาษาบาลี อักษรโรมัน :- http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/roman_item_s.php?book=15&item=238&items=3 สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ http://84000.org/tipitaka/read/?index_mcu15
บันทึก ๕ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๙. การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจาก พระไตรปิฎก ฉบับมหาจุฬาฯ. หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]