ขอนอบน้อมแด่
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
                      พระองค์นั้น
บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ
     ฉบับหลวง   ฉบับมหาจุฬาฯ   บาลีอักษรไทย   PaliRoman 
อ่านหน้า[ต่าง] แรกอ่านหน้า[ต่าง] ที่แล้วแสดงหมายเลขหน้า
ในกรณี :- 
   บรรทัดแรกชองแต่ละหน้าอ่านหน้า[ต่าง] ถัดไปอ่านหน้า[ต่าง] สุดท้าย
พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๘ ขุททกนิกาย วิมาน-เปตวัตถุ เถร-เถรีคาถา
เถรีคาถา เอกาทสกนิบาต
ว่าด้วยคาถาสุภาษิต ในเอกาทสกนิบาต
กีสาโคตมีเถรีคาถา
คาถาสุภาษิตของนางกีสาโคตมีเถรี
[๔๖๔] นักปราชญ์กล่าวสรรเสริญ ความเป็นผู้มีกัลยาณมิตรไว้เฉพาะในโลกว่า บุคคลผู้คบกัลยาณมิตร ถึงแม้จะเป็นพาลก็พึงเป็นบัณฑิตได้บ้าง ควร คบสัตบุรุษ เพราะปัญญาย่อมเจริญแก่บุคคลผู้คบสัตบุรุษโดยแท้ คน ทุกคนมีกษัตริย์เป็นต้น เมื่อคบสัตบุรุษทั้งหลาย พึงพ้นจากทุกข์แม้ ทั้งปวงได้ และพึงรู้แจ้งอริยสัจ ๔ คือ ทุกข์ ๑ เหตุให้เกิดทุกข์ ๑ ความดับทุกข์ ๑ อัฏฐังคิกมรรค ๑ พระพุทธเจ้าผู้เป็นสารถี ฝึกบุรุษผู้ ควรฝึก ได้ตรัสไว้ว่า ความเป็นหญิง เป็นเหตุนำมาซึ่งทุกข์ เพราะว่า การอยู่ร่วมกับหญิงร่วมสามีกันก็ดี การคลอดบุตรก็มี เป็นทุกข์ทั้งนั้น หญิงบางพวกคลอดบุตรครั้งแรก อดกลั้นทุกข์อันเกิดขึ้นเพราะการคลอด บุตรไม่ไหวจึงตัดคอตนเองเสียก็มี พวกหญิงที่เจริญด้วยความสุขพากัน กินยาพิษก็มี เด็กตายในครรภ์ก็มี คนทั้งสองคือเด็กอยู่ในครรภ์และ มารดาผู้มีครรภ์ ย่อมได้รับความพินาศ เราเดินทางในเวลาจวนคลอด ได้เห็นสามีตายแล้ว ยังไม่ทันถึงเรือนของตน ก็คลอดบุตรกลางทาง บุตรทั้งสองคนก็ตาย และสามีก็ตายในหนทาง มารดาบิดาและพี่ชาย ของเราผู้กำพร้า อันเขาเผาอยู่บนเชิงตะกอนเดียวกัน เมื่อสิ้นสกุลแล้ว เป็นกำพร้า ท่านเสวยทุกข์ หาประมาณมิได้ ก็น้ำตาของท่านไหลออก แล้ว หลายพันชาติ เราเห็นท่านและเนื้อบุตรของท่าน อันสัตว์มีสุนัข เป็นต้นกัดกินแล้ว ที่กลางป่าช้า เรามีวงศ์สกุลอันฉิบหายแล้ว เป็นผู้อัน ชนทั้งปวงติเตียน สามีตายแล้ว ได้บรรลุอมตธรรม อริยมรรคอัน ประกอบด้วยองค์ ๘ เป็นที่ให้ถึงอมตธรรม เราได้เจริญแล้ว แม้นิพพาน เราก็ได้ทำให้แจ้งแล้ว เราได้เห็นแว่นธรรมแล้ว เราเป็นผู้มีลูกศรอันตัด แล้ว ปลงภาระลงแล้ว กิจที่ควรทำเราได้ทำเสร็จแล้ว พระกีสาโคตมี เถรีเป็นผู้มีจิตหลุดพ้นดีแล้ว ได้กล่าวเนื้อความนี้ ดังนี้แล.
จบ เอกาทสกนิบาต.
-----------------------------------------------------

             เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๖ บรรทัดที่ ๙๕๐๗-๙๕๓๕ หน้าที่ ๔๑๒-๔๑๓. https://84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=26&A=9507&Z=9535&pagebreak=0 https://84000.org/tipitaka/pitaka_item/r.php?B=26&A=9507&pagebreak=0              ฟังเนื้อความพระไตรปิฎก : [คลิกเพื่อฟัง]              อ่านเทียบพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาฯ :- https://84000.org/tipitaka/read/m_siri.php?B=26&siri=464              ศึกษาอรรถกถาได้ที่ :- https://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=26&i=464              พระไตรปิฏกฉบับภาษาบาลีอักษรไทย :- https://84000.org/tipitaka/read/pali_read.php?B=26&A=9540              อ่านอรรถกถาภาษาบาลีอักษรไทย :- https://84000.org/tipitaka/atthapali/read_th.php?B=34&A=4766              The Pali Tipitaka in Roman :- https://84000.org/tipitaka/read/roman_read.php?B=26&A=9540              The Pali Atthakatha in Roman :- https://84000.org/tipitaka/atthapali/read_rm.php?B=34&A=4766              สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ https://84000.org/tipitaka/read/?index_26              อ่านเทียบฉบับแปลอังกฤษ Compare with English Translation :- https://accesstoinsight.org/ati/tipitaka/kn/thig/thig.10.01.than.html https://accesstoinsight.org/ati/tipitaka/kn/thig/thig.10.01.hekh.html https://suttacentral.net/thig10.1/en/sujato https://suttacentral.net/thig10.1/en/thanissaro

อ่านหน้า[ต่าง] แรกอ่านหน้า[ต่าง] ที่แล้วแสดงหมายเลขหน้า
ในกรณี :- 
   บรรทัดแรกชองแต่ละหน้าอ่านหน้า[ต่าง] ถัดไปอ่านหน้า[ต่าง] สุดท้าย

บันทึก ๒๖ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๔๖. บันทึก ๓๐ มกราคม พ.ศ. ๒๕๔๙. บันทึกล่าสุด ๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๐. การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจากพระไตรปิฎกฉบับหลวง. หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]