บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ | |
วิชชมานาวิชชมานวาร [๑๐๙๕] ในกามธาตุ ในขณะที่เกิด ขันธ์เท่าไร ย่อมเกิด ปรากฏ ฯลฯ จิตเท่าไร ย่อมเกิดปรากฏ ในกามธาตุ ในขณะที่เกิด ขันธ์ ๕ ย่อมเกิดปรากฏแก่สัตว์ทุกจำพวก อายตนะ ๑๑ ย่อมเกิดแก่สัตว์บางพวก อายตนะ ๑๐ ย่อมเกิดแก่สัตว์ บางพวก อายตนะ ๑๐ เหล่าอื่นอีก ย่อมเกิดปรากฏแก่สัตว์บางพวก อายตนะ ๙ ย่อมเกิดปรากฏแก่สัตว์บางพวก อายตนะ ๗ ย่อมเกิดปรากฏแก่สัตว์บางพวก ธาตุ ๑๑ ย่อมเกิดปรากฏแก่สัตว์บางพวก ธาตุ ๑๐ ย่อมเกิดปรากฏแก่ สัตว์บางพวก ธาตุ ๑๐ เหล่าอื่นอีก ย่อมเกิดปรากฏแก่สัตว์บางพวก ธาตุ ๙ ย่อมเกิดปรากฏแก่สัตว์บางพวก สัจจะ ๑ ย่อมเกิดปรากฏแก่สัตว์ทุกจำพวก อินทรีย์ ๑๔ ย่อมเกิดปรากฏแก่สัตว์บางพวก อินทรีย์ ๑๓ ย่อมเกิดปรากฏ แก่สัตว์บางพวก อินทรีย์ ๑๓ เหล่าอื่นอีก ย่อมเกิดปรากฏแก่สัตว์บางพวก อินทรีย์ ๑๒ ย่อมเกิดปรากฏแก่สัตว์บางพวก อินทรีย์ ๑๐ ย่อมเกิดปรากฏแก่สัตว์ บางพวก อินทรีย์ ๙ ย่อมเกิดปรากฏแก่สัตว์บางพวก อินทรีย์ ๙ เหล่าอื่นอีก ย่อมเกิดปรากฏแก่สัตว์บางพวก อินทรีย์ ๙ เหล่าอื่นอีก ย่อมเกิดปรากฏแก่ สัตว์บางพวก อินทรีย์ ๘ ย่อมเกิดปรากฏแก่สัตว์บางพวก อินทรีย์ ๘ เหล่าอื่นอีก ย่อมเกิดปรากฏแก่สัตว์บางพวก อินทรีย์ ๗ ย่อมเกิดปรากฏแก่สัตว์บางพวก อินทรีย์ ๕ ย่อมเกิดปรากฏแก่สัตว์บางพวก อินทรีย์ ๔ ย่อมเกิดปรากฏแก่สัตว์ บางพวก เหตุ ๓ ย่อมเกิดปรากฏแก่สัตว์บางพวก เหตุ ๒ ย่อมเกิดปรากฏแก่สัตว์ บางพวก อเหตุกวิบากบางเหล่า ย่อมเกิดปรากฏ อาหาร ๔ ย่อมเกิดปรากฏแก่สัตว์ทุกจำพวก ผัสสะ ๑ ย่อมเกิดปรากฏแก่สัตว์ทุกจำพวก เวทนา ๑ สัญญา ๑ เจตนา ๑ จิต ๑ ย่อมเกิดปรากฏแก่สัตว์ทุกจำพวก [๑๐๙๖] ในกามธาตุ ในขณะที่เกิด ขันธ์ ๕ เหล่าไหนย่อม เกิดปรากฏแก่สัตว์ทุกจำพวก คือ รูปขันธ์ ฯลฯ วิญญาณขันธ์ ในกามธาตุ ในขณะที่เกิด ขันธ์ ๕ เหล่านี้ ย่อมเกิดปรากฏแก่สัตว์ทุกจำพวก ในกามธาตุ ในขณะที่เกิด อายตนะ ๑๑ ย่อมเกิดปรากฏแก่ สัตว์จำพวกไหน ในขณะที่เกิด อายตนะ ๑๑ คือ จักขายตนะ รูปายตนะ โสตายตนะ ฆานายตนะ คันธายตนะ ชิวหายตนะ รสายตนะ กายายตนะ โผฏฐัพพายตนะ มนายตนะ ธัมมายตนะ ย่อมเกิดปรากฏแก่กามาวจรเทวดา มนุษย์สมัยปฐมกัป เปรต อสุรกาย สัตว์ดิรัจฉาน สัตว์นรก ที่เป็นอุปปาติกสัตว์ ซึ่งมีอายตนะ บริบูรณ์ ในกามธาตุ ในขณะที่เกิดอายตนะ ๑๑ เหล่านี้ ย่อมเกิดปรากฏแก่สัตว์ เหล่านี้ ในกามธาตุ ในขณะที่เกิด อายตนะ ๑๐ ย่อมเกิดปรากฏแก่ สัตว์จำพวกไหน ในขณะที่เกิด อายตนะ ๑๐ คือ รูปายตนะ โสตายตนะ ฆานายตนะ คันธายตนะ ชิวหายตนะ รสายตนะ กายายตนะ โผฏฐัพพายตนะ มนายตนะ ธัมมายตนะ ย่อมเกิดปรากฏแก่เปรต อสุรกาย สัตว์ดิรัจฉาน สัตว์นรก ที่เป็น อุปปาติกสัตว์ ซึ่งตาบอดมาแต่กำเนิดในกามธาตุ ในขณะที่เกิด อายตนะ ๑๐ เหล่านี้ ย่อมเกิดปรากฏแก่สัตว์เหล่านี้ ในกามธาตุ ในขณะที่เกิด อายตนะ ๑๐ เหล่าอื่นอีก ย่อม เกิดปรากฏแก่สัตว์จำพวกไหน ในขณะที่เกิด อายตนะ ๑๐ คือ จักขายตนะ รูปายตนะ ฆานายตนะ คันธายตนะ ชิวหายตนะ รสายตนะ กายายตนะ โผฏฐัพพายตนะ มนายตนะ ธัมมายตนะ ย่อมเกิดปรากฏแก่เปรต อสุรกาย สัตว์ดิรัจฉาน สัตว์นรก ที่เป็น อุปปาติกสัตว์ ซึ่งหูหนวกมาแต่กำเนิด ในกามธาตุ ในขณะที่เกิด อายตนะ ๑๐ เหล่านี้ ย่อมเกิดปรากฏแก่สัตว์เหล่านี้ ในกามธาตุ ในขณะที่เกิด อายตนะ ๙ ย่อมเกิดปรากฏแก่ แก่สัตว์จำพวกไหน ในขณะที่เกิด อายตนะ ๙ คือ รูปายตนะ ฆานายตนะ คันธายตนะ ชิวหายตนะ รสายตนะ กายายตนะ โผฏฐัพพายตนะ มนายตนะ ธัมมายตนะ ย่อมเกิดปรากฏแก่เปรต อสุรกาย สัตว์ดิรัจฉาน สัตว์นรก ที่เป็นอุปปาติกสัตว์ ซึ่งตาบอดและหูหนวกมาแต่กำเนิด ในกามธาตุ ในขณะที่เกิด อายตนะ ๙ เหล่านี้ ย่อมเกิดปรากฏแก่สัตว์เหล่านี้ ในกามธาตุ ในขณะที่เกิด อายตนะ ๗ ย่อมเกิดปรากฏแก่ สัตว์จำพวกไหน ในขณะที่เกิด อายตนะ ๗ คือ รูปายตนะ คันธายตนะ รสายตนะ กายายตนะ โผฏฐัพพายตนะ มนายตนะ ธัมมายตนะ ย่อมเกิดปรากฏแก่ คัพภไสยกสัตว์ ในกามธาตุ ในขณะที่เกิด อายตนะ ๗ เหล่านี้ ย่อมเกิดปรากฏ แก่สัตว์เหล่านี้ ในกามธาตุ ในขณะที่เกิด ธาตุ ๑๑ ย่อมเกิดปรากฏแก่สัตว์ จำพวกไหน ในขณะที่เกิด ธาตุ ๑๑ คือ จักขุธาตุ รูปธาตุ โสตธาตุ ฆานธาตุ คันธธาตุ ชิวหาธาตุ รสธาตุ กายธาตุ โผฏฐัพพธาตุ มโนวิญญาณธาตุ ธัมมธาตุ ย่อมเกิดปรากฏแก่กามาวจรเทวดา มนุษย์สมัยปฐมกัป เปรต อสุรกาย สัตว์ดิรัจฉาน สัตว์นรก ที่เป็นอุปปาติกสัตว์ ซึ่งมีอายตนะบริบูรณ์ ในกามธาตุ ในขณะที่เกิด ธาตุ ๑๑ เหล่านี้ ย่อมเกิดปรากฏแก่สัตว์เหล่านี้ ในกามธาตุ ในขณะที่เกิด ธาตุ ๑๐ ย่อมเกิดปรากฏแก่สัตว์ จำพวกไหน ในขณะที่เกิด ธาตุ ๑๐ คือ รูปธาตุ โสตธาตุ ฆานธาตุ คันธธาตุ ชิวหาธาตุ รสธาตุ กายธาตุ โผฏฐัพพธาตุ มโนวิญญาณธาตุ ธัมมธาตุ ย่อม เกิดปรากฏแก่เปรต อสุรกาย สัตว์ดิรัจฉาน สัตว์นรก ที่เป็นอุปปาติกสัตว์ ซึ่งตาบอดมาแต่กำเนิด ในกามธาตุ ในขณะที่เกิด ธาตุ ๑๐ เหล่านี้ ย่อมเกิด ปรากฏแก่สัตว์เหล่านี้ ในกามธาตุ ในขณะที่เกิด ธาตุ ๑๐ เหล่าอื่นอีก ย่อมเกิด ปรากฏแก่สัตว์จำพวกไหน ในขณะที่เกิด ธาตุ ๑๐ คือ จักขุธาตุ รูปธาตุ ฆานธาตุ คันธธาตุ ชิวหาธาตุ รสธาตุ กายธาตุ โผฏฐัพพธาตุ มโนวิญญาณธาตุ ธัมมธาตุ ย่อมเกิด ปรากฏแก่เปรต อสุรกาย สัตว์ดิรัจฉาน สัตว์นรกที่เป็นอุปปาติกสัตว์ ซึ่งหูหนวก มาแต่กำเนิด ในกามธาตุ ในขณะที่เกิด ธาตุ ๑๐ เหล่านั้น ย่อมเกิดปรากฏแก่สัตว์ เหล่านี้ ในกามธาตุ ในขณะที่เกิด ธาตุ ๙ ย่อมเกิดปรากฏแก่สัตว์ จำพวกไหน ในขณะที่เกิด ธาตุ ๙ คือ รูปธาตุ ฆานธาตุ คันธธาตุ ชิวหาธาตุ กายธาตุ โผฏฐัพพธาตุ มโนวิญญาณธาตุ ธัมมธาตุ ย่อมเกิดปรากฏแก่เปรต อสุรกาย สัตว์ดิรัจฉาน สัตว์นรก ที่เป็นอุปปาติกสัตว์ ซึ่งตาบอดและหูหนวก มาแต่กำเนิด ในกามธาตุ ในขณะที่เกิด ธาตุ ๙ เหล่านี้ ย่อมเกิดปรากฏแก่สัตว์ เหล่านี้ ในกามธาตุ ในขณะที่เกิด ธาตุ ๗ ย่อมเกิดปรากฏแก่สัตว์ จำพวกไหน ในขณะที่เกิด ธาตุ ๗ คือ รูปธาตุ คันธธาตุ รสธาตุ กายธาตุ โผฏฐัพพธาตุ มโนวิญญาณธาตุ ธัมมธาตุ ย่อมเกิดปรากฏแก่คัพภไสยกสัตว์ ในกามธาตุ ในขณะที่เกิด ธาตุ ๗ เหล่านี้ ย่อมเกิดปรากฏแก่สัตว์เหล่านี้ ในกามธาตุ ในขณะที่เกิด สัจจะ ๑ อย่างไหน ย่อมเกิด ปรากฏแก่สัตว์ทุกจำพวก คือ ทุกขสัจจะ ในกามธาตุ ในขณะที่เกิด สัจจะ ๑ นี้ ย่อมเกิด ปรากฏแก่สัตว์เหล่านี้ ในกามธาตุ ในขณะที่เกิด อินทรีย์ ๑๔ ย่อมเกิดปรากฏ แก่สัตว์จำพวกไหน ในขณะที่เกิด อินทรีย์ ๑๔ คือ จักขุนทรีย์ โสตินทรีย์ ฆานินทรีย์ ชิวหินทรีย์ กายินทรีย์ มนินทรีย์ อิตถินทรีย์หรือปุริสินทรีย์ ชีวิตินทรีย์ โสมนัสสินทรีย์หรืออุเปกขินทรีย์ สัทธินทรีย์ วิริยินทรีย์ สตินทรีย์ สมาธินทรีย์ ปัญญินทรีย์ ย่อมเกิดปรากฏแก่กามาวจรเทวดา ผู้เป็นสเหตุกญาณสัมปยุต ใน กามธาตุ ในขณะที่เกิด อินทรีย์ ๑๔ เหล่านี้ ย่อมเกิดปรากฏแก่สัตว์เหล่านี้ ในกามธาตุ ในขณะที่เกิด อินทรีย์ ๑๓ ย่อมเกิดปรากฏแก่สัตว์ จำพวกไหน ในขณะที่เกิด อินทรีย์ ๑๓ คือ จักขุนทรีย์ โสตินทรีย์ ฆานินทรีย์ ชิวหินทรีย์ กายินทรีย์ มนินทรีย์ อิตถินทรีย์หรือปุริสินทรีย์ ชีวิตินทรีย์ โสมนัสสินทรีย์หรืออุเปกขินทรีย์ สัทธินทรีย์ วิริยินทรีย์ สตินทรีย์ สมาธินทรีย์ ย่อมเกิดปรากฏแก่กามาวจรเทวดา ผู้เป็นสเหตุกญาณวิปปยุต ในกามธาตุ ใน ขณะที่เกิด อินทรีย์ ๑๓ เหล่านี้ ย่อมเกิดปรากฏแก่สัตว์เหล่านี้ ในกามธาตุ ในขณะที่เกิด อินทรีย์ ๑๓ เหล่าอื่นอีก ย่อมเกิด ปรากฏแก่สัตว์จำพวกไหน ในขณะที่เกิด อินทรีย์ ๑๓ คือ จักขุนทรีย์ โสตินทรีย์ ฆานินทรีย์ ชิวหินทรีย์ กายินทรีย์ มนินทรีย์ โสมนัสสินทรีย์หรืออุเปกขินทรีย์ สัทธินทรีย์ วิริยินทรีย์ สตินทรีย์ ปัญญินทรีย์ ย่อมเกิดปรากฏแก่มนุษย์สมัยปฐมกัป ผู้เป็นสเหตุกญาณสัมปยุต ในกามธาตุ ในขณะที่เกิด อินทรีย์ ๑๓ เหล่านี้ ย่อมเกิดปรากฏแก่สัตว์เหล่านี้ ในกามธาตุ ในขณะที่เกิด อินทรีย์ ๑๒ ย่อมเกิดปรากฏแก่ สัตว์จำพวกไหน ในขณะที่เกิด อินทรีย์ ๑๒ คือ จักขุนทรีย์ โสตินทรีย์ ฆานินทรีย์ ชิวหินทรีย์ กายินทรีย์ มนินทรีย์ ชีวิตินทรีย์ โสมนัสสินทรีย์หรืออุเปกขินทรีย์ สัทธินทรีย์ วิริยินทรีย์ สตินทรีย์ สมาธินทรีย์ ย่อมเกิดปรากฏแก่มนุษย์สมัย- *ปฐมกัป ผู้เป็นสเหตุกญาณวิปปยุตในกามธาตุ ในขณะที่เกิด อินทรีย์ ๑๒ เหล่านี้ ย่อมเกิดปรากฏแก่สัตว์เหล่านี้ ในกามธาตุ ในขณะที่เกิด อินทรีย์ ๑๐ ย่อมเกิดปรากฏแก่ สัตว์จำพวกไหน ในขณะที่เกิด อินทรีย์ ๑๐ คือ กายินทรีย์ มนินทรีย์ อิตถินทรีย์หรือ ปุริสินทรีย์ ชีวิตินทรีย์ โสมนัสสินทรีย์หรืออุเปกขินทรีย์ สัทธินทรีย์ วิริยินทรีย์ สตินทรีย์ สมาธินทรีย์ ปัญญินทรีย์ ย่อมเกิดปรากฏแก่คัพภไสยกสัตว์ ผู้เป็น สเหตุกญาณสัมปยุต ในกามธาตุ ในขณะที่เกิด อินทรีย์ ๑๐ เหล่านี้ ย่อมเกิด ปรากฏแก่สัตว์เหล่านี้ ในกามธาตุ ในขณะที่เกิด อินทรีย์ ๙ ย่อมเกิดปรากฏแก่ สัตว์จำพวกไหน ในขณะที่เกิด อินทรีย์ ๙ คือ กายินทรีย์ มนินทรีย์ อิตถินทรีย์หรือ ปุริสินทรีย์ ชีวิตินทรีย์ โสมนัสสินทรีย์หรืออุเปกขินทรีย์ สัทธินทรีย์ วิริยินทรีย์ สตินทรีย์ สมาธินทรีย์ ย่อมเกิดปรากฏแก่คัพภไสยกสัตว์ ผู้เป็นสเหตุกญาณ- *วิปปยุต ในกามธาตุ ในขณะที่เกิด อินทรีย์ ๔ เหล่านี้ ย่อมเกิดปรากฏแก่สัตว์ เหล่านี้ ในกามธาตุ ในขณะที่เกิด อินทรีย์ ๙ เหล่าอื่นอีก ย่อมเกิด ปรากฏแก่สัตว์จำพวกไหน ในขณะที่เกิด อินทรีย์ ๙ คือ จักขุนทรีย์ โสตินทรีย์ ฆานินทรีย์ ชิวหินทรีย์ กายินทรีย์ มนินทรีย์ อิตถินทรีย์หรือปุริสินทรีย์ ชีวิตินทรีย์ อุเปกขินทรีย์ ย่อมเกิดปรากฏแต่เปรต อสุรกาย สัตว์ดิรัจฉาน สัตว์นรก ที่เป็นอุปปาติกสัตว์ ซึ่งมีอายตนะบริบูรณ์ในกามธาตุ ในขณะที่เกิด อินทรีย์ ๙ เหล่านี้ ย่อมเกิดปรากฏแก่สัตว์เหล่านี้ ในกามธาตุ ในขณะที่เกิด อินทรีย์ ๘ ย่อมเกิดปรากฏแก่สัตว์ จำพวกไหน ในขณะที่เกิด อินทรีย์ ๘ คือโสตินทรีย์ ฆานินทรีย์ ชิวหินทรีย์ กายินทรีย์ มนินทรีย์ อิตถินทรีย์หรือปุริสินทรีย์ ชีวิตินทรีย์ อุเปกขินทรีย์ ย่อมเกิดปรากฏแก่เปรต อสุรกาย สัตว์ดิรัจฉาน สัตว์นรก ที่เป็นอุปปาติกสัตว์ ซึ่งตาบอดมาแต่กำเนิด ในกามธาตุ ในขณะที่เกิด อินทรีย์ ๘ เหล่านี้ ย่อมเกิด ปรากฏแก่สัตว์เหล่านี้ ในกามธาตุ ในขณะที่เกิด อินทรีย์ ๘ เหล่าอื่นอีก ย่อมเกิด ปรากฏแก่สัตว์จำพวกไหน ในขณะที่เกิด อินทรีย์ ๘ คือ จักขุนทรีย์ ฆานินทรีย์ ชิวหินทรีย์ กายินทรีย์ อิตถินทรีย์หรือปุริสินทรีย์ ชีวิตินทรีย์ อุเปกขินทรีย์ ย่อมเกิด ปรากฏแก่เปรต อสุรกาย สัตว์ดิรัจฉาน สัตว์นรก ที่เป็นอุปปาติกสัตว์ ซึ่ง หูหนวกมาแต่กำเนิด ในกามธาตุในขณะที่เกิด อินทรีย์ ๘ เหล่านี้ ย่อมเกิด ปรากฏแก่สัตว์เหล่านี้ ในกามธาตุ ในขณะที่เกิด อินทรีย์ ๗ ย่อมเกิดปรากฏแก่ สัตว์จำพวกไหน ในขณะที่เกิด อินทรีย์ ๗ คือ ฆานินทรีย์ ชิวหินทรีย์ กายินทรีย์ มนินทรีย์ อิตถินทรีย์หรือปุริสินทรีย์ ชีวิตินทรีย์ อุเปกขินทรีย์ย่อมเกิดปรากฏ แก่เปรต อสุรกาย สัตว์ดิรัจฉาน สัตว์นรก ที่เป็นอุปปาติกสัตว์ ซึ่งตาบอด และหูหนวกมาแต่กำเนิด ในกามธาตุ ในขณะที่เกิด อินทรีย์ ๗ เหล่านี้ ย่อมเกิด ปรากฏแก่สัตว์เหล่านี้ ในกามธาตุ ในขณะที่เกิด อินทรีย์ ๕ ย่อมเกิดปรากฏแก่ สัตว์จำพวกไหน ในขณะที่เกิด อินทรีย์ ๕ คือ กายินทรีย์ มนินทรีย์ อิตถินทรีย์หรือ ปุริสินทรีย์ ชีวิตินทรีย์ อุเปกขินทรีย์ ย่อมเกิดปรากฏแก่คัพภไสยกสัตว์ ในกามธาตุ ในขณะที่เกิด อินทรีย์ ๕ เหล่านี้ ย่อมเกิดปรากฏแก่สัตว์เหล่านี้ ในกามธาตุ ในขณะที่เกิด อินทรีย์ ๔ ย่อมเกิดปรากฏแก่ สัตว์จำพวกไหน ในขณะที่เกิด อินทรีย์ ๔ คือ กายินทรีย์ มนินทรีย์ ชีวิตินทรีย์ อุเปกขินทรีย์ ย่อมเกิดปรากฏแก่คัพภไสยกสัตว์ ผู้เป็นอเหตุกนปุงสกสัตว์ ในกามธาตุ ในขณะที่เกิด อินทรีย์ ๔ เหล่านี้ ย่อมเกิดปรากฏแก่สัตว์เหล่านี้ ในกามธาตุ ในขณะที่เกิด เหตุ ๓ ย่อมเกิดปรากฏแก่สัตว์ จำพวกไหน ในขณะที่เกิด เหตุ ๓ คือ อโลภะที่เป็นวิปากเหตุ อโทสะที่เป็น วิปากเหตุ อโมหะที่เป็นวิปากเหตุ ย่อมเกิดปรากฏแก่กามาวจรเทวดา มนุษย์ สมัยปฐมกัป คัพภไสยกสัตว์ ผู้เป็นสเหตุกญาณสัมปยุต ในกามธาตุ ในขณะ ที่เกิด เหตุ ๓ เหล่านี้ ย่อมเกิดปรากฏแก่สัตว์เหล่านี้ ในกามธาตุ ในขณะที่เกิด เหตุ ๒ ย่อมเกิดปรากฏแก่สัตว์ จำพวกไหน ในขณะที่เกิด เหตุ ๒ คือ อโลภะที่เป็นวิปากเหตุ อโทสะที่เป็น วิปากเหตุ ย่อมเกิดปรากฏแก่กามาวจรเทวดา มนุษย์สมัยปฐมกัป คัพภไสยก- *สัตว์ ผู้เป็นสเหตุกญาณวิปปยุต ในกามธาตุ ในขณะที่เกิด เหตุ ๒ เหล่านี้ ย่อมเกิดปรากฏแก่สัตว์เหล่านี้ อเหตุกวิบาก ย่อมเกิดปรากฏแก่สัตว์นอกจากที่กล่าวมานี้ ในกามธาตุ ในขณะที่เกิด อาหาร ๔ เหล่าไหน ย่อมเกิด ปรากฏแก่สัตว์ทุกจำพวก คือ กวฬิงการาหาร ผัสสาหาร มโนสัญเจตนาหาร วิญญาณาหาร ในกามธาตุ ในขณะที่เกิด อาหาร ๔ เหล่านี้ ย่อมเกิดปรากฏแก่สัตว์ทุกจำพวก ในกามธาตุ ในขณะที่เกิด ผัสสะ ๑ อย่างไหน ย่อมเกิด ปรากฏแก่สัตว์ทุกจำพวก คือ มโนวิญญาณธาตุสัมผัส ในกามธาตุ ในขณะที่เกิด ผัสสะ ๑ นี้ ย่อมเกิดปรากฏแก่สัตว์ทุกจำพวก ในกามธาตุ ในขณะที่เกิด เวทนา ๑ สัญญา ๑ เจตนา ๑ จิต ๑ อย่างไหน ย่อมเกิดปรากฏแก่สัตว์ทุกจำพวก คือ มโนวิญญาณธาตุ ในกามธาตุ ในขณะที่เกิด จิต ๑ นี้ ย่อมเกิด ปรากฏแก่สัตว์ทุกจำพวก [๑๐๙๗] ในรูปธาตุ ในขณะที่เกิด ขันธ์เท่าไร ย่อมเกิด ปรากฏ ฯลฯ จิตเท่าไร ย่อมเกิดปรากฏ ในรูปธาตุ ในขณะที่เกิด ขันธ์ ๕ อายตนะ ๕ ธาตุ ๕ สัจจะ ๑ อินทรีย์ ๑๐ เหตุ ๓ อาหาร ๓ ผัสสะ ๑ เวทนา ๑ สัญญา ๑ เจตนา ๑ จิต ๑ ย่อมเกิดปรากฏแก่เทวดาทั้งหลาย เว้นแต่พวกอสัญญสัตว์ [๑๐๙๘] ในรูปธาตุ ในขณะที่เกิด ขันธ์ ๕ เหล่าไหน ย่อม เกิดปรากฏ คือ รูปขันธ์ เวทนาขันธ์ สัญญาขันธ์ สังขารขันธ์ วิญญาณขันธ์ ในรูปธาตุ ในขณะที่เกิด ขันธ์ ๕ เหล่านี้ ย่อมเกิดปรากฏ ในรูปธาตุ ในขณะที่เกิด อายตนะ ๕ เหล่าไหน ย่อมเกิด ปรากฏ คือ จักขายตนะ รูปายตนะ โสตายตนะ มนายตนะ ธัมมายตนะ ในรูปธาตุ ในขณะที่เกิด อายตนะ ๕ เหล่านี้ ย่อมเกิดปรากฏ ในรูปธาตุ ในขณะที่เกิด ธาตุ ๕ เหล่าไหน ย่อมเกิด ปรากฏ คือ จักขุธาตุ รูปธาตุ โสตธาตุ มโนวิญญาณธาตุ ธัมมธาตุ ใน รูปธาตุ ในขณะที่เกิด ธาตุ ๕ เหล่านี้ ย่อมเกิดปรากฏ ในรูปธาตุ ในขณะที่เกิด สัจจะ ๑ อย่างไหน ย่อมเกิด ปรากฏ คือ ทุกขสัจจะ ในรูปธาตุ ในขณะที่เกิด สัจจะ ๑ นี้ ย่อมเกิด ปรากฏ ในรูปธาตุ ในขณะที่เกิด อินทรีย์ ๑๐ เหล่าไหน ย่อมเกิด ปรากฏ คือ จักขุนทรีย์ โสตินทรีย์ มนินทรีย์ ชีวิตินทรีย์ โสมนัสสินทรีย์ หรืออุเปกขินทรีย์ สัทธินทรีย์ วิริยินทรีย์ สตินทรีย์ สมาธินทรีย์ ปัญญินทรีย์ ในรูปธาตุ ในขณะที่เกิด อินทรีย์ ๑๐ เหล่านี้ ย่อมเกิดปรากฏ ในรูปธาตุ ในขณะที่เกิด เหตุ ๓ เหล่าไหน ย่อมเกิด ปรากฏ คือ อโลภะ ที่เป็นวิปากเหตุ อโทสะ ที่เป็นวิปากเหตุ อโมหะ ที่เป็น วิปากเหตุ ในรูปธาตุ ในขณะที่เกิด เหตุ ๓ เหล่านี้ ย่อมเกิดปรากฏ ในรูปธาตุ ในขณะที่เกิด อาหาร ๓ เหล่าไหน ย่อมเกิด ปรากฏ ผัสสาหาร มโนสัญเจตนาหาร วิญญาณาหาร ในรูปธาตุ ในขณะที่เกิด อาหาร ๓ เหล่านี้ ย่อมเกิดปรากฏ ในรูปธาตุ ในขณะที่เกิด ผัสสะ ๑ อย่างไหน ย่อมเกิด ปรากฏ คือ มโนวิญญาณธาตุสัมผัส ในรูปธาตุ ในขณะที่เกิด ผัสสะ ๑ นี้ ย่อมเกิดปรากฏ ในรูปธาตุ ในขณะที่เกิด เวทนา ๑ สัญญา ๑ เจตนา ๑ จิต ๑ อย่างไหน ย่อมเกิดปรากฏ คือ มโนวิญญาณธาตุ ในรูปธาตุ ในขณะที่เกิด จิต ๑ นี้ ย่อมเกิด ปรากฏ [๑๐๙๙] ในขณะที่เกิด ขันธ์เท่าไร ย่อมเกิดปรากฏ ฯลฯ จิตเท่าไร ย่อมปรากฏ แก่เหล่าเทวดาอสัญญสัตว์ ในขณะที่เกิด ขันธ์ ๑ คือ รูปขันธ์ ย่อมเกิดปรากฏแก่เหล่าเทวดา อสัญญสัตว์ อายตนะ ๒ คือ รูปายตนะ ธัมมายตนะ ย่อมเกิดปรากฏ ธาตุ ๒ คือ รูปธาตุ ธัมมธาตุ ย่อมเกิดปรากฏ สัจจะ ๑ คือ ทุกขสัจจะ ย่อมเกิดปรากฏ อินทรีย์ ๑ คือ รูปชีวิตินทรีย์ ย่อมเกิดปรากฏ เหล่าเทวดาอสัญญสัตว์ ไม่มีเหตุ ไม่มีอาหาร ไม่มีผัสสะ ไม่มีเวทนา ไม่มีสัญญา ไม่มีเจตนา ไม่มีจิต ย่อมเกิดปรากฏ [๑๑๐๐] ในอรูปธาตุ ในขณะที่เกิด ขันธ์เท่าไร ฯลฯ จิต เท่าไร ย่อมเกิดปรากฏ ในอรูปธาตุ ในขณะที่เกิด ขันธ์ ๔ ย่อมเกิดปรากฏ อายตนะ ๒ ย่อมเกิดปรากฏ ธาตุ ๒ ย่อมเกิดปรากฏ สัจจะ ๑ ย่อมเกิดปรากฏ อินทรีย์ ๘ ย่อมเกิดปรากฏ เหตุ ๓ ย่อมเกิดปรากฏ อาหาร ๓ ย่อมเกิดปรากฏ ผัสสะ ๑ ย่อมเกิดปรากฏ เวทนา ๑ สัญญา ๑ เจตนา ๑ จิต ๑ ย่อมเกิดปรากฏ [๑๑๐๑] ในอรูปธาตุ ในขณะที่เกิด ขันธ์ ๔ เหล่าไหน ย่อมเกิดปรากฏ คือ เวทนาขันธ์ สัญญาขันธ์ สังขารขันธ์ วิญญาณขันธ์ ในอรูปธาตุ ในขณะที่เกิด ขันธ์ ๔ เหล่านี้ ย่อมเกิดปรากฏ ในอรูปธาตุ ในขณะที่เกิด อายตนะ ๒ เหล่าไหน ย่อมเกิด ปรากฏ คือ มนายตนะ ธัมมายตนะ ในอรูปธาตุ ในขณะที่เกิด อายตนะ ๒ เหล่านี้ ย่อมเกิดปรากฏ ในอรูปธาตุ ในขณะที่เกิด ธาตุ ๒ เหล่าไหน ย่อมเกิด ปรากฏ คือ มโนวิญญาณธาตุ ธัมมธาตุ ในอรูปธาตุ ในขณะที่เกิด ธาตุ ๒ เหล่านี้ ย่อมเกิดปรากฏ ในอรูปธาตุ ในขณะที่เกิด สัจจะ ๑ อย่างไหน ย่อมเกิด ปรากฏ คือ ทุกขสัจจะ ในอรูปธาตุ ในขณะที่เกิด สัจจะ ๑ นี้ ย่อมเกิด ปรากฏ ในอรูปธาตุ ในขณะที่เกิด อินทรีย์ ๘ เหล่าไหน ย่อมเกิด ปรากฏ คือ มนินทรีย์ ชีวิตินทรีย์ อุเปกขินทรีย์ สัทธินทรีย์ วิริยินทรีย์ สตินทรีย์ สมาธินทรีย์ ปัญญินทรีย์ ในอรูปธาตุ ในขณะที่เกิด อินทรีย์ ๘ เหล่านี้ ย่อมเกิดปรากฏ ในอรูปธาตุ ในขณะที่เกิด เหตุ ๓ เหล่าไหน ย่อมเกิด ปรากฏ คือ อโลภะที่เป็นวิปากเหตุ อโทสะที่เป็นวิปากเหตุ อโมหะที่เป็นวิปาก- *เหตุ ในอรูปธาตุ ในขณะที่เกิด เหตุ ๓ เหล่านี้ ย่อมเกิดปรากฏ ในอรูปธาตุ ในขณะที่เกิด อาหาร ๓ เหล่าไหน ย่อมเกิด ปรากฏ คือ ผัสสาหาร มโนสัญเจตนาหาร วิญญาณาหาร ในอรูปธาตุ ในขณะ ที่เกิด อาหาร ๓ เหล่านี้ ย่อมเกิดปรากฏ ในอรูปธาตุ ในขณะที่เกิด ผัสสะ ๑ อย่างไหน ย่อมเกิด ปรากฏ คือ มโนวิญญาณธาตุสัมผัส ในอรูปธาตุ ในขณะที่เกิด ผัสสะ ๑ นี้ ย่อมเกิดปรากฏ ในอรูปธาตุ ในขณะที่เกิด เวทนา ๑ สัญญา ๑ เจตนา ๑ จิต ๑ อย่างไหน ย่อมเกิดปรากฏ คือ มโนวิญญาณธาตุ ในอรูปธาตุ ในขณะที่เกิด จิต ๑ นี้ ย่อม เกิดปรากฏเนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๓๕ บรรทัดที่ ๑๔๑๘๒-๑๔๔๘๒ หน้าที่ ๖๐๘-๖๒๑. https://84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=35&A=14182&Z=14482&pagebreak=0 https://84000.org/tipitaka/pitaka_item/r.php?B=35&A=14182&pagebreak=0 ฟังเนื้อความพระไตรปิฎก : [1], [2], [3], [4] อ่านเทียบพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาฯ :- https://84000.org/tipitaka/read/m_siri.php?B=35&siri=81 ศึกษาอรรถกถาได้ที่ :- https://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=35&i=1095 พระไตรปิฏกฉบับภาษาบาลีอักษรไทย :- https://84000.org/tipitaka/read/pali_read.php?B=35&A=11185 The Pali Tipitaka in Roman :- https://84000.org/tipitaka/read/roman_read.php?B=35&A=11185 สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๓๕ https://84000.org/tipitaka/read/?index_35 อ่านเทียบฉบับแปลอังกฤษ Compare with English Translation :- https://suttacentral.net/vb18/en/thittila#pts-s1007
บันทึก ๒๖ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๔๖. บันทึก ๓๐ มกราคม พ.ศ. ๒๕๔๙. บันทึกล่าสุด ๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๐. การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจากพระไตรปิฎกฉบับหลวง. หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]