บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ | |||||
พระไตรปิฏกเล่มที่ ๒๑ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๓ [ฉบับมหาจุฬาฯ] อังคุตตรนิกาย จตุกกนิบาต หน้าที่ ๑๐๘-๑๐๙.
พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย จตุกกนิบาต [๒. ทุติยปัณณาสก์]
๒. ปัตตกัมมวรรค ๕. รูปสูตร
เพราะการปรนนิบัติมารดาบิดานั้นแล บัณฑิตทั้งหลายจึงสรรเสริญเขาในโลกนี้เอง เขาตายไปแล้วย่อมบันเทิงในสวรรค์พรหมสูตรที่ ๓ จบ ๔. นิรยสูตร ว่าด้วยธรรมเป็นเหตุให้เกิดในนรก [๖๔] ภิกษุทั้งหลาย บุคคลผู้ประกอบด้วยธรรม ๔ ประการย่อมดำรงอยู่ ในนรกเหมือนถูกนำไปฝังไว้ ธรรม ๔ ประการ อะไรบ้าง คือ ๑. ฆ่าสัตว์ ๒. ลักทรัพย์ ๓. ประพฤติผิดในกาม ๔. พูดเท็จ ภิกษุทั้งหลาย บุคคลผู้ประกอบด้วยธรรม ๔ ประการนี้แลย่อมดำรงอยู่ ในนรกเหมือนถูกนำไปฝังไว้ การฆ่าสัตว์ การลักทรัพย์ การพูดเท็จ และการคบหาภรรยาของผู้อื่น เรากล่าวว่าเป็นกรรมเศร้าหมอง บัณฑิตทั้งหลายย่อมไม่สรรเสริญเลยนิรยสูตรที่ ๔ จบ ๕. รูปสูตร ว่าด้วยบุคคลผู้ถือรูปเป็นประมาณ [๖๕] ภิกษุทั้งหลาย บุคคล ๔ จำพวกนี้มีปรากฏอยู่ในโลก บุคคล ๔ จำพวก๑- ไหนบ้าง คือ @เชิงอรรถ : @๑ ดู อภิ.ปุ. (แปล) ๓๖/๑๗๑-๑๗๒/๒๐๔-๒๐๕ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๒๑ หน้า : ๑๐๘}
พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย จตุกกนิบาต [๒. ทุติยปัณณาสก์]
๒. ปัตตกัมมวรรค ๕. รูปสูตร
๑. บุคคลผู้ถือรูปเป็นประมาณ เลื่อมใสในรูป ๒. บุคคลผู้ถือเสียงเป็นประมาณ เลื่อมใสในเสียง ๓. บุคคลผู้ถือความเศร้าหมองเป็นประมาณ๑- เลื่อมใสในความเศร้าหมอง ๔. บุคคลผู้ถือธรรมเป็นประมาณ เลื่อมใสในธรรม ภิกษุทั้งหลาย บุคคล ๔ จำพวกนี้แลมีปรากฏอยู่ในโลก ชนเหล่าใดถือประมาณในรูป และชนเหล่าใดคล้อยไปตามเสียง ชนเหล่านั้นชื่อว่าตกอยู่ในอำนาจของฉันทราคะ๒- ย่อมไม่รู้จักบุคคลนั้น คือ บุคคลนั้นแลเป็นคนเขลา ไม่รู้คุณภายในของเขา และไม่เห็นข้อปฏิบัติภายนอกของเขา ถูกห้อมล้อมไว้โดยรอบ ย่อมถูกเสียงชักนำไป อนึ่ง บุคคลผู้ไม่รู้คุณภายใน๓- แต่เห็นข้อปฏิบัติภายนอก๔- มองแต่ผลในภายนอก๕- ย่อมถูกเสียงชักนำไป ส่วนบุคคลที่รู้คุณภายใน และเห็นแจ้งข้อปฏิบัติภายนอก เห็นธรรมปราศจากเครื่องกั้น ย่อมไม่ถูกเสียงชักนำไปรูปสูตรที่ ๕ จบ @เชิงอรรถ : @๑ หมายถึงความเศร้าหมองแห่งจีวร คือ จีวรที่หยาบ จีวรเก่า และจีวรปะเย็บหลายครั้ง และความเศร้าหมอง @แห่งบาตร คือ บาตรที่มีรอยปุ่มหลายแห่ง (องฺ.จตุกฺก.อ. ๒/๖๕/๓๕๕, องฺ.จตุกฺก.ฏีกา ๒/๖๕/๓๘๘) @๒ หมายถึงตกอยู่ในอำนาจของความพอใจและความกำหนัดยินดี (องฺ.จตุกฺก.อ. ๒/๖๕/๓๕๕) @๓ หมายถึงไม่รู้คุณมีศีลเป็นต้นที่อยู่ในภายในของบุคคลนั้น (องฺ.จตุกฺก.อ. ๒/๖๕/๓๕๕) @๔ หมายถึงเห็นเฉพาะข้อปฏิบัติภายนอกของบุคคลนั้น (องฺ.จตุกฺก.อ. ๒/๖๕/๓๕๕) @๕ หมายถึงเห็นเฉพาะผลคือสักการะภายนอกที่คนเหล่าอื่นกระทำแก่บุคคลนั้น (องฺ.จตุกฺก.อ. ๒/๖๕/๓๕๕) {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๒๑ หน้า : ๑๐๙}
เนื้อความพระไตรปิฎกฉบับ มจร. เล่มที่ ๒๑ หน้าที่ ๑๐๘-๑๐๙. https://84000.org/tipitaka/pitaka_item/read_page.php?book=21&page=108&pages=2&edition=mcu ศึกษาพระสูตร (เนื้อความ) นี้แยกตามสารบัญ :- https://84000.org/tipitaka/pitaka_item/m_read.php?B=21&A=3202 https://84000.org/tipitaka/pitaka_item/m_line.php?B=21&A=3202#p108 สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ 21 :- https://84000.org/tipitaka/read/?index_21 https://84000.org/tipitaka/read/?index_mcu21 https://84000.org/tipitaka/english/?index_21
จบการแสดงผล หน้าที่ ๑๐๘-๑๐๙.
บันทึก ๑๗ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๙. การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจากพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]