บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ | |||||
พระไตรปิฏกเล่มที่ ๖ พระวินัยปิฎกเล่มที่ ๖ [ฉบับมหาจุฬาฯ] จุลวรรค ภาค ๑ หน้าที่ ๙๖-๙๘.
พระวินัยปิฎก จูฬวรรค [๑. กัมมขันธกะ]
๕. อุกเขปนียกรรมเพราะไม่เห็นว่าเป็นอาบัติ
๑. รูปหนึ่งมีสีลวิบัติในอธิสีล ๒. รูปหนึ่งมีอาจารวิบัติในอัชฌาจาร ๓. รูปหนึ่งมีทิฏฐิวิบัติในอติทิฏฐิ ภิกษุทั้งหลาย สงฆ์เมื่อมุ่งหวัง พึงลงอุกเขปนียกรรม เพราะไม่เห็นว่าเป็น อาบัติแก่ภิกษุ ๓ จำพวกเหล่านี้แลหมวดที่ ๖ ภิกษุทั้งหลาย สงฆ์เมื่อมุ่งหวัง พึงลงอุกเขปนียกรรม เพราะไม่เห็นว่าเป็น อาบัติแก่ภิกษุอื่นอีก ๓ จำพวก คือ ๑. รูปหนึ่งกล่าวติเตียนพระพุทธเจ้า ๒. รูปหนึ่งกล่าวติเตียนพระธรรม ๓. รูปหนึ่งกล่าวติเตียนพระสงฆ์ ภิกษุทั้งหลาย สงฆ์เมื่อมุ่งหวัง พึงลงอุกเขปนียกรรม เพราะไม่เห็นว่าเป็น อาบัติแก่ภิกษุ ๓ จำพวกเหล่านี้แลอากังขมานฉักกะ ในอุกเขปนียกรรมเพราะไม่เห็นว่าเป็นอาบัติ จบ เตจัตตาฬีสวัตตะ ว่าด้วยวัตร ๔๓ ข้อ ในอุกเขปนียกรรมเพราะไม่เห็นว่าเป็นอาบัติ [๕๑] ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ถูกสงฆ์ลงอุกเขปนียกรรมเพราะไม่เห็นว่าเป็นอาบัติ พึงประพฤติโดยชอบ การประพฤติโดยชอบในเรื่องนั้น ดังนี้ ๑. ไม่พึงให้อุปสมบท ๒. ไม่พึงให้นิสัย ๓. ไม่พึงใช้สามเณรอุปัฏฐาก ๔. ไม่พึงรับแต่งตั้งเป็นผู้สั่งสอนภิกษุณี {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๖ หน้า : ๙๖}
พระวินัยปิฎก จูฬวรรค [๑. กัมมขันธกะ]
๕. อุกเขปนียกรรมเพราะไม่เห็นว่าเป็นอาบัติ
๕. แม้ได้รับแต่งตั้งแล้วก็ไม่พึงสั่งสอนภิกษุณี ๖. ไม่พึงต้องอาบัติที่เป็นเหตุให้ถูกสงฆ์ลงอุกเขปนียกรรมเพราะการไม่ เห็นว่าเป็นอาบัติอีก ๗. ไม่พึงต้องอาบัติอื่นทำนองเดียวกัน ๘. ไม่พึงต้องอาบัติที่เลวทรามกว่านั้น ๙. ไม่พึงตำหนิกรรม ๑๐. ไม่พึงตำหนิภิกษุผู้ทำกรรม ๑๑. ไม่พึงยินดีการกราบไหว้ของปกตัตตภิกษุ ๑๒. ไม่พึงยินดีการลุกรับของปกตัตตภิกษุ ๑๓. ไม่พึงยินดีการประนมมือของปกตัตตภิกษุ ๑๔. ไม่พึงยินดีสามีจิกรรมของปกตัตตภิกษุ ๑๕. ไม่พึงยินดีการนำอาสนะมาให้ของปกตัตตภิกษุ ๑๖. ไม่พึงยินดีการนำที่นอนมาให้ของปกตัตตภิกษุ ๑๗. ไม่พึงยินดีน้ำล้างเท้า การตั้งตั่งรองเท้าให้ของปกตัตตภิกษุ ๑๘. ไม่พึงยินดีการตั้งกระเบื้องเช็ดเท้าให้ของปกตัตตภิกษุ ๑๙. ไม่พึงยินดีการรับบาตรและจีวรของปกตัตตภิกษุ ๒๐. ไม่พึงยินดีการที่ปกตัตตภิกษุถูหลังให้ในคราวอาบน้ำ ๒๑. ไม่พึงใส่ความปกตัตตภิกษุด้วยสีลวิบัติ ๒๒. ไม่พึงใส่ความปกตัตตภิกษุด้วยอาจารวิบัติ ๒๓. ไม่พึงใส่ความปกตัตตภิกษุด้วยทิฏฐิวิบัติ ๒๔. ไม่พึงใส่ความปกตัตตภิกษุด้วยอาชีววิบัติ ๒๕. ไม่พึงยุยงปกตัตตภิกษุให้แตกกัน ๒๖. ไม่พึงใช้เครื่องนุ่งห่มอย่างคฤหัสถ์ ๒๗. ไม่พึงใช้เครื่องนุ่งห่มอย่างเดียรถีย์ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๖ หน้า : ๙๗}
พระวินัยปิฎก จูฬวรรค [๑. กัมมขันธกะ]
๕. อุกเขปนียกรรมเพราะไม่เห็นว่าเป็นอาบัติ
๒๘. ไม่พึงคบพวกเดียรถีย์ ๒๙. พึงคบพวกภิกษุ ๓๐. พึงศึกษาสิกขาบทของภิกษุ ๓๑. ไม่พึงอยู่ในอาวาสที่มีเครื่องมุงเดียวกันกับปกตัตตภิกษุ ๓๒. ไม่พึงอยู่ในสถานที่มิใช่อาวาสที่มีเครื่องมุงเดียวกันกับปกตัตตภิกษุ ๓๓. ไม่พึงอยู่ในอาวาสหรือสถานที่มิใช่อาวาสที่มีเครื่องมุงเดียวกันกับ ปกตัตตภิกษุ ๓๔. เห็นปกตัตตภิกษุแล้วพึงลุกจากอาสนะ ๓๕. ไม่พึงรุกรานปกตัตตภิกษุทั้งข้างในหรือข้างนอกวิหาร ๓๖. ไม่พึงงดอุโบสถแก่ปกตัตตภิกษุ ๓๗. ไม่พึงงดปวารณาแก่ปกตัตตภิกษุ ๓๘. ไม่พึงทำการไต่สวน ๓๙. ไม่พึงเริ่มอนุวาทาธิกรณ์ ๔๐. ไม่พึงขอโอกาสภิกษุอื่น ๔๑. ไม่พึงโจทภิกษุอื่น ๔๒. ไม่พึงให้ภิกษุอื่นให้การ ๔๓. ไม่พึงชักชวนกันก่อความทะเลาะเตจัตตาฬีสวัตตะ ในอุกเขปนียกรรมเพราะไม่เห็นว่าเป็นอาบัติ จบ สงฆ์ลงโทษและระงับกรรม [๕๒] ครั้งนั้น สงฆ์ได้ลงอุกเขปนียกรรมภิกษุฉันนะเพราะไม่เห็นว่าเป็นอาบัติ ห้ามสมโภคกับสงฆ์ ภิกษุฉันนะนั้นถูกสงฆ์ลงอุกเขปนียกรรมเพราะไม่เห็นว่าเป็นอาบัติ ภิกษุฉันนะนั้นได้ออกจากอาวาสนั้นไปอาวาสอื่น {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๖ หน้า : ๙๘}
เนื้อความพระไตรปิฎกฉบับ มจร. เล่มที่ ๖ หน้าที่ ๙๖-๙๘. https://84000.org/tipitaka/pitaka_item/read_page.php?book=6&page=96&pages=3&edition=mcu ศึกษาพระสูตร (เนื้อความ) นี้แยกตามสารบัญ :- https://84000.org/tipitaka/pitaka_item/m_read.php?B=6&A=2446 https://84000.org/tipitaka/pitaka_item/m_line.php?B=6&A=2446#p96 สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ 6 :- https://84000.org/tipitaka/read/?index_6 https://84000.org/tipitaka/read/?index_mcu6 https://84000.org/tipitaka/english/?index_6
จบการแสดงผล หน้าที่ ๙๖-๙๘.
บันทึก ๑๗ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๙. การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจากพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]