บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ | |
| |
ฉบับหลวง ฉบับมหาจุฬาฯ บาลีอักษรไทย PaliRoman |
ปัญหาวาร [๔๖๕] ธรรมที่เป็นทั้งอุปาทาน และอุปาทานสัมปยุตตธรรม เป็นปัจจัยแก่ธรรม ที่เป็นทั้งอุปาทานและอุปาทานสัมปยุตตธรรม โดยเหตุปัจจัย คือ เหตุทั้งหลายที่เป็นทั้งอุปาทาน และอุปาทานสัมปยุตตธรรม เป็นปัจจัยแก่อุปาทาน- *ธรรมทั้งหลาย ที่เป็นสัมปยุตตธรรม โดยเหตุปัจจัย.พึงถามถึงมูล เหตุทั้งหลายที่เป็นทั้งอุปาทาน และอุปาทานสัมปยุตตธรรม เป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์ ทั้งหลาย โดยเหตุปัจจัย.พึงถามถึงมูล เหตุทั้งหลายที่เป็นทั้งอุปาทาน และอุปาทานสัมปยุตตธรรม เป็นปัจจัยแก่สัมปยุตต- *ขันธ์และอุปาทานธรรมทั้งหลาย โดยเหตุปัจจัย. ธรรมที่เป็นทั้งอุปาทานสัมปยุตตะ แต่ไม่ใช่อุปาทานธรรม เป็นปัจจัยแก่ธรรมที่เป็น อุปาทานสัมปยุตตะ แต่ไม่ใช่อุปาทานธรรม โดยเหตุปัจจัย คือ เหตุทั้งหลายที่เป็นอุปาทานสัมปยุตตะ แต่ไม่ใช่อุปาทานธรรม เป็นปัจจัยแก่ สัมปยุตตขันธ์ทั้งหลาย โดยเหตุปัจจัย.พึงถามถึงมูล เหตุทั้งหลายที่เป็นอุปาทานสัมปยุตตะ แต่ไม่ใช่อุปาทานธรรม เป็นปัจจัยแก่อุปาทาน- *ธรรมทั้งหลาย ที่เป็นสัมปยุตตธรรม โดยเหตุปัจจัยพึงถามถึงมูล เหตุทั้งหลายที่เป็นอุปาทานสัมปยุตตะ แต่ไม่ใช่อุปาทานธรรม เป็นปัจจัยแก่สัมปยุตต- *ขันธ์ และอุปาทานธรรมทั้งหลาย โดยเหตุปัจจัย. ธรรมที่เป็นทั้งอุปาทาน และอุปาทานสัมปยุตตธรรม และธรรมที่เป็นอุปาทานสัมปยุตตะ แต่ไม่ใช่อุปาทานธรรม เป็นปัจจัยแก่ธรรมที่เป็นทั้งอุปาทานและอุปาทานสัมปยุตตธรรม โดยเหตุ- *ปัจจัย คือ เหตุทั้งหลายที่เป็นทั้งอุปาทานและอุปาทานสัมปยุตตธรรม และที่เป็นอุปาทาน- *สัมปยุตตะ แต่ไม่ใช่อุปาทานธรรม เป็นปัจจัยแก่อุปาทานธรรมทั้งหลายที่เป็นสัมปยุตตธรรม โดยเหตุปัจจัย.พึงถามถึงมูล เหตุทั้งหลายที่เป็นทั้งอุปาทาน และอุปาทานสัมปยุตตธรรม และที่เป็นอุปาทาน- *สัมปยุตตะ แต่ไม่ใช่อุปาทานธรรม เป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์ทั้งหลาย โดยเหตุปัจจัย.พึงถามถึงมูล เหตุทั้งหลายที่เป็นทั้งอุปาทาน และอุปาทานสัมปยุตตธรรม และที่เป็นอุปาทาน- *สัมปยุตตะ แต่ไม่ใช่อุปาทานธรรม เป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์ และอุปาทานธรรมทั้งหลาย โดยเหตุปัจจัย. [๔๖๖] ธรรมที่เป็นอุปาทาน และอุปาทานสัมปยุตตธรรม เป็นปัจจัยแก่ธรรมที่เป็น ทั้งอุปาทานและอุปาทานสัมปยุตตธรรม โดยอารัมมณปัจจัย คือ เพราะปรารภอุปาทานธรรมทั้งหลาย อุปาทานธรรมทั้งหลายเกิดขึ้น.พึงถามถึงมูล เพราะปรารภอุปาทานธรรมทั้งหลาย ขันธ์ทั้งหลายที่เป็นอุปาทานสัมปยุตตะ แต่ไม่ใช่ อุปาทานธรรม เกิดขึ้น.พึงถามถึงมูล เพราะปรารภอุปาทานธรรมทั้งหลาย อุปาทานธรรมและสัมปยุตตขันธ์ทั้งหลาย เกิดขึ้น. ธรรมที่เป็นอุปาทานสัมปยุตตะ แต่ไม่ใช่อุปาทานธรรม เป็นปัจจัยแก่ธรรมที่เป็น อุปาทานสัมปยุตตะ แต่ไม่ใช่อุปาทานธรรม โดยอารัมมณปัจจัย คือ เพราะปรารภขันธ์ทั้งหลายที่เป็นอุปาทานสัมปยุตตะ แต่ไม่ใช่อุปาทานธรรม ขันธ์ ทั้งหลายที่เป็นอุปาทานสัมปยุตตะ แต่ไม่ใช่อุปาทานธรรม เกิดขึ้น พึงทำทั้ง ๓ นัย. ในปัจจัยสงเคราะห์ ก็พึงกระทำทั้ง ๓ นัย. [๔๖๗] ธรรมที่เป็นทั้งอุปาทาน และอุปาทานสัมปยุตตธรรม เป็นปัจจัยแก่ธรรมที่เป็น ทั้งอุปาทาน และอุปาทานสัมปยุตตธรรม โดยอธิปติปัจจัย มี ๓ นัย. ธรรมที่เป็นอุปาทานสัมปยุตตะ แต่ไม่ใช่อุปาทานธรรม เป็นปัจจัยแก่ธรรมที่เป็น อุปาทานสัมปยุตตะ แต่ไม่ใช่อุปาทานธรรม โดยเหตุปัจจัย มี ๒ อย่าง คือ อารัมมณาธิปติ สหชาตาธิปติ มีทั้ง ๓ นัย. พึงกระทำอธิปติปัจจัยทั้งสอง ทั้ง ๓ นัย. แม้อธิปติปัจจัยที่เป็นปัจจัยสงเคราะห์ ก็มี ๓ นัย. [๔๖๘] ธรรมที่เป็นทั้งอุปาทาน และอุปาทานสัมปยุตตธรรม เป็นปัจจัยแก่ธรรม ที่เป็นทั้งอุปาทาน และอุปาทานสัมปยุตตธรรม โดยอนันตรปัจจัย คือ ธรรมที่เป็นทั้งอุปาทาน และอุปาทานสัมปยุตตธรรม ที่เกิดก่อนๆ เป็นปัจจัย แก่อุปาทานธรรม ที่เกิดหลังๆ โดยอนันตรปัจจัย. หัวข้อปัจจัยทั้ง ๙ พึงกระทำอย่างนี้ อาวัชชนะก็ดี วุฏฐานะก็ดี ไม่มี. [๔๖๙] ธรรมที่เป็นทั้งอุปาทาน และอุปาทานสัมปยุตตธรรม เป็นปัจจัยแก่ธรรม ที่เป็นทั้งอุปาทาน และอุปาทานสัมปยุตตธรรม โดยสมนันตรปัจจัยมี ๙ นัย. ฯลฯ เป็นปัจจัย โดยสหชาตปัจจัย มี ๙ นัย ฯลฯ เป็นปัจจัย โดยอัญญมัญญปัจจัย มี ๙ นัย ฯลฯ เป็นปัจจัย โดยนิสสยปัจจัย มี ๙ นัย. [๔๗๐] ธรรมที่เป็นทั้งอุปาทาน และอุปาทานสัมปยุตตธรรม เป็นปัจจัยแก่ธรรมที่เป็น ทั้งอุปาทาน และอุปาทานสัมปยุตตธรรม โดยอุปนิสสยปัจจัย ฯลฯ มี ๓ นัย. ธรรมที่เป็นอุปาทานสัมปยุตตะ แต่ไม่ใช่อุปาทานธรรม เป็นปัจจัยแก่ธรรมที่เป็นอุปาทาน- *สัมปยุตตะ แต่ไม่ใช่อุปาทานธรรม โดยอุปนิสสยปัจจัย มี ๓ อย่าง คือ อารัมมณูปนิสสยะ อนันตรูปนิสสยะ ปกตูปนิสสยะ ฯลฯ ที่เป็นปกตูปนิสสยะ ได้แก่ ขันธ์ทั้งหลายที่เป็นอุปาทานสัมปยุตตะ แต่ไม่ใช่ อุปาทานธรรม เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ทั้งหลายที่เป็นอุปาทานสัมปยุตตะ แต่ไม่ใช่อุปาทานธรรม โดยอุปนิสสยปัจจัย มี ๓ นัย. แม้ในอุปนิสสยปัจจัยเป็นปัจจัยสงเคราะห์ ก็มี ๓ นัย. ฯลฯ เป็นปัจจัย โดยอาเสวนปัจจัย มี ๙ นัย. [๔๗๑] ธรรมที่เป็นอุปาทานสัมปยุตตะ แต่ไม่ใช่อุปาทานธรรม เป็นปัจจัยแก่ธรรม ที่เป็นอุปาทานสัมปยุตตะ แต่ไม่ใช่อุปาทานธรรม โดยกัมมปัจจัย มี ๓ นัย. ฯลฯ เป็นปัจจัย โดยอาหารปัจจัย มี ๓ นัย ฯลฯ เป็นปัจจัย โดยอินทริยปัจจัย มี ๓ นัย ฯลฯ เป็นปัจจัย โดยฌานปัจจัย มี ๓ นัย ฯลฯ เป็นปัจจัย โดยมัคคปัจจัย มี ๙ นัย ฯลฯ เป็นปัจจัย โดยสัมปยุตตปัจจัย มี ๙ นัย ฯลฯ เป็นปัจจัย โดยอัตถิปัจจัย มี ๙ นัย ฯลฯ เป็นปัจจัย โดยนัตถิปัจจัย มี ๙ นัย ฯลฯ เป็นปัจจัย โดยวิคตปัจจัย มี ๙ นัย ฯลฯ เป็นปัจจัย โดยอวิคตปัจจัย มี ๙ นัย [๔๗๒] ในเหตุปัจจัย มีวาระ ๙ ในอารัมมณปัจจัย มี " ๙ ในอธิปติปัจจัย มี " ๙ ในอนันตรปัจจัย มี " ๙ ในสมนันตรปัจจัย มี " ๙ ในสหชาตปัจจัย มี " ๙ ในอัญญมัญญปัจจัย มี " ๙ ในนิสสยปัจจัย มี " ๙ ในอุปนิสสยปัจจัย มี " ๙ ในอาเสวนปัจจัย มี " ๙ ในกัมมปัจจัย มี " ๓ ในอาหารปัจจัย มี " ๓ ในอินทริยปัจจัย มี " ๓ ในฌานปัจจัย มี " ๓ ในมัคคปัจจัย มี " ๙ ในสัมปยุตตปัจจัย มี " ๙ ในอัตถิปัจจัย มี " ๙ ในนัตถิปัจจัย มี " ๙ ในวิคตปัจจัย มีวาระ ๙ ในอวิคตปัจจัย มี " ๙. [๔๗๓] ธรรมที่เป็นทั้งอุปาทาน และอุปาทานสัมปยุตตธรรม เป็นปัจจัยแก่ธรรมที่เป็น ทั้งอุปาทาน และอุปาทานสัมปยุตตธรรม โดยอารัมมณปัจจัย เป็นปัจจัยโดยสหชาตปัจจัย เป็นปัจจัยโดยอุปนิสสยปัจจัย. ธรรมที่เป็นทั้งอุปาทาน และอุปาทานสัมปยุตตธรรม เป็นปัจจัยแก่ธรรมที่เป็นอุปาทาน สัมปยุตตะ แต่ไม่ใช่อุปาทานธรรม โดยอารัมมณปัจจัย เป็นปัจจัยโดยสหชาตปัจจัย เป็น ปัจจัยโดยอุปนิสสยปัจจัย. ธรรมที่เป็นทั้งอุปาทาน และอุปาทานสัมปยุตตธรรม เป็นปัจจัยแก่ธรรมที่เป็นทั้งอุปาทาน และอุปาทานสัมปยุตตธรรม และธรรมที่เป็นอุปาทานสัมปยุตตะ แต่ไม่ใช่อุปาทานธรรม โดย อารัมมณปัจจัย เป็นปัจจัยโดยสหชาตปัจจัย เป็นปัจจัยโดยอุปนิสสยปัจจัย. พึงกระทำหัวข้อปัจจัย ๙ อย่างนี้ ในมูลแห่งปัจจัยหนึ่งๆ มี ๓ นัย มีหัวข้อปัจจัย ๓. [๔๗๔] ในปัจจัยที่ไม่ใช่เหตุปัจจัย มีวาระ ๙ ในปัจจัยที่ไม่ใช่อารัมมณปัจจัย มี " ๙ ในปัจจัยที่ไม่ใช่อธิปติปัจจัย มี " ๙ ในปัจจัยทั้งปวง มี " ๙ ในปัจจัยที่ไม่ใช่อวิคตปัจจัย มี " ๙ [๔๗๕] ในปัจจัยที่ไม่ใช่อารัมมณปัจจัยกับเหตุปัจจัย มี " ๙ ในปัจจัยที่ไม่ใช่อธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี " ๙ ในปัจจัยที่ไม่ใช่อนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี " ๙ ในปัจจัยที่ไม่ใช่สมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี " ๙ ในปัจจัยที่ไม่ใช่อุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี " ๙ ในปัจจัยทั้งปวง กับ ฯลฯ มี " ๙ ในปัจจัยที่ไม่ใช่มัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี " ๙ ในปัจจัยที่ไม่ใช่สัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี " ๙ ในปัจจัยที่ไม่ใช่นัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มีวาระ ๙ ในปัจจัยที่ไม่ใช่วิคตปัจจัย มี " ๙ [๔๗๖] ในอารัมมณปัจจัย กับปัจจัย ที่ไม่ใช่เหตุปัจจัย มีวาระ ๙ ในอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี " ๙.พึงกระทำอนุโลมมาติกา. อุปาทานอุปาทานสัมปยุตตทุกะ จบ ----------------------------------------------------- เนื้อความพระไตรปิฎกเล่มที่ ๔๓ บรรทัดที่ ๗๗๓๕-๗๘๗๐ หน้าที่ ๓๐๒ - ๓๐๘. http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=43&A=7735&Z=7870&pagebreak=0 http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/sutta_item.php?item=467&book=43 อ่านเทียบพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาฯ :- http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/m_siri.php?B=43&siri=56 อ่านเทียบพระไตรปิฎกภาษาบาลี อักษรไทย :- http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/pali_read.php?B=43&A=5734 อ่านเทียบพระไตรปิฎกภาษาบาลี อักษรโรมัน :- http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/roman_read.php?B=43&A=5734 สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๔๓ http://84000.org/tipitaka/read/?index_43
บันทึก ๑ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๔๖. บันทึกล่าสุด ๓๐ มกราคม พ.ศ. ๒๕๔๙. การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจากพระไตรปิฎก ฉบับหลวง. หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]