ขอนอบน้อมแด่
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
                      พระองค์นั้น
บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ
     ฉบับหลวง   ฉบับมหาจุฬาฯ   บาลีอักษรไทย   PaliRoman 
อ่านหน้า[ต่าง] แรกอ่านหน้า[ต่าง] ที่แล้วแสดงหมายเลขหน้า
ในกรณี :- 
   บรรทัดแรกของแต่ละหน้าอ่านหน้า[ต่าง] ถัดไปอ่านหน้า[ต่าง] สุดท้าย
พระไตรปิฎกเล่มที่ ๔๑ พระอภิธรรมปิฎกเล่มที่ ๘ มหาปัฏฐานปกรณ์ ภาค ๒ ปัจฉิมอนุโลมติกปัฏฐาน
ปัญหาวาร
[๑๗๙๖] มัคคารัมมณธรรม เป็นปัจจัยแก่มัคคารัมมณธรรม โดยเหตุปัจจัย คือ เหตุทั้งหลายที่เป็นมัคคารัมมณธรรม เป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์ทั้งหลาย โดย เหตุปัจจัย ฯลฯ [๑๗๙๗] มัคคารัมมณธรรม เป็นปัจจัยแก่มัคคาธิปติธรรม โดยเหตุปัจจัย คือ เหตุทั้งหลายที่เป็นมัคคารัมมณธรรม เป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์ทั้งหลายที่เป็น มัคคาธิปติธรรม โดยเหตุปัจจัย [๑๗๙๘] มัคคารัมมณธรรม เป็นปัจจัยแก่มัคคารัมมณธรรม และมัคคาธิปติธรรม โดยเหตุปัจจัย ฯลฯ ผู้มีปัญญาพึงกระทำหัวข้อ ๑๗ ด้วยเหตุนี้ [๑๗๙๙] มัคคเหตุกธรรม เป็นปัจจัยแก่มัคคารัมมณธรรม โดยอารัมมณปัจจัย คือ พระอริยะทั้งหลายออกจากมรรค พิจารณามรรค รู้จิตของบุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยจิตที่เป็นมัคคเหตุกธรรม ดดยเจโตปริยญาณ ขันธ์ทั้งหลายที่เป็นมัคคเหตุกธรรม เป็นปัจจัยแก่เจดตปริยญาณ แก่ปุพเพนิวาสานุสสติ- *ญาณ แก่อนาคตังสญาณ แก่อาวัชชนะ ดดยอารัมมณปัจจัย [๑๘๐๐] มัคคเหตุกะรรม เป็นปัจจัยแก่มัคคาธิปติธรรม โดยอารัมมณปัจจัย คือ พระอริยะทั้งหลายออกจากมรรค กระทำมรรคให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่นแล้ว พิจารณา [๑๘๐๑] มัคคเหตุกธรรม เป็นปัจจัยแก่มัคคารัมมณธรรม และมัคคาธิปติธรรม โดยอารัมมณปัจจัย คือ พระอริยะทั้งหลายออกจากมรรค กระทำมรรคให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่นแล้ว พิจารณา [๑๘๐๒] มัคคาธิปติธรรม เป็นปัจจัยแก่มัคคาธิปติธรรม โดยอารัมมณปัจจัย คือ พระอริยะทั้งหลายออกจากมรรค กระทำมรรคให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่นแล้ว พิจารณา [๑๘๐๓] มัคคาธิปติธรรม เป็นปัจจัยแก่มัคคารัมมณธรรม โดยอารัมมณปัจจัย คือ พระอริยะทั้งหลายออกจากมรรค พิจารณามรรค รู้จิตของบุคคผู้พร้อมเพรียงด้วยจิตที่เป็นมัคคาธิปติธรรม โดยเจโตปริยญาณ ขันธ์ทั้งหลายที่เป็นมัคคาธิปติธรรม เป็นปัจจัยแก่เจโตปริยญาณ แก่ปุพเพนิวาสานุสสติ- *ญาณ แก่อนาคตังสญาณ แก่อาวัชชนะ โดยอารัมมณปัจจัย [๑๘๐๔] มัคคาธิปติธรรม เป็นปัจจัยแก่มัคคารัมมณธรรม และมัคคาธิปติธรรม โดยอารัมมณปัจจัย คือ พระอริยะทั้งหลายออกจากมรรค กระทำมรรคให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่นแล้ว พิจารณา [๑๘๐๕] มัคคเหตุกธรรม และมัคคาธิปติธรรม เป็นปัจจัยแก่มัคคารัมมณธรรม โดยอารัมมณปัจจัย คือ พระอริยะทั้งหลายออกจากมรรค พิจารณามรรค รู้จิตของบุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยจิตที่เป็นมัคคเหตุกธรรม และมัคคาธิปติธรรม โดย เจโตปริยญาณ ขันธ์ทั้งหลายที่เป็นมัคคเหตุกธรรม และมัคคาธิปติธรรม เป็นปัจจัยแก่เจโตปริยญาณ แก่ปุพเพนิสวาสานุสสติญาณ แก่อนาคตังสญาณ แก่อาววัชชนะ โดยอารัมมณปัจจัย [๑๘๐๖] มัคคเหตุกธรรม และมัคคาธิปติธรรม เป็นปัจจัยแก่มัคคาธิปติธรรม โดยอารัมมณปัจจัย คือ พระอริยะทั้งหลายออกจากมรรค กระทำมรรคให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่นแล้ว พิจารณา [๑๘๐๗] มัคคเหตุกธรรม และมัคคาธิปติธรรม เป็นปัจจัยแก่มัคคารัมมณธรรม และมัคคาธิปติธรรม โดยอารัมมณปัจจัย คือ พระอริยะทั้งหลายออกจากมรรค กระทำมรรคให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่นแล้ว พิจารณา [๑๘๐๘] มัคคารัมมณธรรม เป็นปัจจัยแก่มัคคารัมมณธรรม โดยอธิปติปัจจัย มีอย่างเดียว คือ สหชาตาธิปติ ได้แก่ อธิปติธรรมที่เป็นมัคคารัมมณธรรม เป็นปัจจัย แก่สัมปยุตตขันธ์ทั้งหลาย โดยอธิปติปัจจัย [๑๘๐๙] มัคคารัมมณธรรม เป็นปัจจัยแก่มัคคาธิปติธรรม โดยอธิปติปัจจัย มีอย่างเดียว คือ สหชาตาธิปติ ได้แก่อธิปติธรรมที่เป็นมัคคารัมมณธรรม เป็นปัจจัย สัมปยุตตขันธ์ทั้งหลายที่เป็นมัคคาธิปติธรรม โดยอธิปติปัจจัย [๑๘๑๐] มัคคารัมมณธรรม เป็นปัจจัยแก่มัคคารัมมณธรรม และมัคคาธิปติธรรม โดยอธิปติปัจจัย มีอย่างเดียว คือ สหชาตาธิปติ ได้แก่ อธิปติธรรมที่เป็นมัคคารัมมณธรรม เป็น ปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์ทั้งหลายที่เป็นมัคคารัมมณธรรม และมัคคาธิปติธรรม โดยอธิปติปัจจัย [๑๘๑๑] มัคคเหตุกธรรม เป็นปัจจัยแก่มัคคเหตุกธรรม โดยอธิปติปัจจัย มีอย่างเดียว คือ สหชาตาธิปติ ได้แก่ อธิปติธรรมที่เป็นมัคคเหตุกธรรม เป็นปัจจัย แก่สัมปยุตตขันธ์ทั้งหลาย โดยอธิปติปัจจัย [๑๘๑๒] มัคคเหตุกธรรม เป็นปัจจัยแก่มัคคารัมมณธรรม โดยอธิปติปัจจัย มีอย่างเดียว คือ อารัมมณธิปติ ได้แก่พระอริยะทั้งหลายออกจากมรรค กระทำมรรค ให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่นแล้ว พิจารณา [๑๘๑๓] มัคคเหตุกธรรม เป็นปัจจัยแก่มัคคาธิปติธรรม โดยอธิปติปัจจัย มี ๒ อย่าง คือ อารัมมณาธิปติ สหชาตาธิปติ ที่เป็น อารัมมณาธิปติ ได้แก่ พระอริยะทั้งหลายออกจากมรรค กระทำมรรคให้เป็น อารมณ์อย่างหนักแน่นแล้วพิจารณา ที่เป็น สหชาตาธิปติ ได้แก่ อธิปติธรรมที่เป็นมัคคเหตุกธรรม เป็นปัจจัยแก่สัมปยุตต- *ขันธ์ทั้งหลายที่เป็นมัคคาธิปติธรรม โดยอธิปติปัจจัย [๑๘๑๔] มัคคเหตุกธรรม เป็นปัจจัยแก่มัคคารัมมณธรรม และมัคคาธิปติธรรม โดยอธิปติปัจจัย มี ๒ อย่าง คือ อารัมมณาธิปติ สหชาตาธิปติ ที่เป็น อารัมมณาธิปติ ได้แก่ พระอริยะทั้งหลายออกจากมรรค กระทำมรรคให้เป็น อารมณ์หนักแน่นแล้ว พิจารณา [๑๘๑๕] มัคคเหตุกธรรม เป็นปัจจัยแก่มัคคเหตุกธรรม และมัคคาธิปติธรรม โดยอธิปติปัจจัย มีอย่างเดียว คือ สหชาตาธิปติ ได้แก่ อธิปติธรรมที่เป็นมัคคเหตุกธรรม เป็นปัจจัย แก่สัมปยุตต่ขันธ์ทั้งหลายที่เป็นมัคคเหตุกธรรมและมัคคาธิปติธรรม โดยอธิปติปัจจัย [๑๘๑๖] มัคคาธิปติธรรม เป็นปัจจัยแก่มัคคาธิปติธรรม โดยอธิปติปัจจัย มี ๒ อย่าง คือ อารัมมณาธิปติ สหชาตาธิปติ ที่เป็น อารัมมณาธิปติ ได้แก่ พระอริยะทั้งหลายออกจากมรรค ฯลฯ พิจารณา ที่เป็น สหชาตาธิปติ ได้แก่ อธิปติธรรมที่เป็นมัคคาธิปติธรรม เป็นปัจจัยแก่สัมปยุตต- *ขันธ์ทั้งหลาย โดยอธิปติปัจจัย [๑๘๑๗] มัคคาธิปติธรรม เป็นปัจจัยแก่มัคคารัมมณธรรม โดยอธิปติปัจจัย มี ๒ อย่าง คือ อารัมมณาธิปติ สหชาตาธิปติ ที่เป็น อารัมมณาธิปติ ได้แก่ พระอริยะทั้งหลายออกจากมรรค ฯลฯ พิจารณา ที่เป็น สหชาตาธิปติ ได้แก่ อธิปติธรรมที่เป็นมัคคาธิปติธรรม เป็นปัจจัยแก่สัมปยุตต- *ขันธ์ทั้งหลายที่เป็นมัคคารัมมณธรรม โดยอธิปติปัจจัย [๑๘๑๘] มัคคาธิปติธรรม เป็นปัจจัยแก่มัคคเหตุกธรรม โดยอธิปติปัจจัย มีอย่างเดียว คือ สหชาตาธิปติ ได้แก่ อธิปติธรรมที่เป็นมัคคาธิปติธรรม เป็นปัจจัย แก่สัมปยุตตขันธ์ทั้งหลายที่เป็นมัคคเหตุกธรรม โดยอธิปติปัจจัย [๑๘๑๙] มัคคาธิปติธรรม เป็นปัจจัยแก่มัคคารัมมณธรรม และมัคคาธิปติธรรม โดยอธิปติปัจจัย มี ๒ อย่าง คือ อารัมมณาธิปติ สหชาตาธิปติ ที่เป็น อารัมมณาธิปติ ได้แก่ พระอริยะทั้งหลายออกจากมรรค ฯลฯ ที่เป็น สหชาตาธิปติ ได้แก่ อธิปติธรรมที่เป็นมัคคาธิปติธรรมเป็นปัจจัยแก่สัมปยุตต- *ขันธ์ทั้งหลายที่เป็นมัคคารัมมณธรรม และมัคคาธิปติธรรม โดยอธิปติปัจจัย [๑๘๒๐] มัคคาธิปติธรรม เป็นปัจจัยแก่มัคคเหตุกธรรม และมัคคาธิปติธรรม โดยอธิปติปัจัย มีอย่างเดียว คือ สหชาตาธิปติ ได้แก่ อธิปติธรรมที่เป็นมัคคาธิปติธรรม เป็นปัจจัยแก่ สัมปยุตตขันธ์ทั้งหลายที่เป็นมัคคเหตุกธรรม และมัคคาธิปติธรรม โดยอธิปติปัจจัย [๑๘๒๑] มัคคารัมมณธรรม และมัคคาธิปติธรรม เป็นปัจจัยแก่มัคคารัมมณธรรม โดยอธิปติปัจจัย มีอย่างเดียว คือ สหชาตาธิหติ ได้แก่ อธิปติธรรมที่เป็นมัคคารัมมณธรรมและ มัคคาธิปติธรรม เป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์ทั้งหลายที่เป็นมัคคารัมมณธรรม โดยอธิปติปัจจัย [๑๘๒๒] มัคคารัมมณธรรม และมัคคาธิปติธรรม เป็นปัจจัยแก่มัคคาธิปติธรรม โดยอธิปติปัจจัย มีอย่างเดียว คือ สหชาตาธิปติ ได้แก่ อธิปติธรรมที่เป็นมัคคารัมมณธรรม และ มัคคาธิปติธรรม เป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์ทั้งหลาย ที่เป็นมัคคาธิปติธรรม โดยอธิปติปัจจัย [๑๘๒๓] มัคคารัมมณธรรม และมัคคาธิปติธรรม เป็นปัจจัยแก่มัคคารัมมณธรรม และมัคคาธิปติธรรม โดยอธิปติปัจจัย มีอย่างเดียว คือ สหชาตาธิปติ ได้แก่ อธิปติธรรมที่เป็นมัคคารัมมณธรรม และมัคคา- *ธิปติธรรม เป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์ทั้งหลายที่เป็นมัคคารัมมณธรรม และมัคคาธิปติธรรม โดย อธิปติปัจจัย [๑๘๒๔] มัคคเหตุกธรรม และมัคคาธิปติธรรม เป็นปัจจัยแก่มัคคารัมมณธรรม โดยอธิปติปัจจัย มีอย่างเดียว คือ อารัมมณาธิปติ ได้แก่ พระอริยะทั้งหลายออกจากมรรคกระทำ มรรคให้หนักแน่นแล้ว พิจารณา [๑๘๒๕] มัคคเหตุกธรรม และมัคคาธิปติธรรม เป็นปัจจัยแก่มัคคเหตุกธรรม โดยอธิปติปัจัย มีอย่างเดียว คือ สหชาตาธิปติ ได้แก่ อธิปติธรรมที่เป็นมัคคเหตุกธรรม และ มัคคาธิปติธรรม เป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์ทั้งหลายที่เป็นมัคคเหตุกธรรม โดยอธิปติปัจจัย [๑๘๒๖] มัคคเหตุกธรรม และมัคคาธิปติธรรม เป็นปัจจัยแก่มัคคาธิปติธรรม โดยอธิปติปัจจัย มี ๒ อย่าง คือ อารัมมณาธิปติ สหชาตาธิปติ ที่เป็น อารัมมณาธิปติ ได้แก่ พระอริยะทั้งหลายออกจากมรรค ฯลฯ ที่เป็น สหชาตาธิปติ ได้แก่ อธิปติธรรมที่เป็นมัคคเหตุกธรรมและมัคคาธิปตธรรม เป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์ทั้งหลายที่เป็นมัคคาธิปติธรรม โดยอธิปติปัจจัย [๑๘๒๗] มัคคเหตุกธรรม และมัคคาธิปติธรรม เป็นปัจจัยแก่มัคคารัมมณธรรม และมัคคาธิปติธรรม โดยอธิปติปัจจัย มีอย่างเดียว คือ อารัมมณาธิปติ ได้แก่ พระอริยะทั้งหลายออกจากมรรค ฯลฯ พิจารณา [๑๘๒๘] มัคคเหตุกธรรม และมัคคาธิปติธรรม เป็นปัจจัยแก่มัคคเหตุกธรรม และมัคคาธิปติธรรม โดยอธิปติปัจจัย มีอย่างเดียว คือ สหชาตาธิปติ ได้แก่ อธิปติธรรมที่เป็นมัคคเหตุกธรรม และ มัคคาธิปติธรรม เป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์ทั้งหลายที่เป็นมัคคเหตุกธรรม และมัคคาธิปติธรรม โดยอธิปติปัจจัย [๑๘๒๙] มัคคารัมมณธรรม เป็นปัจจัยแก่มัคคารัมมณธรรม โดยอนันตรปัจจัย คือ ขันธ์ทั้งหลายที่เป็นมัคคารัมมณธรรม ที่เกิดก่อนๆ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ทั้งหลายที่ เป็นมัคคารัมมณธรรม ที่เกิดหลังๆ โดยอนันตรปัจจัย อวัชชนะ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ทั้งหลายที่เป็นมัคคารัมมณธรรม โดยอนันตรปัจจัย [๑๘๓๐] มัคคารัมมณธรรม เป็นปัจจัยแก่มัคคาธิปติธรรม โดยอนันตรปัจจัย คือ ขันธ์ทั้งหลายที่เป็นมัคคารัมมณธรรม ที่เกิดก่อนๆ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ทั้งหลายที่ เป็นมัคคาธิปติธรรม ที่เกิดหลังๆ โดยอนันตรปัจจัย อาวัชชนะเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ทั้งหลายที่เป็นมัคคาธิปติธรรม โดยอนันตรปัจจัย [๑๘๓๑] มัคคารัมมณธรรม เป็นปัจจัยแก่มัคคารัมมณธรรมและมัคคาธิปติธรรม โดยอนันตรปัจจัย คือ ขันธ์ทั้งหลายที่เป็นมัคคารัมมณธรรม ที่เกิดก่อนๆ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ทั้งหลายที่ เป็นมัคคารัมมณธรรม และมัคคาธิปติธรรมที่เกิดหลังๆ โดยอนันตรปัจจัย อาวัชชนะ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ทั้งหลายที่เป็นมัคคารัมมณธรรมและมัคคาธิปติธรรม โดย อนันตรปัจจัย [๑๘๓๒] มัคคาธิปติธรรม เป็นปัจจัยแก่มัคคาธิปติธรรม โดยอนันตรปัจจัย คือ ขันธ์ทั้งหลายที่เป็นมัคคาธิปติธรรม ที่เกิดก่อนๆ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ทั้งหลายที่เป็น มัคคาธิปติธรรม ที่เกิดหลังๆ โดยอนันตรปัจจัย [๑๘๓๓] มัคคาธิปติธรรม เป็นปัจจัยแก่มัคคารัมมณธรรม โดยอนันตรปัจจัย คือ ขันธ์ทั้งหลายที่เป็นมัคคาธิปติธรรม ที่เกิดก่อนๆ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ทั้งหลายที่ เป็นมัคคารัมมณธรรม ที่เกิดหลังๆ โดยอนันตรปัจจัย [๑๘๓๔] มัคคาธิปติธรรม เป็นปัจจัยแก่มัคคารัมมณธรรม และมัคคาธิปติธรรม โดยอนันตรปัจจัย คือ ขันธ์ทั้งหลายที่เป็นมัคคาธิปติธรรม ที่เกิดก่อนๆ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ทั้งหลายที่ เป็นมัคคารัมมณธรรม และมัคคาธิปติธรรม ที่เกิดหลัง โดยอนันตรปัจจัย [๑๘๓๕] มัคคารัมมณธรรม และมัคคาธิปติธรรม เป็นปัจจัยแก่มัคคารัมมณธรรม โดยอนันตรปัจจัย คือ ขันธ์ทั้งหลายที่เป็นมัคคารัมมณธรรม และมัคคาธิปติธรรม ที่เกิดก่อนๆ เป็นปัจจัย แก่ขันธ์ทั้งหลายที่เป็นมัคคารัมมณธรรม ที่เกิดหลังๆ โดยอนันตรปัจจัย [๑๘๓๖] มัคคารัมมณธรรม และมัคคาธิปติธรรม เป็นปัจจัยแก่มัคคาธิปติธรรม โดยอนันตรปัจจัย คือ ขันธ์ทั้งหลายที่เป็นมัคคารัมมณธรรม และมัคคาธิปติธรรม ที่เกิดก่อนๆ เป็นปัจจัย แก่ขันธ์ทั้งหลายที่เป็นมัคคาธิปติธรรม ที่เกิดหลังๆ โดยอนันตรปัจจัย [๑๘๓๗] มัคคารัมมณธรรม และมัคคาธิปติธรรม เป็นปัจจัยแก่มัคคารัมมณธรรม และมัคคาธิปติธรรม โดยอนันตรปัจจัย คือ ขันธ์ทั้งหลายที่เป็นมัคคารัมมณธรรม และมัคคาธิปติธรรม ที่เกิดก่อนๆ เป็นปัจจัย แก่ขันธ์ทั้งหลายที่เป็นมัคคารัมมณธรรม และมัคคาธิปติธรรม ที่เกิดหลังๆ โดยอนันตรปัจจัย [๑๘๓๘] มัคคารัมมณธรรม เป็นปัจจัยแก่มัคคารัมมณธรรม โดยสมนันตรปัจจัย เหมือนกับ อนันตรปัจจัย เป็นปัจจัย โดยสหชาตปัจจัย เป็นปัจจัย โดยอัญญมัญญปัจจัย เป็นปัจจัย โดย นิสสยปัจจัย พึงกระทำหัวข้อปัจจัย ๑๗ ในปัจจัยทั้ง ๓ [๑๘๓๙] มัคคารัมมณธรรม เป็นปัจจัยแก่มัคคารัมมณธรรม โดยอุปนิสสยปัจจัย มี ๒ อย่าง คือ อนันตรูปนิสนสยะ ปกตูปนิสสยะ ฯลฯ ที่เป็น ปกตูปนิสสยะ ได้แก่ เป็นปัจจัยแก่ปัจจเวกขณะ โดยอุปนิสสยะปัจจัย [๑๘๔๐] มัคคารัมมณธรรม เป็นปัจจัยแก่มัคคาธิปติธรรม โดยอุปนิสสยปัจจัย มี ๒ อย่าง คือ อนันตรูปนิสสยะ ปกตูนิสสยะ ฯลฯ ที่เป็น ปกตูปนิสสยะ ได้แก่ ปัจจเวกขณะ เป็นปัจจัยแก่ปัจจเวกขณะ โดย อุปนิสสยปัจจัย [๑๘๔๑] มัคคารัมมณธรรม เป็นปัจจัยแก่มัคคารัมมณธรรม และมัคคาธิปติ- *ธรรม โดยอุปนิสสยปัจจัย มี ๒ อย่าง คือ อนันตรูปนิสสยะ ปกตูปนิสสยะ ฯลฯ ที่เป็น ปกตูปนิสสยะ ได้แก่ ปัจจเวกขณะ เป็นปัจจัยแก่ปัจจเวกขณะ โดย อุปนิสสยปัจจัย [๑๘๔๒] มัคคเหตุกธรรม เป็นปัจจัยแก่มัคคเหตุกธรรม โดยอุปนิสสยปัจจัย มีอย่างเดียว คือ ปกตูปนิสสยะ ได้แก่ ปฐมมรรค เป็นปัจจัยแก่ทุติยมรรค โดย อุปนิสสยปัจจัย ตติยมรรค เป็นปัจจัยแก่จตุตมรรค โดยอุปนิสสยปัจจัย [๑๘๔๓] มัคคเหตุกธรรม เป็นปัจจัยกแก่มัคคารัมมณธรรม โดยอุปนิสสยปัจจัย มีอย่างเดียวคือ อารัมมณูปนิสสยะ ได้แก่ พระอริยะทั้งหลายออกจากมรรค กระทำ มรรคให้หนักแน่นแล้ว พิจารณา [๑๘๔๔] มัคคเหตุกธรรม เป็นปัจจัยแก่มัคคาธิปติธรรม โดยอุปนิสสยปัจจัย มี ๓ อย่าง คือ อารัมมณูปนิสสยะ อนันตรูปนิสสยะ ปกตูปนิสสยะ ฯลฯ ที่เป็นปกตูปนิสสยะ ได้แก่ ปฐมมรรค เป็นปัจจัยแก่ทุติยมรรค ตติยมรรค เป็น ปัจจัยแก่จตุตถมรรค โดยอุปนิสสยปัจจัย [๑๘๔๕] มัคคเหตุกธรรม เป็นปัจจัยแก่มัคคารัมมณธรรม และมัคคาธิปติธรรม โดยอุปนิสสยปัจจัย มีอย่างเดียว คือ อารัมมณูปนิสสยะ ได้แก่ พระอริยะทั้งหลายออกจากมรรค กระทำ มรรคให้หนักแน่นแล้ว พิจารณา [๑๘๔๖] มัคคเหตุกธรรม เป็นปัจจัยแก่มัคคเหตุกธรรม และมัคคาธิปติธรรม โดยอุปนิสสยปัจจัย มีอย่างเดียว คือ ปกตูปนิสสยะ ได้แก่ ปฐมมรรค เป็นปัจจัยแก่ทุติยมรรค ฯลฯ โดย อุปนิสสยปัจจัย [๑๘๔๗] มัคคาธิปติธรรม เป็นปัจจัยแก่มัคคาธิปติธรรม โดยอุปนิสสยปัจจัย มี ๓ อย่าง คือ อารัมมณูปนิสสยะ อนันตรูปนิสสยะ ปกตูปนิสส ฯลฯ ที่เป็น ปกตูปนิสสยะ ได้แก่ ปฐมมรรค เป็นปัจจัยแก่ทุติยมรรค ตติยมรรค เป็น ปัจจัยแก่จตุตถมรรค โดยอุปนิสสยปัจจัย ปัจจเวกขณะ เป็นปัจจัยแก่ปัจจเวกขณะ โดย อุปนิสสยปัจจัย [๑๘๔๘] มัคคาธิปติธรรม เป็นปัจจัยแก่มัคคารัมมณธรรม โดยอุปนิสสยปัจจัย มี ๓ อย่าง คือ อารัมมณูปนิสสยะ อนันตรูปนิสสยะ ปกตูปนิสสยะ ฯลฯ ที่เป็น ปกตูปนิสสยะ ได้แก่ ปัจจเวกขณะ เป็นปัจจัยแก่ปัจจเวกขณะ โดย อุปนิสสยปัจจัย [๑๘๔๙] มัคคาธิปติธรรม เป็นปัจจัยแก่มัคคเหตุกธรรม โดยอุปนิสสยปัจจัย มีอย่างเดียว คือ ปกตูปนิสสยะ ได้แก่ ปฐมมรรค ฯลฯ เป็นปัจจัยแก่จตุตถมรรค โดยอุปนิสสยปัจจัย [๑๘๕๐] มัคคาธิปติธรรม เป็นปัจจัยแก่มัคคารัมมณธรรม และมัคคาธิปติธรรม โดยอุปนิสสยปัจจัย มี ๓ อย่าง คือ อารัมมณูปนิสสยะ อนันตรูปนิสสยะ ปกตูปนิสสยะ ฯลฯ ที่เป็น ปกตูปนิสสยะ ได้แก่ ปัจจเวกขณะ เป็นปัจจัยแก่ปัจจเวกขณะ โดย อุปนิสสยปัจจัย [๑๘๕๑] มัคคาธิปติธรรม เป็นปัจจัยแก่มัคคเหตุกธรรม และมัคคาธิปติธรรม โดยอุปนิสสยปัจจัย มีอย่างเดียว คือ ปกตูปนิสสยะ ได้แก่ ปฐมมรรค ฯลฯ เป็นปัจจัยแก่จตุตถมรรค โดย อุปนิสสยปัจจัย [๑๘๕๒] มัคคารัมมณธรรม และมัคคาธิปติธรรม เป็นปัจจัยแก่มัคคารัมมณธรรม โดยอุปนิสสยปัจจัย มี ๒ อย่าง คือ อนันตรูปนิสสยะ ปกตูปนิสสยะ ฯลฯ ที่เป็น ปกตูปนิสสยะ ได้แก่ ปัจจเวกขณะ เป็นปัจจัยแก่ปัจจเวกขณะ โดย อุปนิสสยปัจจัย [๑๘๕๓] มัคคารัมมณธรรม และมัคคาธิปติธรรม เป็นปัจจัยแก่มัคคาธิปติธรรม โดยอุปนิสสยปัจจัย มี ๒ อย่าง คือ อนันตรูปนิสสยะ ปกตูปนิสสยะ ฯลฯ ที่เป็น ปกตูปนิสสยะ ได้แก่ ปัจจเวกขณะ เป็นปัจจัยแก่ปัจจเวกขณะ โดย อุปนิสสยปัจจัย [๑๘๕๔] มัคคารัมมณธรรม และมัคคาธิปติธรรม เป็นปัจจัยแก่มัคคารัมมณธรรม และมัคคาธิปติธรรม โดยอุปนิสสยปัจจัย มี ๒ อย่าง คือ อนันตรูปนิสสยะ ปกตูปนิสสยะ ฯลฯ ที่เป็น ปกตูปนิสสยะ ได้แก่ ปัจจเวกขณะ เป็นปัจจัยแก่ปัจจเวกขณะ โดย อุปนิสสยปัจจัย [๑๘๕๕] มัคคเหตุกธรรม และมัคคาธิปติธรรม เป็นปัจจัยแก่มัคคารัมมณธรรม โดยอุปนิสสยปัจจัย มีอย่างเดียว คือ อารัมมณูปนิสสยะ ได้แก่ พระอริยะทั้งหลายออกจากมรรค กระทำ มรรคให้หนักแน่นแล้ว พิจารณา [๑๘๕๖] มัคคเหตุกธรรม และมัคคาธิปติธรรม เป็นปัจจัยแก่มัคคเหตุกธรรม โดยอุปนิสสยปัจจัย มีอย่างเดียว คือ ปกตูปนิสสยะ ได้แก่ ปฐมมรรค เป็นปัจจัยแก่ทุติยมรรค ตติยมรรค เป็นปัจจัยแก่จตุตถมรรค โดยอุปนิสสยปัจจัย [๑๘๕๗] มัคคเหตุกธรรม และมัคคาธิปติธรรม เป็นปัจจัยแก่มัคคาธิปติธรรม โดยอุปนิสสยปัจจัย มี ๓ อย่าง คือ อารัมมณูปนิสสยะ อนันตรูปนิสสยะ ปกตูปนิสสยะ ฯลฯ ที่เป็น ปกตูปนิสสยะ ได้แก่ ปฐมมรรค เป็นปัจจัยแก่ทุติยมรรค ตติมรรค เป็นปัจจัยแก่จตุตถมรรค โดยอุปนิสสยปัจจัย [๑๘๕๘] มัคคเหตุกธรรม และมัคคาธิปติธรรม เป็นปัจจัยแก่มัคคารัมมณธรรม และมัคคาธิปติธรรม โดยอุปนิสสยปัจจัย มีอย่างเดียว คือ อารัมมณูปนิสสยะ ได้แก่ พระอริยะทั้งหลายออกจากมรรค กระทำ มรรคให้หนักแน่นแล้ว พิจารณา [๑๘๕๙] มัคคเหตุกธรรม และมัคคาธิปติธรรม เป็นปัจจัยแก่มัคคเหตุกธรรม และมัคคาธิปติธรรม โดยอุปนิสสยปัจจัย มีอย่างเดียว คือ ปกตูปนิสสยะ ได้แก่ ปฐมมรรค เป็นปัจจัยแก่ทุติยมรรค ตติยมรรค เป็นปัจจัยแก่จตุตถมรรค โดยอุปนิสสยปัจจัย [๑๘๖๐] มัคคารัมมณธรรม เป็นปัจจัยแก่มัคคารัมมณธรรม โดยอาเสวนปัจจัย คือ ขันธ์ทั้งหลายที่เป็นมัคคารัมมณธรรม ที่เกิดก่อนๆ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ทั้งหลาย ที่เป็นมัคคารัมมณธรรม ที่เกิดหลังๆ โดยอาเสวนปัจจัย [๑๘๖๑] มัคคารัมมณธรรม เป็นปัจจัยแก่มัคคาธิปติธรรม โดยอาเสวนปัจจัย เหมือนกับอนันตรปัจจัย พึงกระทำหัวข้อปัจจัย ๙ ไม่พึงกระทำอาวัชชนะ [๑๘๖๒] มัคคารัมมณธรรม เป็นปัจจัยแก่มัคคารัมมณธรรม โดยกัมมปัจจัย เป็นปัจจัย โดยสหชาตปัจจัย นานาขณิก ไม่มี มัคคารัมมณธรรม เป็นปัจจัยแก่มัตตารัมมณธรรม โดยอาหารปัจจัย เป็นปัจจัย โดยอินทริยปัจจัย เป็นปัจจัย โดยฌานปัจจัย เป็นปัจจัย โดยมัคคปัจจัย เป็นปัจจัย โดย สัมปยุตตปัจจัย เป็นปัจจัย โดยอัตถิปัจจัย ปัจจัย ๗ เหล่านี้ แจกเป็นหัวข้อปัจจัย ๑๗ เหมือนกับเหตุปัจจัย เป็นปัจจัย โดยนัตถิปัจจัย เป็นปัจจัย โดยวิคตปัจจัย เหมือนกับอนันตรปัจจัย เป็นปัจจัย โดยอวิคตปัจจัย มีหัวข้อปัจจัย ๑๗ [๑๘๖๓] ในเหตุปัจจัย มีวาระ ๑๗ ในอารัมมณปัจจัย มี " ๙ ในอธิปติปัจจัย มี " ๒๑ ในอนันตรปัจจัย มี " ๙ ในสมนันตรปัจจัย มี " ๙ ในสหชาตปัจจัย มี " ๑๗ ในอัญญมัญญปัจจัย มี " ๑๗ ในนิสสยปัจจัย มี " ๑๗ ในอุปนิสสยปัจจัย มี " ๒๑ ในอาเสวนปัจจัย มี " ๙ ในกัมมปัจจัย มี " ๑๗ ในอาหารปัจจัย ในอินทริยปัจจัย ในฌานปัจจัย ในมัคคปัจจัย ในสัมปยุตตปัจจัย มีวาระ ๑๗ ในอัตถิปัจจัย มี " ๑๗ ในนัตถิปัจจัย มี " ๙ ในวิคตปัจจัย มี " ๙ ในอวิคตปัจจัย มี " ๑๗
พึงนับอย่างนี้
อนุโลม จบ
[๑๘๖๔] มัคคารัมมณธรรม เป็นปัจจัยแก่มัคคารัมมณธรรม โดยสหชาตปัจจัย เป็นปัจจัย โดยอุปนิสสยปัจจัย [๑๘๖๕] มัคคารัมมณธรรม เป็นปัจจัยแก่มัคคาธิปติธรรม โดยสหชาตปัจจัย เป็นปัจจัย โดยอุปนิสสยปัจจัย [๑๘๖๖] มัคคารัมมณธรรม เป็นปัตจจัยแก่มัคคารัมมณธรรม และมัคคาธิปติธรรม โดยสหชาตปัจจัย เป็นปัจจัย โดยอุปนิสสยปัจจัย [๑๘๖๗] มัคคเหตุกธรรม เป็นปัจจัยแก่มัคคเหตุกธรรม โดยสหชาตปัจจัย เป็น ปัจจัย โดยอุปนิสสยปัจจัย [๑๘๖๘] มัคคเหตุกธรรม เป็นปัจจัยแก่มัคคารัมมณธรรม โดยอารัมมณปัจจัย เป็นปัจจัย โดยอุปนิสสยปัจจัย [๑๘๖๙] มัคคเหตุกธรรม เป็นปัจจัยแก่มัคคาธิปติธรรม โดยอารัมมณปัจจัย เป็นปัจจัย โดยสหชาตปัจจัย เป็นปัจจัย โดยอุปนิสสยปัฉจัย [๑๘๗๐] มัคคเหตุกธรรม เป็นปัจจัยแก่มัคคารัมมณธรรม และมัคคาธิปติธรรม โดยอารัมมณปัจจัย เป็นปัจจัย โดยอุปนิสสยปัจจัย [๑๘๗๑] มัคคเหตุธรรม เป็นปัจจัยแก่มัคคเหตุกธรรม และมัคคาธิปติธรรม โดยสหชาตปัจจัย เป็นปัจจัย โดยอุปนิสสยปัจจัย [๑๘๗๒] มัคคาธิปติธรรม เป็นปัจจัยแก่มัคคาธิปติธรรม โดยสหชาตปัจจัย เป็นปัจจัย โดยอุปนิสสยปัจจัย [๑๘๗๓] มัคคาธิปติธรรม เป็นปัจจัยแก่มัคคารัมมณธรรม โดยอารัมมณปัจจัย เป็นปัจจัย โดยสหชาตปัจจัย เป็นปัจจัย โดยอุปนิสสยปัจจัย [๑๘๗๔] มัคคาธิปติธรรม เป็นปัจจัยแก่มัคคาเหตุกธรรม โดยสหชาตปัจจัย เป็นปัจจัย โดยอุปนิสสยปัจจัย [๑๘๗๕] มัคคาธิปติธรรม เป็นปัจจัยแก่มัคคารัมมณธรรม และมัคคาธิปติธรรม โดยสหชาตปัจจัย เป็นปัจจัย โดยอุปนิสสยปัจจัย [๑๘๗๖] มัคคาธิปติธรรม เป็นปัจจัยแก่มัคคเหตุกธรรม และมัคคาธิปติธรรม โดยสหชาตปัจจัย เป็นปัจจัย โดยอุปนิสสยปัจจัย [๑๘๗๗] มัคคารัมมณธรรม และมัคคาธิปติธรรม เป็นปัจจัยแก่มัคคารัมมณธรรม โดยสหชาตปัจจัย เป็นปัจจัย โดยอุปนิสสยปัจจัย [๑๘๗๘] มัคคารัมมณธรรม และมัคคาธิปติธรรม เป็นปัจจัยแก่มัคคาธิปติธรรม โดยสหชาตปัจจัย เป็นปัจจัย โดยอุปนิสสยปัจจัย [๑๘๗๙] มัคคารัมมณธรรม และมัคคาธิปติธรรม เป็นปัจจัยแก่มัคคารัมมณธรรม และมัคคาธิปติธรรม โดยสหชาตปัจจัย เป็นปัจจัย โดยอุปนิสสยปัจจัย [๑๘๘๐] มัคคเหตุกธรรม และมัคคาธิปติธรรม เป็นปัจจัยแก่มัคคารัมมณธรรม โดยอารัมมณปัจจัย เป็นปัจจัย โดยอุปนิสสยปัจจัย [๑๘๘๑] มัคคเหตุกธรรม และมัคคาธิปติธรรม เป็นปัจจัยแก่มัคคเหตุกธรรม โดยสหชาตปัจจัย เป็นปัจจัย โดยอุปนิสสยปัจจัย [๑๘๘๒] มัคคเหตุกธรรม และมัคคาธิปติธรรม เป็นปัจจัยแก่มัคคาธิปติธรรม โดยสหชาตปัจจัย เป็นปัจจัย โดยอุปนิสสยปัจจัย [๑๘๘๓] มัคคเหตุกธรรม และมัคคาธิปติธรรม เป็นปัจจัยแก่มัคคารัมมณธรรม และมัคคาธิปติธรรม โดยอุปนิสสยปัจจัย [๑๘๘๔] มัคคเหตุกธรรม และมัคคาธิปติธรรม เป็นปัจจัยแก่มัคคเหตุกธรรม และมัคคาธิปติธรรม โดยสหชาตปัจจัย เป็นปัจจัย โดยอุปนิสสยปัจจัย [๑๘๘๕] ในปัจจัยที่ไม่ใช่เหตุปัจจัย มีวาระ ๒๑ ในปัจจัยที่ไม่ใช่อารัมมณปัจจัย มี " ๑๗ ในปัจจัยที่ไม่ใช่อารัมมณปัจจัยซึ่งผู้มีปัญญาถือเอา ปกตารัมมณะก็ดี อุปนิสสยารัมมณะ ก็ดี ย่อมขาดไปทั้งสองอย่าง ในปัจจัยที่ไม่ใช่อธิปติปัจจัย มีวาระ ๒๑ ในปัจจัยที่ไม่ใช่อนันตรปัจจัย ในปัจจัยที่ไม่ใช่สมนันตรปัจจัย ในปัจจัยที่ไม่ใช่สหชาตปัจจัย ในปัจจัยที่ไม่ใช่อัญญมัญญปัจจัย ในปัจจัยที่ไม่ใช่นิสสยปัจจัย ในปัจจัยที่ไม่ใช่อุปนิสสยปัจจัย ในปัจจัยที่ไม่ใช่ปุเรชาตปัจจัย ในปัจจัยที่ไม่ใช่ปัจฉาชาตปัจจัย ในปัจจัยที่ไม่ใช่อาเสวนปัจจัย ในปัจจัยที่ไม่ใช่กัมมปัจจัย ในปัจจัยที่ไม่ใช่วิปากปัจจัย ในปัจจัยที่ไม่ใช่อาหารปัจจัย ในปัจจัยที่ไม่ใช่อินทริยปัจจัย ในปัจจัยที่ไม่ใช่ฌานปัจจัย ในปัจจัยที่ไม่ใช่มัคคปัจจัย ในปัจจัยที่ไม่ใช่สัมปยุตตปัจจัย ในปัจจัยที่ไม่ใช่วิปปยุตตปัจจัย ในปัจจัยที่ไม่ใช่อัตถิปัจจัย ในปัจจัยที่ไม่ใช่นัตถิปัจจัย ในปัจจัยที่ไม่ใช่วิคตปัจจัย ในปัจจัยที่ไม่ใช่อวิคตปัจจัย มีวาระ ๒๑
พึงนับอย่างนี้
ปัจจนียะ จบ
[๑๘๘๖] ในปัจจัยที่ไม่ใช่อารัมมณปัจจัย กับเหตุปัจจัย มีวาระ ๑๗ ในปัจจัยที่ไม่ใช่อธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ ในปัจจัยที่ไม่ใช่อนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ ในปัจจัยที่ไม่ใช่สมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ ในปัจจัยที่ไม่ใช่อุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ ในปัจจัยที่ไม่ใช่ปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ ในปัจจัยที่ไม่ใช่ปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ ในปัจจัยที่ไม่ใช่อาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ ในปัจจัยที่ไม่ใช่กัมมปัจจัย กับ ฯลฯ ในปัจจัยที่ไม่ใช่วิปากปัจจัย กับ ฯลฯ ในปัจจัยที่ไม่ใช่อาหารปัจจัย กับ ฯลฯ ในปัจจัยที่ไม่ใช่อินทริยปัจจัย กับ ฯลฯ ในปัจจัยที่ไม่ใช่ฌานปัจจัย กับ ฯลฯ ในปัจจัยที่ไม่ใช่มัคคปัจจัย กับ ฯลฯ ในปัจจัยที่ไม่ใช่วิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ ในปัจจัยที่ไม่ใช่นัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ ในปัจจัยที่ไม่ใช่วิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มีวาระ ๑๗
พึงนับอย่างนี้
อนุโลมปัจจนียะ จบ
[๑๘๘๗] ในอารัมมณปัจจัย กับในปัจจัยที่ไม่ใช่เหตุปัจจัย มีวาระ ๙ ในอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี " ๒๑ ในอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี " ๙ ในสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี " ๙ ในสหชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี " ๑๗ ในอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี " ๑๗ ในนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี " ๑๗ ในอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี " ๒๑ ในอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี " ๙ ในกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี " ๑๗ ในอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี " ๑๗ ในอินทริยปัจจัย กับปัจจัยที่ไม่ใช่เหตุปัจจัย ในฌานปัจจัย กับ ฯลฯ ในมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ ในสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มีวาระ ๑๗ ในอัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี " ๑๗ ในนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี " ๙ ในวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี " ๙ ในอวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี " ๑๗
พึงนับอย่างนี้
ปัจจนียานุโลม จบ
ปัญหาวาร จบ
มัคคารัมมณัตติกะ ที่ ๑๖ จบ

             เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๔๑ บรรทัดที่ ๑๒๖๒๙-๑๓๐๓๙ หน้าที่ ๕๓๖-๕๕๓. https://84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=41&A=12629&Z=13039&pagebreak=0              ฟังเนื้อความพระไตรปิฎก : [1], [2], [3], [4], [5], [6]              อ่านเทียบพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาฯ :- https://84000.org/tipitaka/pitaka_item/m_siri.php?B=41&siri=38              ศึกษาอรรถกถานี้ได้ที่ :- https://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=41&i=1796              ศึกษาพระไตรปิฏกฉบับภาษาบาลีอักษรไทย :- [1796-1887] https://84000.org/tipitaka/pali/pali_item_s.php?book=41&item=1796&items=92              The Pali Tipitaka in Roman :- [1796-1887] https://84000.org/tipitaka/pali/roman_item_s.php?book=41&item=1796&items=92              สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๔๑ https://84000.org/tipitaka/read/?index_41

อ่านหน้า[ต่าง] แรกอ่านหน้า[ต่าง] ที่แล้วแสดงหมายเลขหน้า
ในกรณี :- 
   บรรทัดแรกของแต่ละหน้าอ่านหน้า[ต่าง] ถัดไปอ่านหน้า[ต่าง] สุดท้าย

บันทึก ๒๗ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๔๖ บันทึกล่าสุด ๒๒ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๐ การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจากพระไตรปิฎกฉบับหลวง. หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]

สีพื้นหลัง :