ปัญจทีปิกาเถริยาปทานที่ ๙
ว่าด้วยผลแห่งการบูชาด้วยประทีป ๕ ดวง
[๑๔๙] ครั้งนั้น ดิฉันเป็นหญิงนักท่องเที่ยวอยู่ในพระนครหงสวดี ดิฉัน
ต้องการกุศล จึงเที่ยวไปสู่อารามหนึ่งจากอารามหนึ่ง ได้พบไม้โพธิ์
อันอุดม วันกาฬปักษ์ ยังจิตให้เลื่อมใสในไม้โพธิ์นั้นแล้ว นั่งลง
ที่โคนไม้โพธิ์ ดิฉันตั้งจิตเคารพประนมอัญชลีเหนือเศียรเกล้า
สำแดงความโสมนัสแล้วคิดอย่างนี้ในขณะนั้นว่า ถ้าพระพุทธเจ้า
มีพระคุณนับไม่ได้ ไม่มีบุคคลเปรียบเสมอไซร้ ก็ขอให้ทรง
แสดงปาฏิหาริย์แก่เราเถิด ขอไม้โพธิ์จงเปล่งรัศมี ทันใดนั้นเอง
ไม้โพธิ์ ก็ได้โพลงไปทั่วพร้อมกับที่ดิฉันนึก รัศมีสำเร็จด้วยสีทอง
ล้วนไพโรจน์ไปทั่วทิศ ดิฉันนั่งอยู่ที่โคนโพธิ์นั้น ๗ คืน ๗ วัน
เมื่อถึงวันเป็นวันคำรบ ๗ ดิฉันได้ทำการบูชาด้วยประทีป ประทีป ๕
ดวงลุกโพลงล้อมรอบอาสนะ ครั้งนั้น ประทีปของดิฉันลุกโพลงอยู่
จนถึงเวลาพระอาทิตย์อุทัย เพราะกรรมที่ทำไว้ดีนั้น และเพราะการ
ตั้งเจตน์จำนงไว้ ดิฉันละร่างมนุษย์แล้ว ได้ไปสวรรค์ชั้นดาวดึงส์
วิมานที่บุญกรรมสร้างให้ดิฉันอย่างสวยงามในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์นั้น
เรียกว่า "ปัญจทีปวิมาน" ปัญจทีปวิมานนั้นสูง ๑๐๐ โยชน์ กว้าง
๖๐ โยชน์ ประทีปนับไม่ถ้วนส่องสว่างล้อมดิฉันอยู่ ทั่วเทพพิภพ
โชติช่วงด้วยแสงประทีป คนที่หันหน้าไปทางทิศบูรพา ถ้าดิฉัน
ปรารถนาที่จะดู ดิฉันย่อมเห็นได้ด้วยจักษุทุกคน ทั้งเบื้องบน
เบื้องล่างและเบื้องขวาง ดิฉันปรารถนาจะเห็นกรรมดีและกรรมชั่ว
ที่คนทำในที่มีประมาณเท่าใด ที่มีประมาณเท่านั้น ย่อมไม่มีต้นไม้
หรือภูเขามากั้นกาง ดิฉันได้เป็นพระอัครมเหสีของท้าวสักรินท-
เทวราช ๘๐ พระองค์ ได้เป็นพระอัครมเหสีของพระเจ้าจักรพรรดิ
๑๐๐ พระองค์ ดิฉันเข้าถึงกำเนิดนั้นๆ ประทีปตั้งแสนๆ ส่องแสง
ล้อมดิฉัน ดิฉันจุติจากเทวโลกแล้ว เกิดในครรภ์มารดา เมื่อดิฉัน
อยู่ในครรภ์มารดา จักษุของดิฉันไม่หลับ ประทีปตั้งจำนวนแสนดวง
ส่องสว่างอยู่ในเรือนประสูติของดิฉัน ผู้พร้อมเพรียงด้วยบุญกรรม
นี้เป็นผลแห่งประทีป ๕ ดวง เมื่อถึงภพสุดท้าย ดิฉันกลับฉันทะ
ที่มีในใจ เห็นนิพพานอันเป็นสภาวะเยือกเย็น ไม่มีชราและมรณะ
พอเกิดได้อายุ ๗ ขวบ ดิฉันได้บรรลุอรหัต พระพุทธเจ้าพระนาม
ว่าโคดม ทรงทราบถึงคุณของดิฉัน จึงให้ดิฉันอุปสมบท ดิฉันเข้า
ฌานอยู่ในมณฑป โคนไม้ ปราสาท ถ้ำ หรือเรือนอันว่างเปล่าก็ดี
ประทีป ๕ ดวงส่องแสงสว่างให้ดิฉัน ทิพพจักษุของดิฉันบริสุทธิ์
ดิฉันฉลาดในสมาธิ ถึงความบริบูรณ์ในอภิญญา นี้เป็นผลแห่ง
ประทีป ๕ ดวง ดิฉันเป็นผู้อยู่จบพรหมจรรย์ทั้งปวง ทำกิจเสร็จแล้ว
ไม่มีอาสวะ ข้าแต่พระมหาวีระผู้มีพระจักษุ หม่อมฉันชื่อว่าปัญจทีปา
ขอถวายบังคมพระยุคลบาทของพระองค์ ในกัปที่แสนแต่กัปนี้
ดิฉันได้ถวายประทีปใดในครั้งนั้น ด้วยการถวายประทีปนั้น ดิฉัน
ไม่รู้จักทุคติเลย นี้เป็นผลแห่งประทีป ๕ ดวง ดิฉันเผากิเลส
ทั้งหลายแล้ว ... พระพุทธศาสนาดิฉันได้ทำเสร็จแล้ว.
ทราบว่า ท่านพระปัญจทีปิกาภิกษุณีได้กล่าวคาถาเหล่านี้ ด้วยประการฉะนี้แล.
จบ ปัญจทีปิกาเถริยาปทาน.
เนื้อความพระไตรปิฎกเล่มที่ ๓๓ บรรทัดที่ ๔๒๓๐-๔๒๗๒ หน้าที่ ๑๘๒-๑๘๔.
https://84000.org/tipitaka/read/v.php?B=33&A=4230&Z=4272&pagebreak=0
https://84000.org/tipitaka/read/byitem.php?book=33.1&item=149&items=1
อ่านโดยใช้เครื่องหมาย [เลขข้อ] เป็น เกณฑ์แบ่งข้อ :-
https://84000.org/tipitaka/read/byitem.php?book=33.1&item=149&items=1&mode=bracket
อ่านเทียบพระไตรปิฎกภาษาบาลีอักษรไทย :-
https://84000.org/tipitaka/pali/pali_item.php?book=33.1&item=149&items=1
อ่านเทียบพระไตรปิฎกภาษาบาลีอักษรโรมัน :-
https://84000.org/tipitaka/read/roman_item.php?book=33.1&item=149&items=1
ศึกษาอรรถกถานี้ที่ :-
https://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=33.1&i=149
สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๓๓
https://84000.org/tipitaka/read/?index_33
https://84000.org/tipitaka/english/?index_33
บันทึก ๑ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๔๖.
บันทึกล่าสุด ๓๐ มกราคม พ.ศ. ๒๕๔๙.
การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจากพระไตรปิฎก ฉบับหลวง.
หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]