ขอนอบน้อมแด่
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
                      พระองค์นั้น
บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ
     ฉบับภาษาไทย   บาลีอักษรไทย   บาลีอักษรโรมัน 
อ่านหัวข้อแรกอ่านหัวข้อที่แล้วไม่แสดงหมายเลขหน้า
ในกรณี :- 
   บรรทัดแรกของแต่ละหน้าอ่านหัวข้อถัดไปอ่านหัวข้อสุดท้าย
พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๓ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๕ อังคุตตรนิกาย สัตตก-อัฏฐก-นวกนิบาต
อุตตรสูตร
[๙๘] สมัยหนึ่ง ท่านพระอุตตระอยู่ที่วิหารชื่อว่า วัฏฏชาลิกา ใกล้ ภูเขาสังเขยยกะ ณ มหิสพัสดุชนบท ณ ที่นั้นแล ท่านพระอุตตระกล่าวกะภิกษุ ทั้งหลายว่า ดูกรท่านผู้มีอายุทั้งหลาย เป็นความดีแล้ว ที่ภิกษุพิจารณาเห็นความ วิบัติของตนโดยกาลอันควร ดูกรท่านผู้มีอายุทั้งหลาย เป็นความดีแล้ว ที่ภิกษุ

--------------------------------------------------------------------------------------------- หน้าที่ ๑๔๕.

พิจารณาเห็นความวิบัติของคนอื่นโดยกาลอันควร ดูกรท่านผู้มีอายุทั้งหลาย เป็น ความดีแล้ว ที่ภิกษุพิจารณาเห็นสมบัติของตนโดยกาลอันควร ดูกรท่านผู้มีอายุ ทั้งหลาย เป็นความดีแล้วที่ภิกษุพิจารณาเห็นสมบัติของผู้อื่นโดยกาลอันควร ฯ ก็สมัยนั้นแล ท้าวเวสสวัณมหาราชออกจากทิศเหนือผ่านไปทางทิศใต้ ด้วยกรณียกิจบางอย่าง ได้สดับคำที่ท่านพระอุตตระแสดงธรรมแก่ภิกษุทั้งหลาย ในวัฏฏชาลิกาวิหาร ใกล้ภูเขาสังเขยยกะ ณ มหิสพัสดุชนบท อย่างนี้ ... ได้หาย จากวัฏฏชาลิกาวิหาร ใกล้ภูเขาสังเขยยกะ ณ มหิสพัสดุชนบท ไปปรากฏใน เทวดาชั้นดาวดึงส์ เปรียบเหมือนบุรุษมีกำลัง เหยียดแขนที่คู้ หรือคู้แขน ที่เหยียด ฉะนั้น แล้วเข้าไปเฝ้าท้าวสักกะจอมเทพถึงที่ประทับ ครั้นแล้วจึงกราบ ทูลว่า ขอเดชะ พระองค์โปรดทรงทราบว่า ท่านพระอุตตระนี้ได้แสดงธรรมแก่ ภิกษุในวัฏฏชาลิกาวิหารอย่างนี้ ... ลำดับนั้น ท้าวสักกะจอมเทพได้ทรงหายจาก เทวดาชั้นดาวดึงส์ ไปปรากฏต่อหน้าท่านพระอุตตระ ในวัฏฏชาลิกาวิหาร ใกล้ ภูเขาสังเขยยกะ ณ มหิสพัสดุชนบท เปรียบเหมือนบุรุษผู้มีกำลังเหยียดแขนที่คู้ หรือคู้แขนที่เหยียด ฉะนั้น แล้วเสด็จเข้าไปหาท่านพระอุตตระถึงที่อยู่ อภิวาท แล้ว ประทับยืน ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้วได้ตรัสถามท่านพระอุตตระว่า ข้าแต่ท่านผู้เจริญ ได้ยินว่า ท่านพระอุตตระแสดงธรรมแก่ภิกษุทั้งหลายอย่างนี้ ... จริงหรือ ท่านพระอุตตระถวายพระพรว่า จริงอย่างนั้น มหาบพิตร ฯ ส. ข้าแต่ท่านผู้เจริญ คำนี้เป็นปฏิภาณของพระคุณเจ้าเอง หรือว่าเป็น ของพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ฯ อ. ดูกรมหาบพิตร ถ้าอย่างนั้น อาตมภาพจะทำข้ออุปมาให้มหาบพิตร ทรงสดับ ซึ่งวิญญูชนบางพวกจะรู้เนื้อความแห่งภาษิตได้ด้วยข้ออุปมา ดูกรมหา- *บพิตร เปรียบเหมือนข้าวเปลือกกองใหญ่ซึ่งมีอยู่ไม่ไกลบ้านหรือนิคมนัก ชนหมู่ มากขนข้าวเปลือกออกจากกองนั้นด้วยกระเช้าบ้าง ด้วยตระกร้าบ้าง ด้วยห่อพก บ้าง ด้วยกอบมือบ้าง ดูกรมหาบพิตร บุคคลผู้หนึ่งเข้าไปถามชนหมู่ใหญ่นั้น

--------------------------------------------------------------------------------------------- หน้าที่ ๑๔๖.

อย่างนี้ว่า ท่านทั้งหลายขนข้าวเปลือกนี้มาจากไหน ดูกรมหาบพิตร มหาชนนั้น จะตอบอย่างไร จึงจะตอบได้อย่างถูกต้อง ฯ ส. ข้าแต่ท่านผู้เจริญ มหาชนนั้นพึงตอบให้ถูกต้องได้อย่างนี้ว่า พวก เราขนมาจากกองข้าวเปลือกกองใหญ่โน้น ฯ อุ. ดูกรมหาบพิตร ฉันนั้นเหมือนกันแล คำอันเป็นสุภาษิตทั้งหมด ล้วนเป็นพระดำรัสของพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ดังนั้น อาตมภาพจึงชักเอาข้าวเปลือกมาถวายพระพร โดยเทียบเคียงสุภาษิตอันเป็นพระ ดำรัสของพระผู้มีพระภาคนั้น ขอถวายพระพร ฯ ส. ข้าแต่ท่านผู้เจริญ น่าอัศจรรย์ ข้าแต่ท่านผู้เจริญ ไม่เคยมีมาแล้ว ที่ท่านพระอุตตระได้กล่าวไว้เป็นอย่างดีดังนี้ว่า คำอันเป็นสุภาษิตทั้งหมดล้วนเป็น พระดำรัสของพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ดังนั้น อาตม- *ภาพจึงชักเอาข้าวเปลือกมาถวายพระพร โดยเทียบเคียงสุภาษิตอันเป็นพระดำรัส ของพระผู้มีพระภาคนั้น ท่านอุตตระผู้เจริญ สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับ อยู่ ณ ภูเขาคิชฌกูฏ ใกล้เมืองราชคฤห์ เมื่อพระเทวทัตต์หลีกไปแล้วไม่นาน ณ ที่นั้นแล พระผู้มีพระภาคทรงปรารภพระเทวทัตต์ ตรัสกะภิกษุทั้งหลายว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย เป็นความดีแล้ว ที่ภิกษุพิจารณาเห็นความวิบัติของตนโดยกาล อันควร ฯลฯ ดูกรภิกษุทั้งหลาย พระเทวทัตต์มีจิตอันอสัทธรรม ๘ ประการครอบงำ ย่ำยีแล้ว ต้องไปเกิดในอบาย ในนรกอยู่ชั่วกัลป์ แก้ไขไม่ได้ อสัทธรรม ๘ ประการเป็นไฉน คือลาภ ... ความเป็นผู้มีมิตรชั่ว ดูกรภิกษุทั้งหลาย พระเทวทัตต์ มีจิตอันอสัทธรรม ๘ ประการนี้แลครอบงำย่ำยีแล้ว ต้องไปเกิดในอบาย ใน นรกอยู่ชั่วกัลป์ แก้ไขไม่ได้ ดูกรภิกษุทั้งหลาย เป็นความดีแล้ว ที่ภิกษุครอบงำ ย่ำยีลาภที่เกิดขึ้นแล้ว เป็นความดีแล้วที่ภิกษุจะพึงครอบงำย่ำยีความเสื่อมลาภ ... ยศ ... ความเสื่อมยศ ... สักการะ ... ความเสื่อมสักการะ ... ความเป็นผู้ ปรารถนาลามก ... ความเป็นผู้มีมิตรชั่ว ที่เกิดขึ้นแล้ว ฯ

--------------------------------------------------------------------------------------------- หน้าที่ ๑๔๗.

ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุอาศัยอำนาจประโยชน์อะไร จึงครอบงำย่ำยีลาภ ที่เกิดขึ้นแล้ว ฯลฯ ภิกษุอาศัยอำนาจประโยชน์อะไร จึงครอบงำย่ำยีความเป็นผู้มี มิตรชั่วที่เกิดขึ้นแล้ว เพราะว่าเมื่อภิกษุไม่ครอบงำย่ำยีลาภที่เกิดขึ้นแล้ว อาสวะที่ ทำให้เกิดความคับแค้นเดือดร้อน พึงเกิดขึ้น เมื่อภิกษุครอบงำย่ำยีลาภที่เกิดขึ้น แล้ว อาสวะที่ทำให้เกิดความคับแค้นเดือดร้อนเหล่านั้นย่อมไม่เกิด ... เพราะว่า เมื่อภิกษุไม่ครอบงำย่ำยีความเป็นผู้มีมิตรชั่วที่เกิดขึ้นแล้ว อาสวะที่ทำให้เกิดความ คับแค้นเดือดร้อน พึงเกิดขึ้น เมื่อภิกษุครอบงำย่ำยีความเป็นผู้มีมิตรชั่วที่เกิดขึ้น แล้ว อาสวะที่ทำให้เกิดความคับแค้นเดือดร้อนเหล่านั้นย่อมไม่เกิด ดูกรภิกษุ ทั้งหลาย ภิกษุอาศัยอำนาจประโยชน์นี้แล จึงควรครอบงำย่ำยีลาภที่เกิดขึ้นแล้ว ... จึงควรครอบงำย่ำยีความเป็นผู้มีมิตรชั่วที่เกิดขึ้นแล้ว ดูกรภิกษุทั้งหลาย เพราะเหตุ นั้นแล เธอทั้งหลายพึงศึกษาอย่างนี้ว่า เราทั้งหลายจักครอบงำย่ำยีลาภที่เกิดขึ้นแล้ว ...จักครอบงำย่ำยีความเป็นผู้มีมิตรชั่วที่เกิดขึ้นแล้ว ดูกรภิกษุทั้งหลาย เธอ ทั้งหลายพึงศึกษาอย่างนี้แล ฯ ข้าแต่ท่านพระอุตตระผู้เจริญ ด้วยเหตุมีประมาณเท่านี้ ในหมู่มนุษย์ มีบริษัท ๔ คือ ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา ธรรมบรรยายนี้ก็หาได้ตั้งอยู่ ในบริษัทหมู่ไหนไม่ ท่านผู้เจริญ ขอพระคุณเจ้าอุตตระจงเล่าเรียนธรรมบรรยายนี้ จงทรงจำธรรมบรรยายนี้ไว้ด้วยว่า ธรรมบรรยายนี้ประกอบด้วยประโยชน์ เป็นเบื้อง ต้นแห่งพรหมจรรย์ ฯ
จบสูตรที่ ๘

             เนื้อความพระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๓ บรรทัดที่ ๓๓๓๓-๓๔๐๔ หน้าที่ ๑๔๔-๑๔๗. https://84000.org/tipitaka/read/v.php?B=23&A=3333&Z=3404&pagebreak=1 https://84000.org/tipitaka/read/byitem.php?book=23&item=98&items=1&pagebreak=1              อ่านโดยใช้เครื่องหมาย [เลขข้อ] เป็น เกณฑ์แบ่งข้อ :- https://84000.org/tipitaka/read/byitem.php?book=23&item=98&items=1&pagebreak=1&mode=bracket              อ่านเทียบพระไตรปิฎกภาษาบาลีอักษรไทย :- https://84000.org/tipitaka/pali/pali_item.php?book=23&item=98&items=1&pagebreak=1              อ่านเทียบพระไตรปิฎกภาษาบาลีอักษรโรมัน :- https://84000.org/tipitaka/read/roman_item.php?book=23&item=98&items=1&pagebreak=1              ศึกษาอรรถกถานี้ที่ :- https://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=23&i=98              สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๓ https://84000.org/tipitaka/read/?index_23 https://84000.org/tipitaka/english/?index_23

อ่านหัวข้อแรกอ่านหัวข้อที่แล้วไม่แสดงหมายเลขหน้า
ในกรณี :- 
   บรรทัดแรกของแต่ละหน้าอ่านหัวข้อถัดไปอ่านหัวข้อสุดท้าย

บันทึก ๑ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๔๖. บันทึกล่าสุด ๓๐ มกราคม พ.ศ. ๒๕๔๙. การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจากพระไตรปิฎก ฉบับหลวง. หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]