[๑๔๐๙] ผู้ใดย่อมไม่ละโทมนัสสินทรีย์ ผู้นั้นไม่เคยเจริญ
แล้วซึ่งอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ หรือ
บุคคล ๖ จำพวกย่อมไม่ละโทมนัสสินทรีย์ แต่จะไม่เคยเจริญแล้วซึ่ง
อนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ก็หาไม่ บุคคล ๒ จำพวกย่อมไม่ละโทมนัสสินทรีย์
และไม่เคยเจริญแล้วซึ่งอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์
หรือว่า ผู้ใดไม่เคยเจริญแล้วซึ่งอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ ผู้
นั้นย่อมไม่ละโทมนัสสินทรีย์
ถูกแล้ว
[๑๔๑๐] ผู้ใดย่อมไม่ละโทมนัสสินทรีย์ ผู้นั้นไม่เคยเจริญแล้ว
ซึ่งอัญญินทรีย์ หรือ
พระอรหันต์ย่อมไม่ละโทมนัสสินทรีย์ แต่จะไม่เคยเจริญแล้วซึ่งอัญญิน
ทรีย์ก็หาไม่ บุคคล ๗ จำพวกย่อมไม่ละโทมนัสสินทรีย์ และไม่เคยเจริญแล้ว
ซึ่งอัญญินทรีย์
หรือว่า ผู้ใดไม่เคยเจริญแล้วซึ่งอัญญินทรีย์ ผู้นั้นย่อมไม่
ละโทมนัสสินทรีย์
ท่านผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค ไม่เคยเจริญแล้วซึ่งอัญญิน-
*ทรีย์ แต่ย่อมไม่ละโทมนัสสินทรีย์ก็หาไม่ บุคคล ๗ จำพวกไม่เคยเจริญแล้วซึ่ง
อัญญินทรีย์ และย่อมไม่ละโทมนัสสินทรีย์
[๑๔๑๑] ผู้ใดย่อมไม่ละโทมนัสสินทรีย์ ผู้นั้นไม่เคยทำให้
แจ้งแล้วซึ่งอัญญาตาวินทรีย์ หรือ
พระอรหันต์ย่อมไม่ละโทมนัสสินทรีย์ แต่จะไม่เคยทำให้แจ้งแล้วซึ่ง
อัญญาตาวินทรีย์ก็หาไม่ บุคคล ๘ จำพวกย่อมไม่ละโทมนัสสินทรีย์ และไม่เคย
ทำให้แจ้งแล้วซึ่งอัญญาตาวินทรีย์
หรือว่า ผู้ใดไม่เคยทำให้แจ้งแล้วซึ่งอัญญาตาวินทรีย์ ผู้นั้น
ย่อมไม่ละโทมนัสสินทรีย์
ท่านผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค ไม่เคยทำให้แจ้งแล้วซึ่ง
อัญญาตาวินทรีย์ แต่ย่อมไม่ละโทมนัสสินทรีย์ก็หาไม่ บุคคล ๘ จำพวกไม่เคย
ทำให้แจ้งแล้วซึ่งอัญญาตาวินทรีย์ และย่อมไม่ละโทมนัสสินทรีย์
[๑๔๑๒] ผู้ใดย่อมไม่เจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ ผู้นั้น
ไม่เคยเจริญแล้วซึ่งอัญญินทรีย์ หรือ
พระอรหันต์ย่อมไม่เจริญอนัญญัสสามีตินทรีย์ แต่จะไม่เคยเจริญแล้วซึ่ง
อัญญินทรีย์ก็หาไม่ บุคคล ๗ จำพวกย่อมไม่เจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์
และไม่เคยเจริญแล้วซึ่งอัญญินทรีย์
หรือว่า ผู้ใดไม่เคยเจริญแล้วซึ่งอัญญินทรีย์ ผู้นั้นย่อมไม่
เจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์
บุคคลที่ ๘ ไม่เคยเจริญแล้วซึ่งอัญญินทรีย์ แต่ย่อมไม่เจริญอนัญญา-
*ตัญญัสสามีตินทรีย์ก็หาไม่ บุคคล ๗ จำพวกไม่เคยเจริญแล้วซึ่งอัญญินทรีย์ และ
ย่อมไม่เจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์
[๑๔๑๓] ผู้ใดย่อมไม่เจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ ผู้นั้น
ไม่เคยทำให้แจ้งแล้วซึ่งอัญญาตาวินทรีย์ หรือ
พระอรหันต์ย่อมไม่เจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ แต่จะไม่เคยทำให้
แจ้งแล้วซึ่งอัญญาตาวินทรีย์ก็หาไม่ บุคคล ๗ จำพวกย่อมไม่เจริญอนัญญาตัญญัส-
*สามีตินทรีย์ และไม่เคยทำให้แจ้งแล้วซึ่งอัญญาตาวินทรีย์
หรือว่า ผู้ใดไม่เคยทำให้แจ้งแล้วซึ่งอัญญาตาวินทรีย์ ผู้นั้น
ย่อมไม่เจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์
บุคคลที่ ๘ ไม่เคยทำให้แจ้งแล้วซึ่งอัญญาตาวินทรีย์ แต่ย่อมไม่เจริญ
อนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ก็หาไม่ บุคคล ๗ จำพวกไม่เคยทำให้แจ้งแล้วซึ่ง
อัญญาตาวินทรีย์ และย่อมไม่เจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์
[๑๔๑๔] ผู้ใดย่อมไม่เจริญอัญญินทรีย์ ผู้นั้นไม่เคยทำให้แจ้ง
แล้วซึ่งอัญญาตาวินทรีย์ หรือ
พระอรหันต์ย่อมไม่เจริญอัญญินทรีย์ แต่จะไม่เคยทำให้แจ้งแล้วซึ่งอัญญา
ตาวินทรีย์ก็หาไม่ บุคคล ๕ จำพวก ย่อมไม่เจริญอัญญินทรีย์ และไม่เคยทำให้
แจ้งแล้วซึ่งอัญญาตาวินทรีย์
หรือว่า ผู้ใดไม่เคยทำให้แจ้งแล้วซึ่งอัญญาตาวินทรีย์ ผู้นั้น
ย่อมไม่เจริญอัญญินทรีย์
ผู้ที่มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตตมรรค ๓ จำพวก ไม่เคยทำให้แจ้งแล้ว
ซึ่งอัญญาตาวินทรีย์ แต่ย่อมไม่เจริญอัญญินทรีย์ก็หาไม่ บุคคล ๕ จำพวก ไม่เคย
ทำให้แจ้งแล้วซึ่งอัญญาตาวินทรีย์ และย่อมไม่เจริญอัญญินทรีย์
[๑๔๑๕] ผู้ใดย่อมกำหนดรู้จักขุนทรีย์ ผู้นั้นจักละโทมนัส-
*สินทรีย์ หรือ
หามิได้
หรือว่า ผู้ใดจักละโทมนัสสินทรีย์ ผู้นั้นย่อมกำหนดรู้
จักขุนทรีย์
[๑๔๑๖] ผู้ใดย่อมกำหนดรู้จักขุนทรีย์ ผู้นั้นจักเจริญอนัญญา-
*ตัญญัสสามีตินทรีย์ หรือ
หามิได้
หรือว่า ผู้ใดจักเจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ ผู้นั้นย่อม
กำหนดรู้จักขุนทรีย์
หามิได้
[๑๔๑๗] ผู้ใดย่อมกำหนดรู้จักขุนทรีย์ ผู้นั้นจักเจริญอัญญิน-
*ทรีย์ หรือ
หามิได้
หรือว่า ผู้ใดจักเจริญอัญญินทรีย์ ผู้นั้นย่อมกำหนดรู้จักขุนทรีย์
หามิได้
[๑๔๑๘] ผู้ใดย่อมกำหนดรู้จักขุนทรีย์ ผู้นั้นจะทำให้แจ้ง
ซึ่งอัญญาตาวินทรีย์ หรือ
ถูกแล้ว
หรือว่า ผู้ใดจักทำให้แจ้งซึ่งอัญญาตาวินทรีย์ ผู้นั้นย่อม
กำหนดรู้จักขุนทรีย์
บุคคล ๗ จำพวกจักทำให้แจ้งซึ่งอัญญาตาวินทรีย์ แต่ย่อมกำหนดรู้
จักขุนทรีย์ก็หาไม่ บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรค จักทำให้แจ้งซึ่ง
อัญญาตาวินทรีย์ และย่อมกำหนดรู้จักขุนทรีย์
[๑๔๑๙] ผู้ใดย่อมละโทมนัสสินทรีย์ ผู้นั้นจักเจริญอนัญญา-
*ตัญญัสสามีตินทรีย์ หรือ
หามิได้
หรือว่า ผู้ใดจักเจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ ผู้นั้นย่อม
ละโทมนัสสินทรีย์
หามิได้
[๑๔๒๐] ผู้ใดย่อมละโทมนัสสินทรีย์ ผู้นั้นจักเจริญอัญญินทรีย์
หรือ
ถูกแล้ว
หรือว่า ผู้ใดจักเจริญอัญญินทรีย์ ผู้นั้นย่อมละโทมนัสสินทรีย์
บุคคล ๖ จำพวกจักเจริญอัญญินทรีย์ แต่ย่อมละโทมนัสสินทรีย์ก็หาไม่
บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค จักเจริญอัญญินทรีย์ และย่อมละ
โสมนัสสินทรีย์
[๑๔๒๑] ผู้ใดย่อมละโทมนัสสินทรีย์ ผู้นั้นจักทำให้แจ้งซึ่ง
อัญญาตาวินทรีย์ หรือ
ถูกแล้ว
หรือว่า ผู้ใดจักทำให้แจ้งซึ่งอัญญาตาวินทรีย์ ผู้นั้นย่อมละ
โทมนัสสินทรีย์
บุคคล ๗ จำพวกจักทำให้แจ้งซึ่งอัญญาตาวินทรีย์ แต่ย่อมละโทมนัส-
*สินทรีย์ก็หาไม่ บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค จักทำให้แจ้งซึ่ง
อัญญาตาวินทรีย์ และย่อมละโทมนัสสินทรีย์
[๑๔๒๒] ผู้ใดย่อมเจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ ผู้นั้นจัก
เจริญอัญญินทรีย์ หรือ
ถูกแล้ว
หรือว่า ผู้ใดจักเจริญอัญญินทรีย์ ผู้นั้นย่อมเจริญอนัญญา-
*ตัญญัสสามีตินทรีย์
บุคคล ๖ จำพวกจักเจริญอัญญินทรีย์ แต่ย่อมเจริญอนัญญาตัญญัสสามี-
*ตินทรีย์ก็หาไม่ บุคคลที่ ๘ จักเจริญอัญญินทรีย์ และย่อมเจริญอนัญญาตัญญัส
สามีตินทรีย์
[๑๔๒๓] ผู้ใดย่อมเจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ ผู้นั้นจัก
ทำให้แจ้งซึ่งอัญญาตาวินทรีย์ หรือ
ถูกแล้ว
หรือว่า ผู้ใดจักทำให้แจ้งซึ่งอัญญาตาวินทรีย์ ผู้นั้นย่อม
เจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์
บุคคล ๗ จำพวกทำให้แจ้งซึ่งอัญญาตาวินทรีย์ แต่ย่อมเจริญอนัญญา-
*ตัญญัสสามีตินทรีย์ก็หาไม่ บุคคลที่ ๘ จักทำให้แจ้งซึ่งอัญญาตาวินทรีย์ และ
ย่อมเจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์
[๑๔๒๔] ผู้ใดย่อมเจริญอัญญินทรีย์ ผู้นั้นจักทำให้แจ้งซึ่ง
อัญญาตาวินทรีย์ หรือ
ถูกแล้ว
หรือว่า ผู้ใดจักทำให้แจ้งซึ่งอัญญาตาวินทรีย์ ผู้นั้นย่อมเจริญ
อัญญินทรีย์
บุคคล ๕ จำพวกจักทำให้แจ้งซึ่งอัญญาตาวินทรีย์ แต่ย่อมเจริญ
อัญญินทรีย์ก็หาไม่ บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรค ๓ จำพวก จักทำ
ให้แจ้งซึ่งอัญญาตาวินทรีย์ และย่อมเจริญอัญญินทรีย์
[๑๔๒๕] ผู้ใดย่อมไม่กำหนดรู้จักขุนทรีย์ ผู้นั้นจักละโทมนัส-
*สินทรีย์ หรือ
บุคคล ๕ จำพวกย่อมไม่กำหนดรู้จักขุนทรีย์ แต่จักไม่ละโทมนัส-
*สินทรีย์ก็หาไม่ บุคคล ๔ จำพวก ย่อมไม่กำหนดรู้จักขุนทรีย์ และจักไม่ละ
โทมนัสสินทรีย์
หรือว่า ผู้ใดจักไม่ละโทมนัสสินทรีย์ ผู้นั้นย่อมไม่กำหนดรู้
จักขุนทรีย์
บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตตมรรค จักไม่ละโทมนัสสินทรีย์ แต่
ย่อมไม่กำหนดรู้จักขุนทรีย์ก็หาไม่ บุคคล ๔ จำพวก จักไม่ละโทมนัสสินทรีย์
และย่อมไม่กำหนดรู้จักขุนทรีย์
[๑๔๒๖] ผู้ใดย่อมไม่กำหนดรู้จักขุนทรีย์ ผู้นั้นจักไม่เจริญ
อนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ หรือ
ปุถุชนเหล่าใด จักได้เฉพาะซึ่งมรรค ปุถุชนเหล่านั้น ย่อมไม่กำหนดรู้
จักขุนทรีย์ แต่จักไม่เจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ก็หาไม่ บุคคล ๘ จำพวก
ย่อมไม่กำหนดรู้จักขุนทรีย์ และจักไม่เจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์
หรือว่า ผู้ใดจักไม่เจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ ผู้นั้นย่อม
ไม่กำหนดรู้จักขุนทรีย์
บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรค จักไม่เจริญอนัญญาตัญญัส-
*สามีตินทรีย์ แต่ย่อมไม่กำหนดรู้จักขุนทรีย์ก็หาไม่ บุคคล ๘ จำพวก จักไม่เจริญ
อนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ และย่อมไม่กำหนดรู้จักขุนทรีย์
[๑๔๒๗] ผู้ใดย่อมไม่กำหนดรู้จักขุนทรีย์ ผู้นั้นจักไม่เจริญ
อัญญินทรีย์หรือ
บุคคล ๗ จำพวก ย่อมไม่กำหนดรู้จักขุนทรีย์ แต่จักไม่เจริญอัญญิน-
*ทรีย์ก็หาไม่ บุคคล ๒ จำพวก ย่อมไม่กำหนดรู้จักขุนทรีย์ และจักไม่เจริญ
อัญญินทรีย์
หรือว่า ผู้ใดจักไม่เจริญอัญญินทรีย์ ผู้นั้นย่อมไม่กำหนดรู้
จักขุนทรีย์
บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรค จักไม่เจริญอัญญินทรีย์ แต่
ย่อมไม่กำหนดรู้จักขุนทรีย์ก็หาไม่ บุคคล ๒ จำพวก จักไม่เจริญอัญญินทรีย์
และย่อมไม่กำหนดรู้จักขุนทรีย์
[๑๔๒๘] ผู้ใดย่อมไม่กำหนดรู้จักขุนทรีย์ ผู้นั้นจักไม่ทำให้
แจ้งซึ่งอัญญาตาวินทรีย์หรือ
บุคคล ๗ จำพวก ย่อมไม่กำหนดรู้จักขุนทรีย์ แต่จักไม่ทำให้แจ้งซึ่ง
อัญญาตาวินทรีย์ก็หาไม่ บุคคล ๒ จำพวก ย่อมไม่กำหนดรู้จักขุนทรีย์ และจักไม่
ทำให้แจ้งซึ่งอัญญาตาวินทรีย์
หรือว่า ผู้ใดจักไม่ทำให้แจ้งซึ่งอัญญาตาวินทรีย์ ผู้นั้นย่อมไม่
กำหนดรู้จักขุนทรีย์
ถูกแล้ว
[๑๔๒๙] ผู้ใดย่อมไม่ละโทมนัสสินทรีย์ ผู้นั้นจักไม่เจริญ
อนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์หรือ
ปุถุชนเหล่าใด จักได้เฉพาะซึ่งมรรค ปุถุชนเหล่านั้น ย่อมไม่ละโทมนัส-
*สินทรีย์ แต่จักไม่เจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ก็หาไม่ บุคคล ๘ จำพวก ย่อม
ไม่ละโทมนัสสินทรีย์ และจักไม่เจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์
หรือว่า ผู้ใดจักไม่เจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ ผู้นั้นย่อม
ไม่ละโทมนัสสินทรีย์
บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค จักไม่เจริญอนัญญาตัญญัส-
*สามีตินทรีย์ แต่ย่อมไม่ละโทมนัสสินทรีย์ก็หาไม่ บุคคล ๘ จำพวก จักไม่เจริญ
อนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ และย่อมไม่ละโทมนัสสินทรีย์
[๑๔๓๐] ผู้ใดย่อมไม่ละโทมนัสสินทรีย์ ผู้นั้นจักไม่เจริญ
อัญญินทรีย์หรือ
บุคคล ๖ จำพวก ย่อมไม่ละโทมนัสสินทรีย์ แต่จักไม่เจริญอัญญินทรีย์ก็
หาไม่ บุคคล ๓ จำพวก ย่อมไม่ละโทมนัสสินทรีย์ และจักไม่เจริญอัญญินทรีย์
หรือว่า ผู้ใดจักไม่เจริญอัญญินทรีย์ ผู้นั้นย่อมไม่ละโทมนัส-
*สินทรีย์
ถูกแล้ว
[๑๔๓๑] ผู้ใดย่อมไม่ละโทมนัสสินทรีย์ ผู้นั้นจักไม่ทำให้แจ้ง
ซึ่งอัญญาตาวินทรีย์หรือ
บุคคล ๗ จำพวก ย่อมไม่ละโทมนัสสินทรีย์ แต่จักไม่ทำให้แจ้งซึ่ง
อัญญาตาวินทรีย์ก็หาไม่ บุคคล ๒ จำพวก ย่อมไม่ละโทมนัสสินทรีย์ และจัก
ไม่ทำให้แจ้งซึ่งอัญญาตาวินทรีย์
หรือว่า ผู้ใดจักไม่ทำให้แจ้งซึ่งอัญญาตาวินทรีย์ ผู้นั้นย่อมไม่
ละโทมนัสสินทรีย์
ถูกแล้ว
[๑๔๓๒] ผู้ใดย่อมไม่เจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ ผู้นั้น
จักไม่เจริญอัญญินทรีย์หรือ
บุคคล ๖ จำพวก ย่อมไม่เจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ แต่จักไม่เจริญ
อัญญินทรีย์ก็หาไม่ บุคคล ๓ จำพวก ย่อมไม่เจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์
และจักไม่เจริญอัญญินทรีย์
หรือว่า ผู้ใดจักไม่เจริญอัญญินทรีย์ ผู้นั้นย่อมไม่เจริญ
อัญญาตาวินทรีย์
ถูกแล้ว
[๑๔๓๓] ผู้ใดย่อมไม่เจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ ผู้นั้นจัก
ไม่ทำให้แจ้งซึ่งอัญญาตาวินทรีย์หรือ
บุคคล ๗ จำพวก ย่อมไม่เจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ แต่จักไม่ทำ
ให้แจ้งซึ่งอัญญาตาวินทรีย์ก็หาไม่ บุคคล ๒ จำพวก ย่อมไม่เจริญอนัญญาตัญญัส-
*สามีตินทรีย์ และจักไม่ทำให้แจ้งซึ่งอัญญาตาวินทรีย์
หรือว่า ผู้ใดจักไม่ทำให้แจ้งซึ่งอัญญาตาวินทรีย์ ผู้นั้นย่อม
ไม่เจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์
ถูกแล้ว
[๑๔๓๔] ผู้ใดย่อมไม่เจริญอัญญินทรีย์ ผู้นั้นจักไม่ทำให้แจ้ง
ซึ่งอัญญาตาวินทรีย์หรือ
บุคคล ๕ จำพวก ย่อมไม่เจริญอัญญินทรีย์ แต่จักไม่ทำให้แจ้งซึ่งอัญญา-
*ตาวินทรีย์ก็หาไม่ บุคคล ๒ จำพวก ย่อมไม่เจริญอัญญินทรีย์ และจักไม่ทำให้แจ้ง
ซึ่งอัญญาตาวินทรีย์
หรือว่า ผู้ใดจักไม่ทำให้แจ้งซึ่งอัญญาตาวินทรีย์ ผู้นั้นย่อมไม่
เจริญอัญญินทรีย์
ถูกแล้ว
[๑๔๓๕] ผู้ใดเคยกำหนดรู้แล้วซึ่งจักขุนทรีย์ ผู้นั้นจักละ
โทมนัสสินทรีย์หรือ
หามิได้
หรือว่า ผู้ใดจักละโทมนัสสินทรีย์ ผู้นั้นเคยกำหนดรู้แล้วซึ่ง
จักขุนทรีย์
หามิได้
[๑๔๓๖] ผู้ใดเคยกำหนดรู้แล้วซึ่งจักขุนทรีย์ ผู้นั้นจักเจริญ
อนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์หรือ
หามิได้
หรือว่า ผู้ใดจักเจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ ผู้นั้นเคย
กำหนดรู้แล้วซึ่งจักขุนทรีย์
หามิได้
[๑๔๓๗] ผู้ใดเคยกำหนดรู้แล้วซึ่งจักขุนทรีย์ ผู้นั้นจักเจริญ
อัญญินทรีย์หรือ
หามิได้
หรือว่า ผู้ใดจักเจริญอัญญินทรีย์ ผู้นั้นเคยกำหนดรู้แล้วซึ่ง
จักขุนทรีย์
หามิได้
[๑๔๓๘] ผู้ใดเคยกำหนดรู้แล้วซึ่งจักขุนทรีย์ ผู้นั้นจักทำให้
แจ้งซึ่งอัญญาตาวินทรีย์หรือ
หามิได้
หรือว่า ผู้ใดจักทำให้แจ้งซึ่งอัญญาตาวินทรีย์ ผู้นั้นเคยกำหนด
รู้แล้วซึ่งจักขุนทรีย์
หามิได้
[๑๔๓๙] ผู้ใดเคยละแล้วซึ่งโทมนัสสินทรีย์ ผู้นั้นจักเจริญ
อนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์หรือ
หามิได้
หรือว่า ผู้ใดจักเจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ ผู้นั้นเคยละ
แล้วซึ่งโทมนัสสินทรีย์
หามิได้
[๑๔๔๐] ผู้ใดเคยละแล้วซึ่งโทมนัสสินทรีย์ ผู้นั้นจักเจริญ
อัญญินทรีย์หรือ
บุคคล ๒ จำพวก เคยละแล้วซึ่งโทมนัสสินทรีย์ แต่จักเจริญอัญญิน-
*ทรีย์ก็หาไม่ พระอนาคามีเคยละแล้วซึ่งโทมนัสสินทรีย์ และจักเจริญอัญญินทรีย์
หรือว่า ผู้ใดจักเจริญอัญญินทรีย์ ผู้นั้นเคยละแล้วซึ่งโทมนัส-
*สินทรีย์
บุคคล ๖ จำพวก จักเจริญอัญญินทรีย์ แต่เคยละแล้วซึ่งโทมนัสสินทรีย์
ก็หาไม่ พระอนาคามีจักเจริญอัญญินทรีย์ และเคยละแล้วซึ่งโทมนัสสินทรีย์
[๑๔๔๑] ผู้ใดเคยละแล้วซึ่งโทมนัสสินทรีย์ ผู้นั้นจักทำให้แจ้ง
ซึ่งอัญญาตาวินทรีย์หรือ
พระอรหันต์เคยละแล้วซึ่งโทมนัสสินทรีย์ แต่จักทำให้แจ้งซึ่งอัญญาตา-
*วินทรีย์ก็หาไม่ บุคคล ๒ จำพวก เคยละแล้วซึ่งโทมนัสสินทรีย์ และจักทำให้
แจ้งซึ่งอัญญาตาวินทรีย์
หรือว่า ผู้ใดจักทำให้แจ้งซึ่งอัญญาตาวินทรีย์ ผู้นั้นเคยละ
แล้วซึ่งโทมนัสสินทรีย์
บุคคล ๖ จำพวก จักทำให้แจ้งซึ่งอัญญาตาวินทรีย์ แต่เคยละแล้วซึ่ง
โทมนัสสินทรีย์ก็หาไม่ บุคคล ๒ จำพวก จักทำให้แจ้งซึ่งอัญญาตาวินทรีย์
และเคยละแล้วซึ่งโทมนัสสินทรีย์
[๑๔๔๒] ผู้ใดเคยเจริญแล้วซึ่งอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ ผู้
นั้นจักเจริญอัญญินทรีย์หรือ
บุคคล ๒ จำพวก เคยเจริญแล้วซึ่งอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ แต่จัก
เจริญอัญญินทรีย์ก็หาไม่ บุคคล ๕ จำพวก เคยเจริญแล้วซึ่งอนัญญาตัญญัสสามี-
*ตินทรีย์ และจักเจริญอัญญินทรีย์
หรือว่า ผู้ใดจักเจริญอัญญินทรีย์ ผู้นั้นเคยเจริญแล้วซึ่ง
อนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์
บุคคล ๒ จำพวก จักเจริญอัญญินทรีย์ แต่เคยเจริญแล้วซึ่งอนัญญา-
*ตัญญัสสามีตินทรีย์ก็หาไม่ บุคคล ๕ จำพวก จักเจริญอัญญินทรีย์ และเคยเจริญ
แล้วซึ่งอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์
[๑๔๔๓] ผู้ใดเคยเจริญแล้วซึ่งอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ ผู้
นั้นจักทำให้แจ้งซึ่งอัญญาตาวินทรีย์หรือ
พระอรหันต์เคยเจริญแล้วซึ่งอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ แต่จักทำให้แจ้ง
ซึ่งอัญญาตาวินทรีย์ก็หาไม่ บุคคล ๖ จำพวก เคยเจริญแล้วซึ่งอนัญญาตัญญัสสามี-
*ตินทรีย์ และจักทำให้แจ้งซึ่งอัญญาตาวินทรีย์
หรือว่า ผู้ใดจักทำให้แจ้งซึ่งอัญญาตาวินทรีย์ ผู้นั้นเคยเจริญ
แล้วซึ่งอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์
บุคคล ๒ จำพวก จักทำให้แจ้งซึ่งอัญญาตาวินทรีย์ แต่เคยเจริญแล้วซึ่ง
อนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ก็หาไม่ บุคคล ๖ จำพวก จักทำให้แจ้งซึ่งอัญญาตาวิน-
*ทรีย์ และเคยเจริญแล้วซึ่งอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์
[๑๔๔๔] ผู้ใดเคยเจริญแล้วซึ่งอัญญินทรีย์ ผู้นั้นจักทำให้แจ้ง
ซึ่งอัญญาตาวินทรีย์หรือ
หามิได้
หรือว่า ผู้ใดจักทำให้แจ้งซึ่งอัญญาตาวินทรีย์ ผู้นั้นเคยเจริญ
แล้วซึ่งอัญญาตาวินทรีย์
หามิได้
[๑๔๔๕] ผู้ใดไม่เคยกำหนดรู้จักขุนทรีย์ ผู้นั้นจักไม่ละโทมนัส-
*สินทรีย์หรือ
บุคคล ๕ จำพวก ไม่เคยกำหนดรู้จักขุนทรีย์ แต่จักไม่ละโทมนัสสินทรีย์
ก็หาไม่ บุคคล ๓ จำพวก ไม่เคยกำหนดรู้จักขุนทรีย์ และจักไม่ละโทมนัสสินทรีย์
หรือว่า ผู้ใดจักไม่ละโทมนัสสินทรีย์ ผู้นั้นไม่เคยกำหนดรู้
จักขุนทรีย์
พระอรหันต์จักไม่ละโทมนัสสินทรีย์ แต่ไม่เคยกำหนดรู้จักขุนทรีย์ก็หา
ไม่ บุคคล ๓ จำพวกจักไม่ละโทมนัสสินทรีย์ และไม่เคยกำหนดรู้จักขุนทรีย์
[๑๔๔๖] ผู้ใดไม่เคยกำหนดรู้จักขุนทรีย์ ผู้นั้นจักไม่เจริญ
อนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์หรือ
ปุถุชนเหล่าใดจักได้เฉพาะซึ่งมรรค ปุถุชนเหล่านั้นไม่เคยกำหนดรู้
จักขุนทรีย์ แต่จักไม่เจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ก็หาไม่ บุคคล ๘ จำพวก ไม่
เคยกำหนดรู้จักขุนทรีย์ และจักไม่เจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์
หรือว่า ผู้ใดจักไม่เจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ ผู้นั้นไม่
เคยกำหนดรู้จักขุนทรีย์
พระอรหันต์จักไม่เจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ แต่ไม่เคยกำหนดรู้
จักขุนทรีย์ก็หาไม่ บุคคล ๘ จำพวก จักไม่เจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ และ
ไม่เคยกำหนดรู้จักขุนทรีย์
[๑๔๔๗] ผู้ใดไม่เคยกำหนดรู้จักขุนทรีย์ ผู้นั้นจักไม่เจริญ
อัญญินทรีย์หรือ
บุคคล ๗ จำพวก ไม่เคยกำหนดรู้จักขุนทรีย์ แต่จักไม่เจริญอัญญินทรีย์
ก็หาไม่ บุคคล ๒ จำพวก ไม่เคยกำหนดรู้จักขุนทรีย์ และจักไม่เจริญอัญญินทรีย์
หรือว่า ผู้ใดจักไม่เจริญอัญญินทรีย์ ผู้นั้นไม่เคยกำหนดรู้
จักขุนทรีย์
พระอรหันต์จักไม่เจริญอัญญินทรีย์ แต่ไม่เคยกำหนดรู้จักขุนทรีย์ก็หาไม่
บุคคล ๒ จำพวก จักไม่เจริญอัญญินทรีย์ และไม่เคยกำหนดรู้จักขุนทรีย์
[๑๔๔๘] ผู้ใดไม่เคยกำหนดรู้จักขุนทรีย์ ผู้นั้นจักไม่ทำให้แจ้ง
ซึ่งอัญญาตาวินทรีย์หรือ
บุคคล ๘ จำพวก ไม่เคยกำหนดรู้จักขุนทรีย์ แต่จักไม่ทำให้แจ้งซึ่ง
อัญญาตาวินทรีย์ก็หาไม่ ปุถุชนเหล่าใดจักไม่ได้เฉพาะซึ่งมรรค ปุถุชนเหล่านั้น
ไม่เคยกำหนดรู้จักขุนทรีย์ และจักไม่ทำให้แจ้งซึ่งอัญญาตาวินทรีย์
หรือว่า ผู้ใดจักไม่ทำให้แจ้งซึ่งอัญญาตาวินทรีย์ ผู้นั้นไม่เคย
กำหนดรู้จักขุนทรีย์
พระอรหันต์จักไม่ทำให้แจ้งซึ่งอัญญาตาวินทรีย์ แต่ไม่เคยกำหนดรู้
จักขุนทรีย์ก็หาไม่ ปุถุชนเหล่าใดจักไม่ได้เฉพาะซึ่งมรรค ปุถุชนเหล่านั้นจักไม่ทำ
ให้แจ้งซึ่งอัญญาตาวินทรีย์ และไม่เคยกำหนดรู้จักขุนทรีย์
[๑๔๔๙] ผู้ใดไม่เคยละโทมนัสสินทรีย์ ผู้นั้นจักไม่เจริญ
อนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์หรือ
ปุถุชนเหล่าใด จักได้เฉพาะซึ่งมรรค ปุถุชนเหล่านั้น ไม่เคยละโทมนัส-
*สินทรีย์ แต่จักไม่เจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ก็หาไม่ บุคคล ๖ จำพวกไม่
เคยละโทมนัสสินทรีย์ และจักไม่เจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์
หรือว่า ผู้ใดจักไม่เจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ ผู้นั้น
ไม่เคยละโทมนัสสินทรีย์
บุคคล ๓ จำพวก จักไม่เจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ แต่ไม่เคยละ
โทมนัสสินทรีย์ก็หาไม่ บุคคล ๖ จำพวก จักไม่เจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์
และไม่เคยละโทมนัสสินทรีย์
[๑๔๕๐] ผู้ใดไม่เคยละโทมนัสสินทรีย์ ผู้นั้นจักไม่เจริญ
อัญญินทรีย์หรือ
บุคคล ๖ จำพวก ไม่เคยละโทมนัสสินทรีย์ แต่จักไม่เจริญอัญญินทรีย์ก็
หาไม่ ปุถุชนเหล่าใดจักไม่ได้เฉพาะซึ่งมรรค ปุถุชนเหล่านั้นไม่ละโทมนัสสินทรีย์
และจักไม่เจริญอัญญินทรีย์
หรือว่า ผู้ใดจักไม่เจริญอัญญินทรีย์ ผู้นั้นไม่เคยละโทมนัส-
*สินทรีย์
บุคคล ๒ จำพวก จักไม่เจริญอัญญินทรีย์ แต่ไม่เคยละโทมนัสสินทรีย์
ก็หาไม่ ปุถุชนเหล่าใด จักไม่ได้เฉพาะซึ่งมรรค ปุถุชนเหล่านั้นจักไม่เจริญ
อัญญินทรีย์ และไม่เคยละโทมนัสสินทรีย์
[๑๔๕๑] ผู้ใดไม่เคยละโทมนัสสินทรีย์ ผู้นั้นจักไม่ทำให้แจ้ง
ซึ่งอัญญาตาวินทรีย์หรือ
บุคคล ๖ จำพวก ไม่เคยละโทมนัสสินทรีย์ แต่จักไม่ทำให้แจ้งซึ่ง
อัญญาตาวินทรีย์ก็หาไม่ ปุถุชนเหล่าใด จักไม่ได้เฉพาะซึ่งมรรค ปุถุชนเหล่านั้น
ไม่เคยละโทมนัสสินทรีย์ และจักไม่ทำให้แจ้งซึ่งอัญญาตาวินทรีย์
หรือว่า บุคคลใดจักไม่ทำให้แจ้งซึ่งอัญญาตาวินทรีย์ บุคคล
นั้นไม่เคยละโทมนัสสินทรีย์
พระอรหันต์จักไม่ทำให้แจ้งซึ่งอัญญาตาวินทรีย์ แต่ไม่เคยละโทมนัส-
*สินทรีย์ก็หาไม่ ปุถุชนเหล่าใด จักไม่ได้เฉพาะซึ่งมรรค ปุถุชนเหล่านั้น จักไม่
ทำให้แจ้งซึ่งอัญญาตาวินทรีย์ และไม่เคยละโทมนัสสินทรีย์
[๑๔๕๒] ผู้ใดไม่เคยเจริญแล้ว ซึ่งอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์
ผู้นั้นจักไม่เจริญอัญญินทรีย์หรือ
บุคคล ๒ จำพวก ไม่เคยเจริญแล้วซึ่งอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ แต่จัก
ไม่เจริญอัญญินทรีย์ก็หาไม่ ปุถุชนเหล่าใด จักไม่ได้เฉพาะซึ่งมรรค ปุถุชน
เหล่านั้น ไม่เคยเจริญแล้วซึ่งอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ และจักไม่เจริญ
อัญญินทรีย์
หรือว่า ผู้ใดจักไม่เจริญอัญญินทรีย์ ผู้นั้นไม่เคยเจริญแล้ว
ซึ่งอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์
บุคคล ๒ จำพวก จักไม่เจริญอัญญินทรีย์ แต่ไม่เคยเจริญแล้วซึ่ง
อนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ก็หาไม่ ปุถุชนเหล่าใด จักไม่ได้เฉพาะซึ่งมรรค
ปุถุชนเหล่านั้น จักไม่เจริญอัญญินทรีย์ และไม่เคยเจริญแล้วซึ่งอนัญญาตัญญัส-
*สามีตินทรีย์
[๑๔๕๓] ผู้ใดไม่เคยเจริญแล้ว ซึ่งอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์
ผู้นั้นจักไม่ทำให้แจ้งซึ่งอัญญาตาวินทรีย์หรือ
บุคคล ๒ จำพวก ไม่เคยเจริญแล้วซึ่งอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ แต่
จักไม่ทำให้แจ้งซึ่งอัญญาตาวินทรีย์ก็หาไม่ ปุถุชนเหล่าใดจักไม่ได้เฉพาะซึ่งมรรค
ปุถุชนเหล่านั้น ไม่เคยเจริญแล้วซึ่งอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ และจักไม่ทำให้
แจ้งซึ่งอัญญาตาวินทรีย์
หรือว่า ผู้ใดจักไม่ทำให้แจ้งซึ่งอัญญาตาวินทรีย์ ผู้นั้นไม่
เคยเจริญแล้วซึ่งอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์
พระอรหันต์จักไม่ทำให้แจ้งซึ่งอัญญาตาวินทรีย์ แต่ไม่เคยเจริญแล้วซึ่ง
อนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ก็หาไม่ ปุถุชนเหล่าใด จักไม่ได้เฉพาะซึ่งมรรค
ปุถุชนเหล่านั้น จักไม่ทำให้แจ้งซึ่งอัญญาตาวินทรีย์ และไม่เคยเจริญแล้วซึ่ง
อนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์
[๑๔๕๔] ผู้ใดไม่เคยเจริญแล้วซึ่งอัญญินทรีย์ ผู้นั้นจักไม่
ทำให้แจ้งซึ่งอัญญาตาวินทรีย์หรือ
บุคคล ๘ จำพวก ไม่เคยเจริญแล้วซึ่งอัญญินทรีย์ แต่จักไม่ทำให้แจ้ง
ซึ่งอัญญาตาวินทรีย์ก็หาไม่ ปุถุชนเหล่าใด จักไม่ได้เฉพาะซึ่งมรรค ปุถุชน
เหล่านั้น ไม่เคยเจริญแล้วซึ่งอัญญินทรีย์ และจักไม่ทำให้แจ้งซึ่งอัญญาตาวินทรีย์
หรือว่า ผู้ใดจักไม่ทำให้แจ้งซึ่งอัญญาตาวินทรีย์ ผู้นั้นไม่
เคยเจริญแล้วซึ่งอัญญินทรีย์
พระอรหันต์จักไม่ทำให้แจ้งซึ่งอัญญาตาวินทรีย์ แต่ไม่เคยเจริญแล้วซึ่ง
อัญญินทรีย์ก็หาไม่ ปุถุชนเหล่าใด จักไม่ได้เฉพาะซึ่งมรรค ปุถุชนเหล่านั้น
จักไม่ทำให้แจ้งซึ่งอัญญาตาวินทรีย์ และไม่เคยเจริญแล้วซึ่งอัญญินทรีย์ ดังนี้แล
อินทริยยมก ที่ ๑๐ จบ
ยมกปกรณ์ ตอนสุดท้าย จบ
-----------------------------------------------------
เนื้อความพระไตรปิฎกเล่มที่ ๓๙ บรรทัดที่ ๑๔๙๔๘-๑๕๓๓๘ หน้าที่ ๖๑๑-๖๒๗.
https://84000.org/tipitaka/read/v.php?B=39&A=14948&Z=15338&pagebreak=0
https://84000.org/tipitaka/read/byitem.php?book=39&item=1409&items=46
อ่านโดยใช้เครื่องหมาย [เลขข้อ] เป็น เกณฑ์แบ่งข้อ :-
https://84000.org/tipitaka/read/byitem.php?book=39&item=1409&items=46&mode=bracket
อ่านเทียบพระไตรปิฎกภาษาบาลีอักษรไทย :-
https://84000.org/tipitaka/pali/pali_item.php?book=39&item=1409&items=46
อ่านเทียบพระไตรปิฎกภาษาบาลีอักษรโรมัน :-
https://84000.org/tipitaka/read/roman_item.php?book=39&item=1409&items=46
ศึกษาอรรถกถานี้ที่ :-
https://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=39&i=1409
สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๓๙
https://84000.org/tipitaka/read/?index_39
https://84000.org/tipitaka/english/?index_39
บันทึก ๑ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๔๖.
บันทึกล่าสุด ๓๐ มกราคม พ.ศ. ๒๕๔๙.
การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจากพระไตรปิฎก ฉบับหลวง.
หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]