ขอนอบน้อมแด่
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
                      พระองค์นั้น
บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ
     ฉบับหลวง   ฉบับมหาจุฬาฯ   บาลีอักษรไทย   PaliRoman 
อ่านหน้า[ต่าง] แรกอ่านหน้า[ต่าง] ที่แล้วแสดงหมายเลขหน้า
ในกรณี :- 
   บรรทัดแรกชองแต่ละหน้าอ่านหน้า[ต่าง] ถัดไปอ่านหน้า[ต่าง] สุดท้าย
พระไตรปิฎก เล่มที่ ๘ พระวินัยปิฎก เล่มที่ ๘ ปริวาร
วิปัตติวารที่ ๓
[๘๑๙] ถามว่า เพราะปัจจัย คือ การยินดีการเคล้าคลึงด้วยกาย อาบัติทั้งหลายจัด เป็นวิบัติเท่าไร บรรดาวิบัติ ๔? ตอบว่า เพราะปัจจัย คือ ยินดีการเคล้าคลึงด้วยกาย อาบัติทั้งหลายจัดเป็นวิบัติ ๒ บรรดาวิบัติ ๔ คือ บางทีเป็นศีลวิบัติ บางทีเป็นอาจารวิบัติ ... ถามว่า เพราะปัจจัย คือ ขอนมส้มมาฉัน อาบัติทั้งหลาย จัดเป็นวิบัติเท่าไร บรรดา วิบัติ ๔? ตอบว่า เพราะปัจจัย คือ ขอนมส้มมาฉัน อาบัติทั้งหลาย จัดเป็นวิบัติอย่างหนึ่ง คือ อาจารวิบัติ บรรดาวิบัติ ๔.
วิปัตติวารที่ ๓ จบ
-----------------------------------------------------
สังคหวารที่ ๔
[๘๒๐] ถามว่า เพราะปัจจัย คือ ยินดีการเคล้าคลึงด้วยกาย อาบัติสงเคราะห์ด้วย กองอาบัติเท่าไร บรรดากองอาบัติ ๗? ตอบว่า เพราะปัจจัย คือ ยินดีการเคล้าคลึงด้วยกาย อาบัติสงเคราะห์ด้วยกองอาบัติ ๕ บรรดาอาบัติ ๗ กอง คือ บางทีด้วยกองอาบัติปาราชิก บางทีด้วยกองอาบัติสังฆาทิเสส บางที ด้วยกองอาบัติถุลลัจจัย บางทีด้วยกองอาบัติปาจิตตีย์ บางทีด้วยกองอาบัติทุกกฏ ถามว่า เพราะปัจจัย คือ ขอนมส้มมาฉัน อาบัติสงเคราะห์ด้วยกองอาบัติเท่าไร บรรดากองอาบัติ ๗? ตอบว่า เพราะปัจจัย คือ ขอนมส้มมาฉัน อาบัติสงเคราะห์ด้วยกองอาบัติ ๒ บรรดา กองอาบัติ ๗ คือ บางทีด้วยกองอาบัติปาฏิเทสนียะ บางทีด้วยกองอาบัติทุกกฏ.
สังคหวารที่ ๔ จบ
-----------------------------------------------------
สมุฏฐานวารที่ ๕
[๘๒๑] ถามว่า เพราะปัจจัย คือ ยินดีการเคล้าคลึงด้วยกาย อาบัติเกิดด้วยสมุฏฐาน เท่าไร บรรดาสมุฏฐานแห่งอาบัติ ๖? ตอบว่า เพราะปัจจัย คือ ยินดีการเคล้าคลึงด้วยกาย อาบัติเกิดด้วยสมุฏฐานอันหนึ่ง บรรดาสมุฏฐานแห่งอาบัติ ๖ คือ บางทีเกิดแต่กายกับจิต มิใช่วาจา ถามว่า เพราะปัจจัย คือ ขอนมส้มมาฉัน อาบัติเกิดด้วยสมุฏฐานเท่าไร บรรดา สมุฏฐานแห่งอาบัติ ๖? ตอบว่า เพราะปัจจัย คือ ขอนมส้มมาฉัน อาบัติเกิดด้วยสมุฏฐาน ๔ บรรดา สมุฏฐานแห่งอาบัติ ๖ คือ บางทีเกิดแต่กาย มิใช่วาจา มิใช่จิต บางทีเกิดแต่กายกับวาจา มิใช่ จิต บางทีเกิดแต่กายกับจิต มิใช่วาจา บางทีเกิดแต่กายวาจา และจิต.
สมุฏฐานวารที่ ๕ จบ
-----------------------------------------------------
อธิกรณวารที่ ๖
[๘๒๒] ถามว่า เพราะปัจจัย คือ ยินดีการเคล้าคลึงด้วยกาย อาบัติจัดเป็นอธิกรณ์ ไหน บรรดาอธิกรณ์ ๔? ตอบว่า เพราะปัจจัย คือ ยินดีการเคล้าคลึงด้วยกาย อาบัติจัดเป็นอาปัตตาธิกรณ์ บรรดาอธิกรณ์ ๔ ถามว่า เพราะปัจจัย คือ ขอนมส้มมาฉัน อาบัติจัดเป็นอธิกรณ์ไหน บรรดาอธิกรณ์ ๔? ตอบว่า เพราะปัจจัย คือ ขอนมส้มมาฉัน อาบัติจัดเป็นอาปัตตาอธิกรณ์บรรดา อธิกรณ์ ๔.
อธิกรณวารที่ ๖ จบ
-----------------------------------------------------
สมถวารที่ ๗
[๘๒๓] ถามว่า เพราะปัจจัย คือ ยินดีการเคล้าคลึงด้วยกาย อาบัติย่อมระงับด้วย สมถะเท่าไร บรรดาสมถะ ๗? ตอบว่า เพราะปัจจัย คือ ยินดีการเคล้าคลึงด้วยกาย อาบัติย่อมระงับด้วยสมถะ ๓ บรรดาสมถะ ๗ คือ บางทีด้วยสัมมุขาวินัย ๑ ด้วยปฏิญญาตกรณะ ๑ บางทีด้วยสัมมุขาวินัยกับ ติณวัตถารกะ ๑ ถามว่า เพราะปัจจัย คือ ขอนมส้มมาฉัน อาบัติย่อมระงับด้วยสมถะเท่าไร บรรดา สมถะ ๗? ตอบว่า เพราะปัจจัย คือ ขอนมส้มมาฉัน อาบัติย่อมระงับด้วยสมถะ ๓ บรรดา สมถะ ๗ คือ บางทีด้วยสัมมุขาวินัย ๑ ด้วยปฏิญญาตกรณะ ๑ บางทีด้วยสัมมุขาวินัยกับ ติณวัตถารกะ ๑.
สมถวารที่ ๗ จบ
-----------------------------------------------------
สมุจจยวารที่ ๘
[๘๒๔] ถามว่า เพราะปัจจัย คือ ยินดีการเคล้าคลึงด้วยกาย ภิกษุ ภิกษุณีต้องอาบัติ เท่าไร? ตอบว่า เพราะปัจจัย คือ ยินดีการเคล้าคลึงด้วยกาย ภิกษุ ภิกษุณีต้องอาบัติ ๕ คือ ภิกษุณีผู้กำหนัดยินดีการจับต้องอวัยวะใต้รากขวัญลงมา เหนือหัวเข่าขึ้นไป ของบุรุษบุคคล ผู้กำหนัด ต้องอาบัติปาราชิก ๑ ภิกษุถูกต้องกายด้วยกาย ต้องอาบัติสังฆาทิเสส ๑ เอากาย ถูกต้องของเนื่องกายด้วย ต้องอาบัติถุลลัจจัย ๑ เอาของเนื่องด้วยกายถูกต้องของเนื่องด้วยกาย ต้องอาบัติทุกกฏ ๑ เป็นปาจิตตีย์ ในเพราะจี้ด้วยนิ้วมือ ๑ เพราะปัจจัย คือ ยินดีการเคล้าคลึงด้วยกาย ภิกษุ ภิกษุณี ต้องอาบัติ ๕ เหล่านี้. ถ. อาบัติเหล่านั้น จัดเป็นวิบัติเท่าไร บรรดาวิบัติ ๔? สงเคราะห์ด้วยกองอาบัติเท่าไร บรรดากองอาบัติ ๗? เกิดขึ้นด้วยสมุฏฐานเท่าไร บรรดาสมุฏฐานแห่งอาบัติ ๖? เป็นอธิกรณ์อะไร บรรดาอธิกรณ์ ๔? ระงับด้วยสมถะเท่าไร บรรดาสมถะ ๗? ต. อาบัติเหล่านั้น จัดเป็นวิบัติ ๒ บรรดาวิบัติ ๔ คือ บางทีเป็นศีลวิบัติ บางทีเป็น อาจารวิบัติ สงเคราะห์ด้วยกองอาบัติ ๕ บรรดากองอาบัติ ๗ คือ บางทีด้วยกองอาบัติปาราชิก บางทีด้วยกองอาบัติสังฆาทิเสส บางทีด้วยกองอาบัติถุลลัจจัย บางทีด้วยกองอาบัติปาจิตตีย์ บางทีด้วยกองอาบัติทุกกฏ. เกิดด้วยสมุฏฐานอันหนึ่ง บรรดาสมุฏฐานแห่งอาบัติ ๖ คือ เกิดแต่กายกับจิต มิใช่ วาจา เป็นอาปัตตาธิกรณ์ บรรดาอธิกรณ์ ๔ ระงับด้วยสมถะ ๓ บรรดาสมถะ ๗ คือ บางทีด้วย สัมมุขาวินัย ๑ ด้วยปฏิญญาตกรณะ ๑ บางทีด้วยสัมมุขาวินัยกับติณวัตถารกะ ๑. [๘๒๕] ถามว่า เพราะปัจจัย คือ ขอนมส้มมาฉัน ต้องอาบัติเท่าไร? ตอบว่า เพราะปัจจัย คือ ขอนมส้มมาฉัน ต้องอาบัติ ๒ คือ รับประเคนด้วยมุ่ง จักฉัน ต้องอาบัติทุกกฏ ๑ ต้องอาบัติปาฏิเทสนียะทุกๆ คำกลืน ๑ เพราะปัจจัย คือ ขอนมส้มมาฉัน ต้องอาบัติ ๒ เหล่านี้. ถ. อาบัติเหล่านั้น จัดเป็นวิบัติเท่าไร บรรดาวิบัติ ๔? สงเคราะห์ด้วยกองอาบัติ เท่าไร บรรดากองอาบัติ ๗? เกิดด้วยสมุฏฐานเท่าไร บรรดาสมุฏฐานแห่งอาบัติ ๖? เป็น อธิกรณ์อะไร บรรดาอธิกรณ์ ๔? ระงับด้วยสมถะเท่าไร บรรดาสมถะ ๗? ต. อาบัติเหล่านั้น จัดเป็นวิบัติอย่างหนึ่ง บรรดาวิบัติ ๔ คือ อาจารวิบัติ สงเคราะห์ ด้วยกองอาบัติ ๒ บรรดากองอาบัติ ๗ คือ บางทีด้วยกองอาบัติปาฏิเทสนียะ บางทีด้วยกองอาบัติ ทุกกฏ. เกิดด้วยสมุฏฐาน ๔ บรรดาสมุฏฐานแห่งอาบัติ ๖ คือ บางทีเกิดแต่กาย มิใช่วาจา มิใช่จิต บางทีเกิดแต่กายกับวาจา มิใช่จิต บางทีเกิดแต่กายกับจิต มิใช่วาจา บางทีเกิดแต่กาย วาจาและจิต เป็นอาปัตตาธิกรณ์ บรรดาอธิกรณ์ ๔ ระงับด้วยสมถะ ๓ บรรดาสมถะ ๗ คือ บางทีด้วยสัมมุขาวินัย ๑ ด้วยปฏิญญาตกรณะ ๑ บางทีด้วยสัมมุขาวินัยกับติณวัตถารกะ ๑.
สมุจจยวารที่ ๘ จบ
ปัจจัยวาร ๘ จบ
ภิกขุนีวิภังค์ ๑๖ มหาวาร จบ
-----------------------------------------------------

             เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๘ บรรทัดที่ ๕๘๐๐-๕๘๙๖ หน้าที่ ๒๒๐-๒๒๓. http://84000.org/tipitaka/read/v.php?B=8&A=5800&Z=5896&pagebreak=0 http://84000.org/tipitaka/read/r.php?B=8&A=5800&pagebreak=0              ฟังเนื้อความพระไตรปิฎก : [1], [2]              อ่านเทียบพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาฯ :- http://84000.org/tipitaka/read/m_siri.php?B=8&siri=59              ศึกษาอรรถกถาได้ที่ :- http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=8&i=819              พระไตรปิฏกฉบับภาษาบาลีอักษรไทย :- http://84000.org/tipitaka/read/pali_read.php?B=8&A=4462              The Pali Tipitaka in Roman :- http://84000.org/tipitaka/read/roman_read.php?B=8&A=4462              สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๘ http://84000.org/tipitaka/read/?index_8              อ่านเทียบฉบับแปลอังกฤษ Compare with English Translation :- https://suttacentral.net/pli-tv-pvr2.11/en/brahmali https://suttacentral.net/pli-tv-pvr2.12/en/brahmali https://suttacentral.net/pli-tv-pvr2.13/en/brahmali https://suttacentral.net/pli-tv-pvr2.14/en/brahmali https://suttacentral.net/pli-tv-pvr2.15/en/brahmali https://suttacentral.net/pli-tv-pvr2.16/en/brahmali https://suttacentral.net/pli-tv-pvr2.11/en/horner-brahmali https://suttacentral.net/pli-tv-pvr2.12/en/horner-brahmali https://suttacentral.net/pli-tv-pvr2.13/en/horner-brahmali https://suttacentral.net/pli-tv-pvr2.14/en/horner-brahmali https://suttacentral.net/pli-tv-pvr2.15/en/horner-brahmali https://suttacentral.net/pli-tv-pvr2.16/en/horner-brahmali

อ่านหน้า[ต่าง] แรกอ่านหน้า[ต่าง] ที่แล้วแสดงหมายเลขหน้า
ในกรณี :- 
   บรรทัดแรกชองแต่ละหน้าอ่านหน้า[ต่าง] ถัดไปอ่านหน้า[ต่าง] สุดท้าย

บันทึก ๒๖ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๔๖. บันทึก ๓๐ มกราคม พ.ศ. ๒๕๔๙. บันทึกล่าสุด ๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๐. การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจากพระไตรปิฎกฉบับหลวง. หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]