อัฏฐมกัสส อินทริยกถา
[๗๗๙] สกวาที บุคคลที่ ๘ ไม่มีสัทธินทรีย์ หรือ?
ปรวาที ถูกแล้ว
ส. บุคคลที่ ๘ ไม่มีศรัทธา หรือ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
[๗๘๐] ส. บุคคลที่ ๘ ไม่มีวิริยินทรีย์ ฯลฯ ไม่มีสตินทรีย์ ฯลฯ ไม่มีสมาธินทรีย์ ฯลฯ
ไม่มีปัญญินทรีย์ หรือ?
ป. ถูกแล้ว
ส. บุคคลที่ ๘ ไม่มีปัญญา หรือ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
[๗๘๑] ส. บุคคลที่ ๘ มีศรัทธา หรือ?
ป. ถูกแล้ว
ส. บุคคลที่ ๘ มีสัทธินทรีย์ หรือ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ส. บุคคลที่ ๘ มีวิริยะ ฯลฯ มีสติ ฯลฯ มีสมาธิ ฯลฯ มีปัญญา หรือ?
ป. ถูกแล้ว
ส. บุคคลที่ ๘ มีปัญญินทรีย์ หรือ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
[๗๘๒] ส. บุคคลที่ ๘ มีมโน มีมนินทรีย์ หรือ?
ป. ถูกแล้ว
ส. บุคคลที่ ๘ มีศรัทธา มีสัทธินทรีย์ หรือ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ส. บุคคลที่ ๘ มีมโน มีมนินทรีย์ หรือ?
ป. ถูกแล้ว
ส. บุคคลที่ ๘ มีปัญญา มีปัญญินทรีย์ หรือ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
[๗๘๓] ส. บุคคลที่ ๘ มีโสมนัส มีโสมนัสสินทรีย์ ฯลฯ มีชีวิต มีชีวิตินทรีย์ หรือ?
ป. ถูกแล้ว
ส. บุคคลที่ ๘ มีศรัทธา มีสัทธินทรีย์ หรือ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ส. บุคคลที่ ๘ มีชีวิต มีชีวิตินทรีย์ หรือ?
ป. ถูกแล้ว
ส. บุคคลที่ ๘ มีวิริยะ ฯลฯ มีปัญญา มีปัญญินทรีย์ หรือ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
[๗๘๔] ส. บุคคลที่ ๘ มีศรัทธา แต่ไม่มีสัทธินทรีย์ หรือ?
ป. ถูกแล้ว
ส. บุคคลที่ ๘ มีมโน แต่ไม่มีมนินทรีย์ หรือ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
[๗๘๕] ส. บุคคลที่ ๘ มีศรัทธา แต่ไม่มีสัทธินทรีย์ หรือ?
ป. ถูกแล้ว
ส. บุคคลที่ ๘ มีโสมนัส แต่ไม่มีโสมนัสสินทรีย์ ฯลฯ มีชีวิต แต่ไม่มี
ชีวิตินทรีย์ หรือ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
[๗๘๖] ส. บุคคลที่ ๘ มีปัญญา แต่ไม่มีปัญญินทรีย์ หรือ?
ป. ถูกแล้ว
ส. บุคคลที่ ๘ มีมโน แต่ไม่มีมนินทรีย์ ฯลฯ มีโสมนัส แต่ไม่มีโสมนัส
สินทรีย์ ฯลฯ มีชีวิต แต่ไม่มีชีวิตินทรีย์ หรือ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
[๗๘๗] ส. บุคคลที่ ๘ ไม่มีสัทธินทรีย์ หรือ?
ป. ถูกแล้ว
ส. บุคคลที่ ๘ เป็นผู้ไม่มีศรัทธา หรือ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ส. บุคคลที่ ๘ ไม่มีวิริยินทรีย์ หรือ?
ป. ถูกแล้ว
ส. บุคคลที่ ๘ เป็นผู้เกียจคร้าน ละความเพียร หรือ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ส. บุคคลที่ ๘ ไม่มีสตินทรีย์ หรือ?
ป. ถูกแล้ว
ส. บุคคลที่ ๘ เป็นผู้ลืมสติ ไม่มีสัมปชัญญะ หรือ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ส. บุคคลที่ ๘ ไม่มีสมาธินทรีย์ หรือ?
ป. ถูกแล้ว
ส. บุคคลที่ ๘ เป็นผู้ไม่มีสมาธิ มีจิตวอกแวก หรือ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
[๗๘๘] ส. บุคคลที่ ๘ ไม่มีปัญญินทรีย์ หรือ?
ป. ถูกแล้ว
ส. บุคคลที่ ๘ เป็นผู้มีปัญญาทราม บ้าน้ำลาย (โง่เขลา) หรือ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
[๗๘๙] ส. บุคคลที่ ๘ มีศรัทธา และศรัทธานั้นเป็นนิยยานิกะ (เครื่องนำออกไป)
หรือ?
ป. ถูกแล้ว
ส. หากว่า บุคคลที่ ๘ มีศรัทธา และศรัทธานั้นเป็นนิยยานิกะก็ต้องไม่
กล่าวว่า บุคคลที่ ๘ ไม่มีสัทธินทรีย์
ส. บุคคลที่ ๘ มีวิริยะ และวิริยะนั้นเป็นนิยยานิกะ ฯลฯ มีสติ และสติ
นั้นเป็นนิยยานิกะ ฯลฯ มีสมาติ และสมาธินั้นเป็นนิยยากะ ฯลฯ มี
ปัญญา และปัญญานั้นเป็นนิยยานิกะ หรือ?
ป. ถูกแล้ว
ส. หากว่า บุคคลที่ ๘ มีปัญญา และปัญญานั้นเป็นนิยยานิกะก็ต้องไม่
กล่าวว่า บุคคลที่ ๘ ไม่มีปัญญินทรีย์
[๗๙๐] ส. บุคคลผู้ปฏิบัติเพื่อกระทำให้แจ้งซึ่งสกทาคามิผล มีศรัทธา มีสัทธินทรีย์
หรือ?
ป. ถูกแล้ว
ส. บุคคลที่ ๘ มีศรัทธา มีสัทธินทรีย์ หรือ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ส. บุคคลผู้ปฏิบัติเพื่อกระทำให้แจ้งซึ่งสกทาคามิผล มีปัญญา มีปัญญินทรีย์
หรือ?
ป. ถูกแล้ว
ส. บุคคลที่ ๘ มีปัญญา มีปัญญินทรีย์ หรือ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
[๗๙๑] ส. บุคคลผู้ปฏิบัติเพื่อกระทำให้แจ้งซึ่งอนาคามิผล ฯลฯ บุคคลผู้ปฏิบัติเพื่อ
กระทำให้แจ้งซึ่งอรหัตผล มีศรัทธา มีสัทธินทรีย์ ฯลฯ มีปัญญา
มีปัญญินทรีย์ หรือ?
ป. ถูกแล้ว
ส. บุคคลที่ ๘ มีปัญญา มีปัญญินทรีย์ หรือ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
[๗๙๒] บุคคลที่ ๘ มีศรัทธา แต่ไม่มีสัทธินทรีย์ หรือ?
ป. ถูกแล้ว
ส. บุคคลผู้ปฏิบัติเพื่อกระทำให้แจ้งซึ่งสกทาคามิผล มีศรัทธา แต่ไม่มี
สัทธินทรีย์ หรือ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ส. บุคคลที่ ๘ มีปัญญา แต่ไม่มีปัญญินทรีย์ หรือ?
ป. ถูกแล้ว
ส. บุคคลผู้ปฏิบัติเพื่อกระทำให้แจ้งซึ่งสกทาคามิผล มีปัญญา แต่ไม่มีปัญ
ญินทรีย์ หรือ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
[๗๙๓] ส. บุคคลที่ ๘ มีศรัทธา แต่ไม่มีสัทธินทรีย์ ฯลฯ มีปัญญา แต่ไม่มีปัญญินทรีย์
หรือ?
ป. ถูกแล้ว
ส. บุคคลผู้ปฏิบัติเพื่อกระทำให้แจ้งซึ่งอนาคามิผล ฯลฯ บุคคลผู้ปฏิบัติเพื่อ
กระทำให้แจ้งซึ่งอรหัตผล มีปัญญา แต่ไม่มีปัญญินทรีย์ หรือ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
[๗๙๔] ส. บุคคลที่ ๘ ไม่มีอินทรีย์ ๕ หรือ?
ป. ถูกแล้ว
ส. พระผู้มีพระภาคได้ตรัสไว้ว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย อินทรีย์นี้ ๕ ประการ,
๕ ประการ เป็นไฉน สัทธินทรีย์ ๑ วิริยินทรีย์ ๑ สตินทรีย์ ๑
สมาธินทรีย์ ๑ ปัญญินทรีย์ ๑ อินทรีย์ ๕ ประการฉะนี้แล, ดูกร
ภิกษุทั้งหลาย เพราะความเต็มบริบูรณ์แห่งอินทรีย์ ๕ ประการนี้แล
จึงเป็นพระอรหันต์ เพลากว่านั้น ก็เป็นผู้ปฏิบัติเพื่อกระทำให้แจ้ง
ซึ่งอรหัตผล เพลากว่านั้น ก็เป็นพระอนาคามี เพลากว่านั้น ก็เป็น
ผู้ปฏิบัติเพื่อกระทำให้แจ้งซึ่งอนาคามิผล เพลากว่านั้นก็เป็นพระ
สกทาคามี เพลากว่านั้นก็เป็นผู้ปฏิบัติเพื่อทำให้แจ้ง ซึ่งสกทาคา
มิผล เพลากว่านั้น ก็เป็นพระโสดาบัน เพลากว่านั้น ก็เป็นผู้ปฏิบัติ
เพื่อกระทำให้แจ้งซึ่งโสดาปัตติผล ดูกรภิกษุทั้งหลาย ผู้ใดแล ไม่
มีอินทรีย์ ๕ ประการนี้เสียเลย โดยประการทั้งปวง เราเรียกผู้นั้นว่า
เป็นคนภายนอก เป็นผู้ตั้งอยู่ในฝ่ายปุถุชน ดังนี้ ๑- เป็นสูตรมีอยู่จริง
มิใช่หรือ?
ป. ถูกแล้ว
ส. บุคคลที่ ๘ เป็นคนภายนอก เป็นผู้ตั้งอยู่ในฝ่ายปุถุชน หรือ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ส. ถ้าอย่างนั้น บุคคลที่ ๘ ก็มีอินทรีย์ ๕ น่ะสิ
อัฏฐมกัสส อินทริยกถา จบ.
@๑. สํ. มหาวาร. ข้อ ๘๘๘, ๘๘๙ หน้า ๒๖๗
เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๓๗ บรรทัดที่ ๘๐๖๗-๘๑๙๘ หน้าที่ ๓๓๓-๓๓๘.
https://84000.org/tipitaka/read/v.php?B=37&A=8067&Z=8198&pagebreak=0
https://84000.org/tipitaka/read/r.php?B=37&A=8067&pagebreak=0
ฟังเนื้อความพระไตรปิฎก : [1], [2]
อ่านเทียบพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาฯ :-
https://84000.org/tipitaka/read/m_siri.php?B=37&siri=46
ศึกษาอรรถกถาได้ที่ :-
https://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=37&i=779
พระไตรปิฏกฉบับภาษาบาลีอักษรไทย :-
https://84000.org/tipitaka/read/pali_read.php?B=37&A=5440
อ่านอรรถกถาภาษาบาลีอักษรไทย :-
https://84000.org/tipitaka/atthapali/read_th.php?B=55&A=4399
The Pali Tipitaka in Roman :-
https://84000.org/tipitaka/read/roman_read.php?B=37&A=5440
The Pali Atthakatha in Roman :-
https://84000.org/tipitaka/atthapali/read_rm.php?B=55&A=4399
สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๓๗
https://84000.org/tipitaka/read/?index_37
อ่านเทียบฉบับแปลอังกฤษ Compare with English Translation :-
https://suttacentral.net/kv3.6/en/aung-rhysdavids
บันทึก ๒๖ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๔๖.
บันทึก ๓๐ มกราคม พ.ศ. ๒๕๔๙.
บันทึกล่าสุด ๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๐.
การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจากพระไตรปิฎกฉบับหลวง.
หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]
