ขอนอบน้อมแด่
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
                      พระองค์นั้น
บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ
     ฉบับหลวง   ฉบับมหาจุฬาฯ   บาลีอักษรไทย   PaliRoman 
อ่านหน้า[ต่าง] แรกอ่านหน้า[ต่าง] ที่แล้วแสดงหมายเลขหน้า
ในกรณี :- 
   บรรทัดแรกชองแต่ละหน้าอ่านหน้า[ต่าง] ถัดไปอ่านหน้า[ต่าง] สุดท้าย
พระไตรปิฎก เล่มที่ ๔๑ พระอภิธรรมปิฎก เล่มที่ ๘ มหาปัฏฐานปกรณ์ ภาค ๒ ปัจฉิมอนุโลมติกปัฏฐาน
มัคครัมณัตติกะ
ปฏิจจวาร
[๑๗๖๘] มัคคารัมมณธรรม อาศัยมัคคารัมมณธรรม เกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย คือ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นมัคคารัมมณธรรม ขันธ์ ๒ ฯลฯ มัคคาธิปติธรรม อาศัยมัคคารัมมณธรรม เกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย คือ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นมัคคารัมมณธรรม ขันธ์ ๒ ฯลฯ มัคคาธิปติธรรม อาศัยมัคคารัมมณธรรม เกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย คือ ขันธ์ ๓ ที่เป็นมัคคาธิปติธรรม อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นมัคคารัมมณธรรม ขันธ์ ๑ อาศัยขันธ์ ๓ ขันธ์ ๑ ฯลฯ มัคคารัมมณธรรม และมัคคารัมมณธรรม และมัคคาธิปติธรรม เกิดขึ้น เพราะ เหตุปัจจัย คือ ขันธ์ ๓ ที่เป็นมัคคารัมมณธรรม และมัคคาธิปติธรรม อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็น มัคคารัมมณธรรม ขันธ์ ๒ ฯลฯ [๑๗๖๙] มัคคเหตุกธรรม อาศัยมัคคเหตุกรรม เกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย คือ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นมัคคเหตุกธรรม ขันธ์ ๒ ฯลฯ มัคคาธิปติธรรม อาศัยมัคคเหตุกธรรม เกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย คือ ขันธ์ ๓ ที่เป็นมัคคาธิปติธรรม อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นมัคคเหตุกธรรม ขันธ์ ๒ มัคคเหตุกธรรม และมัคคาธิปติธรรม อาศัยมัคคเหตุกธรรม เกิดขึ้น เพราะเหตุ ปัจจัย คือ ขันธ์ ๓ ที่เป็นมัคคเหตุกธรรม และมัคคาธิปติธรรม อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นมัคคเหตุก- *ธรรม ขันธ์ ๒ ฯลฯ [๑๗๗๐] มัคคาธิปติธรรม อาศัยมัคคาธิปติธรรม เกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย คือ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นมัคคาธิปติธรรม ขันธ์ ๒ ฯลฯ มัคคารัมมณธรรม อาศัยมัคคาธิปติธรรม เกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย คือ ขันธ์ ๓ ที่เป็นมัคคารัมมณธรรม อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นมัคคาธิปติธรรม ขันธ์ ๒ ฯลฯ มัคคเหตุกธรรม อาศัยมัคคาธิปติธรรม เกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย คือ ขันธ์ ๓ ที่เป็นเหตุกธรรม อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นมัคคาธิปติธรรม ขันธ์ ๒ ฯลฯ มัคคารัมมณธรรม และมัคคาธิปติธรรม อาศัยมัคคาธิปติธรรม เกิดขึ้น เพราะ เหตุปัจจัย คือ ขันธ์ ๓ ที่เป็นมัคคารัมมณธรรม และอมัคคาธิปติธรรม อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็น มัคคาธิปติธรรม ขันธ์ ๒ ฯลฯ มัคคเหตุกธรรม และมัคคาธิปติธรรม อาศัยมัคคาธิปติธรรม เกิดขึ้น เพราะ เหตุปัจจัย คือ ขันธ์ ๓ ที่เป็นมัคคเหตุกธรรม และมัคคาธิปติธรรม อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นมัคคา- *ธิปติธรรม ขันธ์ ๒ ฯลฯ [๑๗๗๑] มัคคารัมมณธรรม อาศัยมัคคารัมมณธรรม เกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย คือ ขันธ์ ๓ ที่เป็นมัคคารัมมณธรรม อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นมัคคารัมมณธรรม และ มัคคาธิปติธรรม ขันธ์ ๒ มัคคาธิปติธรรม อาศัยมัคคารัมมณธรรม และมัคคาธิปติธรรม เกิดขึ้น เพราะ เหตุปัจจัย คือ ขันธ์ ๓ ที่เป็นมัคคาธิปติธรรม อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นมัคคารัมมณธรรม และมัคคา- *ธิปติธรรม ขันธ์ ๒ ฯลฯ มัคคารัมมณธรรม และมัคคาธิปติธรรม อาศัยมัคคารัมมณธรรม และมัคคาธิปติ- *ธรรม เกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย คือ ขันธ์ ๓ ที่เป็นมัคคารัมมณธรรม และมัคคาธิปติธรรม อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็น มัคคารัมมณธรรม และมัคคาธิปติธรรม ขันธ์ ๒ ฯลฯ [๑๗๗๒] มัคคเหตุกธรรม อาศัยมัคคเหตุกธรรม และมัคคาธิปติธรรม เกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย คือ ขันธ์ ๓ ที่เป็นมัคคเหตุกธรรม อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นมัคคเหตุกธรรม และมัคคา- *ธิปติธรรม ขันธ์ ๒ ฯลฯ มัคคาธิปติธรรม อาศัยมัคคเหตุกธรรม และมัคคาธิปติธรรม เกิดขึ้น เพราะเหตุ- *ปัจจัย คือ ขันธ์ ๓ ที่เป็นมัคคาธิปติธรรม อาศัยขันธ์ ๓ ที่เป็นมัคคเหตุกธรรม และมัคคา- *ธิปติธรรม ขันธ์ ๒ ฯลฯ มัคคเหตุกธรรม และมัคคาธิปติธรรม อาศัยมัคคเหตุกธรรม และมัคคาธิปติธรรม เกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย คือ ขันธ์ ๓ ที่เป็นมัคคเหตุกธรรม และมัคคาธิปติธรรม อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นมัคคา- *เหตุกธรรม และมัคคาธิปติธรรม ขันธ์ ๒ ฯลฯ [๑๗๗๓] มัคคารัมมณธรรม อาศัยมัคคารัมมณธรรม เกิดขึ้น เพราะอารัมมณ- *ปัจจัย เพราะ อธิปติปัจจัย เพราะ อนันตรปัจจัย เพราะ สมนันตรปัจจัย เพราะ สหชาตปัจจัย เพราะ อัญญมัญญปัจจัย เพราะ นิสสยปัจจัย เพราะ อุปนิสสยปัจจัย เพราะ ปุเรชาตปัจจัย เพราะ อาเสวนปัจจัย เพราะ กัมมปัจจัย เพราะ อาหารปัจจัย เพราะ อินทริยปัจจัย เพราะ ฌานปัจจัย เพราะ มัคคปัจจัย เพราะ สัมปยุตตปัจจัย เพราะ วิปปยุตตปัจจัย เพราะ อัตถิปัจจัย เพราะ นัตถิปัจจัย เพราะ วิคตปัจจัย เพราะ อวิคตปัจจัย [๑๗๗๔] ในเหตุปัจจัย มีวาระ ๑๑ ในอารัมมณปัจจัย ในอธิปติปัจจัย ในอนันตรปัจจัย ในสมนันตรปัจจัย ในสหชาตปัจจัย ในอัญญมัญญปัจจัย ในนิสสยปัจจัย ในอุปนิสสยปัจจัย ในปุเรชาตปัจจัย ในอาเสวนปัจจัย ในกัมมปัจจัย ในอาหารปัจจัย ในอินทริยปัจจัย ในฌานปัจจัย ในมัคคปัจจัย ในสัมปยุตตปัจจัย ในวิปปยุตตปัจจัย ในอัตถิปัจจัย ในนัตถิปัจจัย ในวิคตปัจจัย ในอวิคตปัจจัย มีวาระ ๑๗
พึงนับอย่างนี้
อนุโลม จบ
[๑๗๗๕] มัคคารัมมณธรรม อาศัยมัคคารัมมณธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะเหตุ- *ปัจจัย คือ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นมัคคารัมมณธรรม ซึ่งเป็นอเหตุกะ ขันธ์ ๒ ฯลฯ [๑๗๗๖] มัคคารัมมณธรรม อาศัยมัคคารัมมณธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะอธิปติ- *ปัจจัย คือขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นมัคคารัมมณธรรม ขันธ์ ๒ ฯลฯ มัคคาธิปติธรรม อาศัยมัคคารัมมณธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะอธิปติปัจจัย คือ ขันธ์ ๓ ที่เป็นมัคคาธิปติธรรม อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นมัคคารัมมณธรรม ขันธ์ ๒ ฯลฯ มัคคารัมมณธรรม และมัคคาธิปติธรรม อาศัยมัคคารัมมณธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่- *เพราะอธิปติปัจจัย คือ ขันธ์ ๓ ที่เป็นมัคคารัมมณธรรม และมัคคาธิปติธรรม อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นมัคคา- *รัมมณธรรม ขันธ์ ๒ ฯลฯ [๑๗๗๗] มัคคเหตุกธรรม อาศัยมัคคเหตุกธรรมเกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะอธิปติ- *ปัจจัย คือ อธิปติธรรมที่เป็นมัคคเหตุกธรรม อาศัยขันธ์ทั้งหลายที่เป็นมัคคเหตุกธรรม มัคคาธิปติธรรม อาศัยมัคคเหตุกธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะอธิปติปัจจัย คือ อธิปติธรรมที่เป็นมัคคาธิปติธรรม อาศัยขันธ์ทั้งหลายที่เป็นมัคคเหตุกธรรม มัคคเหตุกธรรม และมัคคาธิปติธรรม อาศัยมัคคเหตุกธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่- *เพราะอธิปติปัจจัย คือ อธิปติธรรมที่เป็นมัคคเหตุกธรรม และมัคคาธิปตธรรม อาศัยขันธ์ทั้งหลายที่เป็น มัคคเหตุกธรรม [๑๗๗๘] มัคคาธิปติธรรม อาศัยมัคคาธิปติธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะอธิปติ- *ปัจจัย คือ อธิปติธรรมที่เป็นมัคคาธิปติธรรม อาศัยขันธ์ทั้งหลายที่เป็นมัคคาธิปติธรรม ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นมัคคาธิปติธรรม ขันธ์ ๒ ฯลฯ มัคคารัมมณธรรม อาศัยมัคคาธิปติธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะอธิปติปัจจัย คือ ขันธ์ ๓ ที่เป็นมัคคารัมมณธรรม อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นมัคคาธิปติธรรม ขันธ์ ๒ ฯลฯ มัคคเหตุกธรรม อาศัยมัคคาธิปติธรรม ฯลฯ ไม่ใช่เพราะอธิปติปัจจัย คือ อธิปติธรรมที่เป็นมัคคเหตุกธรรม อาศัยขันธ์ทั้งหลายที่เป็นมัคคาธิปติธรรม มัคคารัมมณธรรม และมัคคาธิปติธรรม อาศัยมัคคาธิปติธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่- *เพราะอธิปติปัจจัย คือ ขันธ์ ๓ ที่เป็นมัคคารัมมณธรรม และมัคคาธิปติธรรม อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็น มัคคาธิปติธรรม ขันธ์ ๒ ฯลฯ มัคคเหตุกธรรม และมัคคาธิปติธรรม อาศัยมัคคาธิปติธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่- *เพราะอธิปติปัจจัย คือ อธิปติธรรมที่เป็นมัคคเหตุกธรรม และมัคคาธิปติธรรม อาศัยขันธ์ทั้งหลายที่เป็น มัคคาธิปติธรรม [๑๗๗๙] มัคคารัมมณธรรม อาศัยมัคคารัมมณธรรม และมัคคาธิปติธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะอธิปติปัจจัย คือ ขันธ์ ๓ ที่เป็นมัคคารัมมณธรรม อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นมัคคารัมมณธรรม และ มัคคาธิปติธรรม ขันธ์ ๒ ฯลฯ มัคคาธิปติธรรม อาศัยมัคคารัมมณธรรม และมัคคาธิปติธรรม ฯลฯ ไม่ใช่- *เพราะอธิปติปัจจัย คือ ขันธ์ ๓ ที่เป็นมัคคาธิปติธรรม อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นมัคคารัมมณธรรม และ มัคคาธิปติธรรม ขันธ์ ๒ ฯลฯ มัคคารัมมณธรรม และมัคคาธิปติธรรม อาศัยมัคคารัมมณธรรม และมัคคา- *ธิปติธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะอธิปติปัจจัย คือ ขันธ์ ๓ ที่เป็นมัคคารัมมณธรรม และมัคคาธิปติธรรม อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็น มัคคารัมมณธรรม และมัคคาธิปติธรรม ขันธ์ ๒ ฯลฯ [๑๗๘๐] มัคคเหตุกธรรม อาศัยมัคคเหตุกธรรม และมัคคาธิปติธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะอธิปติปัจจัย คือ อธิปติธรรมที่เป็นมัคคเหตุกธรรม อาศัยขันธ์ทั้งหลายที่เป็นมัคคเหตุกธรรม และ มัคคาธิปติธรรม มัคคาธิปติธรรม อาศัยมัคคเหตุกธรรม และมัคคาธิปติธรรม ฯลฯ คือ อธิปติธรรมที่เป็นมัคคาธิปติธรรม อาศัยขันธ์ทั้งหลายที่เป็นมัคคเหตุกธรรม และ มัคคาธิปติธรรม มัคคเหตุกธรรม และมัคคาธิปติธรรม อาศัยมัคคเหตุกธรรม และมัคคาธิปติ- *ธรรม ฯลฯ ไม่ใช่เพราะอธิปติปัจจัย คือ อธิปติธรรมที่เป็นมัคคเหตุกธรรม และมัคคาธิปติธรรม อาศัยขันธ์ทั้งหลายที่เป็น มัคคเหตุกธรรม และมัคคาธิปติธรรม [๑๗๘๑] มัคคารัมมณธรรม อาศัยมัคคารัมมณธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะ- *ปุเรชาตปัจจัย ไม่ใช่เพราะปัจฉาชาตปัจจัย มีหัวข้อปัจจัยทั้ง ๒ พึงใส่ให้หมด [๑๗๘๒] มัคคารัมมณธรรม อาศัยมัคคารัมมณธรรม ฯลฯ ไม่ใช่เพราะอาเสวน- *ปัจจัย คือ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นมัคคารัมมณธรรม ขันธ์ ๒ ฯลฯ มัคคาธิปติธรรม อาศัยมัคคารัมมณธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะอาเสวนปัจจัย คือ ขันธ์ ๓ ที่เป็นมัคคาธิปติธรรม อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นมัคคารัมมณธรรม ขันธ์ ๒ ฯลฯ มัคคารัมมณธรรม และมัคคาธิปติธรรม อาศัยมัคคารัมมณธรรม ฯลฯ ไม่ใช่- *เพราะอาเสวนปัจจัย คือ ขันธ์ ๓ ที่เป็นมัคคารัมมณธรรม และมัคคาธิปติธรรม อาศัย ขันธ์ ๑ ที่เป็น มัคคารัมมณธรรม ขันธ์ ๒ ฯลฯ [๑๗๘๓] มัคคาธิปติธรรม อาศัยมัคคาธิปติธรรม ฯลฯ ไม่ใช่เพราะอาเสวน- *ปัจจัย คือ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นมัคคาธิปติธรรม ขันธ์ ๒ ฯลฯ มัคคารัมมณธรรม อาศัยมัคคาธิปติธรรม ฯลฯ ไม่ใช่เพราะอาเสวนปัจจัย คือ ขันธ์ ๓ ที่เป็นมัคคารัมมณธรรม อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นมัคคาธิปติธรรม ขันธ์ ๒ ฯลฯ มัคคารัมมณธรรม และมัคคาธิปติธรรม อาศัยมัคคาธิปติธรรม ฯลฯ ไม่ใช่- *เพราะอาเสวนปัจจัย คือ ขันธ์ ๓ ที่เป็นมัคคารัมมณธรรม และมัคคาธิปติธรรม อาศัย ขันธ์ ๑ ที่เป็น มัคคาธิปติธรรม ขันธ์ ๒ ฯลฯ [๑๗๘๔] มัคคารัมมณธรรม อาศัยมัคคารัมมณธรรม และมัคคาธิปติธรรม ฯลฯ ไม่ใช่เพราะอาเสวนปัจจัย คือ ขันธ์ ๓ ที่เป็นมัคคารัมมณธรรม อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นมัคคารัมมณธรรม และ มัคคาธิปติธรรม ขันธ์ ๒ ฯลฯ มัคคาธิปติธรรม อาศัยมัคคารัมมณธรรม และมัคคาธิปติธรรม ฯลฯ ไม่ใช่- *เพราะอาเสวนปัจจัย คือ ขันธ์ ๓ ที่เป็นมัคคาธิปติธรรม อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นมัคคารัมมณธรรม และ มัคคาธิปติธรรม ขันธ์ ๒ ฯลฯ มัคคารัมมณธรรม และมัคคาธิปติธรรม อาศัยมัคคารัมมณธรรม และมัคคาธิปติ- *ธรรม ฯลฯ ไม่ใช่เพราะอาเสวนปัจจัย คือ ขันธ์ ๓ ที่เป็นมัคคารัมมณธรรม และมัคคาธิปติธรรม อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็น มัคคารัมมณธรรม และมัคคาธิปติธรรม ขันธ์ ๒ ฯลฯ [๑๗๘๕] มัคคารัมมณธรรม อาศัยมัคคารัมมณธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะกัมม- *ปัจจัย คือ เจตนาที่เป็นมัคคารัมมณธรรม อาศัยขันธ์ทั้งหลายที่เป็นมัคคารัมมณธรรม มัคคาธิปติธรรม อาศัยมัคคารัมมณธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะกัมมปัจจัย คือ เจตนาที่เป็นมัคคาธิปติธรรม อาศัยขันธ์ทั้งหลายที่เป็นมัคคารัมมณธรรม มัคคารัมมณธรรม และมัคคาธิปติธรรม อาศัยขันธ์ทั้งหลายที่เป็นมัคคารัมมณธรรม ฯลฯ ไม่ใช่- *เพราะกัมมปัจจัย คือ เจตนาที่เป็นมัคคารัมมณธรรม และมัคคาธิปติธรรม อาศัยขันธ์ทั้งหลายที่เป็น มัคคารัมมณธรรม [๑๗๘๖] มัคคเหตุกธรรม อาศัยมัคคเหตุกธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะกัมมปัจจัย คือ เจตนาที่เป็นมัคคเหตุกธรรมอาศัยขันธ์ทั้งหลายที่เป็นมัคคเหตุกธรรม มัคคาธิปติธรรม อาศัยมัคคเหตุกธรรม ฯลฯ ไม่ใช่เพราะกัมมปัจจัย คือ เจตนาที่เป็นมัคคาธิปติธรรม อาศัยขันธ์ทั้งหลายที่เป็นมัคคเหตุกธรรม มัคคเหตุกธรรม และมัคคาธิปติธรรม อาศัยมัคคเหตุกธรรม ฯลฯ ไม่ใช่เพราะ- *กัมมปัจจัย คือ เจตนาที่เป็นมัคคเหตุกธรรม และมัคคาธิปติธรรม อาศัยขันธ์ทั้งหลายที่เป็นมัคค- *เหตุกธรรม [๑๗๘๗] มัคคาธิปติธรรม อาศัยมัคคาธิปติธรรม ฯลฯ ไม่ใช่เพราะกัมมปัจจัย คือ เจตนาที่เป็นมัคคาธิปติธรรม อาศัยขันธ์ทั้งหลายที่เป็นมัคคาธิปติธรรม มีหัวข้อ ปัจจัย ๕ [๑๗๘๘] มัคคารัมมณธรรม อาศัยมัคคารัมมณธรรม และมัคคาธิปติธรรม ฯลฯ ไม่ใช่เพราะกัมมปัจจัย ในปัจจัยสงเคราะห์แรก มีหัวข้อปัจจัย ๓ [๑๗๘๙] มัคคเหตุกธรรม อาศัยมัคคเหตุกธรรม และมัคคาธิปติธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะกัมมปัจจัย ในปัจจัยสงเคราะห์ ตอนที่ ๒ มีหัวข้อปัจจัย ๓ [๑๗๙๐] มัคคารัมมณธรรม อาศัยมัคคารัมมณธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะวิปาก- *ปัจจัย พึงใส่ให้เต็ม [๑๗๙๑] มัคคารัมมณธรรม อาศัยมัคคารัมมณธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะมัคค- *ปัจจัย คือ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นมัคคารัมมณธรรม ซึ่งเป็นอเหตุกธรรม ขันธ์ ๒ ฯลฯ [๑๗๙๒] มัคคารัมมณธรรม อาศัยมัคคารัมมณธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะ- *วิปปยุตตปัจจัย พึงใส่ให้เต็ม พึงกำหนดว่า อรูป [๑๗๙๓] ในปัจจัยที่ไม่ใช่อารัมมณปัจจัย มีวาระ ๑ ในปัจจัยที่ไม่ใช่อธิปติปัจจัย มี " ๑๗ ในปัจจัยที่ไม่ใช่ปุเรชาตปัจจัย มี " ๑๗ ในปัจจัยที่ไม่ใช่ปัจฉาชาตปัจจัย มี " ๑๗ ในปัจจัยที่ไม่ใช่อาเสวนปัจจัย มี " ๑๙ ในปัจจัยที่ไม่ใช่กัมมปัจจัย มี " ๑๗ ในปัจจัยที่ไม่ใช่วิปากปัจจัย มี " ๑๗ ในปัจจัยที่ไม่ใช่มัคคปัจจัย มี " ๑ ในปัจจัยที่ไม่ใช่วิปปยุตตปัจจัย มี " ๑๗
พึงนับอย่างนี้
ปัจจนียะ จบ
[๑๗๙๔] ในปัจจัยที่ไม่ใช่อธิปติปัจัย กับเหตุปัจจัย มีวาระ ๑๗ ในปัจจัยที่ไม่ใช่ปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี " ๑๗ ในปัจจัยที่ไม่ใช่ปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี " ๑๗ ในปัจจัยที่ไม่ใช่อาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ ในปัจจัยที่ไม่ใช่กัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มีวาระ ๙ ในปัจจัยที่ไม่ใช่วิปากปัจจัย กับ ฯลฯ ในปัจจัยที่ไม่ใช่วิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี " ๑๗
พึงนับอย่างนี้
อนุโลมปัจจนียะ จบ
[๑๗๙๕] ในอารัมมณปัจจัย กับปัจจัยที่ไม่ใช่เหตุปัจจัย มีวาระ ๑ ในอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี " ๑ ในสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี " ๑ ฯลฯ ในปัจจัยทั้งปวง กับ ฯลฯ ในฌานปัจจัย กับ ฯลฯ ในสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ ในวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ ในนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ ในวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ ในอวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มีวาระ ๑
พึงนับอย่างนี้
ปัจจนียานุโลม จบ
ปฏิจจวาร จบ
สหชาตวารก็ดี ปัจจยวารก็ดี นิสสยวารก็ดี สังสัฏฐวารก็ดี สัมปยุตตวารก็ดี เหมือน กับปฏิจจวาร

             เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๔๑ บรรทัดที่ ๑๒๓๗๙-๑๒๖๒๘ หน้าที่ ๕๒๖-๕๓๖. http://84000.org/tipitaka/read/v.php?B=41&A=12379&Z=12628&pagebreak=0 http://84000.org/tipitaka/read/r.php?B=41&A=12379&pagebreak=0              ฟังเนื้อความพระไตรปิฎก : [1], [2], [3]              อ่านเทียบพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาฯ :- http://84000.org/tipitaka/read/m_siri.php?B=41&siri=37              ศึกษาอรรถกถาได้ที่ :- http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=41&i=1768              พระไตรปิฏกฉบับภาษาบาลีอักษรไทย :- http://84000.org/tipitaka/read/pali_read.php?B=41&A=9911              อ่านอรรถกถาภาษาบาลีอักษรไทย :- http://84000.org/tipitaka/atthapali/read_th.php?B=55&A=12749              The Pali Tipitaka in Roman :- http://84000.org/tipitaka/read/roman_read.php?B=41&A=9911              The Pali Atthakatha in Roman :- http://84000.org/tipitaka/atthapali/read_rm.php?B=55&A=12749              สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๔๑ http://84000.org/tipitaka/read/?index_41              อ่านเทียบฉบับแปลอังกฤษ Compare with English Translation :- https://suttacentral.net/patthana1.17/en/narada

อ่านหน้า[ต่าง] แรกอ่านหน้า[ต่าง] ที่แล้วแสดงหมายเลขหน้า
ในกรณี :- 
   บรรทัดแรกชองแต่ละหน้าอ่านหน้า[ต่าง] ถัดไปอ่านหน้า[ต่าง] สุดท้าย

บันทึก ๒๖ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๔๖. บันทึก ๓๐ มกราคม พ.ศ. ๒๕๔๙. บันทึกล่าสุด ๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๐. การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจากพระไตรปิฎกฉบับหลวง. หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]