อุปาทินนทุกะ
ปัจจยวาร
[๓๔๐] อุปาทินนธรรม อาศัยอุปาทินนธรรม เกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย
คือ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอุปาทินนธรรม ขันธ์ ๒ ฯลฯ
ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๓ และกฏัตตารูป อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอุปาทาทินนธรรม
ขันธ์ ๒ ฯลฯ หทัยวัตถุ อาศัยขันธ์ทั้งหลาย ขันธ์ทั้งหลายอาศัยหทัยวัตถุ มหาภูตรูป ๑ ฯลฯ
กฏัตตารูปที่เป็นอุปาทารูป อาศัยมหาภูตรูปทั้งหลาย.
อนุปาทินนธรรม อาศัยอุปาทินนธรรม เกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย
คือ จิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ทั้งหลายที่เป็นอุปาทินนธรรม.
อนุปาทินนธรรม และอนุปาทินนธรรม อาศัยอุปาทินนธรรม เกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย
คือ ขันธ์ ๓ และจิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอุปาทาทินนธรรม ขันธ์ ๒ ฯลฯ.
อนุปาทินนธรรม อาศัยอนุปาทินนธรรม เกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย
คือ ขันธ์ ๓ และจิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอนุปาทินนธรรม ขันธ์ ๒
ฯลฯ อาศัยมหาภูตรูป ๑ ฯลฯ จิตตสมุฏฐานรูป ที่เป็นอุปาทารูป อาศัยมหาภูตรูปทั้งหลาย.
อนุปาทินนธรรม อาศัยอุปาทินนธรรม และอนุปาทินนธรรม เกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย
คือ จิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ทั้งหลายที่เป็นอุปาทินนธรรม และมหาภูตรูปทั้งหลาย.
[๓๔๑] อุปาทินนธรรม อาศัยอุปาทินนธรรม เกิดขึ้น เพราะอารัมมณปัจจัย
คือ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอุปาทินนธรรม ขันธ์ ๒ ฯลฯ
ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ทั้งหลาย อาศัยหทัยวัตถุ.
อนุปาทินนธรรม อาศัยอนุปาทินนธรรม เกิดขึ้น เพราะอารัมมณปัจจัย
คือ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอนุปาทินนธรรม ขันธ์ ๒ ฯลฯ.
[๓๔๒] อนุปาทินนธรรม อาศัยอนุปาทินนธรรม เกิดขึ้น เพราะอธิปติปัจจัย
คือ ขันธ์ ๓ และจิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอนุปาทินนธรรม ขันธ์ ๒
ฯลฯ อาศัยมหาภูตรูป ๑ ฯลฯ จิตตสมุฏฐานรูป ที่เป็นอุปาทารูป อาศัยมหาภูตรูปทั้งหลาย.
ฯลฯ
[๓๔๓] ในเหตุปัจจัย มีวาระ ๕
ในอารัมมณปัจจัย มี " ๒
ในอธิปติปัจจัย มี " ๑
ในอนันตรปัจจัย มี " ๒
ในสมนันตรปัจจัย มี " ๒
ในสหชาตปัจจัย มี " ๕
ในอัญญมัญญปัจจัย มี " ๒
ในนิสสยปัจจัย มีวาระ ๕
ในอุปนิสสยปัจจัย มี " ๒
ในปุเรชาตปัจจัย มี " ๒
ในอาเสวนปัจจัย มี " ๑
ในกัมมปัจจัย มี " ๕
ในวิปากปัจจัย มี " ๕
ในอาหารปัจจัย มี " ๕
ในอินทริยปัจจัย มี " ๕
ในฌานปัจจัย มี " ๕
ในมัคคปัจจัย มี " ๕
ในสัมปยุตตปัจจัย มี " ๒
ในวิปปยุตตปัจจัย มี " ๕
ในอัตถิปัจจัย มี " ๕
ในนัตถิปัจจัย มี " ๒
ในวิคตปัจจัย มี " ๒
ในอวิคตปัจจัย มี " ๕.
[๓๔๔] อุปาทินนธรรม อาศัยอุปาทินนธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะเหตุปัจจัย
คือ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอุปาทินนธรรม ซึ่งเป็นอเหตุกะ ขันธ์ ๒ ฯลฯ
ในอเหตุกปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๓ และกฏัตตารูป อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอุปาทินนธรรม
ขันธ์ ๒ ฯลฯ หทัยวัตถุ อาศัยขันธ์ทั้งหลาย ขันธ์ทั้งหลาย อาศัยหทัยวัตถุ อาศัยมหาภูตรูป ๑
ฯลฯ กฏัตตารูปที่เป็นอุปาทารูป อาศัยมหาภูตรูปทั้งหลาย
ส่วนพวกอสัญญสัตว์ทั้งหลาย อาศัยมหาภูตรูป ๑ ฯลฯ กฏัตตารูปที่เป็นอุปาทารูป
อาศัยมหาภูตรูปทั้งหลาย.
อนุปาทินนธรรม อาศัยอุปาทินนธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะเหตุปัจจัย
คือ จิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ทั้งหลายที่เป็นอุปาทินนธรรม ซึ่งเป็นอเหตุกะ.
อุปาทินนธรรม และ อนุปาทินนธรรม อาศัยอุปาทินนธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะ
เหตุปัจจัย
คือ ขันธ์ ๓ และจิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอุปาทินนธรรม ซึ่งเป็นอเหตุกะ
ขันธ์ ๒ ฯลฯ.
อนุปาทินนธรรม อาศัยอนุปาทินนธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะเหตุปัจจัย
คือ ขันธ์ ๓ และจิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอนุปาทินนธรรม ซึ่งเป็นอเหตุกะ
ขันธ์ ๒ ฯลฯ มหาภูตรูป ฯลฯ จิตตสมุฏฐานรูป ที่เป็นอุปาทารูป อาศัยมหาภูตรูปทั้งหลาย
พาหิรรูป ฯลฯ อาหารสมุฏฐานรูป ฯลฯ อุตุสมุฏฐานรูป มหาภูตรูป ๑ ฯลฯ อุปาทารูป อาศัย
มหาภูตรูปทั้งหลาย โมหะ ที่สหรคตด้วยอุทธัจจะ อาศัยขันธ์ทั้งหลายที่สหรคตด้วยวิจิกิจฉา
ที่สหรคตด้วยอุทธัจจะ.
อนุปาทินนธรรม อาศัยอุปาทินนธรรม และอนุปาทินนธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะ
เหตุปัจจัย
คือ จิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ทั้งหลายที่เป็นอุปาทินนธรรม ซึ่งเป็นอเหตุกะ และ
มหาภูตรูปทั้งหลาย.
[๓๔๕] อุปาทินนธรรม อาศัยอุปาทินนธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะอารัมมณปัจจัย
คือ ในปฏิสนธิขณะ กฏัตตารูป อาศัยขันธ์ทั้งหลายที่เป็นอุปาทินนธรรม หทัยวัตถุ
อาศัยขันธ์ทั้งหลาย มหาภูตรูป ๑ ฯลฯ กฏัตตารูปที่เป็นอุปาทารูป อาศัยมหาภูตรูปทั้งหลาย
ส่วนพวกอสัญญสัตว์ทั้งหลาย มหาภูตรูป ๑ ฯลฯ กฏัตตารูป ที่เป็นอุปาทารูป อาศัย
มหาภูตรูปทั้งหลาย.
อนุปาทินนธรรม อาศัยอุปาทินนธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะอารัมมณปัจจัย
จิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ทั้งหลายที่เป็นอุปาทินนธรรม.
อนุปาทินนธรรม อาศัยอนุปาทินนธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะอารัมมณปัจจัย
คือจิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ทั้งหลายที่เป็นอนุปาทินนธรรม มหาภูตรูป ๑ ฯลฯ
พาหิรรูป ฯลฯ อาหารสมุฏฐานรูป ฯลฯ อุตุสมุฏฐานรูป มหาภูตรูป ๑ ฯลฯ อุปาทารูป อาศัย
มหาภูตรูปทั้งหลาย
อนุปาทินนธรรม อาศัยอุปาทินนธรรม และอนุปาทินนธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะ
อารัมมณปัจจัย
คือ จิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ทั้งหลายที่เป็นอุปาทินนธรรม มหาภูตรูปทั้งหลาย.
[๓๔๖] อุปาทินนธรรม อาศัยอุปาทินนธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะอธิปติปัจจัย.
ฯลฯ ไม่ใช่เพราะอนันตรปัจจัย ไม่ใช่เพราะสมนันตรปัจจัย ไม่ใช่เพราะอัญญมัญญ-
*ปัจจัย ไม่ใช่เพราะอุปนิสสยปัจจัย.
[๓๔๗] อุปาทินนธรรม อาศัยอุปาทินนธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะปุเรชาตปัจจัย
คือ ในอรูปภูมิ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอุปาทินนธรรม ขันธ์ ๒ ฯลฯ
ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๓ และกฏัตตารูป อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอุปาทินนธรรม ตลอดถึง
อสัญญสัตว์.
อนุปาทินนธรรม อาศัยอุปาทินนธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะปุเรชาตปัจจัย
คือ จิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ทั้งหลายที่เป็นอุปาทินนธรรม.
อนุปาทินนธรรม อาศัยอนุปาทินนธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะปุเรชาตปัจจัย
คือ ในอรูปภูมิ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอนุปาทินนธรรม ขันธ์ ๒ ฯลฯ จิตตสมุฏ-
*ฐานรูป อาศัยขันธ์ทั้งหลายที่เป็นอนุปาทินนธรรม มหาภูตรูป ๑ ตลอดถึงอสัญญสัตว์ อุตุสมุฏ-
*ฐานรูป.
อนุปาทินนธรรม อาศัยอุปาทินนธรรม และอนุปาทินนธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะ
ปุเรชาตปัจจัย
คือ จิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ทั้งหลายที่เป็นอุปาทินนธรรม และมหาภูตรูปทั้งหลาย.
ฯลฯ ไม่ใช่เพราะปัจฉาชาตปัจจัย ไม่ใช่เพราะอาเสวนปัจจัย.
[๓๔๘] อนุปาทินนธรรม อาศัยอนุปาทินนธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะกัมมปัจจัย
คือ เจตนาที่เป็นอนุปาทินนธรรม อาศัยขันธ์ทั้งหลายที่เป็นอนุปาทินนธรรม พาหิรรูป
ฯลฯ อาหารสมุฏฐานรูป ฯลฯ อุตุสมุฏฐานรูป ฯลฯ อุปาทารูป อาศัยมหาภูตรูปทั้งหลาย.
[๓๔๙] อุปาทินนธรรม อาศัยอุปาทินนธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะวิปากปัจจัย
คือ ส่วนพวกอสัญญสัตว์ทั้งหลาย มหาภูตรูป ๑ ฯลฯ กฏัตตารูปที่เป็นอุปาทารูป อาศัย
มหาภูตรูปทั้งหลาย.
อนุปาทินนธรรม อาศัยอนุปาทินนธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะวิปากปัจจัย
คือ ขันธ์ ๓ และจิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอนุปาทินนธรรม ขันธ์ ๒ ฯลฯ
มหาภูตรูป ๑ ตลอดถึงอุตุสมุฏฐานรูป.
[๓๕๐] อุปาทินนธรรม อาศัยอุปาทินนธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะอาหารปัจจัย
คือ ส่วนพวกอสัญญสัตว์ทั้งหลาย มหาภูตรูป ๑ ฯลฯ.
อนุปาทินนธรรม อาศัยอนุปาทินนธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะอาหารปัจจัย
คือ พาหิรรูป ฯลฯ อุตุสมุฏฐานรูป ฯลฯ
[๓๕๑] อุปาทินนธรรม อาศัยอุปาทินนธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะอินทริยปัจจัย
คือ ส่วนพวกอสัญญสัตว์ทั้งหลาย รูปชีวิตินทรีย์ อาศัยมหาภูตรูปทั้งหลาย.
อนุปาทินนธรรม อาศัยอนุปาทินนธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะอินทริยปัจจัย
คือ พาหิรรูป ฯลฯ อาหารสมุฏฐานรูป ฯลฯ อุตุสมุฏฐานรูป ฯลฯ
[๓๕๒] อุปาทินนธรรม อาศัยอุปาทินนธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะฌานปัจจัย
คือ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่สหรคตด้วยปัญจวิญญาณ ขันธ์ ๒ ฯลฯ
ส่วนพวกอสัญญสัตว์ทั้งหลาย ฯลฯ
อนุปาทินนธรรม อาศัยอนุปาทินนธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะฌานปัจจัย
คือ พาหิรรูป ฯลฯ อาหารสมุฏฐานรูป ฯลฯ อุตุสมุฏฐานรูป ฯลฯ
[๓๕๓] อุปาทินนธรรม อาศัยอุปาทินนธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะมัคคปัจจัย เหมือน
กับที่ไม่ใช่เพราะเหตุปัจจัย โมหะไม่มี.
ฯลฯ ไม่ใช่เพราะสัมปยุตตปัจจัย.
[๓๕๔] อนุปาทินนธรรม อาศัยอุปาทินนธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะวิปปยุตตปัจจัย
คือ ในอรูปภูมิ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอุปาทินนธรรม ขันธ์ ๒ ฯลฯ
ส่วนพวกอสัญญสัตว์ทั้งหลาย อาศัยมหาภูตรูป ๑ ฯลฯ
อนุปาทินนธรรม อาศัยอนุปาทินนธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะวิปปยุตตปัจจัย
คือ ในอรูปภูมิ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอนุปาทินนธรรม
ขันธ์ ๒ ฯลฯ พาหิรรูป ฯลฯ อาหารสมุฏฐานรูป ฯลฯ อุตุสมุฏฐานรูป ฯลฯ
ฯลฯ ไม่ใช่เพราะนัตถิปัจจัย ไม่ใช่เพราะวิคตปัจจัย.
[๓๕๕] ในปัจจัยที่ไม่ใช่เหตุปัจจัย มีวาระ ๕
ในปัจจัยที่ไม่ใช่อารัมมณปัจจัย มี " ๔
ในปัจจัยที่ไม่ใช่อธิปติปัจจัย มี " ๕
ในปัจจัยที่ไม่ใช่อนันตรปัจจัย มี " ๔
ในปัจจัยที่ไม่ใช่สมนันตรปัจจัย มี " ๔
ในปัจจัยที่ไม่ใช่อัญญมัญญปัจจัย มี " ๔
ในปัจจัยที่ไม่ใช่อุปนิสสยปัจจัย มี " ๔
ในปัจจัยที่ไม่ใช่ปุเรชาตปัจจัย มี " ๔
ในปัจจัยที่ไม่ใช่ปัจฉาชาตปัจจัย มี " ๕
ในปัจจัยที่ไม่ใช่อาเสวนปัจจัย มี " ๕
ในปัจจัยที่ไม่ใช่กัมมปัจจัย มี " ๑
ในปัจจัยที่ไม่ใช่วิปากปัจจัย มี " ๒
ในปัจจัยที่ไม่ใช่อาหารปัจจัย มี " ๒
ในปัจจัยที่ไม่ใช่อินทริยปัจจัย มี " ๒
ในปัจจัยที่ไม่ใช่ฌานปัจจัย มี " ๒
ในปัจจัยที่ไม่ใช่มัคคปัจจัย มี " ๕
ในปัจจัยที่ไม่ใช่สัมปยุตตปัจจัย มี " ๔
ในปัจจัยที่ไม่ใช่วิปปยุตตปัจจัย มี " ๒
ในปัจจัยที่ไม่ใช่นัตถิปัจจัย มี " ๔
ในปัจจัยที่ไม่ใช่วิคตปัจจัย มี " ๔.
[๓๕๖] ในปัจจัยที่ไม่ใช่อารัมมณปัจจัย
กับเหตุปัจจัย มี " ๔
ในปัจจัยที่ไม่ใช่อธิปติปัจจัย
กับ ฯลฯ มี " ๕
ในปัจจัยที่ไม่ใช่ปุเรชาตปัจจัย
กับ ฯลฯ มี " ๔
ในปัจจัยที่ไม่ใช่ปัจฉาชาตปัจจัย
กับ ฯลฯ มี " ๕
ในปัจจัยที่ไม่ใช่อาเสวนปัจจัย
กับ ฯลฯ มีวาระ ๕
ในปัจจัยที่ไม่ใช่กัมมปัจจัย
กับ ฯลฯ มี " ๑
ในปัจจัยที่ไม่ใช่วิปากปัจจัย
กับ ฯลฯ มี " ๑
ในปัจจัยที่ไม่ใช่สัมปยุตตปัจจัย
กับ ฯลฯ มี " ๔
ในปัจจัยที่ไม่ใช่วิปปยุตตปัจจัย
กับ ฯลฯ มี " ๒
ในปัจจัยที่ไม่ใช่นัตถิปัจจัย
กับ ฯลฯ มี " ๔
ในปัจจัยที่ไม่ใช่วิคตปัจจัย
กับ ฯลฯ มี " ๔.
[๓๕๗] ในอารัมมณปัจจัย กับปัจจัยที่ไม่ใช่เหตุปัจจัย มีวาระ ๒
ในอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี " ๒
ในสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี " ๒
ในสหชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี " ๕
ในอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี " ๒
ในนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี " ๕
ในอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี " ๒
ในปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี " ๒
ในอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี " ๑
ในกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี " ๕
ในวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มีวาระ ๕
ในมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี " ๑
ในสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี " ๒
ในอวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี " ๕.
สหชาตวาร เหมือนกับปฏิจจวาร.
เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๔๓ บรรทัดที่ ๕๕๘๗-๕๗๗๗ หน้าที่ ๒๑๘-๒๒๖.
http://84000.org/tipitaka/read/v.php?B=43&A=5587&Z=5777&pagebreak=0
http://84000.org/tipitaka/read/r.php?B=43&A=5587&pagebreak=0
ฟังเนื้อความพระไตรปิฎก : [1], [2], [3]
อ่านเทียบพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาฯ :-
http://84000.org/tipitaka/read/m_siri.php?B=43&siri=40
พระไตรปิฏกฉบับภาษาบาลีอักษรไทย :-
http://84000.org/tipitaka/read/pali_read.php?B=43&A=4119
The Pali Tipitaka in Roman :-
http://84000.org/tipitaka/read/roman_read.php?B=43&A=4119
สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๔๓
http://84000.org/tipitaka/read/?index_43
บันทึก ๒๖ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๔๖.
บันทึก ๓๐ มกราคม พ.ศ. ๒๕๔๙.
บันทึกล่าสุด ๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๐.
การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจากพระไตรปิฎกฉบับหลวง.
หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]
