คำถามและคำตอบในสุรุสุรุวรรคที่ ๖
[๒๑๗] ถามว่า พระผู้มีพระภาคผู้ทรงรู้เห็น เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์
นั้น ทรงบัญญัติทุกกฏแก่ภิกษุผู้อาศัยความไม่เอื้อเฟื้อ ฉันดังซู้ดๆ ณ ที่ไหน?
ตอบว่า ทรงบัญญัติ ณ พระนครโกสัมพี.
ถ. ทรงปรารภใคร?
ต. ทรงปรารภภิกษุหลายรูป.
ถ. เพราะเรื่องอะไร?
ต. เพราะเรื่องที่ภิกษุหลายรูปดื่มนมสดดังซู้ดๆ
มีบัญญัติ ๑ บรรดาสมุฏฐานแห่งอาบัติ ๖ สิกขาบทนี้เกิดด้วยสมุฏฐานอันหนึ่ง
(เหมือนปฐมปาราชิกสิกขาบท)
[๒๑๘] ถามว่า พระผู้มีพระภาคผู้ทรงรู้เห็น เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์
นั้น ทรงบัญญัติทุกกฏแก่ภิกษุผู้อาศัยความไม่เอื้อเฟื้อ ฉันเลียมือ ณ ที่ไหน?
ตอบว่า ทรงบัญญัติ ณ พระนครโกสัมพี.
ถ. ทรงปรารภใคร?
ต. ทรงปรารภพระฉัพพัคคีย์.
ถ. เพราะเรื่องอะไร?
ต. เพราะเรื่องที่พระฉัพพัคคีย์ฉันเลียมือ.
มีบัญญัติ ๑ บรรดาสมุฏฐานแห่งอาบัติ ๖ สิกขาบทนี้เกิดด้วยสมุฏฐานอันหนึ่ง
(เหมือนปฐมปาราชิกสิกขาบท)
[๒๑๙] ถามว่า พระผู้มีพระภาคผู้ทรงรู้เห็น เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์
นั้น ทรงบัญญัติทุกกฏแก่ภิกษุผู้อาศัยความไม่เอื้อเฟื้อ ฉันขอดบาตร ณ ที่ไหน?
ตอบว่า ทรงบัญญัติ ณ พระนครโกสัมพี.
ถ. ทรงปรารภใคร?
ต. ทรงปรารภพระฉัพพัคคีย์.
ถ. เพราะเรื่องอะไร?
ต. เพราะเรื่องที่พระฉัพพัคคีย์ฉันขอดบาตร.
มีบัญญัติ ๑ บรรดาสมุฏฐานแห่งอาบัติ ๖ สิกขาบทนี้เกิดด้วยสมุฏฐานอันหนึ่ง
(เหมือนปฐมปาราชิกสิกขาบท)
[๒๒๐] ถามว่า พระผู้มีพระภาคผู้ทรงรู้เห็น เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์
นั้น ทรงบัญญัติทุกกฏแก่ภิกษุผู้อาศัยความไม่เอื้อเฟื้อ ฉันเลียริมฝีปาก ณ ที่ไหน?
ตอบว่า ทรงบัญญัติ ณ พระนครโกสัมพี.
ถ. ทรงปรารภใคร?
ต. ทรงปรารภพระฉัพพัคคีย์.
ถ. เพราะเรื่องอะไร?
ต. เพราะเรื่องที่พระฉัพพัคคีย์ฉันเลียริมฝีปาก.
มีบัญญัติ ๑ บรรดาสมุฏฐานแห่งอาบัติ ๖ สิกขาบทนี้เกิดด้วยสมุฏฐานอันหนึ่ง
(เหมือนปฐมปาราชิกสิกขาบท)
[๒๒๑] ถามว่า พระผู้มีพระภาคผู้ทรงรู้เห็น เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์
นั้น ทรงบัญญัติทุกกฏแก่ภิกษุผู้อาศัยความไม่เอื้อเฟื้อ รับโอน้ำด้วยมือเปื้อนอามิส ณ ที่ไหน?
ตอบว่า ทรงบัญญัติ ณ ภัคคชนบท.
ถ. ทรงปรารภใคร?
ต. ทรงปรารภภิกษุหลายรูป.
ถ. เพราะเรื่องอะไร?
ต. เพราะเรื่องที่ภิกษุหลายรูปรับโอน้ำด้วยมือเปื้อนอามิส.
มีบัญญัติ ๑ บรรดาสมุฏฐานแห่งอาบัติ ๖ สิกขาบทนี้เกิดด้วยสมุฏฐานอันหนึ่ง คือ
เกิดแต่กายกับจิต มิใช่วาจา.
[๒๒๒] ถามว่า พระผู้มีพระภาคผู้ทรงรู้เห็น เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์
นั้น ทรงบัญญัติทุกกฏแก่ภิกษุผู้อาศัยความไม่เอื้อเฟื้อ เทน้ำล้างบาตรมีเมล็ดข้าวในละแวกบ้าน
ณ ที่ไหน?
ตอบว่า ทรงบัญญัติ ณ ภัคคชนบท.
ถ. ทรงปรารภใคร?
ต. ทรงปรารภภิกษุหลายรูป.
ถ. เพราะเรื่องอะไร?
ต. เพราะเรื่องที่ภิกษุหลายรูปเทน้ำล้างบาตรมีเมล็ดข้าว ในละแวกบ้าน.
มีบัญญัติ ๑ บรรดาสมุฏฐานแห่งอาบัติ ๖ สิกขาบทนี้เกิดด้วยสมุฏฐานอันหนึ่ง คือ
กายกับจิต มิใช่วาจา.
[๒๒๓] ถามว่า พระผู้มีพระภาคผู้ทรงรู้เห็น เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์
นั้น ทรงบัญญัติทุกกฏแก่ภิกษุผู้อาศัยความไม่เอื้อเฟื้อ แสดงธรรมแก่บุคคลมีร่มในมือ ณ ที่ไหน?
ตอบว่า ทรงบัญญัติ ณ พระนครสาวัตถี.
ถ. ทรงปรารภใคร?
ต. ทรงปรารภพระฉัพพัคคีย์.
ถ. เพราะเรื่องอะไร?
ต. เพราะเรื่องที่พระฉัพพัคคีย์แสดงธรรมแก่บุคคลมีร่มในมือ.
มีบัญญัติ ๑ อนุบัญญัติ ๑ บรรดาสมุฏฐานแห่งอาบัติ ๖ สิกขาบทนี้เกิดด้วย
สมุฏฐานอันหนึ่ง คือ เกิดแต่วาจากับจิต มิใช่กาย.
[๒๒๔] ถามว่า พระผู้มีพระภาคผู้ทรงรู้เห็น เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์
นั้น ทรงบัญญัติทุกกฏแก่ภิกษุผู้อาศัยความไม่เอื้อเฟื้อ แสดงธรรมแก่บุคคลมีไม้พลองในมือ
ณ ที่ไหน?
ตอบว่า ทรงบัญญัติ ณ พระนครสาวัตถี.
ถ. ทรงปรารภใคร?
ต. ทรงปรารภพระฉัพพัคคีย์.
ถ. เพราะเรื่องอะไร?
ต. เพราะเรื่องที่พระฉัพพัคคีย์แสดงธรรมแก่บุคคลมีไม้พลองในมือ.
มีบัญญัติ ๑ อนุบัญญัติ ๑ บรรดาสมุฏฐานแห่งอาบัติ ๖ สิกขาบทนี้เกิดด้วยสมุฏฐาน
อันหนึ่ง คือ เกิดแต่วาจากับจิต มิใช่กาย.
[๒๒๕] ถามว่า พระผู้มีพระภาคผู้ทรงรู้เห็น เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์
นั้น ทรงบัญญัติทุกกฏแก่ภิกษุผู้อาศัยความไม่เอื้อเฟื้อ แสดงธรรมแก่บุคคลมีศัสตราในมือ
ณ ที่ไหน?
ตอบว่า ทรงบัญญัติ ณ พระนครสาวัตถี.
ถ. ทรงปรารภใคร?
ต. ทรงปรารภพระฉัพพัคคีย์.
ถ. เพราะเรื่องอะไร?
ต. เพราะเรื่องที่พระฉัพพัคคีย์แสดงธรรมแก่บุคคลมีศัสตราในมือ.
มีบัญญัติ ๑ อนุบัญญัติ ๑ บรรดาสมุฏฐานแห่งอาบัติ ๖ สิกขาบทนี้เกิดด้วย
สมุฏฐานอันหนึ่ง คือ เกิดแต่วาจากับจิต มิใช่กาย.
[๒๒๖] ถามว่า พระผู้มีพระภาคผู้ทรงรู้เห็น เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์
นั้น ทรงบัญญัติทุกกฏแก่ภิกษุผู้อาศัยความไม่เอื้อเฟื้อ แสดงธรรมแก่บุคคลมีอาวุธในมือ
ณ ที่ไหน?
ตอบว่า ทรงบัญญัติ ณ พระนครสาวัตถี.
ถ. ทรงปรารภใคร?
ต. ทรงปรารภพระฉัพพัคคีย์.
ถ. เพราะเรื่องอะไร?
ต. เพราะเรื่องที่พระฉัพพัคคีย์แสดงธรรมแก่บุคคลมีอาวุธในมือ.
มีบัญญัติ ๑ อนุบัญญัติ ๑ บรรดาสมุฏฐานแห่งอาบัติ ๖ สิกขาบทนี้เกิดด้วย
สมุฏฐานอันหนึ่ง คือ เกิดแต่วาจากับจิต มิใช่กาย.
สุรุสุรุวรรคที่ ๖ จบ.
-----------------------------------------------------
เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๘ บรรทัดที่ ๒๒๔๙-๒๓๔๕ หน้าที่ ๘๖-๘๙.
http://84000.org/tipitaka/read/v.php?B=8&A=2249&Z=2345&pagebreak=0
http://84000.org/tipitaka/read/r.php?B=8&A=2249&pagebreak=0
ฟังเนื้อความพระไตรปิฎก : [1], [2]
อ่านเทียบพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาฯ :-
http://84000.org/tipitaka/read/m_siri.php?B=8&siri=22
ศึกษาอรรถกถาได้ที่ :-
http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=8&i=217
พระไตรปิฏกฉบับภาษาบาลีอักษรไทย :-
http://84000.org/tipitaka/read/pali_read.php?B=8&A=1509
The Pali Tipitaka in Roman :-
http://84000.org/tipitaka/read/roman_read.php?B=8&A=1509
สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๘
http://84000.org/tipitaka/read/?index_8
อ่านเทียบฉบับแปลอังกฤษ Compare with English Translation :-
https://suttacentral.net/pli-tv-pvr1.1/en/brahmali#pli-tv-pvr1.1:294.0
https://suttacentral.net/pli-tv-pvr1.1/en/horner-brahmali#Prv.1.1:Bu-Sk.51
บันทึก ๒๖ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๔๖.
บันทึก ๓๐ มกราคม พ.ศ. ๒๕๔๙.
บันทึกล่าสุด ๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๐.
การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจากพระไตรปิฎกฉบับหลวง.
หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]
