ย่อหัวข้อสมุฏฐาน
[๘๒๖] สังขารทั้งปวงที่ปัจจัยปรุงแต่ง ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา
พระนิพพานและบัญญัติ ท่านวินิจฉัยว่า เป็นอนัตตา. เมื่อดวงจันทร์ คือ
พระพุทธเจ้ายังไม่เกิดขึ้น เมื่อดวงอาทิตย์ คือ พระพุทธเจ้า ยังไม่อุทัย
ขึ้นมา เพียงแต่ชื่อของสภาคธรรมเหล่านั้น ก็ยังไม่มีใครรู้จัก. พระมหา-
วีรเจ้าทั้งหลาย เป็นผู้มีพระจักษุ ทรงทำทุกกรกิริยามีอย่างต่างๆ ทรง
บำเพ็ญบารมีแล้วเสด็จอุบัติในโลกเป็นไปกับพรหมโลก พระองค์ทรง
แสดงพระสัทธรรม อันดับเสียซึ่งทุกข์ นำมาซึ่งความสุข. พระอังคีรส-
ศากยมุนี ผู้อนุเคราะห์แก่ประชาทุกถ้วนหน้า อุดมกว่าสรรพสัตว์
ดุจราชสีห์ ทรงแสดงพระไตรปิฎก คือ พระวินัย ๑ พระสุตตันตะ ๑
พระอภิธรรม ๑ ซึ่งมีคุณมาก อย่างนี้ พระสัทธรรมจะเป็นไปได้ ผิว่า
พระวินัย คือ อุภโตวิภังค์ ขันธกะและมาติกา ที่ร้อยกรองด้วยคัมภีร์
บริวาร เหมือนดอกไม้ร้อยด้วยเส้นด้าย ยังดำรงอยู่. ในคัมภีร์บริวารนั้นแล
สมุฏฐานท่านจัดไว้แน่นอน ความเจือปนกัน และนิทานอื่นย่อมเห็นได้
ในพระสูตรข้างหน้า เพราะฉะนั้น ภิกษุผู้มีศีลเป็นที่รักด้วยดี ใคร่ต่อ
ธรรม พึงศึกษาคัมภีร์บริวารเถิด. ในวันอุโบสถ ภิกษุและภิกษุณีย่อม
สวดสิกขาบท อันพระผู้มีพระภาคทรงบัญญัติไว้ในวิภังค์ทั้ง ๒ ข้าพเจ้าจัก
กล่าวสมุฏฐานตามที่รู้ ขอท่านทั้งหลายจงฟังข้าพเจ้า. ปฐมปราชิกสิกขาบท
๑ ทุติยปาราชิกสิกขาบท ๑ ต่อแต่นั้น สัญจริตสิกขาบท ๑ สมนุภาสน-
สิกขาบท ๑ อติเรกจีวรสิกขาบท ๑ เอฬกโลมสิกขาบททั้งหลาย ๑
ปทโสธัมมสิกขาบท ๑ ภูตาโรจนสิกขาบท ๑ สังวิธานสิกขาบท ๑
เถยยสัตถสิกขาบท ๑ เทสนาสิกขาบท ๑ โจรีวุฏฐาปนสิกขาบท ๑ รวม
กับการบวชสตรีที่มารดาบิดา หรือสามีไม่อนุญาต จึงเป็นสมุฏฐาน ๑๓.
ในอุภโตวิภังค์นี้ นัยแห่งสมุฏฐาน ๑๓ นี้ วิญญูชนทั้งหลาย คิดกันแล้ว
ที่คล้ายคลึงกัน ย่อมปรากฏในสมุฏฐานอันหนึ่งๆ.
ปฐมปาราชิกสมุฏฐาน
[๘๒๗] สิกขาบทว่าด้วยเสพเมถุน ๑ สิกขาบทว่าด้วยปล่อยน้ำสุกกะ ๑ สิกขาบทว่า
ด้วยเคล้าคลึงกาย ๑ อนิยตสิกขาบทที่หนึ่ง ๑ สิกขาบทว่าด้วยนอนแทรกภิกษุผู้เข้าไปอยู่ก่อน ๑
สิกขาบทว่าด้วยฉันบิณฑบาตที่ภิกษุณีแนะให้เขาถวาย ๑ สิกขาบทว่าด้วยนั่งในที่ลับกับภิกษุณี ๑
สิกขาบทว่าด้วยแทรกแซงในสโภชนสกุล ๑ สิกขาบทว่าด้วยนั่งในที่ลับ ๒ สิกขาบท ๑ สิกขาบท
ว่าด้วยจี้ด้วยนิ้วมือ ๑ สิกขาบทว่าด้วยหัวเราะในน้ำ ๑ สิกขาบทว่าด้วยให้ประหาร ๑ สิกขาบท
ว่าด้วยเงือดเงื้อหอกคือฝ่ามือ ๑ เสขิยวัตร ๕๓ สิกขาบท ๑ อธักขกสิกขาบทของภิกษุณี ๑
คามันตรคมนสิกขาบท ๑ สิกขาบทว่าด้วยภิกษุณีพอใจรับของฉันจากมือบุรุษ ๑ สิกขาบทว่าด้วย
ใช้ของลับกระทบกัน ๑ สิกขาบทว่าด้วยยินดีท่อนยางกลม ๑ สิกขาบทว่าด้วยยินดีชำระด้วยน้ำ ๑
สิกขาบทว่าด้วยภิกษุณีอยู่จำพรรษาแล้วไม่หลีกไปสู่จาริก ๑ สิกขาบทว่าด้วยภิกษุณีไม่ไปรับโอวาท
๑ สิกขาบทว่าด้วยภิกษุณีไม่ติดตามปวัตตินี ๑ สิกขาบทเหล่านี้ รวม ๗๖ สิกขาบท ท่านจัดไว้
เป็นสิกขาบทมีกายกับจิตเป็นสมุฏฐาน ทุกๆ สิกขาบทมีสมุฏฐานอันหนึ่งเหมือนปฐมปาราชิก
สิกขาบท ฉะนั้น.
ปฐมปาราชิกสมุฏฐาน จบ
-----------------------------------------------------
ทุติยปาราชิกสมุฏฐาน
[๘๒๘] สิกขาบทว่าด้วยถือเอาสิ่งของที่เจ้าของมิได้ให้ ๑ สิกขาบทว่าด้วยพรากกาย
มนุษย์ ๑ สิกขาบทว่าด้วยกล่าวอวดธรรมอันยิ่งของมนุษย์ ๑ สิกขาบทว่าด้วยพูดเคาะด้วยวาจา
ชั่วหยาบ ๑ สิกขาบทว่าด้วยกล่าวบำเรอตนด้วยกาม ๑ สิกขาบทว่าด้วยตามกำจัดด้วยปาราชิก
ธรรมไม่มีมูล ๑ สิกขาบทว่าด้วยถือเอาเลศแห่งอธิกรณ์เรื่องอื่น ๑ อนิยตสิกขาบทที่สอง ๑
สิกขาบทว่าด้วยให้จีวรแล้วชิงเอาคืนมา ๑ สิกขาบทว่าด้วยน้อมลาภของสงฆ์มาเพื่อตน ๑
สิกขาบทว่าด้วยพูดเท็จ ๑ สิกขาบทว่าด้วยด่า ๑ สิกขาบทว่าด้วยพูดส่อเสียดภิกษุ ๑ สิกขาบท
ว่าด้วยบอกอาบัติชั่วหยาบ ๑ สิกขาบทว่าด้วยขุดแผ่นดิน ๑ สิกขาบทว่าด้วยพรากภูตคาม ๑
สิกขาบทว่าด้วยพูดกลบเกลื่อน ๑ สิกขาบทว่าด้วยโพนทะนา ๑ สิกขาบทว่าด้วยฉุดคร่าออกจาก
วิหาร ๑ สิกขาบทว่าด้วยเอาน้ำรด ๑ สิกขาบทว่าด้วยสอนภิกษุณีเพราะเห็นแก่อามิส ๑ สิกขาบท
ว่าด้วยภิกษุฉันเสร็จแล้ว ๑ สิกขาบทว่าด้วยการชวนภิกษุเข้าไปบิณฑบาตในบ้าน ๑ สิกขาบทว่า
ด้วยการไม่เอื้อเฟื้อ ๑ สิกขาบทว่าด้วยการหลอกภิกษุให้กลัวผี ๑ สิกขาบทว่าด้วยการซ่อนบริขาร
๑ สิกขาบทว่าด้วยการแกล้งพรากสัตว์จากชีวิต ๑ สิกขาบทว่าด้วยภิกษุรู้อยู่ใช้น้ำมีตัวสัตว์ ๑
สิกขาบทว่าด้วยฟื้นอธิกรณ์เพื่อทำใหม่ ๑ สิกขาบทว่าด้วยบวชคนมีอายุหย่อน ๒๐ ปี ๑ สิกขาบท
ว่าด้วยการอยู่ร่วมกับภิกษุที่สงฆ์ยกวัตร ๑ สิกขาบทว่าด้วยการสมโภคกับสามเณรที่ถูกนาสนะ ๑
สิกขาบทว่าด้วยภิกษุผู้อันภิกษุทั้งหลายว่ากล่าวโดยชอบธรรม ๑ สิกขาบทว่าด้วยธรรมอันเป็นไป
เพื่อความยุ่งเหยิง ๑ สิกขาบทว่าด้วยการแกล้งทำหลง ๑ สิกขาบทว่าด้วยการโจทด้วยอาบัติสังฆา-
*ทิเสสไม่มีมูล ๑ สิกขาบทว่าด้วยการแกล้งก่อความรำคาญ ๑ สิกขาบทว่าด้วยการให้ฉันทะเพื่อ
กรรมที่เป็นธรรมแล้วกลับบ่นว่า ๑ สิกขาบทว่าด้วยการให้จีวร แล้วกลับบ่นว่า ๑ สิกขาบทว่า
ด้วยการน้อมลาภสงฆ์ไปเพื่อบุคคล ๑ สิกขาบทว่าด้วยคำที่ว่าบุรุษบุคคลนั่นจักทำอะไรแก่ท่านได้ ๑
สิกขาบทว่าด้วยอธิษฐานอกาลจีวรเป็นกาลจีวรแล้วให้แจก ๑ สิกขาบทว่าด้วยแลกจีวรกับภิกษุณี
แล้วชิงคืนมา ๑ สิกขาบทว่าด้วยการยกโทษผู้อื่นด้วยความถือผิดเข้าใจผิด ๑ สิกขาบทว่าด้วยแช่ง
ด้วยนรก ๑ สิกขาบทที่ว่าภิกษุณีใดพึงทำอันตรายแก่จีวรลาภของคณะ ๑ สิกขาบทที่ว่าภิกษุณีใด
พึงห้ามการแจกจีวรอันเป็นธรรม ๑ สิกขาบทที่ว่าภิกษุณีใดพึงยังสมัยจีวรกาลให้ล่วงไปด้วยหวังจะ
จะได้จีวรอันไม่แน่นอน ๑ สิกขาบทที่ว่าภิกษุณีใดพึงห้ามการเดาะกฐินที่เป็นธรรม ๑ สิกขาบทที่
ว่าภิกษุณีใดพึงแกล้งก่อความไม่ผาสุกแก่ภิกษุณี ๑ สิกขาบทที่ว่าภิกษุณีใดให้ที่อยู่แล้ว ไม่พอใจ
ฉุดคร่าภิกษุณีออก ๑ สิกขาบทที่ว่าภิกษุณีใดด่าหรือกล่าวขู่ภิกษุ ๑ สิกขาบทที่ว่า ภิกษุณีใด
ดุร้ายกล่าวขู่คณะ ๑ สิกขาบทที่ว่าภิกษุณีใดหวงสกุล ๑ สิกขาบทที่ว่าด้วยการบวชสตรีมีครรภ์ ๑
สิกขาบทที่ว่าด้วยการบวชสตรีแม่ลูกอ่อน ๑ สิกขาบทที่ว่าภิกษุณีใดบวชสิกขมานาผู้ยังไม่ได้ศึกษา
ในธรรม ๖ ครบ ๒ ปี ๑ สิกขาบทที่ว่าภิกษุณีใดบวชสิกขมานาผู้ศึกษาเสร็จในธรรม ๖ ครบ ๒ ปี
แต่สงฆ์ยังไม่ได้สมมติ ๑ สิกขาบทที่ว่าด้วยการบวชสตรีคฤหัสถ์ ๓ สิกขาบท ๑ สิกขาบทที่ว่า
ด้วยการบวชเด็กหญิงรวม ๓ สิกขาบท ๑ สิกขาบทว่าด้วยภิกษุณีมีพรรษาหย่อน ๑๒ ให้อุปสมบท-
*๑ สิกขาบทว่าด้วยภิกษุณีมีพรรษาครบ ๑๒ แล้ว แต่สงฆ์ยังไม่ได้สมมติให้อุปสมบท ๑ สิกขาบท
ว่าด้วยภิกษุณีอันภิกษุณีทั้งหลายอย่าเพ่อก่อน ท่านอย่ายังสิกขมานาให้อุปสมบท ๑ สิกขาบทว่า
ด้วยภิกษุณียังสิกขมานาผู้มีใจร้ายยังชายให้ระทมโศกให้อุปสมบท ๑ สิกขาบทว่าด้วยให้อุปสมบท
ด้วยมอบฉันทะที่ค้างคราว ๑ สิกขาบทว่าด้วยให้อุปสมบททุกๆ ปี ๑ สิกขาบทว่าด้วยให้สิกขมานา
บวชปีละ ๒ รูป ๑ สิกขาบทเหล่านี้รวม ๗๐ สิกขาบท จัดเป็นสมุฏฐาน ๓ คือ เกิดแต่กายกับ
จิต มิใช่วาจา เกิดแต่วาจากับจิต มิใช่กาย และเกิดแต่ทวาร ๓ เหมือนทุติยปาราชิกสิกขาบท
ฉะนั้น.
ทุติยปาราชิกสมุฏฐาน จบ
-----------------------------------------------------
สัญจริตตสมุฏฐาน
[๘๒๙] สิกขาบทว่าด้วยชักสื่อ ๑ สิกขาบทว่าด้วยสร้างกุฏิ ๑ สิกขาบทว่าด้วยสร้าง
วิหาร ๑ สิกขาบทว่าด้วยใช้ภิกษุณีซักจีวรเก่า ๑ สิกขาบทว่าด้วยรับจีวร ๑ สิกขาบทว่าด้วยใช้
ภิกษุณีขอจีวร ๑ สิกขาบทว่าด้วยยินดีเฉพาะผ้าอุตราสงค์และอันตรวาสก ๑ สิกขาบทว่าด้วยถึง
ความกำหนดในจีวร ๒ สิกขาบท ๑ สิกขาบทว่าด้วยส่งทรัพย์สำหรับจ่ายจีวรด้วยทูต ๑ สิกขาบท
ว่าด้วยให้ทำสันถัตเจือไหม ๑ สิกขาบทว่าด้วยให้ทำสันถัตขนเจียมดำล้วน ๑ สิกขาบทว่าด้วยให้
ทำสันถัตถือเอาขนเจียมดำ ๒ ส่วน ๑ สิกขาบทว่าด้วยใช้สันถัตใหม่ให้ได้ ๖ ปี ๑ สิกขาบทว่า
ด้วยให้ทำสันถัตสำหรับนั่ง ๑ สิกขาบทว่าด้วยการทอดทิ้งอุเทศ ๑ สิกขาบทว่าด้วยรับรูปิยะ ๑
สิกขาบทว่าด้วยแลกเปลี่ยนและซื้อขายมีประการต่างๆ รวม ๒ สิกขาบท ๑ สิกขาบทว่าด้วย
บาตรมีรอยร้าวหย่อน ๕ แห่ง ๑ สิกขาบทว่าด้วยแสวงหาผ้าอาบน้ำฝน ๑ สิกขาบทว่าด้วยขอด้าย
๑ สิกขาบทว่าด้วยเข้าไปหาช่างหูกถึงความกำหนดในจีวร ๑ สิกขาบทว่าด้วยวางเช็ดหน้าจนถึง
กรอบประตู ๑ สิกขาบทว่าด้วยให้จีวรแก่ภิกษุณีผู้มิใช่ญาติ ๑ สิกขาบทว่าด้วยเย็บจีวรของภิกษุณี
ผู้มิใช่ญาติ ๑ สิกขาบทว่าด้วยปวารณาด้วยขนม ๑ สิกขาบทว่าด้วยปวารณาด้วยปัจจัยสี่ ๑
สิกขาบทว่าด้วยการติดไฟผิง ๑ สิกขาบทว่าด้วยการเก็บรตนะ ๑ สิกขาบทว่าด้วยกล่องเข็ม ๑
สิกขาบทว่าด้วยทำเตียง ๑ สิกขาบทว่าด้วยทำเตียงตั่งหุ้มนุ่น ๑ สิกขาบทว่าด้วยทำผ้าปูนั่ง ๑
สิกขาบทว่าด้วยทำผ้าปิดฝี ๑ สิกขาบทว่าด้วยทำผ้าอาบน้ำฝน ๑ สิกขาบทว่าด้วยทำจีวรขนาดสุคต
จีวร ๑ สิกขาบทว่าด้วยภิกษุณีขอของอื่นแล้วขอของอื่นอีก ๑ สิกขาบทที่ว่าภิกษุณีให้จ่ายของอื่น
แล้วให้จ่ายของอื่นอีก ๑ สิกขาบทที่ว่าภิกษุณีให้จ่ายของอื่นด้วยบริขารของสงฆ์ ๒ สิกขาบท ๑
สิกขาบทที่ว่าภิกษุณีให้จ่ายของอื่นด้วยบริขารของคนหมู่มาก ๑ สิกขาบทที่ว่าภิกษุณีให้จ่ายของ
อื่นด้วยบริขารส่วนบุคคล ๑ สิกขาบทที่ว่าภิกษุณีให้จ่ายผ้าห่มบาง ๑ สิกขาบทที่ว่าภิกษุณีให้
จ่ายผ้าห่มหนา ๑ สิกขาบทที่ว่าภิกษุณีทิ้งอาหารเป็นเดน ๒ สิกขาบท ๑ สิกขาบทที่ว่าภิกษุณีให้
ทำผ้าอาบน้ำเกินประมาณ ๑ สิกขาบทที่ว่าภิกษุณีให้สมณจีวร ๑ ธรรมคือสิกขาบทเหล่านี้ ๕๐
ถ้วนเกิดด้วยสมุฏฐาน ๖ คือ เกิดแต่กาย มิใช่วาจาแลจิต เกิดแต่วาจา มิใช่กายแลจิต เกิด
แต่กายกับวาจา มิใช่จิต เกิดแต่กายกับจิต มิใช่วาจา เกิดแต่วาจากับจิต มิใช่กาย และเกิด
ด้วยทวาร ๓ อนึ่ง สิกขาบทเหล่านี้ มีสมุฏฐาน ๖ เช่นกับสัญจริตตสิกขาบท.
สัญจริตตสมุฏฐาน จบ
-----------------------------------------------------
สมนุภาสนสมุฏฐาน
[๘๓๐] สิกขาบทว่าด้วยทำลายสงฆ์ ๑ สิกขาบทว่าด้วยประพฤติตามภิกษุผู้ทำลายสงฆ์
๑ สิกขาบทว่าด้วยภิกษุว่ายาก ๑ สิกขาบทว่าด้วยภิกษุประทุษร้ายสกุล ๑ สิกขาบทว่าด้วยปิด
อาบัติชั่วหยาบ ๑ สิกขาบทว่าด้วยไม่สละทิฏฐิ ๑ สิกขาบทว่าด้วยไม่มอบฉันทะ ๑ สิกขาบทว่า
ด้วยหัวเราะ ๒ สิกขาบท ๑ สิกขาบทว่าด้วยพูดเสียงดัง ๒ สิกขาบท ๑ สิกขาบทว่าด้วยมีคำข้าวอยู่
ในปากจักไม่พูด ๑ สิกขาบทว่าด้วยภิกษุนั่งบนแผ่นดินแสดงธรรม ๑ สิกขาบทว่าด้วยภิกษุนั่งบน
อาสนะต่ำแสดงธรรม ๑ สิกขาบทว่าด้วยภิกษุยืนอยู่แสดงธรรม ๑ สิกขาบทว่าด้วยภิกษุไปข้างหลัง
แสดงธรรม ๑ สิกขาบทว่าด้วยภิกษุเดินนอกทางแสดงธรรม ๑ สิกขาบทว่าด้วยภิกษุณีปิดโทษ ๑
สิกขาบทว่าด้วยภิกษุประพฤติตามภิกษุผู้ถูกยกวัตร ๑ สิกขาบทว่าด้วยภิกษุณียินดีการจับต้อง ๑
สิกขาบทว่าด้วยภิกษุณีรับภิกษุณีเข้าหมู่ ๑ สิกขาบทว่าด้วยภิกษุณีบอกคืนพระพุทธเจ้าเป็นต้น ๑
สิกขาบทว่าด้วยภิกษุณีถูกตัดสินให้แพ้อธิกรณ์เรื่องหนึ่ง ๑ สิกขาบทว่าด้วยภิกษุณีอยู่คลุกคลี ๑
สิกขาบทว่าด้วยภิกษุณีประหารตนแล้วร้องไห้ ๑ สิกขาบทว่าด้วยภิกษุณีเลาะจีวรของภิกษุณี ๑
สิกขาบทว่าด้วยภิกษุณีไม่บำรุงสหชีวินีผู้ตกระกำลำบาก ๑ สิกขาบทที่ตรัสซ้ำถึงภิกษุณีอยู่คลุกคลี
กัน ๑ สิกขาบทว่าด้วยภิกษุณีไม่ระงับอธิกรณ์ ๑ สิกขาบทที่ว่าด้วยภิกษุณีไม่บอกก่อนเข้าไปสู่
อาราม ๑ สิกขาบทว่าด้วยภิกษุณีไม่ปวารณาโดย ๓ สถาน ๑ สิกขาบทว่าด้วยภิกษุณีพึงหวังธรรม
๒ อย่างจากภิกษุสงฆ์ทุกกึ่งเดือน ๑ สิกขาบทว่าด้วยภิกษุณีไม่อนุเคราะห์และไม่พาสหชีวินีไปจาริก
๒ สิกขาบท ๑ สิกขาบทว่าด้วยภิกษุณีพูดให้สิกขมานาถวายจีวรแล้วจักบวชให้ ๑ สิกขาบทว่าด้วย
ภิกษุณีพูดให้สิกขมานาติดตาม ๑
ธรรม คือ สิกขาบทเหล่านี้รวม ๓๗ สิกขาบท เกิดแต่กายวาจาและจิต ทุกๆ
สิกขาบทมีสมุฏฐานอันหนึ่ง เหมือนสมนุภาสนสิกขาบท.
สมนุภาสนสมุฏฐาน จบ
-----------------------------------------------------
กฐินสมุฏฐาน
[๘๓๑] สิกขาบทว่าด้วยกฐินอันภิกษุเดาะแล้ว ๓ สิกขาบท ๑ สิกขาบทว่าด้วย
ใช้อติเรกบาตรสิกขาบทที่หนึ่ง ๑ สิกขาบทว่าด้วยเภสัช ๑ สิกขาบทว่าด้วยรับอัจเจกจีวร ๑
สิกขาบทว่าด้วยภิกษุอยู่ในเสนาสนะป่ามีความรังเกียจเก็บไตรจีวรไว้ในละแวกบ้านได้ ๑ สิกขาบท
ว่าด้วยเมื่อหลีกไปไม่เก็บเตียงหรือตั่ง ๒ สิกขาบท ๑ สิกขาบทว่าด้วยเข้าไปสู่ที่อยู่ภิกษุณีแล้วสอน
๑ สิกขาบทว่าด้วยฉันโภชนะทีหลัง ๑ สิกขาบทว่าด้วยห้ามภัตรแล้วฉันภัตตาหารไม่เป็นเดน ๑
สิกขาบทว่าด้วยรับนิมนต์ ๑ สิกขาบทว่าด้วยวิกัปจีวร ๑ สิกขาบทว่าด้วยไม่ได้รับบอกก่อนเข้าไปใน
พระราชมณเฑียร ๑ สิกขาบทว่าด้วยเข้าบ้านในเวลาวิกาล ๑ สิกขาบทว่าด้วยฉันภัตตาหารที่ภิกษุณี
ยืนสั่งเสียอยู่ ๑ สิกขาบทว่าด้วยภิกษุณีอยู่เสนาสนะป่ารับของเคี้ยวเป็นต้น ๑ สิกขาบทว่าด้วย
ภิกษุณีพูดให้ร้าย ๑ สิกขาบทว่าด้วยภิกษุณีทำการสั่งสมบาตร ๑ สิกขาบทว่าด้วยภิกษุณีเข้าไปสู่
สกุลในเวลาก่อนอาหาร ๑ สิกขาบทว่าด้วยภิกษุณีเข้าไปสู่สกุลในเวลาหลังอาหาร ๑ สิกขาบทว่า
ด้วยภิกษุณีเข้าไปสู่สกุลในเวลาวิกาล ๑ สิกขาบทว่าด้วยภิกษุณีผลัดเปลี่ยนผ้าสังฆาฏิเกินกำหนด
๕ วัน ๑ สิกขาบทว่าด้วยภิกษุณีใช้จีวรผลัดเปลี่ยน ๑ สิกขาบทว่าด้วยภิกษุณีไม่มอบหมายจีวร
สับเปลี่ยนและที่พัก ๒ สิกขาบท ๑ สิกขาบทว่าด้วยภิกษุณีให้ผ่าฝีอันเกิดที่แง้มขา ๑ สิกขาบท
ว่าด้วยภิกษุณีไม่บอกก่อนนั่งบนอาสนะข้างหน้าภิกษุ ๑
ธรรม คือ สิกขาบทเหล่านี้มี ๒๙ สิกขาบท เกิดแต่กายกับวาจา มิใช่จิต และเกิดแต่
ทวารทั้ง ๓ ทุกๆ สิกขาบทรวมทั้งกฐินสิกขาบท มีสมุฏฐาน ๒ เสมอกัน.
กฐินสมุฏฐาน จบ
-----------------------------------------------------
เอฬกโลมสมุฏฐาน
[๘๓๒] สิกขาบทว่าด้วยขนเจียม ๑ สิกขาบทว่าด้วยนอนร่วมกัน ๒ สิกขาบท ๑
สิกขาบทว่าด้วยเตียงเท้าเสียบ ๑ สิกขาบทว่าด้วยฉันอาหารในโรงทาน ๑ สิกขาบทว่าด้วยฉัน
อาหารเป็นหมู่ ๑ สิกขาบทว่าด้วยฉันอาหารในเวลาวิกาล ๑ สิกขาบทว่าด้วยฉันอาหารที่ทำการ
สั่งสม ๑ สิกขาบทว่าด้วยรับประเคนไม้ชำระฟัน ๑ สิกขาบทว่าด้วยให้อาหารแก่อเจลก ๑ สิกขาบท
ว่าด้วยไปดูเสนาอันยกออกไปแล้ว ๑ สิกขาบทว่าด้วยอยู่ในกองทัพ ๑ สิกขาบทว่าด้วยไปสู่สนาม
รบ ๑ สิกขาบทว่าด้วยดื่มสุรา ๑ สิกขาบทว่าด้วยยังไม่ถึงกึ่งเดือนอาบน้ำ ๑ สิกขาบทว่าด้วยทำ
จีวรใหม่ให้เสียสี ๑ ปาฏิเทสนียะ ๒ สิกขาบท ๑ สิกขาบทว่าด้วยภิกษุณีฉันกระเทียม ๑ สิกขาบท
ว่าด้วยภิกษุณีเข้าไปปฏิบัติภิกษุผู้กำลังฉัน ๑ สิกขาบทว่าด้วยภิกษุณีไปดูฟ้อนรำ ๑ สิกขาบทว่า
ด้วยภิกษุณีเปลือยกายอาบน้ำ ๑ สิกขาบทว่าด้วยภิกษุณี ๒ รูปใช้ผ้าปูนอนและผ้าห่มผืนเดียวกัน
นอนด้วยกัน ๑ สิกขาบทว่าด้วยภิกษุณี ๒ รูป นอนเตียงเดียวกัน ๑ สิกขาบทว่าด้วยภิกษุณีไม่มี
พวกเที่ยวจาริกภายในแว่นแคว้น ๑ สิกขาบทว่าด้วยภิกษุณีไม่มีพวกเที่ยวจาริกภายนอกแว่นแคว้น
๑ สิกขาบทว่าด้วยภิกษุณีหลีกไปสู่จาริกภายในพรรษา ๑ สิกขาบทว่าด้วยภิกษุณีไปดูโรงละคร ๑
สิกขาบทว่าด้วยภิกษุณีใช้สอยเก้าอี้นอน ๑ สิกขาบทว่าด้วยภิกษุณีกรอด้าย ๑ สิกขาบทว่าด้วย
ภิกษุณีช่วยทำธุระของคฤหัสถ์ ๑ สิกขาบทว่าด้วยภิกษุณีให้ของเคี้ยวด้วยมือของตนแก่ชาวบ้าน
เป็นต้น ๑ สิกขาบทว่าด้วยภิกษุณีจำพรรษาในอาวาสที่ไม่มีภิกษุ ๑ สิกขาบทว่าด้วยภิกษุณีใช้ร่ม
๑ สิกขาบทว่าด้วยภิกษุณีไปด้วยยาน ๑ สิกขาบทว่าด้วยภิกษุณีใช้เครื่องประดับเอว ๑ สิกขาบท
ว่าด้วยภิกษุณีใช้เครื่องประดับสำหรับสตรี ๑ สิกขาบทว่าด้วยภิกษุณีอาบน้ำ ปรุงเครื่องประเทือง
ผิว ๑ สิกขาบทว่าด้วยภิกษุณีอาบน้ำปรุงกำยานเป็นเครื่องอบ ๑ สิกขาบทว่าด้วยภิกษุณีใช้ภิกษุณี
นวด ๑ สิกขาบทว่าด้วยภิกษุณีใช้สิกขมานานวด ๑ สิกขาบทว่าด้วยภิกษุณีใช้สามเณรีนวด ๑
สิกขาบทว่าด้วยภิกษุณีใช้สตรีคฤหัสถ์นวด ๑ สิกขาบทว่าด้วยภิกษุณีผู้เข้าบ้านไม่มีผ้ารัดถันต้อง
อาบัติ ๑
รวมเป็น ๔๔ สิกขาบท เกิดแต่กาย มิใช่วาจากับจิต เกิดแต่กายกับจิต มิใช่วาจา
ทุกๆ สิกขาบท รวมทั้งเอฬกโลมสิกขาบท มีสมุฏฐาน ๒ เสมอกัน.
เอฬกโลมสมุฏฐาน จบ
-----------------------------------------------------
ปทโสธัมมสมุฏฐาน
[๘๓๓] สิกขาบทว่าด้วยสอนธรรมแก่อนุปสัมบันว่าพร้อมกัน ๑ สิกขาบทว่าด้วย
แสดงธรรมแก่มาตุคาม ยิ่งกว่า ๕-๖ คำ เว้นแต่มีบุรุษผู้รู้เดียงสา ๑ สิกขาบทว่าด้วยยังไม่ได้
รับสมมติสั่งสอนภิกษุณี ๑ สิกขาบทว่าด้วยภิกษุได้รับสมมติแล้วสอนภิกษุณีเมื่อพระอาทิตย์อัสดง-
*คตแล้ว ๑ สิกขาบทว่าด้วยภิกษุณีเรียนและบอกติรัจฉานวิชา ๒ สิกขาบท ๑ สิกขาบทว่าด้วย
ภิกษุณีไม่ขอโอกาสก่อนถามปัญหา ๑ สิกขาบทเหล่านี้รวม ๗ สิกขาบท เกิดแต่วาจา มิใช่กาย
และจิต เกิดแต่วาจากับจิต แต่มิใช่เกิดแต่กาย ทุกๆ สิกขาบท มีสมุฏฐาน ๒ เหมือน
ปทโสธัมมสมุฏฐาน ฉะนั้น.
ปทโสธัมมสมุฏฐาน จบ
-----------------------------------------------------
อัทธานสมุฏฐาน
[๘๓๔] สิกขาบทว่าด้วยชักชวนภิกษุณีเดินทางไกล ๑ สิกขาบทว่าด้วยชักชวนภิกษุณี
ลงเรือลำเดียวกัน ๑ สิกขาบทว่าด้วยขอโภชนะอันประณีต ๑ สิกขาบทว่าด้วยชักชวนมาตุคาม
เดินทางด้วยกัน ๑ สิกขาบทว่าด้วยภิกษุณีถอนขนในที่แคบ ๑ สิกขาบทว่าด้วยภิกษุณีขอข้าว-
*เปลือก ๑ สิกขาบทว่าด้วยภิกษุณีรับนิมนต์แล้วฉันภัตตาหาร ๑ ปาฏิเทสนียะของภิกษุณี ๘
สิกขาบท ๑ สิกขาบทเหล่านี้ร่วม ๑๕ สิกขาบท เกิดแต่กาย มิใช่วาจา มิใช่จิต เกิดแต่กายกับวาจา
มิใช่เกิดแต่จิต เกิดแต่กายกับจิต มิใช่เกิดแต่วาจา เกิดแต่กายวาจาและจิต เป็น ๔ สมุฏฐาน
พระพุทธเจ้าผู้มีพระญาณ ทรงบัญญัติว่า มีวินัยเสมอกับอัทธานสมุฏฐาน.
อัทธานสมุฏฐาน จบ
-----------------------------------------------------
เถยยสัตถสมุฏฐาน
[๘๓๕] สิกขาบทว่าด้วยชักชวนพวกเกวียนผู้เป็นโจรเดินทางร่วม ๑ สิกขาบทว่าด้วย
ยืนแอบฟัง ๑ สิกขาบทว่าด้วยขอแกงและข้าวสุก ๑ สิกขาบทว่าด้วยภิกษุณียืนร่วมกับบุรุษใน
เวลาค่ำคืน ๑ สิกขาบทว่าด้วยภิกษุณียืนร่วมกับบุรุษในโอกาสกำบัง ๑ สิกขาบทว่าด้วยภิกษุณียืน
ร่วมกับบุรุษในที่กลางแจ้ง ๑ สิกขาบทว่า ด้วยภิกษุณียืนร่วมกับบุรุษในตรอกตัน ๑ รวมสิกขาบท
เหล่านี้ ๗ สิกขาบทเกิดแต่กายกับจิต มิใช่เกิดแต่วาจา เกิดแต่ทวาร ๓ สิกขาบทเหล่านี้ มี
สมุฏฐาน ๒ พระพุทธเจ้าผู้เป็นเผ่าพันธุ์แห่งพระราชาผู้สูงศักดิ์ ได้ทรงแสดงแล้วว่า เหมือน
เถยยสัตถสมุฏฐาน.
เถยยสัตถสมุฏฐาน จบ
-----------------------------------------------------
ธัมมเทสนาสมุฏฐาน
[๘๓๖] พระตถาคตทั้งหลาย ย่อมไม่แสดงธรรมแก่คนมีร่มในมือ ๑ มีไม้พลองใน
มือ ๑ มีศาตราในมือ ๑ มีอาวุธในมือ ๑ สวมเขียงเท้า ๑ สวมรองเท้า ๑ ไปในยาน ๑ อยู่
บนที่นอน ๑ นั่งรัดเข่า ๑ โพกศีรษะ ๑ คลุมศีรษะ ๑ รวมเป็น ๑๑ สิกขาบท พอดี เกิดแต่
วาจากับจิต มิใช่เกิดแต่กาย ทุกๆ สิกขาบทมีสมุฏฐานอันหนึ่งเสมอกับธัมมเทสนาสมุฏฐาน.
ธัมมเทสนาสมุฏฐาน จบ
-----------------------------------------------------
ภูตาโรจนสมุฏฐาน
[๘๓๗] สิกขาบทว่าด้วยบอกอุตตริมนุสสธรรมที่มีจริง เกิดแต่กาย มิใช่เกิดแต่วาจา
มิใช่เกิดแต่จิต เกิดแต่วาจา มิใช่เกิดแต่กาย และมิใช่เกิดแต่จิต เกิดแต่กายกับวาจา มิใช่เกิด
แต่จิต ชื่อว่าภูตาโรจนสมุฏฐาน ย่อมเกิดแต่สมุฏฐาน ๓.
ภูตาโรจนสมุฏฐาน จบ
-----------------------------------------------------
โจรีวุฏฐาปนสมุฏฐาน
[๘๓๘] สิกขาบทว่าด้วยภิกษุณีรับหญิงโจรให้บวช เกิดแต่วาจากับจิต มิใช่เกิดแต่
กาย และเกิดโดยทวารทั้ง ๓ โจรีวุฏฐาปนสมุฏฐานนี้ พระพุทธเจ้าผู้ธรรมราชาทรงตั้งไว้ว่า มี
สมุฏฐาน ๒ ไม่ซ้ำกัน.
โจรีวุฏฐาปนสมุฏฐาน จบ
-----------------------------------------------------
อนนุญาตสมุฏฐาน
[๘๓๙] สิกขาบทว่าด้วยภิกษุณีบวชสตรีที่มารดาบิดา หรือสามีมิได้อนุญาต เกิดแต่
วาจา มิใช่เกิดแต่กาย และมิใช่เกิดแต่จิต เกิดแต่กายกับวาจา มิใช่เกิดแต่จิต เกิดแต่วาจากับจิต
มิใช่เกิดแต่กาย เกิดแต่กายวาจาจิต ๓ สถาน จึงมีสมุฏฐาน ๔ ไม่ซ้ำกัน.
อนนุญาตสมุฏฐาน จบ
-----------------------------------------------------
[๘๔๐] ก็สมุฏฐาน ๑๓ ทรงแสดงไว้ดีแล้วโดยย่อๆ เป็นเหตุทำความไม่หลง อนุโลม
แก่ธรรมที่เป็นแบบ วิญญูชนเมื่อทรงจำสมุฏฐานนี้ไว้ได้ ย่อมไม่หลงในสมุฏฐานแล.
ย่อหัวข้อสมุฏฐาน จบ
-----------------------------------------------------
เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๘ บรรทัดที่ ๕๘๙๗-๖๑๓๐ หน้าที่ ๒๒๔-๒๓๓.
http://84000.org/tipitaka/read/v.php?B=8&A=5897&Z=6130&pagebreak=0
http://84000.org/tipitaka/read/r.php?B=8&A=5897&pagebreak=0
ฟังเนื้อความพระไตรปิฎก : [1], [2], [3], [4]
อ่านเทียบพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาฯ :-
http://84000.org/tipitaka/read/m_siri.php?B=8&siri=60
ศึกษาอรรถกถาได้ที่ :-
http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=8&i=826
พระไตรปิฏกฉบับภาษาบาลีอักษรไทย :-
http://84000.org/tipitaka/read/pali_read.php?B=8&A=4556
อ่านอรรถกถาภาษาบาลีอักษรไทย :-
http://84000.org/tipitaka/atthapali/read_th.php?B=3&A=9528
The Pali Tipitaka in Roman :-
http://84000.org/tipitaka/read/roman_read.php?B=8&A=4556
The Pali Atthakatha in Roman :-
http://84000.org/tipitaka/atthapali/read_rm.php?B=3&A=9528
สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๘
http://84000.org/tipitaka/read/?index_8
อ่านเทียบฉบับแปลอังกฤษ Compare with English Translation :-
https://suttacentral.net/pli-tv-pvr3/en/brahmali
https://suttacentral.net/pli-tv-pvr3/en/horner-brahmali
บันทึก ๒๖ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๔๖.
บันทึก ๓๐ มกราคม พ.ศ. ๒๕๔๙.
บันทึกล่าสุด ๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๐.
การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจากพระไตรปิฎกฉบับหลวง.
หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]
