ขอนอบน้อมแด่
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
                      พระองค์นั้น
บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ
     ฉบับหลวง   ฉบับมหาจุฬาฯ   บาลีอักษรไทย   PaliRoman 
อ่านหน้า[ต่าง] แรกอ่านหน้า[ต่าง] ที่แล้วไม่แสดงหมายเลขหน้า
ในกรณี :- 
   บรรทัดแรกของแต่ละหน้าอ่านหน้า[ต่าง] ถัดไปอ่านหน้า[ต่าง] สุดท้าย
พระไตรปิฎกเล่มที่ ๓๗ พระอภิธรรมปิฎกเล่มที่ ๔ กถาวัตถุปกรณ์
อนาสวกถา
[๘๙๐] สกวาที ธรรมทั้งปวงของพระอรหันต์ ไม่เป็นอารมณ์ของอาสวะ หรือ? ปรวาที ถูกแล้ว

--------------------------------------------------------------------------------------------- หน้าที่ ๓๖๗.

ส. เป็นมรรค เป็นผล เป็นนิพพาน เป็นโสดาปัตติมรรค เป็นโสดาปัตติผล เป็นสกทาคามิมรรค เป็นสกทาคามิผล เป็นอนาคามิมรรค เป็นอนาคามิผล เป็นอรหัตมรรค เป็นอรหัตผล เป็นสติปัฏฐาน เป็นสัมมัปปธาน เป็นอิทธิบาท เป็นอินทรีย์ เป็นพละ เป็นโพชฌงค์ หรือ? ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ [๘๙๑] ส. ธรรมทั้งปวงของพระอรหันต์ ไม่เป็นอารมณ์ของอาสวะ หรือ? ป. ถูกแล้ว ส. จักษุของพระอรหันต์ไม่เป็นอารมณ์ของอาสวะ หรือ? ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ ส. จักษุของพระอรหันต์ไม่เป็นอารมณ์ของอาสวะ หรือ? ป. ถูกแล้ว ส. เป็นมรรค เป็นผล เป็นนิพพาน เป็นโสดาปัตติมรรค เป็นโสดาปัตติผล ฯลฯ เป็นโพชฌงค์ หรือ? ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ ส. โสตะของพระอรหันต์ ฯลฯ ฆานะของพระอรหันต์ ฯลฯ ชิวหาของ พระอรหันต์ ฯลฯ กายของพระอรหันต์ ไม่เป็นอารมณ์ของอาสวะ หรือ? ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ [๘๙๒] ส. กายของพระอรหันต์ ไม่เป็นอารมณ์ของอาสวะ หรือ? ป. ถูกแล้ว ส. เป็นมรรค เป็นผล เป็นนิพพาน เป็นโสดาปัตติมรรค เป็นโสดาปัตติผล ฯลฯ เป็นโพชฌงค์ หรือ? ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ [๘๙๓] ส. กายของพระอรหันต์ ไม่เป็นอารมณ์ของอาสวะ หรือ? ป. ถูกแล้ว

--------------------------------------------------------------------------------------------- หน้าที่ ๓๖๘.

ส. กายของพระอรหันต์ ยังเข้าถึงการยกย่องและการข่มขี่ ยังเข้าถึงการตัด และการทำลาย ยังทั่วไปแก่ฝูงกา ฝูงแร้ง ฝูงเหยี่ยว หรือ? ป. ถูกแล้ว ส. ธรรมอันไม่เป็นอารมณ์ของอาสวะ ยังเข้าถึงการยกย่องและการข่มขี่ ยัง เข้าถึงการตัดและการทำลาย ยังทั่วไปแก่ฝูงกา ฝูงแร้ง ฝูงเหยี่ยว หรือ? ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ [๘๙๔] ส. พิษพึงเข้าไป ศาตราพึงเข้าไป ไฟพึงเข้าไป ในกายของพระอรหันต์หรือ? ป. ถูกแล้ว ส. พิษพึงเข้าไป ศาตราพึงเข้าไป ไฟพึงเข้าไปในธรรมอันไม่เป็นอารมณ์ของ อาสวะ หรือ? ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ [๘๙๕] ส. กายของพระอรหันต์ ยังจะจองจำ ด้วยเครื่องจองจำคือขื่อ ด้วยเครื่องจอง จำคือเชือก ด้วยเครื่องจองจำคือตรวน ด้วยเครื่องจองจำคือบ้าน ด้วย เครื่องจองจำคือนิคม ด้วยเครื่องจองจำคือเมือง ด้วยเครื่องจองจำคือ ชนบท ด้วยเครื่องจองจำ ๕ ประการ ได้หรือ? ป. ถูกแล้ว ส. ธรรมอันไม่เป็นอารมณ์ของอาสวะ ยังจะจองจำด้วยเครื่องจองจำคือขื่อ ด้วยเครื่องจองจำคือเชือก ด้วยเครื่องจองจำคือตรวน ด้วยเครื่องจองจำ คือบ้าน ด้วยเครื่องจองจำคือนิคม ด้วยเครื่องจองจำคือเมือง ด้วยเครื่อง จองจำคือชนบท ด้วยเครื่องจองจำ ๕ ประการ ได้หรือ? ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ [๘๙๖] ส. ผิว่า พระอรหันต์ให้จีวรแก่ปุถุชน จีวรนั้นไม่เป็นอารมณ์ของอาสวะแล้ว เป็นอารมณ์ของอาสวะ หรือ? ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ

--------------------------------------------------------------------------------------------- หน้าที่ ๓๖๙.

ส. จีวรนั้นไม่เป็นอารมณ์ของอาสวะแล้วเป็นอารมณ์ของอาสวะ หรือ? ป. ถูกแล้ว ส. ของที่ไม่เป็นอารมณ์ของอาสวะอันนั้น ของที่เป็นอารมณ์ของอาสวะก็อัน นั้นแหละ หรือ? ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ ส. ของที่ไม่เป็นอารมณ์ของอาสวะอันนั้น ของที่เป็นอารมณ์ของอาสวะก็ นั้นแหละ หรือ? ป. ถูกแล้ว ส. มรรคไม่เป็นอารมณ์ของอาสวะ แล้วเป็นอารมณ์ของอาสวะ หรือ? ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ ส. ผล สติปัฏฐาน สัมมัปปธาน อิทธิบาท อินทรีย์ พละ โพชฌงค์ ไม่เป็น อารมณ์ของอาสวะแล้วเป็นอารมณ์ของอาสวะ หรือ? ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ [๘๙๗] ส. ผิว่า พระอรหันต์ ให้บิณฑบาต ให้เสนาสนะ ให้คิลานปัจจัยเภสัชชบริ- ขาร แก่ปุถุชน คิลานปัจจัยเภสัชชบริขารนั้น ไม่เป็นอารมณ์ของอาสวะ แล้วเป็นอารมณ์ของอาสวะ หรือ? ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ ส. คิลานปัจจัยเภสัชชบริขารนั้น ไม่เป็นอารมณ์ของอาสวะแล้วเป็นอารมณ์ ของอาสวะ หรือ? ป. ถูกแล้ว ส. ของที่ไม่เป็นอารมณ์ของอาสวะอันนั้น ของเป็นอารมณ์ของอาสวะก็อัน นั้นแหละ หรือ? ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ

--------------------------------------------------------------------------------------------- หน้าที่ ๓๗๐.

ส. ของที่ไม่เป็นอารมณ์ของอาสวะอันนั้น ของที่เป็นอารมณ์ของอาสวะก็อัน นั้นแหละ หรือ? ป. ถูกแล้ว ส. มรรคไม่เป็นอารมณ์ของอาสวะ แล้วเป็นอารมณ์ของอาสวะ หรือ? ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ ส. ผล สติปัฏฐาน สัมมัปปธาน อิทธิบาท อินทรีย์ พละ โพชฌงค์ ไม่เป็น อารมณ์ของอาสวะแล้ว เป็นอารมณ์ของอาสวะ หรือ? ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ [๘๙๘] ส. ผิว่า ปุถุชน ถวายจีวรแก่พระอรหันต์ จีวรนั้นเป็นอารมณ์ของอาสวะ แล้วไม่เป็นอารมณ์ของอาสวะ หรือ? ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ [๘๙๙] ส. จีวรนั้น เป็นอารมณ์ของอาสวะ แล้วไม่เป็นอารมณ์ของอาสวะ หรือ? ป. ถูกแล้ว ส. ของที่เป็นอารมณ์ของอาสวะอันนั้น ของที่ไม่เป็นอารมณ์ของอาสวะก็อัน นั้นแหละ หรือ? ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ ส. ของที่เป็นอารมณ์ของอาสวะอันนั้น ของที่ไม่เป็นอารมณ์ของอาสวะก็ อันนั้นแหละ หรือ? ป. ถูกแล้ว ส. ราคะเป็นอารมณ์ของอาสวะแล้ว ไม่เป็นอารมณ์ของอาสวะ หรือ? ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ ส. โทสะ โมหะ ฯลฯ อโนตตัปปะ เป็นอารมณ์ของอาสวะแล้ว ไม่เป็น อารมณ์ของอาสวะ หรือ? ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ

--------------------------------------------------------------------------------------------- หน้าที่ ๓๗๑.

[๙๐๐] ส. ผิว่า ปุถุชน ถวายบิณฑบาต ถวายเสนาสนะ ถวายคิลานปัจจยเภสัชช- บริขารแก่พระอรหันต์ คิลานปัจจยเภสัชชบริขารนั้น เป็นอารมณ์ของ อาสวะ แล้วไม่เป็นอารมณ์ของอาสวะ หรือ? ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ [๙๐๑] ส. คิลานปัจจยเภสัชชบริขารนั้น เป็นอารมณ์ของอาสวะ แล้วไม่เป็นอารมณ์ ของอาสวะ หรือ? ป. ถูกแล้ว ส. ของที่เป็นอารมณ์ของอาสวะอันนั้น ของที่ไม่เป็นอารมณ์ของอาสวะก็อัน นั้นแหละ หรือ? ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ ส. ของที่เป็นอารมณ์ของอาสวะอันนั้น ของที่ไม่เป็นอารมณ์ของอาสวะก็อัน นั้นแหละ หรือ? ป. ถูกแล้ว ส. ราคะเป็นอารมณ์ของอาสวะ แล้วไม่เป็นอารมณ์ของอาสวะ หรือ? ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ ส. โทสะ ฯลฯ โมหะ ฯลฯ อโนตตัปปะ เป็นอารมณ์ของอาสวะแล้ว ไม่เป็นอารมณ์ของอาสวะ หรือ? ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ [๙๐๒] ป. ไม่พึงกล่าวว่า ธรรมทั้งปวงของพระอรหันต์ ไม่เป็นอารมณ์ของอาสวะ หรือ? ส. ถูกแล้ว ป. พระอรหันต์เป็นผู้ไม่มีอาสวะ มิใช่หรือ?

--------------------------------------------------------------------------------------------- หน้าที่ ๓๗๒.

ส. ถูกแล้ว ป. หากว่า พระอรหันต์เป็นผู้ไม่มีอาสวะ ด้วยเหตุนั้นนะท่านจึงต้องกล่าวว่า ธรรมทั้งปวงของพระอรหันต์ ไม่เป็นอารมณ์ของอาสวะ ดังนี้
อนาสวกถา จบ
-----------------------------------------------------

             เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๓๗ บรรทัดที่ ๘๘๔๙-๘๙๗๓ หน้าที่ ๓๖๖-๓๗๒. https://84000.org/tipitaka/read/v.php?B=37&A=8849&Z=8973&pagebreak=1              ฟังเนื้อความพระไตรปิฎก : [1], [2]              อ่านเทียบพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาฯ :- https://84000.org/tipitaka/read/m_siri.php?B=37&siri=55              ศึกษาอรรถกถานี้ได้ที่ :- https://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=37&i=890              ศึกษาพระไตรปิฏกฉบับภาษาบาลีอักษรไทย :- [890-902] https://84000.org/tipitaka/pali/pali_item_s.php?book=37&item=890&items=13              อ่านอรรถกถาภาษาบาลีอักษรไทย :- https://84000.org/tipitaka/atthapali/read_th.php?B=55&A=4542              The Pali Tipitaka in Roman :- [890-902] https://84000.org/tipitaka/pali/roman_item_s.php?book=37&item=890&items=13              The Pali Atthakatha in Roman :- https://84000.org/tipitaka/atthapali/read_rm.php?B=55&A=4542              สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๓๗ https://84000.org/tipitaka/read/?index_37              อ่านเทียบฉบับแปลอังกฤษ Compare with English Translation :- https://suttacentral.net/kv4.3/en/aung-rhysdavids

อ่านหน้า[ต่าง] แรกอ่านหน้า[ต่าง] ที่แล้วไม่แสดงหมายเลขหน้า
ในกรณี :- 
   บรรทัดแรกของแต่ละหน้าอ่านหน้า[ต่าง] ถัดไปอ่านหน้า[ต่าง] สุดท้าย

บันทึก ๒๗ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๔๖ บันทึกล่าสุด ๒๒ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๐ การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจากพระไตรปิฎกฉบับหลวง. หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]

สีพื้นหลัง :