จิตตสมุฏฐานทุกะ
ปฏิจจวาร
[๑๕๓] จิตตสมุฏฐานธรรม อาศัยจิตตสมุฏฐานธรรม เกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย
คือ ขันธ์ ๒ และจิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นจิตตสมุฏฐานธรรม ขันธ์ ๒ ฯลฯ
ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นจิตตสมุฏฐานธรรม ขันธ์ ๒ ฯลฯ
มหาภูตรูป ๑ ที่เป็นจิตตสมุฏฐานธรรม ฯลฯ จิตตสมุฏฐานรูปที่เป็นอุปาทารูป อาศัยมหาภูตรูป
ทั้งหลาย.
ธรรมที่ไม่ใช่จิตตสมุฏฐานธรรม อาศัยจิตตสมุฏฐานธรรม เกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย
คือ จิต อาศัยขันธ์ทั้งหลายที่เป็นจิตตสมุฏฐานธรรม
ในปฏิสนธิขณะ จิตและกฏัตตารูป อาศัยขันธ์ทั้งหลายที่เป็นจิตตสมุฏฐานธรรม.
จิตตสมุฏฐานธรรม และธรรมที่ไม่ใช่จิตตสมุฏฐานธรรม อาศัยจิตตสมุฏฐานธรรม เกิด
ขึ้น เพราะเหตุปัจจัย
คือ ขันธ์ ๒ และจิต และจิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นจิตตสมุฏฐานธรรม
ขันธ์ ๒ ฯลฯ
ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๒ และจิต และกฏัตตารูป อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นจิตตสมุฏฐาน-
*ธรรม ขันธ์ ๒ ฯลฯ.
ธรรมที่ไม่ใช่จิตตสมุฏฐานธรรม อาศัยธรรมที่ไม่ใช่จิตตสมุฏฐานธรรม เกิดขึ้น เพราะ
เหตุปัจจัย
คือ ในปฏิสนธิขณะ กฏัตตารูป อาศัยจิต หทัยวัตถุ อาศัยจิต จิตอาศัยหทัยวัตถุ
มหาภูตรูป ๑ ฯลฯ กฏัตตารูปที่เป็นอุปาทารูป อาศัยมหาภูตรูปทั้งหลาย.
จิตตสมุฏฐานธรรม อาศัยธรรมที่ไม่ใช่จิตตสมุฏฐานธรรม เกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย
คือ สัมปยุตตขันธ์ทั้งหลาย และจิตตสมุฏฐานรูป อาศัยจิต ในปฏิสนธิขณะ
สัมปยุตตขันธ์ทั้งหลาย อาศัยจิต
ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ทั้งหลายที่เป็นจิตตสมุฏฐานธรรม อาศัยหทัยวัตถุ
จิตตสมุฏฐานธรรม และธรรมที่ไม่ใช่จิตตสมุฏฐานธรรม อาศัยธรรมที่ไม่ใช่จิตตสมุฏ-
*ฐานธรรม เกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย
คือ ในปฏิสนธิขณะ สัมปยุตตขันธ์ทั้งหลาย และกฏัตตารูปอาศัยจิต
ในปฏิสนธิขณะ จิตและสัมปยุตตขันธ์ทั้งหลาย อาศัยหทัยวัตถุ.
จิตตสมุฏฐานธรรม อาศัยจิตตสมุฏฐานธรรม และธรรมที่ไม่ใช่จิตตสมุฏฐานธรรม
เกิดขึ้น เพราะเหตุเป็นจัย
คือ ขันธ์ ๒ และจิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นจิตตสมุฏฐานธรรม และจิต
ขันธ์ ๒ ฯลฯ
ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นจิตตสมุฏฐานธรรม และจิต ขันธ์ ๒ ฯลฯ
ธรรมที่ไม่ใช่จิตตสมุฏฐานธรรม อาศัยจิตตสมุฏฐานธรรมและธรรม ที่ไม่ใช่จิตตสมุฏ-
*ฐานธรรม เกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย
คือ ในปฏิสนธิขณะ กฏัตตารูป อาศัยขันธ์ทั้งหลายที่เป็นจิตตสมุฏฐานธรรม และจิต
ในปฏิสนธิขณะ อุปาทารูป อาศัยขันธ์ทั้งหลายที่เป็นจิตตสมุฏฐานธรรม และมหาภูตรูป
ทั้งหลาย
ในปฏิสนธิขณะ จิต อาศัยขันธ์ทั้งหลาย ที่เป็นจิตตสมุฏฐานธรรม และหทัยวัตถุ.
จิตตสมุฏฐานธรรม และธรรมที่ไม่ใช่จิตตสมุฏฐานธรรม อาศัยจิตตสมุฏฐานธรรม
และธรรมที่ไม่ใช่จิตตสมุฏฐานธรรม เกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย
คือ ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๒ และกฏัตตารูป อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นจิตตสมุฏฐานธรรม
และจิต ขันธ์ ๒ ฯลฯ
ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๒ จิต อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นสมุฏฐานธรรม และหทัยวัตถุ ขันธ์
๒ ฯลฯ.
[๑๕๔] จิตตสมุฏฐานธรรม อาศัยจิตตสมุฏฐานธรรม เกิดขึ้น เพราะอารัมมณปัจจัย
คือ ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นจิตตสมุฏฐานธรรม ขันธ์ ๒ ฯลฯ ปฏิสนธิ.
ธรรมที่ไม่ใช่จิตตสมุฏฐานธรรม อาศัยจิตตสมุฏฐานธรรม เกิดขึ้น เพราะอารัมมณปัจจัย
คือ จิตอาศัยขันธ์ทั้งหลายที่เป็นจิตตสมุฏฐานธรรม ปฏิสนธิ.
จิตตสมุฏฐานธรรม และธรรมที่ไม่ใช่จิตตสมุฏฐานธรรม อาศัยจิตตสมุฏฐานธรรม เกิด
ขึ้น เพราะอารัมมณปัจจัย
คือ ขันธ์ ๒ และจิต อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นจิตตสมุฏฐานธรรม ขันธ์ ๒ ฯลฯ ปฏิสนธิ.
ธรรมที่ไม่ใช่จิตตสมุฏฐานธรรม อาศัยธรรมที่ไม่ใช่จิตตสมุฏฐานธรรม เกิดขึ้น เพราะ
อารัมมณปัจจัย
คือ ในปฏิสนธิขณะ จิต อาศัยหทัยวัตถุ.
จิตตสมุฏฐานธรรม อาศัยธรรมที่ไม่ใช่จิตตสมุฏฐานธรรม เกิดขึ้น เพราะอารัมมณปัจจัย
คือ สัมปยุตตขันธ์ทั้งหลาย อาศัยจิต
ในปฏิสนธิขณะ สัมปยุตตขันธ์ทั้งหลาย อาศัยจิต
ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ทั้งหลายที่เป็นจิตตสมุฏฐานธรรม อาศัยหทัยวัตถุ.
จิตตสมุฏฐานธรรม และธรรมที่ไม่ใช่จิตตสมุฏฐานธรรม อาศัยธรรมที่ไม่ใช่จิตตสมุฏฐาน-
*ธรรม เกิดขึ้น เพราะอารัมมณปัจจัย
คือ ในปฏิสนธิขณะ จิตและสัมปยุตตขันธ์ทั้งหลาย อาศัยหทัยวัตถุ.
จิตตสมุฏฐานธรรม อาศัยจิตตสมุฏฐานธรรม และธรรมที่ไม่ใช่จิตตสมุฏฐานธรรม
เกิดขึ้น เพราะอารัมมณปัจจัย
คือ ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นจิตตสมุฏฐานธรรม และจิต ขันธ์ ๒ ฯลฯ
ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นจิตตสมุฏฐานธรรม และจิต ขันธ์ ๒ ฯลฯ
ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นจิตตสมุฏฐานธรรม และหทัยวัตถุ ขันธ์
๒ ฯลฯ.
ธรรมที่ไม่ใช่จิตตสมุฏฐานธรรม อาศัยจิตตสมุฏฐานธรรม และธรรมที่ไม่ใช่จิตต-
*สมุฏฐานธรรม เกิดขึ้น เพราะอารัมมณปัจจัย
คือ ในปฏิสนธิขณะ จิต อาศัยขันธ์ทั้งหลายที่เป็นจิตตสมุฏฐานธรรม และหทัยวัตถุ.
จิตตสมุฏฐานธรรม และธรรมที่ไม่ใช่จิตตสมุฏฐานธรรม อาศัยจิตตสมุฏฐานธรรม
และธรรมที่ไม่ใช่จิตตสมุฏฐานธรรม เกิดขึ้น เพราะอารัมมณปัจจัย
คือ ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๒ และจิต อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นจิตตสมุฏฐานธรรม และ
หทัยวัตถุ ขันธ์ ๒ ฯลฯ
[๑๕๕] ในเหตุปัจจัย มีวาระ ๙
ในอารัมมณปัจจัย มี " ๙
ในอธิปติปัจจัย มี " ๕
ในอนันตรปัจจัย มี " ๙
ในสมนันตรปัจจัย มี " ๙
ในสหชาตปัจจัย มี " ๙
ในอัญญมัญญปัจจัย มี " ๙
ในนิสสยปัจจัย มี " ๙
ในอุปนิสสยปัจจัย มี " ๙
ในปุเรชาตปัจจัย มี " ๕
ในอาเสวนปัจจัย มี " ๕
ในกัมมปัจจัย มี " ๙
ในวิปากปัจจัย มี " ๙
ในอาหารปัจจัย มี " ๙
ในอินทริยปัจจัย มี " ๙
ในฌานปัจจัย มี " ๙
ในมัคคปัจจัย มี " ๙
ในสัมปยุตตปัจจัย มี " ๙
ในปัจจัยทั้งปวง มี " ๙
ในวิคตปัจจัย มี " ๙
ในอวิคตปัจจัย มี " ๙.
[๑๕๖] จิตตสมุฏฐานธรรม อาศัยจิตตสมุฏฐานธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะเหตุปัจจัย
คือ ขันธ์ ๒ และจิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นจิตตสมุฏฐานธรรม ซึ่งเป็น
อเหตุกะ ขันธ์ ๒ ฯลฯ
ในอเหตุกปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นจิตตสมุฏฐานธรรม ขันธ์ ๒ ฯลฯ
มหาภูตรูป ๑ ที่เป็นจิตสมุฏฐานธรรม ฯลฯ จิตตสมุฏฐานรูป ที่เป็นอุปาทารูป อาศัยมหาภูตรูป
ทั้งหลาย โมหะที่สหรคตด้วยวิจิกิจฉา ที่สหรคตด้วยอุทธัจจะ อาศัยขันธ์ทั้งหลายที่สหรคตด้วย
วิจิกิจฉา ที่สหรคตด้วยอุทธัจจะ.
ธรรมที่ไม่ใช่จิตตสมุฏฐานธรรม อาศัยจิตตสมุฏฐานธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะเหตุปัจจัย
คือ จิต อาศัยขันธ์ทั้งหลายที่เป็นจิตตสมุฏฐานธรรม ซึ่งเป็นอเหตุกะ
ในอเหตุกปฏิสนธิขณะ จิต และกฏัตตารูป อาศัยขันธ์ทั้งหลายที่เป็นจิตตสมุฏฐานธรรม.
จิตตสมุฏฐานธรรม และธรรมที่ไม่ใช่จิตตสมุฏฐานธรรม อาศัยจิตตสมุฏฐานธรรม
เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะเหตุปัจจัย
คือ ขันธ์ ๒ และจิต และจิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นจิตตสมุฏฐานธรรม
ซึ่งเป็นอเหตุกะ ขันธ์ ๒ ฯลฯ ในอเหตุกปฏิสนธิขณะ ฯลฯ
ธรรมที่ไม่ใช่จิตตสมุฏฐานธรรม อาศัยธรรมที่ไม่ใช่จิตตสมุฏฐานธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่
เพราะเหตุปัจจัย
คือ ในอเหตุกปฏิสนธิขณะ กฏัตตารูป อาศัยจิต หทัยวัตถุ อาศัยจิต จิตอาศัย
หทัยวัตถุ พึงกระทำมหาภูตรูป ๑ จนถึงอสัญญสัตว์.
จิตตสมุฏฐานธรรม อาศัยธรรมที่ไม่ใช่จิตตสมุฏฐานธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะเหตุปัจจัย
คือ สัมปยุตตขันธ์ทั้งหลาย และจิตตสมุฏฐานรูป อาศัยจิตซึ่งเป็นอเหตุกะ
ในอเหตุกปฏิสนธิขณะ จิต ฯลฯ
ในอเหตุกปฏิสนธิขณะ ขันธ์ทั้งหลาย ที่เป็นจิตตสมุฏฐานธรรม อาศัยหทัยวัตถุ โมหะ
ที่สหรคตด้วยวิจิกิจฉา ที่สหรคตด้วยอุทธัจจะ อาศัยหทัยวัตถุ.
จิตตสมุฏฐานธรรม และธรรมที่ไม่ใช่จิตตสมุฏฐานธรรม อาศัยธรรมที่ไม่ใช่จิตต-
*สมุฏฐานธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะเหตุปัจจัย
คือ ในอเหตุกปฏิสนธิขณะ สัมปยุตตขันธ์ทั้งหลาย และกฏัตตารูปอาศัยจิต
ในอเหตุกปฏิสนธิขณะ จิตและสัมปยุตตขันธ์ทั้งหลาย อาศัยหทัยวัตถุ.
จิตตสมุฏฐานธรรม อาศัยจิตตสมุฏฐานธรรม และธรรมที่ไม่ใช่จิตตสมุฏฐานธรรม
เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะเหตุปัจจัย
คือ ขันธ์ ๒ และจิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นจิตตสมุฏฐานธรรม ซึ่งเป็น
อเหตุกะ และจิต ขันธ์ ๒ ฯลฯ
ในอเหตุกปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นจิตตสมุฏฐานธรรม และจิต
ขันธ์ ๒ ฯลฯ
ในอเหตุกปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นจิตตสมุฏฐานธรรม และหทัยวัตถุ
ขันธ์ ๒ ฯลฯ โมหะ ที่สหรคตด้วยวิจิกิจฉา ที่สหรคตด้วยอุทธัจจะ อาศัยขันธ์ทั้งหลาย
ที่สหรคตด้วยวิจิกิจฉา ที่สหรคตด้วยอุทธัจจะ และจิต.
ธรรมที่ไม่ใช่จิตตสมุฏฐานธรรม อาศัยจิตตสมุฏฐานธรรม และธรรมที่ไม่ใช่จิตต-
*สมุฏฐานธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะเหตุปัจจัย
คือ ในอเหตุกปฏิสนธิขณะ กฏัตตารูป อาศัยขันธ์ทั้งหลายที่เป็นจิตตสมุฏฐานธรรม
และจิต
ในอเหตุกปฏิสนธิขณะ กฏัตตารูป อาศัยขันธ์ทั้งหลายที่เป็นจิตตสมุฏฐานธรรม และ
มหาภูตรูปทั้งหลาย
ในอเหตุกปฏิสนธิขณะ จิต อาศัยขันธ์ทั้งหลายที่เป็นจิตตสมุฏฐานธรรม และหทัยวัตถุ.
จิตตสมุฏฐานธรรม และธรรมที่ไม่ใช่จิตตสมุฏฐานธรรม อาศัยจิตตสมุฏฐานธรรม และ
ธรรมที่ไม่ใช่จิตตสมุฏฐานธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะเหตุปัจจัย
คือ ในอเหตุกปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๒ และกฏัตตารูป อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นจิตตสมุฏฐาน-
*ธรรม และจิต ขันธ์ ๒ ฯลฯ
ในอเหตุกปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๒ และจิต อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นจิตตสมุฏฐานธรรม และ
หทัยวัตถุ ขันธ์ ๒ ฯลฯ.
[๑๕๗] จิตตสมุฏฐานธรรม อาศัยจิตตสมุฏฐานธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะ
อารัมมณปัจจัย
คือ จิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ทั้งหลายที่เป็นจิตตสมุฏฐานธรรม มหาภูตรูป ๑
ที่เป็นจิตตสมุฏฐานธรรม ฯลฯ จิตตสมุฏฐานรูป ที่เป็นอุปาทารูป อาศัยมหาภูตรูปทั้งหลาย.
ธรรมที่ไม่ใช่จิตตสมุฏฐานธรรม อาศัยจิตตสมุฏฐานธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะอารัมมณ-
*ปัจจัย
คือ ในปฏิสนธิขณะ กฏัตตารูป อาศัยขันธ์ทั้งหลายที่เป็นจิตตสมุฏฐานธรรม.
ธรรมที่ไม่ใช่จิตตสมุฏฐานธรรม อาศัยธรรมที่ไม่ใช่จิตตสมุฏฐานธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่
เพราะอารัมมณปัจจัย
คือ ในปฏิสนธิขณะ กฏัตตารูป อาศัยจิต หทัยวัตถุ อาศัยจิต มหาภูตรูป ๑ ตลอด
ถึงอสัญญสัตว์.
จิตตสมุฏฐานธรรม อาศัยธรรมที่ไม่ใช่จิตตสมุฏฐานธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะอารัมมณ-
*ปัจจัย
คือ จิตตสมุฏฐานรูป อาศัยจิต.
จิตตสมุฏฐานธรรม อาศัยจิตตสมุฏฐานธรรม และธรรมที่ไม่ใช่จิตตสมุฏฐานธรรม
เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะอารัมมณปัจจัย
คือ จิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ทั้งหลายที่เป็นจิตตสมุฏฐานธรรม และจิต
จิตตสมุฏฐานรูป อาศัยจิต และมหาภูตรูปทั้งหลาย.
ธรรมที่ไม่ใช่จิตตสมุฏฐานธรรม อาศัยจิตตสมุฏฐานธรรม และธรรมที่ไม่ใช่จิตต-
*สมุฏฐานธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะอารัมมณปัจจัย
คือ ในปฏิสนธิขณะ กฏัตตารูป อาศัยขันธ์ทั้งหลายที่เป็นจิตตสมุฏฐานธรรม และจิต
ในปฏิสนธิขณะ กฏัตตารูป อาศัยขันธ์ทั้งหลายที่เป็นจิตตสมุฏฐานธรรม และ
มหาภูตรูปทั้งหลาย.
ฯลฯ
[๑๕๘] ในปัจจัยที่ไม่ใช่เหตุปัจจัย มีวาระ ๙
ในปัจจัยที่ไม่ใช่อารัมมณปัจจัย มี " ๖
ในปัจจัยที่ไม่ใช่อธิปติปัจจัย มี " ๙
ในปัจจัยที่ไม่ใช่อนันตรปัจจัย มี " ๖
ในปัจจัยที่ไม่ใช่สมนันตรปัจจัย มี " ๖
ในปัจจัยที่ไม่ใช่อัญญมัญญปัจจัย มี " ๖
ในปัจจัยที่ไม่ใช่อุปนิสสยปัจจัย มีวาระ ๖
ในปัจจัยที่ไม่ใช่ปุเรชาตปัจจัย มี " ๙
ในปัจจัยที่ไม่ใช่ปัจฉาชาตปัจจัย มี " ๙
ในปัจจัยที่ไม่ใช่อาเสวนปัจจัย มี " ๙
ในปัจจัยที่ไม่ใช่กัมมปัจจัย มี " ๔
ในปัจจัยที่ไม่ใช่วิปากปัจจัย มี " ๕
ในปัจจัยที่ไม่ใช่อาหารปัจจัย มี " ๑
ในปัจจัยที่ไม่ใช่อินทริยปัจจัย มี " ๑
ในปัจจัยที่ไม่ใช่ฌานปัจจัย มี " ๖
ในปัจจัยที่ไม่ใช่มัคคปัจจัย มี " ๙
ในปัจจัยที่ไม่ใช่สัมปยุตตปัจจัย มี " ๖
ในปัจจัยที่ไม่ใช่วิปปยุตตปัจจัย มี " ๖
ในปัจจัยที่ไม่ใช่นัตถิปัจจัย มี " ๖
ในปัจจัยที่ไม่ใช่วิคตปัจจัย มี " ๖.
[๑๕๙] ในปัจจัยที่ไม่ใช่อารัมมณปัจจัยกับเหตุปัจจัย มีวาระ ๖
ในปัจจัยที่ไม่ใช่อธิปติปัจจัย
กับ ฯลฯ มีวาระ ๙
ในปัจจัยที่ไม่ใช่กัมมปัจจัย
กับ ฯลฯ มี " ๓
ในปัจจัยที่ไม่ใช่วิปากปัจจัย
กับ ฯลฯ มี " ๕
ในปัจจัยที่ไม่ใช่สัมปยุตตปัจจัย
กับ ฯลฯ มี " ๖
ในปัจจัยที่ไม่ใช่วิปปยุตตปัจจัย
กับเหตุปัจจัย มี " ๕
ในปัจจัยที่ไม่ใช่นัตถิปัจจัย
กับ ฯลฯ มีวาระ ๖
ในปัจจัยที่ไม่ใช่วิคตปัจจัย
กับ ฯลฯ มี " ๖.
[๑๖๐] ในอารัมมณปัจจัย
กับปัจจัยที่ไม่ใช่เหตุปัจจัย มีวาระ ๙
ในอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี " ๙
ในสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี " ๙
ในปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี " ๕
ในอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี " ๕
ในฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี " ๓
ในมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี " ๓
ในอวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี " ๙.
สหชาตวาร เหมือนกับปฏิจจวาร
เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๔๓ บรรทัดที่ ๒๓๑๐-๒๕๒๓ หน้าที่ ๙๐-๙๘.
http://84000.org/tipitaka/read/v.php?B=43&A=2310&Z=2523&pagebreak=0
ฟังเนื้อความพระไตรปิฎก : [1], [2], [3]
อ่านเทียบพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาฯ :-
http://84000.org/tipitaka/read/m_siri.php?B=43&siri=17
ศึกษาพระไตรปิฏกฉบับภาษาบาลีอักษรไทย :-
[153-160] http://84000.org/tipitaka/pali/pali_item_s.php?book=43&item=153&items=8
The Pali Tipitaka in Roman :-
[153-160] http://84000.org/tipitaka/pali/roman_item_s.php?book=43&item=153&items=8
สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๔๓
http://84000.org/tipitaka/read/?index_43
บันทึก ๒๗ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๔๖
บันทึกล่าสุด ๒๒ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๐
การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจากพระไตรปิฎกฉบับหลวง.
หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]