สุมนพุทธวงศ์ที่ ๔
ว่าด้วยพระประวัติพระสุมนพุทธเจ้า
[๕] ในสมัยต่อมาจากพระพุทธมงคล มีพระพุทธเจ้าพระนามว่าสุมนะ
ไม่มีใครเสมอเหมือนโดยธรรมทั้งปวง อุดมกว่าสรรพสัตว์ ครั้งนั้น
พระศาสดาทรงตีกลองอมฤตเภรีในเมขลบุรี พระศาสนาของพระ
องค์มีองค์ ๙ ประกอบด้วยธรรมอันขาว พระศาสดาพระองค์นั้น
ทรงชำระกิเลสแล้ว ทรงบรรลุสัมโพธิญาณอันอุดม ทรงสร้างนคร
คือ พระสัทธรรม เป็นเมืองประเสริฐสุด ทรงสร้างถนนใหญ่
คือ สติปัฏฐานอันเลิศล้ำ ไม่มีอะไรคั่น ไม่คด เป็นถนนตรง
ไพบูลย์ กว้างขวาง ทรงลาดสามัญผล ๕ ปฏิสัมภิทา ๔ อภิญญา
๖ และสมาบัติ ๘ ไว้บนถนนนั้น ชนเหล่าใดเป็นผู้ไม่ประมาท
ประกอบด้วยหิริและความเพียร ชนเหล่านั้นทั้งหมด ย่อมถือเอา
คุณอันประเสริฐนี้ได้ตามสบาย พระศาสดาทรงรื้อขนมหาชนขึ้นด้วย
โยคธรรมนั้นอย่างนี้ ทรงยังเทวดาและมนุษย์แสนโกฏิให้ตรัสรู้ใน
ครั้งแรก ในกาลเป็นที่ทรงแสดงธรรมครั้งที่ ๒ ที่พระมหาวีรเจ้า
ตรัสสอนหมู่เดียรถีย์ เทวดาและมนุษย์แสนโกฏิได้ตรัสรู้ธรรม
ในกาลเมื่อเทวดาและมนุษย์ผู้พร้อมเพรียงกัน ร่วมใจกันมาทูลถาม
ปัญหานิโรธ อันเป็นความสงสัยแห่งใจ ในการทรงแสดงธรรม
เครื่องแสดงนิโรธแม้ครั้งนั้น ธรรมาภิสมัยครั้งที่ ๓ ได้มีแก่เทวดา
และมนุษย์เก้าหมื่นโกฏิ พระสุมนบรมศาสดาทรงมีการประชุม
พระสาวกขีณาสพผู้ปราศจากมลทิน มีจิตสงบคงที่ ๓ ครั้ง เมื่อพระ
ผู้มีพระภาคทรงจำพรรษาแล้ว ในวันสังฆปวารณา พระตถาคตทรง
ปวารณาพร้อมด้วยพระสาวกแสนโกฏิ ต่อแต่นั้นในการประชุมที่
ภูเขาทองอันสุกอร่ามพระสาวกมาประชุมกันครั้งที่ ๒ เก้าหมื่นโกฏิ
ในกาลเมื่อท้าวสักกเทวราชเสด็จเข้าเฝ้า เพื่อทรงเยี่ยมพระพุทธเจ้า
พระสาวกมาประชุมกันครั้งที่ ๓ แปดหมื่นโกฏิ สมัยนั้นเราเป็น
พญานาคราชมีฤทธิ์มาก มีนามชื่อว่าอตุละ เป็นผู้ก่อสร้างกุศล
เจริญขึ้น ครั้งนั้น เราพร้อมด้วยหมู่ญาติออกจากนาคพิภพ เอาดนตรี
ทิพย์ไปบรรเลงบูชาพระพิชิตมารพร้อมด้วยพระสงฆ์ ถวายข้าวน้ำให้
พระสงฆ์สาวกแสนโกฏิ ฉันจนเพียงพอ แล้วถวายผ้าเฉพาะรูปละคู่
ได้เข้าถึงพระพิชิตมารกับทั้งพระสงฆ์นั้นเป็นสรณะ แม้พระสุมน-
พุทธเจ้าผู้เป็นนายกของโลกพระองค์นั้น ก็ทรงพยากรณ์เราว่านี้จักได้
เป็นพระพุทธเจ้าในโลก ................ ข้ามแม่น้ำใหญ่
ฉะนั้น เราได้ฟังพระพุทธพยากรณ์แม้นั้นแล้ว ยังจิตให้เลื่อมใส
อย่างยิ่ง เราอธิษฐานวัตรในการบำเพ็ญบารมีให้ยิ่งขึ้น พระมหา-
กษัตริย์พระนามว่าสุทัตตะ เป็นพระชนกของพระสุมนบรมศาสดา
พระชนนีพระนามว่าสิริมา พระองค์ทรงครอบครองอคารสถานอยู่
เก้าพันปี ทรงมีปราสาทอันประเสริฐ ๓ ปราสาท ชื่อว่าจันทะ
สุจันทะและวฏังสะ มีพระสนมนารีกำนัลในหกล้านสามแสนนาง
ล้วนประดับประดาสวยงาม พระมเหสีพระนามว่าวฏังสกี พระราช
โอรสพระนามว่าอนูปโม พระพิชิตมารทรงเห็นนิมิต ๔ ประการ
จึงเสด็จออกผนวชด้วยพระยาคชสารยานพระที่นั่งต้น ทรงบำเพ็ญ
เพียร ๑๐ เดือนเต็ม พระมหาวีรสุมนเจ้าผู้เป็นนายกของโลก อัน
พรหมทูลอาราธนาแล้ว ทรงประกาศพระธรรมจักร ณ เมขลนคร
อันเป็นเมืองประเสริฐสุด พระองค์ทรงมีพระสรณเถระ และพระ-
ภาวิตัตตเถระเป็นพระอัครสาวก ทรงมีพระเถระนามว่าอุเทนเป็น
พระพุทธอุปัฏฐาก พระโสณาเถรีและพระอุปโสณาเถรีเป็นพระ-
อัครสาวิกา แม้พระพุทธเจ้าผู้ไม่มีใครเสมอเหมือนพระองค์นั้น
ก็ได้ตรัสรู้ที่ควงไม้กากะทิง วรุณอุบาสกและสรณอุบาสกเป็นอัคร
อุปัฏฐากจาลาอุบาสิกาและอุปจาลาอุบาสิกาเป็นอัครอุปัฏฐายิกา พระ-
พุทธเจ้าพระองค์นั้น พระองค์สูง ๙๐ ศอก มีพระรัศมีเปล่งปลั่งดัง
ทองคำล้ำค่า ส่องสว่างจ้าไปในหมื่นโลกธาตุ ขณะนั้น มนุษย์มีอายุ
เก้าหมื่นปี พระองค์ดำรงพระชนมายุอยู่เท่านั้น ทรงช่วยหมู่ชนให้
ข้ามพ้นวัฏสงสารได้มากมาย พระสัมพุทธเจ้าทรงช่วยคนที่ควรข้าม
ให้ข้าม ทรงช่วยคนที่ควรตรัสรู้ให้ตรัสรู้ แล้วเสด็จปรินิพพาน
เหมือนพระจันทร์ดับ พระขีณาสพเหล่านั้น และพระพุทธเจ้าผู้ไม่
มีใครเปรียบพระองค์นั้น แสดงรัศมีอันไม่มีอะไรเสมอเหมือนแล้ว
นิพพาน ญาณและรัตนตรัยอันไม่มีอะไรเทียบเคียงเหล่านั้นหายไป
หมดสิ้น สังขารทั้งปวงว่างเปล่าหนอ พระสุมนพุทธเจ้าผู้ทรงยศ
เสด็จนิพพาน ณ อังคาราม พระสถูปของพระองค์สูง ๔ โยชน์
ประดิษฐานอยู่ ณ อังคารามนั้นแล.
จบสุมนพุทธวงศ์ที่ ๕
เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๓๓ บรรทัดที่ ๗๓๗๙-๗๔๔๐ หน้าที่ ๓๑๖-๓๑๘.
https://84000.org/tipitaka/v.php?B=33&A=7379&Z=7440&pagebreak=0
ฟังเนื้อความพระไตรปิฎก : [คลิกเพื่อฟัง]
อ่านเทียบพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาฯ :-
https://84000.org/tipitaka/m_siri.php?B=33&siri=196
ศึกษาอรรถกถานี้ได้ที่ :-
https://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=33&i=185
สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๓๓
https://84000.org/tipitaka/read/?index_33