บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ |
บทว่า ปุฏฺฐํ แก้เป็น ปุจฺฉิตํ แปลว่า เพื่อจะทูลถาม. บทว่า กถํ ชาเนมุ แก้เป็น กถํ ชาเนยฺยาม แปลว่า ไฉน ข้าพระองค์จักทราบ. พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสตอบว่า แสงสว่างทั้งหลายในโลกมีอยู่ ๔ อย่าง แสงสว่างที่ ๕ มิได้มีในโลกนี้ ดวงอาทิตย์สว่างในกลางวัน ดวงจันทร์ สว่างในกลางคืน อนึ่ง ไฟย่อมรุ่งเรืองในกลางวันและ กลางคืนทุกหนแห่ง พระสัมมาสัมพุทธเจ้าประเสริฐกว่า แสงสว่างทั้งหลาย แสงสว่างของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นแสงสว่างอย่างเยี่ยม. บทว่า ทิวารตฺตึ แปลว่า ในกลางวันและกลางคืน. บทว่า ตตฺถ ตตฺถ แปลว่า ทุกหนแห่ง คือสว่างไสวในที่นั้นๆ นั่นแหละ. บทว่า เอสา อาภา แปลว่า แสงสว่างของพระพุทธเจ้านี้. ถามว่า แสงสว่างของพระพุทธเจ้านี้ เป็นไฉน. ตอบว่า แสงสว่างแม้ทั้งปวงเหล่านี้ คือแสงสว่างคือฌานก็ตาม แสงสว่างคือปีติก็ตาม แสงสว่างคือปสาทะก็ตาม แสงสว่างคือธรรมกถาก็ตาม จงยกไว้ แสงสว่างอันเกิดขึ้นเพราะความปรากฏแห่งพระพุทธเจ้าทั้งหลายชื่อว่าแสงสว่างแห่งพระพุทธเจ้า แสงสว่างนี้เท่านั้นยอดเยี่ยม ประเสริฐสูงสุดกว่าแสงสว่างทั้งหมด ไม่มีแสงสว่างอื่นเทียบได้ ดังนี้แล. จบอรรถกถาปัชโชตสูตรที่ ๖ ----------------------------------------------------- .. อรรถกถา สังยุตตนิกาย สคาถวรรค เทวตาสังยุต สัตติวรรคที่ ๓ ปัชโชตสูตรที่ ๖ จบ. |