จตุรงคินีเสนา กองทัพมีกำลัง ๔ เหล่า คือ เหล่าช้าง เหล่าม้า เหล่ารถ เหล่าราบ
เจ้าอธิการแห่งเสนาสนะ ภิกษุผู้มีหน้าที่เกี่ยวกับเสนาสนะ แยกเป็น ๒ คือ ผู้แจกเสนาสนะให้ภิกษุถือ (เสนาสนคาหาปก) และ ผู้แต่งตั้งเสนาสนะ (เสนาสนปัญญาปก)
ธรรมเสนา กองทัพธรรม, กองทัพพระสงฆ์ผู้ประกาศพระศาสนา
ธรรมเสนาบดี แม่ทัพธรรม, ผู้เป็นนายทัพธรรม เป็นคำเรียกยกย่องพระสารีบุตร ซึ่งเป็นกำลังใหญ่ของพระศาสนาในการประกาศพระศาสนา
เสนา กองทัพ ในครั้งโบราณหมายถึงพลช้าง พลม้า พลรถ พลเดินเท้า เรียกว่า จตุรงคินีเสนา (เสนามีองค์ ๔ หรือ เสนา ๔ เหล่า)
เสนานิคม ชื่อหมู่บ้านในตำบลอุรุเวลา นางสุชาดาผู้ถวายข้าปายาสแด่พระมหาบุรุษ ในวันที่จะตรัสรู้ อยู่ที่หมู่บ้านนี้
เสนามาตย์ ข้าราชการฝ่ายทหารและพลเรือน
เสนามาร กองทัพมาร, ทหารของพระยามาร
เสนาสนะ เสนะ ที่นอน + อาสนะ ที่นั่ง หมายเอาที่อยู่อาศัย เช่น กุฏิ วิหาร และเครื่องใช้เกี่ยวกับสถานที่ เช่น โต๊ะ เก้าอี้ แม้โคนไม้ เมื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัย ก็เรียกเสนาสนะ
เสนาสนขันธกะ ชื่อขันธกะที่ ๖ แห่งจุลวรรค ในพระวินัยปิฎก ว่าด้วยเรื่องเสนาสนะ
เสนาสนคาหาปกะ ผู้ให้ถือเสนาสนะ หมายถึง ภิกษุผู้ได้รับสมมติ คือแต่งตั้งจากสงฆ์ ให้เป็นผู้ทำหน้าที่จัดแจกเสนาสนะของสงฆ์
เสนาสนปัจจัย ปัจจัยคือเสนาสนะ, เครื่องอาศัยของชีวิต คือที่อยู่ เป็นอย่างหนึ่งในปัจจัยสี่
เสนาสนปัญญาปกะ ผู้แต่งตั้งเสนาสนะ หมายถึง ภิกษุผู้ได้รับสมมติ คือแต่งตั้งจากสงฆ์ ให้เป็นผู้มีหน้าที่จัดแจงแต่งตั้งดูแลความเรียบร้อยแห่งเสนาสนะ สำหรับภิกษุทั้งหลายจะได้เข้าพักอาศัย
เสนาสนวัตร ธรรมเนียมหรือข้อที่ภิกษุควรปฏิบัติเกี่ยวกับเสนาสนะ เช่น ไม่ทำเปรอะเปื้อน รักษาความสะอาด จัดวางของให้เป็นระเบียบเรียบร้อย ใช้สอยระวัง ไม่ทำให้ชำรุด และเก็บของใช้ไม่ให้กระจัดกระจายสับสนกับที่อื่น เป็นต้น
เสนาสนะป่า เสนาสนะอันอยู่ไกลจากบ้านคนอย่างน้อย ๒๕ เส้น
|