ขอนอบน้อมแด่
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
                      พระองค์นั้น
บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ
     ฉบับภาษาไทย   บาลีอักษรไทย   บาลีอักษรโรมัน 
อ่านหัวข้อแรกอ่านหัวข้อที่แล้วแสดงหมายเลขหน้า
ในกรณี :- 
   บรรทัดแรกของแต่ละหน้าอ่านหัวข้อถัดไปอ่านหัวข้อสุดท้าย
พระไตรปิฎกเล่มที่ ๓๗ พระอภิธรรมปิฎกเล่มที่ ๔ กถาวัตถุปกรณ์
             [๗๗๙] สกวาที บุคคลที่ ๘ ไม่มีสัทธินทรีย์ หรือ?
             ปรวาที ถูกแล้ว
             ส. บุคคลที่ ๘ ไม่มีศรัทธา หรือ?
             ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
             [๗๘๐] ส. บุคคลที่ ๘ ไม่มีวิริยินทรีย์ ฯลฯ ไม่มีสตินทรีย์ ฯลฯ ไม่มีสมาธินทรีย์ ฯลฯ
ไม่มีปัญญินทรีย์ หรือ?
             ป. ถูกแล้ว
             ส. บุคคลที่ ๘ ไม่มีปัญญา หรือ?
             ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
             [๗๘๑] ส. บุคคลที่ ๘ มีศรัทธา หรือ?
             ป. ถูกแล้ว
             ส. บุคคลที่ ๘ มีสัทธินทรีย์ หรือ?
             ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
             ส. บุคคลที่ ๘ มีวิริยะ ฯลฯ มีสติ ฯลฯ มีสมาธิ ฯลฯ มีปัญญา หรือ?
             ป. ถูกแล้ว
             ส. บุคคลที่ ๘ มีปัญญินทรีย์ หรือ?
             ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
             [๗๘๒] ส. บุคคลที่ ๘ มีมโน มีมนินทรีย์ หรือ?
             ป. ถูกแล้ว
             ส. บุคคลที่ ๘ มีศรัทธา มีสัทธินทรีย์ หรือ?
             ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
             ส. บุคคลที่ ๘ มีมโน มีมนินทรีย์ หรือ?
             ป. ถูกแล้ว
             ส. บุคคลที่ ๘ มีปัญญา มีปัญญินทรีย์ หรือ?
             ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
             [๗๘๓] ส. บุคคลที่ ๘ มีโสมนัส มีโสมนัสสินทรีย์ ฯลฯ มีชีวิต มีชีวิตินทรีย์ หรือ?
             ป. ถูกแล้ว
             ส. บุคคลที่ ๘ มีศรัทธา มีสัทธินทรีย์ หรือ?
             ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
             ส. บุคคลที่ ๘ มีชีวิต มีชีวิตินทรีย์ หรือ?
             ป. ถูกแล้ว
             ส. บุคคลที่ ๘ มีวิริยะ ฯลฯ มีปัญญา มีปัญญินทรีย์ หรือ?
             ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
             [๗๘๔] ส. บุคคลที่ ๘ มีศรัทธา แต่ไม่มีสัทธินทรีย์ หรือ?
             ป. ถูกแล้ว
             ส. บุคคลที่ ๘ มีมโน แต่ไม่มีมนินทรีย์ หรือ?
             ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
             [๗๘๕] ส. บุคคลที่ ๘ มีศรัทธา แต่ไม่มีสัทธินทรีย์ หรือ?
             ป. ถูกแล้ว
             ส. บุคคลที่ ๘ มีโสมนัส แต่ไม่มีโสมนัสสินทรีย์ ฯลฯ มีชีวิต แต่ไม่มี
ชีวิตินทรีย์ หรือ?
             ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
             [๗๘๖] ส. บุคคลที่ ๘ มีปัญญา แต่ไม่มีปัญญินทรีย์ หรือ?
             ป. ถูกแล้ว
             ส. บุคคลที่ ๘ มีมโน แต่ไม่มีมนินทรีย์ ฯลฯ มีโสมนัส แต่ไม่มีโสมนัส
สินทรีย์ ฯลฯ มีชีวิต แต่ไม่มีชีวิตินทรีย์ หรือ?
             ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
             [๗๘๗] ส. บุคคลที่ ๘ ไม่มีสัทธินทรีย์ หรือ?
             ป. ถูกแล้ว
             ส. บุคคลที่ ๘ เป็นผู้ไม่มีศรัทธา หรือ?
             ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
             ส. บุคคลที่ ๘ ไม่มีวิริยินทรีย์ หรือ?
             ป. ถูกแล้ว
             ส. บุคคลที่ ๘ เป็นผู้เกียจคร้าน ละความเพียร หรือ?
             ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
             ส. บุคคลที่ ๘ ไม่มีสตินทรีย์ หรือ?
             ป. ถูกแล้ว
             ส. บุคคลที่ ๘ เป็นผู้ลืมสติ ไม่มีสัมปชัญญะ หรือ?
             ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
             ส. บุคคลที่ ๘ ไม่มีสมาธินทรีย์ หรือ?
             ป. ถูกแล้ว
             ส. บุคคลที่ ๘ เป็นผู้ไม่มีสมาธิ มีจิตวอกแวก หรือ?
             ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
             [๗๘๘] ส. บุคคลที่ ๘ ไม่มีปัญญินทรีย์ หรือ?
             ป. ถูกแล้ว
             ส. บุคคลที่ ๘ เป็นผู้มีปัญญาทราม บ้าน้ำลาย (โง่เขลา) หรือ?
             ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
             [๗๘๙] ส. บุคคลที่ ๘ มีศรัทธา และศรัทธานั้นเป็นนิยยานิกะ (เครื่องนำออกไป)
หรือ?
             ป. ถูกแล้ว
             ส. หากว่า บุคคลที่ ๘ มีศรัทธา และศรัทธานั้นเป็นนิยยานิกะก็ต้องไม่
กล่าวว่า บุคคลที่ ๘ ไม่มีสัทธินทรีย์
             ส. บุคคลที่ ๘ มีวิริยะ และวิริยะนั้นเป็นนิยยานิกะ ฯลฯ มีสติ และสติ
นั้นเป็นนิยยานิกะ ฯลฯ มีสมาติ และสมาธินั้นเป็นนิยยากะ ฯลฯ มี
ปัญญา และปัญญานั้นเป็นนิยยานิกะ หรือ?
             ป. ถูกแล้ว
             ส. หากว่า บุคคลที่ ๘ มีปัญญา และปัญญานั้นเป็นนิยยานิกะก็ต้องไม่
กล่าวว่า บุคคลที่ ๘ ไม่มีปัญญินทรีย์
             [๗๙๐] ส. บุคคลผู้ปฏิบัติเพื่อกระทำให้แจ้งซึ่งสกทาคามิผล มีศรัทธา มีสัทธินทรีย์
หรือ?
             ป. ถูกแล้ว
             ส. บุคคลที่ ๘ มีศรัทธา มีสัทธินทรีย์ หรือ?
             ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
             ส. บุคคลผู้ปฏิบัติเพื่อกระทำให้แจ้งซึ่งสกทาคามิผล มีปัญญา มีปัญญินทรีย์
หรือ?
             ป. ถูกแล้ว
             ส. บุคคลที่ ๘ มีปัญญา มีปัญญินทรีย์ หรือ?
             ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
             [๗๙๑] ส. บุคคลผู้ปฏิบัติเพื่อกระทำให้แจ้งซึ่งอนาคามิผล ฯลฯ บุคคลผู้ปฏิบัติเพื่อ
กระทำให้แจ้งซึ่งอรหัตผล มีศรัทธา มีสัทธินทรีย์ ฯลฯ มีปัญญา
มีปัญญินทรีย์ หรือ?
             ป. ถูกแล้ว
             ส. บุคคลที่ ๘ มีปัญญา มีปัญญินทรีย์ หรือ?
             ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
             [๗๙๒] บุคคลที่ ๘ มีศรัทธา แต่ไม่มีสัทธินทรีย์ หรือ?
             ป. ถูกแล้ว
             ส. บุคคลผู้ปฏิบัติเพื่อกระทำให้แจ้งซึ่งสกทาคามิผล มีศรัทธา แต่ไม่มี
สัทธินทรีย์ หรือ?
             ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
             ส. บุคคลที่ ๘ มีปัญญา แต่ไม่มีปัญญินทรีย์ หรือ?
             ป. ถูกแล้ว
             ส. บุคคลผู้ปฏิบัติเพื่อกระทำให้แจ้งซึ่งสกทาคามิผล มีปัญญา แต่ไม่มีปัญ
ญินทรีย์ หรือ?
             ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
             [๗๙๓] ส. บุคคลที่ ๘ มีศรัทธา แต่ไม่มีสัทธินทรีย์ ฯลฯ มีปัญญา แต่ไม่มีปัญญินทรีย์
หรือ?
             ป. ถูกแล้ว
             ส. บุคคลผู้ปฏิบัติเพื่อกระทำให้แจ้งซึ่งอนาคามิผล ฯลฯ บุคคลผู้ปฏิบัติเพื่อ
กระทำให้แจ้งซึ่งอรหัตผล มีปัญญา แต่ไม่มีปัญญินทรีย์ หรือ?
             ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
             [๗๙๔] ส. บุคคลที่ ๘ ไม่มีอินทรีย์ ๕ หรือ?
             ป. ถูกแล้ว
             ส. พระผู้มีพระภาคได้ตรัสไว้ว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย อินทรีย์นี้ ๕ ประการ,
๕ ประการ เป็นไฉน สัทธินทรีย์ ๑ วิริยินทรีย์ ๑ สตินทรีย์ ๑
สมาธินทรีย์ ๑ ปัญญินทรีย์ ๑ อินทรีย์ ๕ ประการฉะนี้แล, ดูกร
ภิกษุทั้งหลาย เพราะความเต็มบริบูรณ์แห่งอินทรีย์ ๕ ประการนี้แล
จึงเป็นพระอรหันต์ เพลากว่านั้น ก็เป็นผู้ปฏิบัติเพื่อกระทำให้แจ้ง
ซึ่งอรหัตผล เพลากว่านั้น ก็เป็นพระอนาคามี เพลากว่านั้น ก็เป็น
ผู้ปฏิบัติเพื่อกระทำให้แจ้งซึ่งอนาคามิผล เพลากว่านั้นก็เป็นพระ
สกทาคามี เพลากว่านั้นก็เป็นผู้ปฏิบัติเพื่อทำให้แจ้ง ซึ่งสกทาคา
มิผล เพลากว่านั้น ก็เป็นพระโสดาบัน เพลากว่านั้น ก็เป็นผู้ปฏิบัติ
เพื่อกระทำให้แจ้งซึ่งโสดาปัตติผล ดูกรภิกษุทั้งหลาย ผู้ใดแล ไม่
มีอินทรีย์ ๕ ประการนี้เสียเลย โดยประการทั้งปวง เราเรียกผู้นั้นว่า
เป็นคนภายนอก เป็นผู้ตั้งอยู่ในฝ่ายปุถุชน ดังนี้ ๑- เป็นสูตรมีอยู่จริง
มิใช่หรือ?
             ป. ถูกแล้ว
             ส. บุคคลที่ ๘ เป็นคนภายนอก เป็นผู้ตั้งอยู่ในฝ่ายปุถุชน หรือ?
             ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
             ส. ถ้าอย่างนั้น บุคคลที่ ๘ ก็มีอินทรีย์ ๕ น่ะสิ
อัฏฐมกัสส อินทริยกถา จบ.
@๑. สํ. มหาวาร. ข้อ ๘๘๘, ๘๘๙ หน้า ๒๖๗
ทิพพจักขุกถา

             เนื้อความพระไตรปิฎกเล่มที่ ๓๗ บรรทัดที่ ๘๐๖๘-๘๑๙๙ หน้าที่ ๓๓๓-๓๓๙. https://84000.org/tipitaka/read/v.php?B=37&A=8068&Z=8199&pagebreak=0 https://84000.org/tipitaka/read/byitem.php?book=37&item=779&items=16&mode=bracket              อ่านโดยใช้เนื้อความเป็น เกณฑ์แบ่งข้อ :- https://84000.org/tipitaka/read/byitem.php?book=37&item=779&items=16              อ่านเทียบพระไตรปิฎกภาษาบาลีอักษรไทย :- https://84000.org/tipitaka/pali/pali_item.php?book=37&item=779&items=16&mode=bracket              อ่านเทียบพระไตรปิฎกภาษาบาลีอักษรโรมัน :- https://84000.org/tipitaka/read/roman_item.php?book=37&item=779&items=16&mode=bracket              ศึกษาอรรถกถานี้ที่ :- https://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=37&i=779              สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๓๗ https://84000.org/tipitaka/read/?index_37 https://84000.org/tipitaka/english/?index_37

อ่านหัวข้อแรกอ่านหัวข้อที่แล้วแสดงหมายเลขหน้า
ในกรณี :- 
   บรรทัดแรกของแต่ละหน้าอ่านหัวข้อถัดไปอ่านหัวข้อสุดท้าย

บันทึก ๑ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๔๖. บันทึกล่าสุด ๓๐ มกราคม พ.ศ. ๒๕๔๙. การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจากพระไตรปิฎก ฉบับหลวง. หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]