อรรถกถา กันทคลกชาดกว่าด้วย นกหัวขวานตายเพราะไม้แก่น
พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ ณ พระเวฬุวันมหาวิหาร ทรงปรารภภิกษุเลียนเอาอย่างพระสุคต ตรัสพระธรรมเทศนานี้ มีคำเริ่มต้นว่า อมฺโภ โกนามยํ ลุทฺโท ดังนี้.
เรื่องย่อมีอยู่ว่า ในครั้งนั้น พระศาสดาทรงสดับว่า พระเทวทัตได้เลียนเอาอย่างพระสุคต จึงตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เทวทัตเลียนอย่างเรา ถึงความพินาศ มิใช่ในบัดนี้เท่านั้น แม้เมื่อก่อน เทวทัตก็ได้ถึงความพินาศมาแล้ว
ทรงนำเรื่องอดีตมาตรัสเล่า.
ในอดีตกาล ครั้งพระเจ้าพรหมทัตเสวยราชสมบัติอยู่ในกรุงพาราณสี
พระโพธิสัตว์บังเกิดในกำเนิดนกหัวขวาน ในหิมวันตประเทศ เที่ยวหาอาหารในป่าไม้ตะเคียน.
นกหัวขวานนั้นมีชื่อว่าขทิรวนิยะ มีนกสหายตัวหนึ่งชื่อกันทคลกะ
นกกันทคลกะเที่ยวหากินอยู่ในป่าไม้ทองหลาง.
วันหนึ่ง นกกันทคลกะได้ไปหานกขทิรวนิยะ
นกขทิรวนิยะดีใจว่าสหายของเรามาแล้ว จึงพานกกันทคลกะเข้าไปยังป่าไม้ตะเคียน
ใช้จะงอยปากเคาะลำต้นตะเคียน ได้ตัวสัตว์ออกจากต้นไม้นั้นมาให้.
นกกันทคลกะจิกกินสัตว์ที่สหายให้แล้วๆ เล่าๆ ดุจขนมอร่อย.
เมื่อนกกันทคลกะจิกกินอยู่นั้น จึงเกิดมานะขึ้นว่า นกขทิรวนิยะแม้นี้ก็เกิดในกำเนิดนกหัวขวาน
แม้เราก็เกิดในกำเนิดเดียวกัน ทำไมเราจะต้องอาศัยเหยื่อที่เขาให้เล่า เราจักหาเหยื่อในป่าตะเคียนเอง.
นกกันทคลกะกล่าวกะนกขทิรวนิยะว่า สหายท่าน อย่าลำบากเลย เรานี่แหละจักหากินในป่าตะเคียนเอง.
ลำดับนั้น นกขทิรวนิยะจึงกล่าวว่า ดูก่อนสหายท่าน ด้วยการหากินในป่าไม้ไม่มีแก่น เช่นไม้งิ้วและไม้ทองหลางเป็นต้น
ส่วนไม้ตะเคียนเป็นไม้แก่นแข็ง จะทำอย่างนั้นรู้สึกไม่พอใจเราเลย.
นกกันทคลกะกล่าวว่า เรามิได้เกิดในกำเนิดนกหัวขวานดอกหรือ ไม่เชื่อคำของนกขทิรวนิยะ ผลุนผลันไป เอาจะงอยเคาะต้นตะเคียน.
ทันใดนั้นเอง จะงอยปากของนกกันทคลกะหักทันที ตาทะเล้น หัวแตกไม่อาจจับอยู่บนยอดไม้นั้นได้ ตกลงพื้นดิน กล่าวคาถาแรกว่า :-
ดูก่อนผู้เจริญ ต้นไม้ที่มีใบละเอียด มีหนามนี้เป็นต้นไม้อะไร
เราเจาะเพียงครั้งเดียว ทำให้สมองศีรษะแตกได้.
ในบทเหล่านั้น บทว่า อมฺโภ โก นามยํ รุกฺโข ความว่า ดูก่อนนกขทิรวนิยะผู้เจริญ ต้นไม้นี้ชื่อไม้อะไร. บาลีว่า โกนามโส บ้าง.
บทว่า สินฺนปตฺโต คือใบละเอียด.
บทว่า ยตฺถ เอกปฺปหาเรน ได้แก่ด้วยการเจาะครั้งเดียวที่ต้นไม้.
บทว่า อุตฺตมงฺคํ วิสาฏิตํ ได้แก่หัวแตก ไม่เพียงหัวเท่านั้น แม้จะงอยปากก็หัก.
นกกันทคลกะไม่สามารถจะรู้จักต้นตะเคียนว่าเป็นต้นอะไร เพราะเจ็บปวดมาก ได้รับเวทนา จึงพร่ำเพ้อด้วยคาถานี้.
นกขทิรวนิยะฟังคำเพ้อของนกกันทคลกะ แล้วจึงกล่าวคาถาที่ ๒ ว่า :-
นกกันทคลกะ เมื่อเจาะหมู่ไม้อยู่ในป่า ได้เคยเที่ยวเจาะแต่ไม้แห้งที่ไม่มีแก่น
ภายหลังมาพบเอาต้นตะเคียนซึ่งมีกำเนิดเป็นไม้แก่นอัน เป็นที่ทำลายสมองศีรษะ.
ในบทเหล่านั้น บทว่า อจาริ วตายํ ได้แก่ นกกันทคลกะนี้ได้เที่ยวไป.
บทว่า วิตุทํ วนานิ ความว่า เจาะ คือจิกไม้ไม่มีแก่น เช่นงิ้ว ทองหลาง เป็นต้น.
บทว่า กฏฺฐงฺครุกฺเขสุ ได้แก่ไม้แห้ง.
บทว่า อสารเกสุ ได้แก่ไม้ไม่มีแก่น มีทองหลางและงิ้วเป็นต้น.
บทว่า อถาสทา ขทิรํ ชาตสารํ ความว่า ภายหลังมาพบต้นตะเคียน มีแก่นออกมาตั้งแต่ยังเล็ก.
บทว่า ยตฺถพฺภิทา ในบทว่า ยตฺถพฺภิทา ครุโฬ อุตฺตมงฺคํ ได้แก่เจาะ คือจิกที่ต้นไม้ใด.
นกขทิรวนิยะพูดกะนกกันทคลกะนั้นว่า ดูก่อนกันทคลกะผู้เจริญ ต้นตะเคียนนี้เป็นไม้แก่นที่ทำลายสมองศีรษะ. นกกันทคลกะได้ถึงแก่ความตายในที่นั้นเอง.
พระศาสดาทรงนำพระธรรมเทศนานี้มาแล้ว ทรงประชุมชาดก.
กันทคลกะในครั้งนั้น ได้เป็น เทวทัต. ในครั้งนี้
ส่วนนกขทิรวนิยะ คือ เราตถาคต นี้แล.
จบ อรรถกถากันทคลกชาดกที่ ๑๐
รวมชาดกที่มีในวรรคนี้ คือ
๑. พันธนาคารชาดก ว่าด้วย เครื่องผูก
๒. เกฬิสิลชาดก ว่าด้วย ปัญญาสำคัญกว่าร่างกาย
๓. ขันธปริตตชาดก ว่าด้วย พระปริตต์ป้องกันสัตว์ร้ายต่างๆ
๔. วีรกชาดก ว่าด้วย โทษการเอาอย่างผู้อื่น
๕. คังเคยยชาดก ว่าด้วย ผู้ชอบโอ้อวด
๖. กุรุงคมิคชาดก ว่าด้วย การร่วมมือกัน
๗. อัสสกชาดก ว่าด้วย ไม่รู้ของจริงเพราะมีสิ่งใหม่ๆ ปิดไว้
๘. สุงสุมารชาดก ว่าด้วย ผู้มีปัญญาไม่สมกับตัว
๙. กักกรชาดก ว่าด้วย ผู้ฉลาดเอาตัวรอดได้
๑๐. กันทคลกชาดก ว่าด้วย นกหัวขวานตายเพราะไม้แก่น
จบ นตังทัฬหวรรคที่ ๖ -----------------------------------------------------.. อรรถกถา กันทคลกชาดก จบ.
อ่าน เนื้อความในพระไตรปิฎก http://84000.org/tipitaka/atita100/v.php?B=27&A=1572&Z=1588 - -- ---- ----------------------------------------------------------------------------
ดาวน์โหลด พระไตรปิฎกฉบับธรรมทาน
บันทึก ๘ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๔๘
หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]
|