บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ |
บทว่า เอกมูลํ ได้แก่ อวิชชาเป็นราก (มูล) แห่ง ก็ตัณหานั้นย่อมหมุนเป็นไปสองอย่าง คือ ด้วยสัสสตทิฏฐิและอุจเฉททิฏฐิ เพราะเหตุนั้น ตัณหานั้นจึงชื่อว่ามีความหมุนเป็นสอง. ตัณหานั้น ชื่อว่ามีมลทินสามมีราคะเป็นต้น. โมหะก็ชื่อว่ามีมลทินในที่นั้น เพราะเป็นเงื่อนแห่งสหชาตของตัณหานั้น. ราคะโทสะมีกามคุณห้าเป็นเครื่องลาดของตัณหานั้น เพราะเป็นเงื่อนแห่งอุปนิสสยะ (คือที่อาศัยอย่างมั่นคง). ตัณหานั้นแหละแผ่ไปในธรรมเหล่านั้น เพราะเหตุนั้น จึงชื่อว่ามีเครื่องลาด ๕. ก็ตัณหานั้นแหละ ชื่อว่าเป็นสมุทร (ทะเล) เพราะอรรถว่าไม่รู้จักเต็ม. ตัณหานั้นย่อมหมุนเวียนเปลี่ยนไปในอายตนะ ๑๒ ทั้งภายในและภายนอก เพราะเหตุนั้น ตัณหานั้นจึงชื่อว่าหมุนไปได้ ๑๒ ด้าน. ก็ตัณหานั้น ท่านเรียกว่าบาดาล เพราะอรรถว่าไม่ตั้งมั่น. ฤาษีข้ามแล้ว ข้ามขึ้นแล้ว ย่อมก้าวล่วงซึ่งบาดาล (ตัณหา) นั้นซึ่งมีรากเดียว ฯลฯ. จบอรรถกถาเอกมูลสูตรที่ ๔ ----------------------------------------------------- .. อรรถกถา สังยุตตนิกาย สคาถวรรค เทวตาสังยุต อาทิตตวรรคที่ ๕ เอกมูลสูตรที่ ๔ จบ. |