บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ |
ในคำว่า กิสฺมึ โลโก สมุปฺปนฺโน นี้เทวดาทูลถามว่า เมื่ออะไรเกิดขึ้น โลกจึงเกิดขึ้น. บทว่า ฉสุ นี้ พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสตอบว่า เมื่ออายตนะภายใน ๖ เกิดขึ้น โลกจึงเกิดขึ้น. บทว่า ฉสุ กุพฺพติ ได้แก่ ย่อมทำความชมเชยในอายตนะ ๖ เหล่านั้นนั่นแหละ. บทว่า อุปาทาย อธิบายว่า ก็โลกยึดถือ คืออาศัยแล้ว เกี่ยวเนื่องแล้วซึ่งอายตนะเหล่านั้นนั่นแหละเป็นไป. บทว่า วิหญฺญติ แปลว่า ย่อมเดือดร้อน คือย่อมบีบคั้นในเพราะอายตนะ ๖ เหล่านั้นนั่นเอง. อธิบายว่า ปัญหานี้มาด้วยสามารถแห่งอายตนะอันเป็นภายในด้วยประการฉะนี้ ส่วนการนำมาด้วยสามารถแห่งอายตนะทั้งภายในและภายนอก ก็ย่อมสมควร. เพราะว่า เมื่ออายตนะภายใน ๖ เกิดขึ้นแล้ว อายตนะภายนอกนี้ก็ชื่อว่าเกิดขึ้นแล้ว ดังนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงตรัสว่า โลกย่อมทำความชมเชยในอายตนะภายนอก ๖ โลกยึดถืออายตนะภายใน ๖ โลกย่อมเดือดร้อนในเพราะอายตนะภายนอก ๖ ดังนี้. จบอรรถกถาโลกสูตรที่ ๑๐ จบอันธวรรคที่ ๗ ----------------------------------------------------- พระสูตรที่กล่าวในอันธวรรคนั้น คือ ๑. นามสูตร ๒. จิตตสูตร ๓. ตัณหาสูตร ๔. สัญโญชนสูตร ๕. พันธนสูตร ๖. อัพภาหตสูตร ๗. อุฑฑิตสูตร ๘. ปิหิตสูตร ๙. อิจฉาสูตร ๑๐. โลกสูตร. .. อรรถกถา สังยุตตนิกาย สคาถวรรค เทวตาสังยุต อันธวรรคที่ ๗ โลกสูตรที่ ๑๐ จบ. |