บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ |
บทว่า ยาวตา ภิกฺขเว สตฺตาวาสา ความว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ชื่อว่าสัตตาวาส มีอยู่ประมาณเท่าใด. บทว่า ยาวตา ภวคฺคํ ความว่า ชื่อว่าภวัคคพรหม (พรหมสถิตย์อยู่ในภพสูงสุด) มีอยู่ประมาณเท่าใด. บทว่า เอเต อคฺคา เอเต เสฏฺฐา ความว่า พระอรหันต์ทั้งหลายเหล่านั้นนับว่า เป็นเลิศและประเสริฐที่สุด. บทว่า ยทิทํ อรหนฺโต คือ เยเมว๑- อรหนฺโต นาม (แปลว่า ชื่อว่า พระอรหันต์เหล่านี้ใดแล) แม้พระสูตรนี้ ก็พึงทราบว่า เพิ่มพูนความยินดีและเร้าใจโดยนัยก่อนนั่นแล. ____________________________ ๑- ปาฐะว่า เยเมว ฉบับพม่าเป็น เย อิเม บทว่า อถาปรํ เอตทโวจ ความว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสพระดำรัสนั่น คือพระดำรัสมีอาทิว่า สุขิโน วต อรหนฺโต (พระอรหันต์ทั้งหลายเป็นสุขแท้หนอ) ด้วยคาถาทั้งหลายที่กำหนดแสดงความหมายนั้น และที่กำหนดแสดงความหมายพิเศษ. คุณสมบัติพิเศษของพระอรหันต์ บทว่า ตณฺหา เตสํ น วิชฺชติ ความว่า พระอรหันต์เหล่านั้นไม่มีตัณหาที่เป็นตัวการให้เกิดทุกข์ (ที่จะต้องได้รับ) ในอบาย. พระอรหันต์เหล่านั้น ชื่อว่าเป็นสุขแท้ทีเดียว เพราะไม่มีทุกข์ที่มีตัณหาเป็นมูลแม้นี้ด้วยประการฉะนี้. บทว่า อสฺมิมาโน สมุจฺฉินฺโน ความว่า อัสมิมานะ (ความสำคัญว่า เรามีอยู่) ๙ อย่าง (พระอรหันต์) ตัดได้ขาดแล้วด้วยอรหัตตมรรค. บทว่า โมหชาลํ ปทาลิตํ ความว่า ข่ายคือกิเลส (พระอรหันต์) ทำลายแล้วด้วยญาณ. บทว่า อเนชํ ได้แก่ พระอรหัตต์เป็นเครื่องละตัณหา กล่าวคือเอชา.๒- ____________________________ ๒- ปาฐะว่า อเนชาสงฺขาตาย แต่ฉบับพม่าเป็น เอชาสงฺขาตาย แปลตามฉบับพม่า. บทว่า อนุปลิตฺตา ได้แก่ (พระอรหันต์) ไม่ถูกฉาบไล้ ด้วยเครื่องฉาบไล้ คือ ตัณหาและทิฏฐิ. บทว่า พฺรหฺมภูตา แปลว่า ประเสริฐที่สุด. บทว่า ปริญฺญาย ได้แก่ กำหนดรู้แล้วด้วยปริญญา ๓. ในบทว่า สตฺตสทฺธมฺมโคจรา มีวิเคราะห์ว่า สัทธรรม ๗ ประการเหล่านี้ คือ ศรัทธา ๑ หิริ ๑ โอตตัปปะ ๑ พาหุสัจจะ ๑ ความเป็นผู้ปรารภความเพียร ๑ ความเป็นผู้มีสติตั้งมั่น ๑ ปัญญา ๑ เป็นอารมณ์ของพระอรหันต์เหล่านั้น เหตุนั้น พระอรหันต์เหล่านั้นจึงชื่อว่ามีสัทธรรม ๗ เป็นอารมณ์. บทว่า สตฺตรตนสมฺปนฺนา ได้แก่ ประกอบด้วยรัตนะ คือโพชฌงค์ ๗ ประการ. บทว่า อนุวิจรนฺติ ความว่า แม้เหล่าโลกิยมหาชนก็เที่ยวถามอยู่ร่ำไป. ก็ในสูตรนี้ ท่านมุ่งถึงอาจาระที่ปราศจากข้อระแวงสงสัยของพระขีณาสพทั้งหลาย ด้วยเหตุนั้นแล พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงตรัสว่า ปหีนภยเภรวา (ผู้ละความกลัวธรรมดาและความกลัวขั้นรุนแรงได้แล้ว). ในบทว่า ปหีนภยเภรวา นั้น มีอธิบายว่า ความกลัวขั้นธรรมดา ชื่อว่าภัย. ความกลัวขั้นรุนแรง ชื่อว่าเภรวะ. บทว่า ทสหงฺเคหิ สมฺปนฺนา ได้แก่ ประกอบด้วยองค์ที่เป็นอเสขะ. บทว่า มหานาคา ได้แก่ เป็นมหานาคด้วยเหตุ ๔ ประการ. บทว่า สมาหิตา ได้แก่ (มีใจมั่นคง) ด้วยอุปจารสมาธิและอัปปนาสมาธิ. บทว่า ตณฺหา เตสํ น วิชฺชติ ความว่า พระอรหันต์เหล่านั้นไม่มีแม้ตัณหาที่ทำ (สัตว์โลก) ให้เป็นทาสซึ่งพระรัฐบาลเถระกล่าวไว้อย่างนี้ว่า ขอถวายพระพรมหาบพิตร พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้นตรัสไว้แล้วว่า สัตว์โลกพร่องอยู่ (เป็นนิตย์) ไม่รู้จักอิ่ม เป็นทาสแห่งตัณหาดังนี้แล. พระผู้มีพระภาคเจ้าแสดงภาวะที่พระขีณาสพทั้งหลายเป็นไท ด้วยบทว่า ตณฺหา เตสํ น วิชฺชติ นี้. บทว่า อเสกฺขญาณํ ได้แก่ ญาณในอรหัตตผล. บทว่า อนฺติโมยํ สมุสฺสโย แปลว่า อัตตภาพนี้มีเป็นครั้งสุดท้าย. บทว่า โย สาโร พฺรหฺมจริยสฺส ความว่า ผลชื่อว่า เป็นสาระแห่งพรหมจรรย์คือมรรค. บทว่า ตสฺมึ อปรปจฺจยา ความว่า ดำรงอยู่ในอริยผลนั้น แทงตลอดโดยประจักษ์ (ด้วยตนเอง) ทีเดียวว่า สมบัตินี้ไม่ใช่สมบัติของผู้อื่น. บทว่า วิธาสุ น วิกมฺปนฺติ คือ ไม่หวั่นไหวในส่วนแห่งมานะ ๓. บทว่า ทนฺตภูมึ ได้แก่ อรหัตตผล. บทว่า วิชิตาวิโน ได้แก่ ชำนะกิเลสทั้งหลายมีราคะเป็นต้นอย่างเด็ดขาด. ในบทว่า อุทฺธํ เป็นต้น พึงทราบวินิจฉัยดังต่อไปนี้ :- (ในร่างกาย) ปลายผม พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสเรียกว่าเบื้องบน (อุทฺธํ) ฝ่าเท้า ตรัสเรียกว่าเบื้องล่าง (อปาจี) กลางลำตัว ตรัสเรียกว่าเบื้องขวาง (ติริยํ) (ในอารมณ์) อารมณ์ที่เป็นอดีตตรัสเรียกว่าเบื้องบน อารมณ์ที่เป็นอนาคต ตรัสเรียกว่าเบื้องล่าง อารมณ์ที่เป็นปัจจุบัน ตรัสเรียกว่าเบื้องขวาง. อีกอย่างหนึ่ง (ในโลก) เทวโลก ตรัสเรียกว่าเบื้องบน อบายโลก ตรัสเรียกว่าเบื้องล่าง มนุสสโลก ตรัสเรียกว่าเบื้องขวาง. บทว่า นนฺทิ เตสํ น วิชฺชติ ความว่า พระอรหันต์เหล่านั้นไม่มีตัณหาในฐานะเหล่านั้น หรือเมื่อว่าโดยย่อ (ก็คือ) ไม่มีตัณหาในขันธ์ทั้งหลาย ทั้งที่เป็นอดีตอนาคตและปัจจุบัน. ในสูตรนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดงถึงว่า พระอรหันต์ทั้งหลายไม่มีตัณหาที่เป็นมูลรากของวัฏฏะ บทว่า พุทฺธา ได้แก่ ผู้รู้สัจจะ ๔. ในพระคาถานี้ มีการประมวลสีหนาทดังต่อไปนี้ :- พระขีณาสพทั้งหลายสถิตย์อยู่เบื้องหลังภพ (ผู้ข้ามภพได้แล้ว) ย่อมบันลือสีหนาท๓- กล่าว ____________________________ ๓- ปาฐะว่า นทนฺตขีณาสวานํ โหติ ฉบับพม่าเป็น สีหนาทํ นทนฺติ ขีณาสวา แปลตามฉบับพม่า. จบอรรถกถาอรหันตสูตรที่ ๑ -------------------------------- .. อรรถกถา สังยุตตนิกาย ขันธวารวรรค ขันธสังยุตต์ มัชฌิมปัณณาสก์ ขัชชนิยวรรคที่ ๓ อรหันตสูตรที่ ๑ ว่าด้วยพระอรหันต์เป็นผู้เลิศในโลก จบ. |