บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ |
บทว่า วิมุตฺติปริปาจนียา ความว่า ชื่อว่า วิมุตฺติปริปาจริยา เพราะอรรถว่าบ่มวิมุตติ. บทว่า ธมฺมา ได้แก่ ธรรม ๑๕ ธรรมเหล่านั้นพึงทราบโดยกระทำสัทธินทรีย์เป็นต้นให้หมดจด สมจริงดังคำที่ท่านกล่าวไว้ว่า เมื่อบุคคลเว้นบุคคลผู้ไม่มีศรัทธา เสพ คบ เข้าไปนั่งใกล้บุคคลผู้มีศรัทธา พิจารณาสัมปสาทนียสูตรทั้งหลาย สัทธินทรีย์ย่อมหมดจดด้วยอาการ ๓ เหล่านี้. เมื่อเว้นบุคคลผู้เกียจคร้าน เสพ คบ เข้าไปนั่งใกล้บุคคลผู้ปรารภความเพียร พิจารณาสัมมัปปธานสูตร วิริยินทรีย์ย่อมหมดจด ด้วยอาการ ๓ เหล่านี้. เมื่อเว้นบุคคลผู้มีสติหลงลืม เสพ คบเข้าไปนั่งใกล้บุคคลผู้มีสติตั้งมั่น พิจารณา เมื่อเว้นบุคคลผู้มีจิตไม่ตั้งมั่น เสพ คบเข้าไปนั่งใกล้บุคคลผู้มีปัญญา พิจารณาญาณจริยาการบำเพ็ญญาณอันลึกซึ้ง ปัญญินทรีย์ย่อมหมดจดด้วยอาการ ๓ เหล่านี้. ดังนั้น เมื่อบุคคลเว้นบุคคล ๕ จำพวก เสพ คบ เข้าไปนั่งใกล้บุคคล ๕ จำพวก พิจารณากองแห่งสุตตันตะ ๕ ปัญจินทรีย์เหล่านี้ย่อมหมดจดด้วยอาการ ๑๕ เหล่านี้แล.๑- ____________________________ ๑- ขุ. ปฏิ. เล่ม ๓๑/ข้อ ๔๒๔ ธรรม ๑๕ อีกหมวดหนึ่ง ซึ่งได้ชื่อว่าวิมุตติปริปาจริยา ธรรมบ่มวิมุตติ คือ อินทรีย์ ๕ สัญญาอันเป็นส่วนแห่งธรรมเครื่องตรัสรู้ ๕ คืออนิจจสัญญา ๑ อนิจเจทุกขสัญญา สัญญาในสิ่งไม่เที่ยงว่าเป็นทุกข์ ๑ ทุกเขอนัตตสัญญา สัญญาในทุกข์ว่าเป็นอนัตตา ๑ ปหานสัญญา ๑ วิราคสัญญา ๑ และธรรม ๕ มีกัลยาณมิตตตาที่ตรัสแก่พระเมฆิยเถระ. ถามว่า ก็ในเวลาไรที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงมีพระดำริดังนี้. แก้ว่า ในเวลาใกล้รุ่ง พระองค์ทรงตรวจดูสัตว์โลก. บทว่า อเนกานิ เทวตาสหสฺสานิ ความว่า ก็ในบรรดาเทวดาผู้ตั้งความปรารถนากับท่านพระราหุลผู้ตั้งความปรารถนา ในรัชกาลแห่งพระเจ้าปาลิตนาคราช แทบบาทมูลแห่งพระพุทธเจ้าทรงพระนามว่าปทุมุตตระ บางพวกเกิดเป็นภุมมัฏฐก บทว่า ธมฺมจกฺขุํ ความว่า ในพระสูตรนี้ มรรค ๔ ผล ๔ พึงทราบว่า ธรรมจักขุ. จริงอยู่ในพระสูตรนั้น เทวดาบางพวกได้เป็นพระโสดาบัน บางพวกเป็นพระสกทาคามี บางพวกพระอนาคามี บางพวกพระขีณาสพ. อนึ่ง เทวดาเหล่านั้นนับไม่ได้ว่า มีประมาณเท่านี้. คำที่เหลือในบททั้งปวง ง่ายทั้งนั้น. จบอรรถกถาราหุลสูตรที่ ๘ ----------------------------------------------------- .. อรรถกถา สังยุตตนิกาย สฬายตนวรรค สฬายตนสังยุตต์ โลกกามคุณวรรคที่ ๒ ๘. ราหุลสูตร จบ. |