![]() |
บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ |
![]() |
![]() | |
![]() ![]() ![]() ![]() ![]() อรรถกถาอิจฉานังคลสูตรที่ ๑ ถามว่า ทำไมพระผู้มีพระภาคเจ้าจึงตรัสบอกวิหารสมาบัติ (การเข้าถึงธรรมเครื่องอยู่) ของพระองค์ว่า พวกเธอพึงตอบอย่างนี้เล่า. ตอบว่า เพื่อเปลื้องความติเตียน. จริงอยู่ ถ้าหากพวกภิกษุเหล่านั้นพึงกล่าวว่า พวกเราไม่ทราบ ทีนั้น พวกเดียรถีย์ก็จะพึงยกข้อตำหนิขึ้นแก่ภิกษุเหล่านั้นว่า พวกท่านย่อมไม่ทราบว่า ศาสดาของพวกเราอยู่แล้วตลอดสามเดือน ด้วยสมาบัติชื่อโน้น แล้วก็ทำไม พวกท่านจึงยอมรับใช้ท่านอยู่เล่า เพราะเหตุนั้น จึงตรัสอย่างนั้น เพื่อปลดเปลื้อง. ถามว่า เมื่อเป็นอย่างนั้น ทำไมในที่นี้จึงไม่ตรัสเหมือนที่ตรัสวาอักษร ในที่อื่นว่า มีสติเทียวย่อมหายใจออก หรือเมื่อกำลังหายใจออกยาว ด้วยเล่า. ตอบว่า เพราะความเป็นธรรมสงบอย่างยิ่ง. จริงอยู่ ลมหายใจออกหรือลมหายใจเข้าเป็นสิ่งที่ปรากฏแก่คนเหล่าอื่น สิ่งทั้งสองอย่างนี้เป็นสิ่งที่ปรากฏแก่พระผู้มีพระภาคเจ้า. เพราะความที่ทรงมีพระสติที่ทรงเข้าไปตั้งไว้เป็นนิจ เหตุนี้จึงไม่ตรัสไว้ เพราะความเป็นธรรมสงบอย่างยิ่ง. และเมื่อเป็นอย่างนั้น ทำไมจึงไม่ตรัสว่า สิกฺขามิ (เราย่อมศึกษา) ตรัสแต่เพียงว่า อสฺสสามิ (เราย่อมหายใจออก) เท่านี้เล่า. เพราะไม่มีสิ่งที่จะต้องศึกษา. จริงอยู่ พระเสกขะ ๗ จำพวก ชื่อว่าเป็นผู้ศึกษา เพราะยังมีสิ่งที่จะต้องศึกษา. พระขีณาสพ ชื่อว่าอเสกขะ (ผู้ไม่ต้องศึกษา) เพราะไม่มีสิ่งที่จะต้องศึกษา. พระตถาคตเจ้าทั้งหลายเป็นผู้ไม่ต้องศึกษา จึงชื่อว่าอเสกขะ. กิจที่จะต้องศึกษาของพระอเสกขะเหล่านั้นไม่มี เหตุนี้ จึงไม่ตรัสไว้ เพราะไม่มีกิจที่จะต้องศึกษา. จบอรรถกถาอิจฉานังคลสูตรที่ ๑ ----------------------------------------------------- .. อรรถกถา สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค อานาปานสังยุตต์ ทุติยวรรคที่ ๒ ๑. อิจฉานังคลสูตร จบ. |