ขอนอบน้อมแด่
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
                      พระองค์นั้น
บทนำ  พระวินัยปิฎก  พระสุตตันตปิฎก  พระอภิธรรมปิฎก  ค้นพระไตรปิฎก  ชาดก  หนังสือธรรมะ 
 
อ่านอรรถกถา 2 / 1อ่านอรรถกถา 2 / 298อรรถกถา เล่มที่ 2 ข้อ 304อ่านอรรถกถา 2 / 342อ่านอรรถกถา 2 / 881
อรรถกถา ปาจิตติยกัณฑ์
ปาจิตติย์ มุสาวาทวรรคที่ ๑ สิกขาบทที่ ๘

               มุสาวาทวรรค ภูตาโรจนสิกขาบทที่ ๘               
               พึงทราบวินิจฉัยในสิกขาบทที่ ๘ ดังต่อไปนี้ :-

               [แก้อรรถปฐมบัญญัติ เรื่องภิกษุพวกฝั่งแม่น้ำวัคคุมุทา]               
               คำใดที่ข้าพเจ้าควรจะกล่าวก่อนในวัตถุกถา คำนั้นทั้งหมดมีนัยดังที่กล่าวแล้วในจตุตถปาราชิกวรรณนานั่นแล.
               ส่วนความแปลกกัน ดังต่อไปนี้ :-
               ในจตุตถปาราชิกนั้น พวกภิกษุบอกอุตริมนุสธรรมอันไม่มีจริง, ในสิกขาบทนี้ บอกอุตริมนุสธรรมที่มีจริง. ปุถุชนทั้งหลายบอกอุตริมนุสธรรมแม้ที่มีจริง. อริยเจ้าทั้งหลายไม่บอก. จริงอยู่ ชื่อว่า ปยุตตวาจา (วาจาที่เปล่งเพราะเหตุแห่งท้อง) ไม่มีแก่พระอริยเจ้าทั้งหลาย. แต่เมื่อผู้อื่นบอกคุณของตนเอง ท่านก็ไม่ห้ามคนเหล่าอื่น และยินดีปัจจัยทั้งหลายที่เกิดขึ้น โดยอาการที่ไม่ทราบว่าเกิดขึ้น (เพราะการบอกคุณของตน).
               ก็ในคำว่า อถโข เต ภิกฺขู ภควโต เอตมตฺถํอาโรเจสุํ เป็นต้น บัณฑิตพึงทราบว่า ภิกษุทั้งหลายเหล่าใดกล่าวคุณแห่งอุตริมนุสธรรม ภิกษุเหล่านั้นได้กราบทูลแล้ว.
               พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสถามว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย คุณวิเสสของพวกเธอ มีจริงหรือ? ก็ภิกษุเหล่านั้นแม้ทั้งหมดทูลรับปฏิญาณว่า ข้าแต่พระผู้มีพระภาคเจ้า! มีจริง. เพราะว่า อุตริมนุสธรรมมีจริงในภายใน แม้แห่งพระอริยเจ้าทั้งหลาย เพราะฉะนั้น ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงไม่ตรัสว่า โมฆปุริสา เพราะภิกษุเหล่านั้นปะปนด้วยพระอริยะ ตรัสว่า กถญฺหิ นาม ตุมฺเห ภิกฺขเว แล้ว จึงตรัสคำมีอาทิว่า อุทรสฺส การณา ดังนี้.
               ในคำมีคำว่า กถญฺหิ นาม ตุมฺเห ภิกฺขเว เป็นต้นนั้น เพราะพระอริยเจ้าทั้งหลายฟังคำของคนเหล่าอื่น ถูกพวกชาวบ้านผู้มีความเลื่อมใสถามอยู่ โดยนัยเป็นต้นว่า ข้าแต่ท่านผู้เจริญ! ได้ยินว่า พระผู้เป็นเจ้าเป็นโสดาบันหรือ? ดังนี้ มีปกติเห็นว่าไม่มีโทษ ในเมื่อสิกขาบทที่พระผู้มีพระภาคเจ้ายังไม่ได้ทรงบัญญัติ จึงปฏิญาณการบรรลุคุณวิเสส ของตนและของคนเหล่าอื่น เพราะเป็นผู้มีจิตบริสุทธิ์, และท่านเหล่านั้น เมื่อปฏิญาณอย่างนี้ แม้ยินดีอยู่ซึ่งบิณฑบาตที่ปุถุชนเหล่าอื่นกล่าวคุณแห่งอุตริมนุสธรรมเพราะเหตุแห่งท้องให้เกิดขึ้นแล้ว ด้วยความเป็นผู้มีจิตบริสุทธิ์ จึงเป็นเหมือนกล่าวคุณแห่งอุตริมนุสธรรม เพราะเหตุแห่งท้อง ฉะนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงตรัสโดยสัพพสังคาหิกนัยนั่นแลว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ไฉนพวกเธอจึงได้กล่าวชมอุตริมนุสธรรมของกันและกัน แก่คฤหัสถ์ทั้งหลาย เพราะเหตุแห่งท้องเล่า? ดังนี้.
               คำที่เหลือเป็นเช่นเดียวกับเรื่องจตุตถปาราชิกทั้งนั้นแล.
               แม้ในวิภังค์แห่งสิกขาบท ในจตุตถปาราชิกนั้นเป็นปาราชิกกับถุลลัจจัยอย่างเดียว. ในสิกขาบทนี้เป็นปาจิตตีย์และทุกกฏ เพราะเป็นคุณมีจริง นี้เป็นความแปลกกัน.
               บทที่เหลือ มีนัยดังกล่าวแล้วนั่นแล.
               คำว่า บอกคุณวิเสสที่มีจริง แก่อนุปสัมบัน (นี้) ท่านกล่าวหมายเอาอุตริมนุสธรรมนั่นเอง. จริงอยู่ ภิกษุผู้ถูกรบเร้าถามในเวลาปรินิพพานและในกาลอื่น จะบอกคุณที่มีจริงแก่อุปสัมบันก็ควร.
               อนึ่ง จะบอกคุณ คือ สุตะ ปริยัติและศีล แม้แก่อนุปสัมบันก็ควร. ไม่เป็นอาบัติแก่ภิกษุผู้เป็นต้นบัญญัติ. แต่คำว่า อุมฺมตฺตกสฺส นี้ พระผู้มีพระภาคเจ้ามิได้ตรัสไว้ในสิกขาบทนี้. เพราะเหตุไร? ท่านวิจารณ์ไว้ในอรรถกถามหาปัจจรีว่า เพราะท่านผู้ถึงพร้อมด้วยทิฏฐิ ไม่มีความบ้า หรือจิตฟุ้งซ่าน ดังนี้. แต่ท่านผู้ได้ฌาน พึงเป็นบ้าได้ในเมื่อฌานเสื่อม. แม้สำหรับท่านผู้นั้นก็ไม่ควรกล่าวอนาบัติ ซึ่งมีการบอกฌานที่มีจริงเป็นปัจจัย เพราะฌานที่มีจริงนั่นแหละไม่มีฉะนี้แล.
               บทที่เหลือมีอรรถตื้นทั้งนั้นแล.
               สิกขาบทนี้ ชื่อว่าภูตาโรจนสิกขาบท เกิดขึ้นโดยสมุฏฐาน ๓ ที่มิได้ตรัสไว้ในเบื้องต้น คือ ทางกาย ๑ ทางวาจา ๑ ทางกายกับวาจา ๑ เป็นกิริยา ในสัญญาวิโมกข์ อจิตตกะ ปัณณัตติวัชชะ กายกรรม วจีกรรม มีจิต ๒ โดยเป็นกุศลจิตกับอัพยากตจิต มีเวทนา ๒ โดยเป็นสุขเวทนากับอุเบกขาเวทนา ฉะนี้แล.

               ภูตาโรจนสิกขาบทที่ ๘ จบ.               
               ------------------------------------------------------------               

.. อรรถกถา ปาจิตติยกัณฑ์ ปาจิตติย์ มุสาวาทวรรคที่ ๑ สิกขาบทที่ ๘ จบ.
อ่านอรรถกถา 2 / 1อ่านอรรถกถา 2 / 298อรรถกถา เล่มที่ 2 ข้อ 304อ่านอรรถกถา 2 / 342อ่านอรรถกถา 2 / 881
อ่านเนื้อความในพระไตรปิฎก
https://84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=2&A=7468&Z=8399
อ่านอรรถกถาภาษาบาลีอักษรไทย
https://84000.org/tipitaka/atthapali/read_th.php?B=2&A=6403
The Pali Atthakatha in Roman
https://84000.org/tipitaka/atthapali/read_rm.php?B=2&A=6403
- -- ---- ----------------------------------------------------------------------------
ดาวน์โหลด โปรแกรมพระไตรปิฎก
บันทึก  ๒๑  พฤศจิกายน  พ.ศ.  ๒๕๕๕
หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]

สีพื้นหลัง :