ขอนอบน้อมแด่
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
                      พระองค์นั้น
บทนำ  พระวินัยปิฎก  พระสุตตันตปิฎก  พระอภิธรรมปิฎก  ค้นพระไตรปิฎก  ชาดก  หนังสือธรรมะ 
 

อ่าน อรรถกถาหน้าต่างที่ [หน้าสารบัญ] [๑] [๒] [๓] [๔] [๕] [๖] [๗] [๘] [๙] [๑๐] [๑๑] [๑๒]อ่านอรรถกถา 20 / 1อ่านอรรถกถา 20 / 148อรรถกถา เล่มที่ 20 ข้อ 149อ่านอรรถกถา 20 / 150อ่านอรรถกถา 20 / 596
อรรถกถา อังคุตตรนิกาย เอกนิบาต เอตทัคคบาลี
วรรคที่ ๔

หน้าต่างที่ ๗ / ๑๒.

               อรรถกถาสูตรที่ ๗               
               ประวัติพระนันทกเถระ               
               ในสูตรที่ ๗ พึงทราบวินิจฉัยดังต่อไปนี้.
               บทว่า ภิกฺขุโนวาทกานํ ได้แก่ เป็นผู้โอวาทกล่าวสอนภิกษุณี.
               แท้จริง พระเถระนี้ เมื่อกล่าวธรรมกถา ก็ทำภิกษุณี ๕๐๐ รูปบรรลุพระอรหัต ในการประชุมคราวเดียว เพราะเหตุนั้น ท่านจึงชื่อว่าเป็นยอดของภิกษุสาวกผู้สอนภิกษุณี.
               ในปัญหากรรมของท่านมีเรื่องที่จะกล่าวตามลำดับดังนี้.
               พระเถระรูปนี้ ครั้งพระพุทธเจ้าพระนามว่าปทุมุตตระ บังเกิดในครอบครัว กรุงหงสวดี กำลังฟังธรรมกถาของพระศาสดา เห็นพระศาสดาสถาปนาภิกษุรูปหนึ่งไว้ในตำแหน่งเอตทัคคะเป็นยอดของภิกษุสาวกผู้โอวาทสอนภิกษุณี จึงกระทำกุศลให้ยิ่งยวดขึ้นไป ปรารถนาตำแหน่งนั้น.
               ท่านทำกุศลจนตลอดชีวิต เวียนว่ายอยู่ในเทวดาและมนุษย์ ครั้งพุทธุปบาทกาลนี้ ก็ถือปฏิสนธิในครอบครัว ณ กรุงสาวัตถี เจริญวัยแล้ว ฟังพระธรรมเทศนาของพระศาสดา ได้ศรัทธาก็บวชในสำนักพระศาสดา เจริญวิปัสสนาแล้วบรรลุพระอรหัต เป็นผู้ช่ำชองชำนาญในบุพเพนิวาสญาณ เมื่อบริษัท ๔ มาถึงแล้ว ท่านสามารถจับใจของบริษัทได้หมดแล้วกล่าวธรรมกถา เพราะฉะนั้น ท่านจึงชื่อว่า พระนันทกะธรรมกถึก.
               แม้พระตถาคตแล เมื่อเจ้าหนุ่มสากิยะ ๕๐๐ องค์ออกบวชจากครอบครัวเพราะเทริด เกิดกระสันจะลาสิกขา ก็ทรงพาภิกษุเจ้าสากิยะเหล่านั้นไปยังสระกุณาละ ทรงทราบว่าภิกษุเหล่านั้นสลดใจ เพราะตรัสเรื่องกุณาลชาดก จึงตรัสกถาว่าด้วยสัจจะ ๔ ให้เธอดำรงอยู่ในโสดาปัตติผล.
               ต่อมา ตรัสมหาสมยสูตร ให้เธอบรรลุพระอรหัต ซึ่งเป็นผลอันเลิศ.
               ภริยาของพระเถระเหล่านั้นมีจิตใจอย่างเดียวกันหมดว่า บัดนี้เราจะทำอะไรในที่นี้ จึงพากันเข้าไปหาพระมหาปชาบดีเถรี ขอบรรพชา. ภริยาทั้ง ๕๐๐ ได้บรรพชาอุปสมบทในสำนักพระเถรีแล้ว.
               แต่ในชาติต่อจากอดีต ภริยาทั้งหมดได้เป็นบาทบริจาริกาของท่านพระนันทกะเถระ เมื่อดำรงอยู่ในอัตตภาพเป็นพระราชา. สมัยนั้น พระศาสดาตรัสสั่งว่าพวกภิกษุจงสอนพวกภิกษุณี พระเถระ เมื่อถึงวาระ (เวร) ก็รู้ว่าภิกษุณีเหล่านั้นเป็นบาทบริจาริกาของตนในภพก่อน จึงคิดว่า ภิกษุผู้ได้บุพเพนิวาสญาณเห็นเรากำลังนั่งกลางภิกษุณีสงฆ์ ชักอุปมาละเหตุเป็นต้นมากล่าวธรรม ตรวจดูเหตุอันนี้แล้ว จะพึงพูดเคาะว่า ท่านนันทกะไม่ยอมสละเหล่าสนมจนทุกวันนี้ ท่านมีเหล่าสนมห้อมล้อม ช่างสง่างาม เพราะเหตุนั้น ท่านจึงไม่ไปเอง ส่งภิกษุรูปอื่นไปแทน.
               แต่ภิกษุณีทั้ง ๕๐๐ รูปนั้นจำนงหวังเฉพาะโอวาทของพระเถระ ด้วยเหตุนี้ เมื่อถึงวาระของท่าน พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงไม่ทรงส่งภิกษุรูปอื่นไปแทน ตรัสกะพระเถระว่า เธอจงไปเอง สอนภิกษุณีสงฆ์ ท่านไม่อาจคัดค้านพระดำรัสของพระศาสดาได้ เมื่อถึงวาระของตนจึงให้โอวาทภิกษุณีสงฆ์ วัน ๑๔ ค่ำให้ภิกษุณีเหล่านั้นทุกรูปดำรงอยู่ในโสดาปัตติผลด้วยธรรมเทศนาอันประดับด้วยสฬายตนะ (อายตนะ ๖).
               ภิกษุณีเหล่านั้นชื่นใจต่อธรรมเทศนาของพระเถระ พากันไปสำนักพระศาสดา ทูลบอกคุณที่ตนได้.
               พระศาสดาทรงนึกว่า ใครหนอแสดงธรรม ภิกษุณีเหล่านี้จึงจะพึงบรรลุมรรคผลชั้นสูงๆ ทรงเห็นว่า ภิกษุณีทั้ง ๕๐๐ นั้นฟังธรรมเทศนาของนันทกะอีก ก็จักบรรลุพระอรหัต. วันรุ่งขึ้น จึงทรงส่งภิกษุณีเหล่านั้นไปเพื่อฟังธรรมเทศนาในสำนักพระเถระผู้เดียว วันรุ่งขึ้น ภิกษุณีเหล่านั้นฟังธรรมแล้วก็บรรลุพระอรหัตทั้งหมด.
               วันนั้น เวลาที่ภิกษุณีเหล่านั้นมาเฝ้า พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงทราบว่าธรรมเทศนามีผล จึงตรัสว่า เมื่อวันวาน ธรรมเทศนาของนันทกะเป็นเสมือนพระจันทร์ ๑๔ ค่ำ วันนี้เป็นเสมือนพระจันทร์ ๑๕ ค่ำ แล้วทรงทำเหตุนั้นนั่นแลให้เป็นอัตถุปปัตติเหตุเกิดเรื่อง จึงทรงสถาปนาพระเถระไว้ในตำแหน่งเอตทัคคะเป็นยอดของเหล่าภิกษุสาวกผู้โอวาทสอนภิกษุณีแล.

               จบอรรถกถาสูตรที่ ๗               
               -----------------------------------------------------               

.. อรรถกถา อังคุตตรนิกาย เอกนิบาต เอตทัคคบาลี วรรคที่ ๔
อ่านอรรถกถาหน้าต่างที่ [หน้าสารบัญ] [๑] [๒] [๓] [๔] [๕] [๖] [๗] [๘] [๙] [๑๐] [๑๑] [๑๒]
อ่านอรรถกถา 20 / 1อ่านอรรถกถา 20 / 148อรรถกถา เล่มที่ 20 ข้อ 149อ่านอรรถกถา 20 / 150อ่านอรรถกถา 20 / 596
อ่านเนื้อความในพระไตรปิฎก
https://84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=20&A=675&Z=693
อ่านอรรถกถาภาษาบาลีอักษรไทย
https://84000.org/tipitaka/atthapali/read_th.php?B=14&A=6083
The Pali Atthakatha in Roman
https://84000.org/tipitaka/atthapali/read_rm.php?B=14&A=6083
- -- ---- ----------------------------------------------------------------------------
ดาวน์โหลด โปรแกรมพระไตรปิฎก
บันทึก  ๑  มกราคม  พ.ศ.  ๒๕๕๐
หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]

สีพื้นหลัง :