บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ |
อ่าน อรรถกถาหน้าต่างที่ [หน้าสารบัญ] [๑] [๒] [๓] [๔] [๕] [๖] [๗] [๘] [๙] หน้าต่างที่ ๗ / ๙. ๘. ประวัตินางกาติยานี ด้วยบทว่า อเวจฺจปฺปสนฺนานํ ท่านแสดงว่า นางกาติยานีเป็นเลิศกว่าพวกอุบาสิกาผู้ประกอบด้วยความเลื่อมใสอย่างแน่นแฟ้นที่ตนบรรลุแล้ว. ดังได้สดับมา นางกาติยานีนั้น ครั้งพระพุทธเจ้าพระนามว่าปทุมุตตระ บังเกิดในเรือนสกุล กรุงหังสวดี เห็นพระศาสดาทรงสถาปนาอุบาสิกาผู้หนึ่งไว้ในตำแหน่งเอตทัคคะเป็นเลิศกว่าพวกอุบาสิกาผู้เลื่อมใสอย่างแน่นแฟ้น จึงทำกุศลให้ยิ่งยวดขึ้นไป ปรารถนาตำแหน่งนั้น. นางเวียนว่ายอยู่ในเทวดาและมนุษย์ถึงแสนกัป. ในพุทธุปบาทกาลนี้บังเกิดในกุรรฆรนคร. บิดามารดาตั้งชื่อนางว่า กาติยานี. ต่อมา นางเจริญวัย เป็นสหายเป็นมิตรสนิทของนางกาฬีชาวกุรรฆรนคร ก็เมื่อใด ท่านพระโกฏิกัณณโสณเถระถูกมารดาวอนขอว่า ท่านจงกล่าวธรรมแม้แก่โยมแม่ โดยทำนองที่พระทศพลตรัสไว้เถิด ก็นั่งเหนืออาสนะที่ตกแต่งแล้วภายในนคร ตอนเที่ยงคืนเริ่มเทศนา ทำมารดาให้เป็นพระอริยกายสักขี. เมื่อนั้น นางกาติยานีอุบาสิกานี้ไปกับนากาฬี ยืนฟังธรรมท้ายบริษัท. สมัยนั้น โจรประมาณ ๙๐๐ คนขุดอุโมงค์เริ่มแต่มุมหนึ่งภายในนคร ตามกำหนดหมายที่ทำไว้ในเวลากลางวันไปทะลุถึงเรือนนางกาติยานีอุบาสิกานี้. บรรดาโจรเหล่านั้น หัวหน้าโจรไม่เข้าไปกับโจรเหล่านั้น ไปยังสถานที่กล่าวธรรมของท่านพระโสณเถระ เพื่อสืบสวนว่าบริษัทนี้ประชุมกันทำไมหนอ เมื่อยืนท้ายบริษัท ก็ยืนข้างหลังนางกาติยานีอุบาสิกานี้. เวลานั้น นางกาติยานีจึงเรียกทาสีมาสั่งว่า แม่นี่เจ้าจงเข้าไปเรือนนำประทีปน้ำมันมา ข้าจักจุดประทีปให้ไฟสว่างแล้วฟังธรรม. ทาสีนั้นไปเรือนจุดประทีปพบพวกโจรขุดอุโมงค์ ก็ไม่ถือเอาประทีปน้ำมันมา ไปบอกแม่นายของตนว่า แม่นาย พวกโจรขุดอุโมงค์ในเรือนเจ้าค่ะ. หัวหน้าโจรฟังคำทาสีนั้นแล้วคิดว่า ถ้าหญิงผู้นี้เชื่อคำทาสีนี้แล้วไปเรือนไซร้ เราก็จักเอาดาบฟันนางให้ขาดสองท่อนในที่นี้นี่แหละ ก็ถ้าหญิงผู้นี้จักฟังธรรมโดยนิมิตที่นางถือเอาแล้วนั่นแล เราก็จักให้คืนทรัพย์ที่พวกโจรยึดถือไว้. ฝ่ายนางกาติยานีฟังคำทาสีแล้วก็กล่าวว่า แม่คุณ อย่าทำเสียงดังเลย ขึ้นชื่อว่าพวกโจร เมื่อจะลักก็ลักแต่ทรัพย์ที่ตนเห็นเท่านั้นดอก ส่วนข้าจะฟังธรรมที่หาได้ยากในวันนี้ เจ้าอย่าทำอันตรายแก่ธรรมเลย. หัวหน้าโจรฟังคำนางก็คิดว่า พวกเราซึ่งพากันลักทรัพย์สิ่งของในเรือนของหญิงที่มั่นคงด้วยอัธยาศัยเช่นนี้ก็พึงถูกธรณีสูบแน่. ทันใดนั่นเอง หัวหน้าโจรนั้นก็ไปสั่งให้คืนทรัพย์สิ่งของที่ลักมาเสีย แล้วพวกโจรก็พร้อมกันมายืนฟังธรรมท้ายบริษัท. ฝ่ายนางกาติยานีอุบาสิกา จบเทศนาของพระเถระ ก็ดำรงอยู่ในโสดาปัตติผล. ขณะนั้น เมื่ออรุณขึ้น หัวหน้าโจรก็ไปหมอบแทบเท้าอุบาสิกากล่าวว่า แม่เจ้า โปรดยกโทษให้แก่พวกข้าทั้งหมดด้วยเถิด. นางถามว่า ก็พวกท่านทำอะไรแก่ฉันไว้หรือ. หัวหน้าโจรนั้นก็บอกโทษที่ตนทำทั้งหมด. นางกล่าวว่า พ่อเอ๋ย ฉันยกโทษให้พวกท่านจ้ะ. หัวหน้าโจรกล่าวว่า แม่เจ้า ก็เป็นอันแม่เจ้ายกโทษให้แก่พวกเราแล้ว แต่ขอแม่เจ้าโปรดให้พวกเราทุกคนได้บวชในสำนักพระเถระบุตรของแม่เจ้าด้วยเถิด. นางก็พาโจรเหล่านั้นทั้งหมดไปให้บวชในสำนักพระโกฏิกัณณโสณเถระ. คนเหล่านั้นบวชในสำนักพระเถระแล้ว ก็บรรลุพระอรหัตหมดทุกรูป. เรื่องนี้เกิดขึ้นอย่างนี้. ต่อมาภายหลัง พระศาสดาประทับอยู่ ณ พระเชตวันวิหาร เมื่อทรงสถาปนาพวกอุบาสิกาไว้ในตำแหน่งต่างๆ จึงทรงสถาปนานางกาติยานีอุบาสิกาไว้ในตำแหน่งเอตทัคคะเป็นเลิศกว่าพวกอุบาสิกาอริยสาวิกาผู้เลื่อมใสอย่างแน่นแฟ้นแล. จบอรรถกถาสูตรที่ ๘ ----------------------------------------------------- .. อรรถกถา อังคุตตรนิกาย เอกนิบาต เอตทัคคบาลี วรรคที่ ๗ |