![]() |
บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ |
![]() |
![]() | |
![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ชื่อว่าอุปปาทะ เพราะเป็นที่เกิดขึ้นแห่งตัณหาเหล่านั้น. ถามว่า อะไรเกิด. ตอบว่า ตัณหา. ความเกิดขึ้นแห่งตัณหา ชื่อว่าตัณหุปปาทะ. อธิบายว่า วัตถุแห่งตัณหา เหตุแห่งตัณหา. บทว่า จีวรเหตุ ความว่า ตัณหาย่อมเกิดเพราะมีจีวรเป็นเหตุ ว่าเราจักได้จีวรที่น่าชอบใจในที่ไหน. ศัพท์ว่า อิติ ในบทว่า อิติภวาภวเหตุ นี้เป็นนิบาตลงในอรรถว่าตัวอย่าง. อธิบายว่า ตัณหาย่อมเกิดขึ้นเพราะความมีน้อยมีมากเป็นเหตุ เหมือนที่เกิดขึ้นเพราะมีจีวรเป็นต้นเป็นเหตุ ส่วนในบทว่า ภวาภโว นี้ประสงค์เอาเนยใสและเนยข้นเป็นต้นที่ประณีตและประณีตกว่ากัน. อาจารย์บางพวกกล่าวว่าภพที่ประณีตกว่าและประณีตที่สุดในสัมปัตติภพดังนี้ก็มี. บทว่า ตณฺหาทุติโย ความว่า ก็สัตว์นี้ท่องเที่ยวไปในสังสารวัฏที่ตัวสัตว์เองไม่รู้จุดจบ มิใช่ท่องเที่ยวไปแต่ลำพังเท่านั้น ยังได้ตัณหาเป็นเพื่อนท่องเที่ยวไปด้วย ด้วยเหตุนั้น จึงตรัสว่า ตณฺหาทุติโย ดังนี้. ในบทว่า อิตฺถภาวญฺญภาวํ นี้ได้แก่อัตภาพนี้ ชื่อว่าอิตถภาวะเป็นอย่างนี้ อัตภาพในอนาคต ชื่อว่าอัญญถาภาวะเป็นอย่างอื่น. อีกอย่างหนึ่ง อัตภาพแม้อื่นที่เป็นอย่างนี้ ชื่อว่า อิตถภาวะเป็นอย่างนี้ ที่มิใช่เป็นอย่างนี้ ชื่อว่าอัญญถาภาวะ เป็นอย่างอื่น. ซึ่งเป็นอย่างนี้และอย่างอื่น. บทว่า สํสารํ ได้แก่ ลำดับขันธ์ ธาตุ อายตนะ. บทว่า นาติวตฺตติ แปลว่า ไม่ล่วงพ้นไป. บทว่า เอตมาทีนวํ ญฺตวา ความว่า ภิกษุรู้ถึงโทษในขันธ์ที่เป็นอดีต อนาคต ปัจจุบันอย่างนี้แล้ว. บทว่า ตณฺหํ ทุกฺขสฺส สมฺภวํ ความว่า รู้ถึงตัณหาอย่างนี้ว่า ตัณหานี้เป็นเหตุเกิด เป็นแดนเกิด เป็นเหตุแห่งวัฏฏทุกข์. ความที่ภิกษุนี้เจริญวิปัสสนาแล้วบรรลุพระอรหัต ทรงแสดงด้วยเหตุประมาณเท่านี้. บัดนี้ เมื่อทรงยกย่องภิกษุขีณาสพนั้น จึงตรัสว่า วิตฺตณฺโห เป็นอาทิ. บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า อนาทาโน ได้แก่ ไม่ถือมั่น. บทว่า สโต ภิกฺขุ ปริพฺพเช ความว่า ภิกษุผู้ขีณาสพถึงความไพบูลย์ด้วยสติสัมปชัญญะ พึงมีสติสัมปชัญญะเที่ยวไปอยู่. ดังนั้น ในสูตรตรัสถึงวัฏฏะ ในคาถา ตรัสทั้งวัฏฏะ ทั้งวิวัฏฏะ (โลกิยะและโลกุตระ) ด้วยประการฉะนี้. จบอรรถกถาตัณหาสูตรที่ ๙ ----------------------------------------------------- .. อรรถกถา อังคุตตรนิกาย จตุกกนิบาต ปฐมปัณณาสก์ ภัณฑคามวรรคที่ ๑ ๙. ตัณหาสูตร จบ. |