![]() |
บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ |
![]() |
![]() | ||||||||||||||||||||||||||||||||||
อ่าน อรรถกถาหน้าต่างที่ [หน้าสารบัญ] [๑] [๒] [๓] [๔] [๕] [๖] [๗] [๘] [๙] [๑๐] [๑๑] [๑๒] ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ๑. เรื่องภิกษุ ๕๐๐ รูปผู้ขวนขวายในปฐวีกถา [๓๓] ข้อความเบื้องต้น ควรปรารภแผ่นดินภายใน พระศาสดาเสด็จมา ตรัสถามว่า "ภิกษุทั้งหลาย บัดนี้ พวกเธอนั่งสนทนากันด้วยเรื่องอะไรหนอ?" เมื่อภิกษุเหล่านั้นกราบทูลว่า "ด้วยเรื่องแผ่นดินในสถานที่พวกข้าพระองค์เที่ยวไปแล้ว พระเจ้าข้า" ดังนี้แล้ว จึงตรัสว่า "ภิกษุทั้งหลาย นั่นชื่อว่าแผ่นดินภายนอก, การที่พวกเธอทำบริกรรมในแผ่นดินภายในจึงจะควร" ดังนี้แล้ว ได้ทรงภาษิต ๒ พระคาถานี้ว่า :-
แก้อรรถ บทว่า วิเชสฺสติ ความว่า จักรู้แจ้ง คือแทงตลอด ได้แก่ ทำให้แจ้งด้วยญาณของตน. บทว่า ยมโลกญฺจ ได้แก่ อบายโลก ๔ อย่างด้วย. สองบทว่า อิมํ สเทวกํ ความว่า ใครจักรู้ชัด คือจักทราบชัด ได้แก่ แทงตลอด ทำให้แจ้งซึ่งมนุสสโลกนี้กับเทวโลกด้วย พระศาสดาย่อมตรัสถามดังนี้. บาทพระคาถาว่า โก ธมฺมปทํ สุเทสิตํ ความว่า ใครจักเลือก คือคัด ได้แก่พิจารณาเห็น แทงตลอด ทำให้แจ้ง ซึ่งบทธรรม กล่าวคือโพธิปักขิยธรรม ๓๗ ประการ๑- ที่ชื่อว่าอันเราแสดงดีแล้ว เพราะความเป็นธรรมอันเรากล่าวแล้วตามความเป็นจริง เหมือนนายมาลาการผู้ฉลาดเลือกดอกไม้อยู่ฉะนั้น. บทว่า เสโข เป็นต้น ความว่า พระอริยบุคคล ๗ จำพวก ตั้งแต่ท่านผู้ตั้งอยู่ในโสดาปัตติมรรค จนถึงท่านผู้ตั้งอยู่ในอรหัตมรรค ชื่อว่าพระเสขะ เพราะยังศึกษาสิกขา ๓ เหล่านี้ คือ อธิสีลสิกขา อธิจิตตสิกขา อธิปัญญาสิกขา คร่าออกอยู่ซึ่งฉันทราคะ๒- จากอัตภาพนั้น ด้วยอรหัตมรรค ชื่อว่าจักรู้ชัด คือจักทราบชัด ได้แก่แทงตลอด ทำให้แจ้งซึ่งแผ่นดินนี้ กล่าวคืออัตภาพ. ____________________________ ๑- คือ สติปัฏฐาน ๔ สัมมัปปธาน ๔ อิทธิบาท ๔ อินทรีย์ ๕ พละ ๕ โพชฌงค์ ๗ มรรคมีองค์ ๘. ๒- ฉันทราคะ แปลว่า ความกำหนัดด้วยอำนาจความพอใจ. บทว่า ยมโลกญฺจ เป็นต้น ความว่า พระเสขะนั้นนั่นแหละจักรู้ชัด คือจักทราบชัด ได้แก่แทงตลอด ทำให้แจ้ง ซึ่งยมโลก มีประการอันกล่าวแล้วอย่างนั้น และมนุสสโลกนี้กับทั้งเทวโลกทั้งหลาย ชื่อว่าพร้อมทั้งเทวโลก. พระผู้ยังต้องศึกษา ๗ จำพวกนั้นแหละ ชื่อว่าเสขะ. อธิบายว่า นายมาลาการผู้ฉลาดเข้าไปสู่สวนดอกไม้แล้ว เว้นดอกไม้ที่อ่อนและตูม ที่สัตว์เจาะ ที่เหี่ยวและที่เกิดเป็นปมเสียแล้ว เลือกเอาเฉพาะแต่ดอกไม้ที่งาม ที่เกิดดีแล้ว ชื่อฉันใด พระเสขะจักเลือก คือคัด ได้แก่พิจารณาเห็น แทงตลอด ทำให้แจ้ง แม้ซึ่งบทแห่งโพธิปักขิยธรรมนี้ที่เรากล่าวดีแล้ว คือแสดงดีแล้ว ฉันนั้นนั่นแล. พระศาสดาทรงเฉลยปัญหาเองทีเดียว. ในเวลาจบเทศนา ภิกษุ ๕๐๐ รูป บรรลุพระอรหัตพร้อมด้วยปฏิสัมภิทาทั้งหลายแล้ว, เทศนาได้มีประโยชน์แม้แก่บริษัทผู้ประชุมกัน ดังนี้แล. เรื่องภิกษุ ๕๐๐ รูปผู้ขวนขวายในปฐวีกถา จบ. ----------------------------------------------------- .. อรรถกถา ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท ปุปผวรรคที่ ๔ |