ขอนอบน้อมแด่
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
                      พระองค์นั้น
บทนำ  พระวินัยปิฎก  พระสุตตันตปิฎก  พระอภิธรรมปิฎก  ค้นพระไตรปิฎก  ชาดก  หนังสือธรรมะ 
 

อ่าน อรรถกถาหน้าต่างที่ [หน้าสารบัญ] [๑] [๒] [๓] [๔] [๕] [๖] [๗] [๘] [๙] [๑๐] [๑๑] [๑๒]อ่านอรรถกถา 25 / 1อ่านอรรถกถา 25 / 13อรรถกถา เล่มที่ 25 ข้อ 14อ่านอรรถกถา 25 / 15อ่านอรรถกถา 25 / 440
อรรถกถา ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท ปุปผวรรคที่ ๔

หน้าต่างที่ ๑๑ / ๑๒.

               ๑๑. เรื่องปรินิพพานของพระโคธิกเถระ [๔๓]               
               ข้อความเบื้องต้น               
               พระศาสดา เมื่อเสด็จเข้าไปอาศัยกรุงราชคฤห์ ประทับอยู่ในพระเวฬุวัน ทรงปรารภการปรินิพพานของพระโคธิกเถระ ตรัสพระธรรมเทศนานี้ว่า "เตสํ สมฺปนฺนสีลานํ" เป็นต้น.

               พระเถระคิดฆ่าตนเพราะเสื่อมจากฌาน               
               ความพิสดารว่า ท่านผู้มีอายุนั้น อยู่ใกล้ถ้ำกาฬสิลาข้างภูเขาอิสิคิลิ เป็นผู้ไม่ประมาท มีความเพียร มีตนส่งไปแล้ว ถูกต้องเจโตวิมุตติ อันเกิดขึ้นในสมัย (เกิดเป็นครั้งคราว) เสื่อมจากเจโตวิมุตตินั้น ด้วยอำนาจแห่งโรคชนิดหนึ่งอันเรื้อรัง. ท่านยังฌานที่ ๒ บ้าง ที่ ๓ บ้าง ให้เกิดขึ้นถึง ๖ ครั้ง แล้วก็เสื่อม
               ในวาระที่ ๗ ให้เกิดขึ้นแล้ว คิดว่า "เราเสื่อมจากฌานถึง ๖ ครั้งแล้ว, ก็คติของผู้มีฌานเสื่อมแล้วแล ไม่แน่นอน, คราวนี้แล เราจักนำศัสตรามา" ดังนี้แล้ว จึงถือมีดสำหรับปลงผม นอนบนเตียงน้อย เพื่อจะตัดก้านคอแล้ว.

               มารทูลให้พระศาสดาทรงทราบ               
               มารรู้จิตของท่านแล้วคิดว่า "ภิกษุนี้ใคร่จะนำศัสตรามา; ก็แล ภิกษุทั้งหลายเมื่อนำศัสตรามา ย่อมเป็นผู้หมดความอาลัยในชีวิต, ภิกษุเหล่านั้นเริ่มตั้งวิปัสสนาแล้ว ย่อมบรรลุพระอรหัตได้, ถ้าเราจักห้ามภิกษุนั้น; เธอจักไม่ทำตามคำของเรา, เราจักทูลให้พระศาสดาห้าม" ดังนี้แล้ว จึงเข้าไปเฝ้าพระศาสดา ด้วยเพศที่คนอื่นไม่รู้จัก กราบทูลอย่างนี้ว่า๑- :-
                                   "ข้าแต่พระมหาวีระ ผู้มีบุญมาก รุ่งเรืองด้วย
                         ฤทธิ์ ด้วยยศ ล่วงเสียได้ซึ่งเวรและภัยทั้งปวง ผู้มีจักษุ
                         ข้าพระองค์ขอถวายบังคมพระบาททั้งสอง.
                                    ข้าแต่พระมหาวีระ สาวกของพระองค์ อันความ
                         ตายครอบงำ ย่อมจำนง คิดถึงความตาย, ข้าแต่พระองค์
                         ผู้ทรงไว้ซึ่งความรุ่งเรือง ขอพระองค์จงทรงห้ามพระสาวก
                         นั้น, ข้าแต่พระผู้มีพระภาคเจ้าผู้ปรากฏในหมู่ชน สาวก
                         ของพระองค์ยินดีแล้วในศาสนา (แต่) มีธรรม มีในใจยัง
                         มิได้บรรลุ ยังเป็นผู้จะต้องศึกษา จะพึงทำกาละเสียอย่าง
                         ไรเล่า?"
____________________________
๑- สํ. ส. เล่ม ๑๕/ข้อ ๔๙๐.

               มารแสวงหาวิญญาณของพระโคธิกะ               
               ในขณะนั้น พระเถระนำศัสตรามาแล้ว.
               พระศาสดาทรงทราบว่า "ผู้นี้เป็นมาร" จึงตรัสพระคาถานี้ว่า :-
                         ปราชญ์ทั้งหลายย่อมทำอย่างนั้นแล ย่อมไม่จำนงชีวิต,
                         โคธิกะ ถอนตัณหาขึ้นพร้อมทั้งราก ปรินิพพานแล้ว.

               ครั้งนั้นแล พระผู้มีพระภาคเจ้าได้เสด็จไปสู่ที่พระเถระนำศัสตรามา นอนอยู่แล้ว พร้อมด้วยภิกษุเป็นอันมาก. ขณะนั้น มารผู้ลามกคิดว่า "ปฏิสนธิวิญญาณของพระโคธิกะนี้ ตั้งอยู่แล้วในที่ไหนหนอแล?" ดังนี้แล้ว เป็นดุจกลุ่มควันและก้อนเมฆ แสวงหาวิญญาณของพระเถระในทิศทั้งปวง.
               พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดงความที่มารนั้นเป็นควันและก้อนเมฆนั้นแก่ภิกษุทั้งหลายแล้ว ตรัสว่า "ภิกษุทั้งหลาย มารผู้ลามกนั่นแลแสวงหาวิญญาณของกุลบุตรชื่อโคธิกะอยู่ ด้วยคิดว่า ‘วิญญาณของกุลบุตรชื่อโคธิกะตั้งอยู่แล้ว ณ ที่ไหน?’ ภิกษุทั้งหลาย กุลบุตรชื่อโคธิกะมีวิญญาณไม่ตั้งอยู่เลย ปรินิพพานแล้ว."
               แม้มาร เมื่อไม่อาจเห็นที่ตั้งวิญญาณของพระโคธิกะนั้นได้ จึงแปลงเพศเป็นกุมาร ถือพิณมีสีเหลืองดุจผลมะตูม เข้าไปเฝ้าพระศาสดา ทูลถามว่า :-
                         ข้าพระองค์เที่ยวแสวงหาอยู่ ในทิศเบื้องบน
                         เบื้องต่ำ เบื้องขวาง ทิศใหญ่ ทิศน้อย ก็มิได้
                         ประสบ, พระโคธิกะนั้นไปแล้ว ณ ที่ไหน?"
               ครั้งนั้น พระศาสดาตรัสกะมารนั้นว่า :-
                         ภิกษุชื่อโคธิกะ เป็นปราชญ์ สมบูรณ์ด้วยปัญญา
                         เครื่องทรงจำ มีฌาน ขึ้นดีแล้วในฌาน ในกาล
                         ทุกเมื่อ ประกอบความเพียรทั้งกลางวันกลางคืน
                         ไม่ไยดีชีวิต ชนะเสนาแห่งมัจจุได้แล้ว ไม่มาสู่
                         ภพอีก ถอนตัณหาพร้อมทั้งราก ปรินิพพานแล้ว.
               เมื่อพระศาสดาตรัสอย่างนั้นแล้ว พิณได้พลัดตกจากรักแร้ของมารนั้นผู้อันความโศกครอบงำ. ลำดับนั้น ยักษ์นั้นเสียใจได้หายไปในที่นั้นนั่นเองด้วยประการฉะนี้.
               แม้พระศาสดาตรัสว่า "มารผู้ลามก เจ้าต้องการอะไรด้วยสถานที่กุลบุตรชื่อโคธิกะเกิดแล้ว, เพราะคนอย่างเจ้าตั้งร้อยตั้งพัน ก็ไม่อาจจะเห็นที่ที่โคธิกะนั้นเกิด"
               ดังนี้แล้ว ได้ตรัสพระคาถานี้ว่า :-
                         ๑๑. เตสํ สมฺปนฺนสีลานํ                อปฺปมาทวิหารินํ
                         สมฺมทญฺญา วิมุตฺตานํ มาโร มคฺคํ น วินฺทติ.
                         มาร ย่อมไม่ประสบทางของท่านผู้มีศีลถึงพร้อมแล้ว
                         มีปกติอยู่ด้วยความไม่ประมาท พ้นวิเศษแล้ว เพราะ
                         รู้ชอบ เหล่านั้น.

               แก้อรรถ               
               บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า เตสํ คือ แห่งท่านที่ปรินิพพานเหมือนอย่างกุลบุตรชื่อโคธิกะ มีวิญญาณไม่ตั้งอยู่ ปรินิพพานแล้วฉะนั้น.
               บทว่า สมฺปนฺนสีลานํ คือ ผู้มีศีลบริบูรณ์แล้ว.
               บทว่า อปฺปมาทวิหารินํ คือ ผู้อยู่ด้วยความไม่ประมาท กล่าวคือความไม่อยู่ปราศจากสติ.
               บาทพระคาถาว่า สมฺมทญฺญา วิมุตฺตานํ ความว่า ผู้พ้นวิเศษแล้ว ด้วยวิมุตติ ๕ เหล่านี้ คือ "ตทังควิมุตติ วิกขัมภนวิมุตติ สมุจเฉทวิมุตติ ปฏิปัสสัทธิวิมุตติ นิสสรณวิมุตติ" เพราะรู้โดยเหตุ คือโดยนัย โดยการณ์.
               บาทพระคาถาว่า มาโร มคฺคํ น วินฺทติ ความว่า มาร แม้แสวงหาอยู่ โดยเต็มกำลัง ย่อมไม่ประสบ คือย่อมไม่ได้เฉพาะ ได้แก่ย่อมไม่เห็นทางแห่งพระมหาขีณาสพทั้งหลาย ผู้เห็นปานนี้ ไปแล้ว.
               ในเวลาจบเทศนา ชนเป็นอันมากบรรลุอริยผลทั้งหลาย มีโสดาปัตติผลเป็นต้นแล้ว. เทศนามีประโยชน์แก่มหาชน ดังนี้แล.

               เรื่องปรินิพพานของพระโคธิกเถระ จบ.               
               -----------------------------------------------------               

.. อรรถกถา ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท ปุปผวรรคที่ ๔
อ่านอรรถกถาหน้าต่างที่ [หน้าสารบัญ] [๑] [๒] [๓] [๔] [๕] [๖] [๗] [๘] [๙] [๑๐] [๑๑] [๑๒]
อ่านอรรถกถา 25 / 1อ่านอรรถกถา 25 / 13อรรถกถา เล่มที่ 25 ข้อ 14อ่านอรรถกถา 25 / 15อ่านอรรถกถา 25 / 440
อ่านเนื้อความในพระไตรปิฎก
https://84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=25&A=395&Z=433
อ่านอรรถกถาภาษาบาลีอักษรไทย
https://84000.org/tipitaka/atthapali/read_th.php?B=20&A=1
The Pali Atthakatha in Roman
https://84000.org/tipitaka/atthapali/read_rm.php?B=20&A=1
- -- ---- ----------------------------------------------------------------------------
ดาวน์โหลด โปรแกรมพระไตรปิฎก
บันทึก  ๙  พฤศจิกายน  พ.ศ.  ๒๕๔๘
หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]

สีพื้นหลัง :