บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ |
อ่าน อรรถกถาหน้าต่างที่ [หน้าสารบัญ] [๑] [๒] [๓] [๔] [๕] [๖] [๗] [๘] [๙] [๑๐] [๑๑] [๑๒] หน้าต่างที่ ๕ / ๑๒. ข้อความเบื้องต้น ของสงฆ์ใช้แล้วควรรีบเก็บ ภิกษุนั้น เมื่อพวกภิกษุกล่าวเตือนว่า "ผู้มีอายุ ธรรมดาบริขาร ภิกษุควรเก็บงำมิใช่หรือ?" กลับกล่าวว่า "กรรมที่ผมทำนั่นนิดหน่อย ผู้มีอายุ, บริขารนั่นไม่มีจิต, ความวิจิตรก็ไม่มี" ดังนี้แล้ว (ยังขืน) ทำอยู่อย่างนั้นนั่นแลอีก. ภิกษุทั้งหลายกราบทูลกิริยา (การ) ของเธอแด่พระศาสดา. พระศาสดารับสั่งให้เรียกภิกษุนั้นมาแล้ว ตรัสถามว่า "ภิกษุ ข่าวว่าเธอทำอย่างนั้นจริงหรือ?" เธอแม้ถูกพระศาสดาตรัสถามแล้ว ก็กราบทูลอย่างดูหมิ่นอย่างนั้นนั่นแหละว่า "ข้าแต่พระผู้มีพระภาคเจ้า ข้อนั้นจะเป็นอะไร ข้าพระองค์ทำกรรมเล็กน้อย บริขารนั้นไม่มีจิต ความวิจิตรก็ไม่มี." อย่าดูหมิ่นกรรมชั่วว่านิดหน่อย "อันภิกษุทั้งหลายทำอย่างนั้น ย่อมไม่ควร ขึ้นชื่อว่าบาปกรรม ใครๆ ไม่ควรดูหมิ่นว่านิดหน่อย เหมือนอย่างว่า ภาชนะที่เขาเปิดปากตั้งไว้กลางแจ้ง เมื่อฝนตกอยู่ ไม่เต็มได้ด้วยหยาดน้ำหยาดเดียวโดยแท้ ถึงกระนั้น เมื่อฝนตกอยู่บ่อยๆ ภาชนะนั้นย่อมเต็มได้แน่ๆ ฉันใด บุคคลผู้ทำบาปกรรมอยู่ ย่อมทำกองบาปให้ใหญ่โตขึ้นโดยลำดับได้อย่างแน่ๆ ฉันนั้นเหมือนกัน" ดังนี้แล้ว เมื่อจะทรงสืบอนุสนธิแสดงธรรม จึงตรัสพระคาถานี้ว่า :-
แก้อรรถ บทว่า ปาปสฺส แปลว่า ซึ่งบาป. บาทพระคาถาว่า น มตฺตํ อาคมิสฺสติ ความว่า บุคคลไม่ควรดูหมิ่นบาปอย่างนี้ว่า "เราทำบาปมีประมาณน้อย, เมื่อไร บาปนั่นจักเผล็ดผล?" บทว่า อุทกุมฺโภปิ ความว่า ภาชนะดินชนิดใดชนิดหนึ่ง ที่เขาเปิดปากทิ้งไว้ในเมื่อฝนตกอยู่ ย่อมเต็มด้วยหยาดน้ำที่ตกลงแม้ทีละหยาดๆ โดยลำดับได้ฉันใด. บุคคลเขลา เมื่อสั่งสมคือเมื่อพอกพูนบาปแม้ทีละน้อยๆ ย่อมเต็มด้วยบาปได้ฉันนั้นเหมือนกัน. ในกาลจบเทศนา ชนเป็นอันมากบรรลุอริยผลทั้งหลายมีโสดาปัตติผลเป็นต้นแล้ว. แม้พระศาสดาก็ทรงบัญญัติสิกขาบทไว้ว่า "ภิกษุลาดที่นอน (ของสงฆ์) ไว้ในที่แจ้งแล้ว ไม่เก็บ เรื่องภิกษุไม่ถนอมบริขาร จบ. ------------------------------------------------------------ .. อรรถกถา ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท ปาปวรรคที่ ๙ |