![]() |
บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ |
![]() |
![]() | |
![]() ![]() ![]() ![]() ![]() บทว่า นิสฺสรณิยา ความว่า ปฏิสังยุตด้วยธาตุที่สลัดออกไป. บทว่า ธาตุโย ได้แก่ สภาพที่ว่างจากสัตว์. บทว่า กามานํ ได้แก่ กิเลสกามและวัตถุกาม. อีกอย่างหนึ่ง บทว่า กามานํ ได้แก่ กิเลสกาม เพราะว่าธาตุทั้งหลายเป็นที่ออกไปจากกิเลสกาม ถึงวัตถุกามก็ออกไปเหมือนกัน ไม่ใช่ออกไปโดยประการอื่น. สมดังที่ตรัสไว้ว่า อารมณ์ที่วิจิตรทั้งหลายในโลกไม่ใช่กาม แต่ความกำหนัดที่เกิดจากความดำริของคน (ต่างหาก) เป็นกาม อารมณ์ที่วิจิตรทั้งหลาย ก็สถิตอยู่ในโลกอย่างนั้นนั่นแหละ แต่ธีรชน จะนำความพอใจในกามนั้นออกไป.๑- ____________________________ ๑- องฺ. ฉกฺก. เล่ม ๒๒/ข้อ ๓๓๔ การปราศไป ชื่อว่า นิสสรณะ. บทว่า เนกฺขมฺม ได้แก่ ปฐมฌาน โดยพิเศษแล้ว เนกขัมมะนั้นพึงเห็นว่ามีอสุภะเป็นอารมณ์ แต่ผู้ใดทำฌานนั้นให้เป็นเบื้องบาท พิจารณาสังขารทั้งหลาย บรรลุมรรคที่ ๓ แล้ว จึงทำให้แจ้งซึ่งพระนิพพานด้วยอนาคามิผล จิตของผู้นั้นจะสลัดออกจากกามทั้งหลายโดยส่วนเดียวเท่านั้น ฉะนั้น เนกขัมมะนี้ พึงทราบว่าเป็นการสลัดออกซึ่งกามทั้งหลายอย่างอุกฤษฏ์. บทว่า รูปานํ ได้แก่ รูปธรรมทั้งหลาย โดยพิเศษแล้วก็คือรูปาวจรธรรมทั้งหมด แยกประเภทเป็นกุศลวิบากและกิริยาพร้อมด้วยอารมณ์ทั้งหลาย. บทว่า อรุปฺปํ ได้แก่ รูปาวจรฌาน แต่อาจารย์บางพวกกล่าวเนื้อความของบทว่า กามานํ ไว้ว่า ได้แก่กามาวจรธรรมทั้งหมด และกล่าวเนื้อความของบทว่า เนกขัมมะ ว่าได้แก่รูปาวจรฌานทั้ง ๕ คำนั้นไม่มีในอรรถกถาทั้งหลายและไม่ถูกด้วย. บทว่า ภูตํ แปลว่า เกิดแล้ว. บทว่า สงฺขตํ ความว่า ที่ปัจจัยทั้งหลายจัดแจง คือปรุงแต่ง ทำแล้ว. บทว่า ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนํ ความว่า เกิดขึ้นจากเหตุ ด้วยบทแม้ทั้ง ๓ ย่อมครอบคลุมไปถึงธรรมที่เป็นไปในภูมิ ๓ โดยไม่เหลือ พระนิพพาน ชื่อว่านิโรธ. ก็ในที่นี้ พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสการกำหนดรู้กามไว้ด้วยธาตุแรก การกำหนดรู้รูปด้วยธาตุที่ ๒ การกำหนดรู้ธรรมที่ปัจจัยปรุงแต่งทั้งหมดด้วยธาตุที่ ๓ จึงเป็นอันตรัสการก้าวล่วงภพไว้ครบถ้วน. พึงทราบวินิจฉัยในคาถาทั้งหลาย ดังต่อไปนี้ บทว่า กามนิสฺสรณํ ญตฺวา ความว่า รู้ว่า นี้เป็นการสลัดออกจากกาม และการสลัดออกจากกามมีโดยอาการอย่างนี้. ชื่อว่า อติกฺกโม เพราะเป็นเหตุก้าวล่วงคืออุบายแห่งการก้าวล่วง. รู้เหตุก้าวล่วงนั้น คืออรูป. ธรรมชื่อว่าสัพพสังขารสมถะ เพราะเป็นที่สงบระงับแห่งสังขารทั้งมวล ได้แก่พระนิพพาน เห็นอยู่ซึ่งพระนิพพานนั้น. คำที่เหลือมีนัยดังกล่าวแล้วในหนหลังนั่นเอง. จบอรรถกถานิสสรณสูตรที่ ๓ ----------------------------------------------------- .. อรรถกถา ขุททกนิกาย อิติวุตตกะ ติกนิบาต ตติยวรรค นิสสรณสูตร จบ. |