บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ |
อ่าน อรรถกถาหน้าต่างที่ [หน้าสารบัญ] [๑] [๒] [๓] [๔] [๕] [๖] [๗] [๘] [๙] [๑๐] [๑๑] [๑๒] [๑๓] [๑๔] [๑๕] [๑๖] [๑๗] [๑๘] [๑๙] [๒๐] [๒๑] [๒๒] [๒๓] [๒๔] [๒๕] [๒๖] [๒๗] [๒๘] [๒๙] [๓๐] [๓๑] [๓๒] [๓๓] [๓๔] [๓๕] [๓๖] [๓๗] [๓๘] [๓๙] หน้าต่างที่ ๒๓ / ๓๙. ข้อความเบื้องต้น พราหมณีเสียใจเพราะได้สามเณรน้อย สามเณรผู้เป็นขีณาสพ ๔ รูป ซึ่งมีอายุ ๗ ปี คือ "สังกิจจสามเณร บัณฑิตสามเณร โสปากสามเณร เรวตสามเณร" ถึงแล้วแก่พราหมณ์นั้น. พราหมณีแต่งตั้งอาสนะทั้งหลายควรแก่ค่ามากไว้ เห็นสามเณรแล้ว โกรธ บ่นพึมพำอยู่ เหมือนเกลืออันบุคคลใส่ลงที่เตาไฟ กล่าวว่า "ท่านไปวิหารแล้ว พาเด็ก ๔ คนแม้ปูนหลานของตนซึ่งไม่สมควรมาแล้ว" จึงไม่ให้สามเณรเหล่านั้นนั่งบนอาสนะเหล่านั้น ลาดตั่งที่ต่ำๆ แล้วกล่าวว่า "ท่านทั้งหลายจงนั่งบนตั่งเหล่านั้น" กล่าวว่า "พราหมณ์ ท่านจงไป จงเลือกพราหมณ์แก่แล้วนำมา." แม้อัครสาวกทั้งสองก็ไม่เป็นที่พอใจของพราหมณี ฝ่ายพราหมณีถามว่า "พราหมณ์นี้กล่าวอะไร?" เมื่อพราหมณ์ตอบว่า "ท่าน พราหมณ์ไปพบพระมหาโมคคัลลานเถระ ก็กล่าวอย่างนั้นเหมือนกัน นำมาแล้ว. แม้ท่านเห็นสามเณรทั้งหลายแล้ว ก็กล่าวอย่างนั้นเหมือนกัน แล้วก็รับบาตรหลีกไป. ลำดับนั้น พราหมณีกล่าวกะพราหมณ์นั้นว่า "พราหมณ์เหล่านั้นเป็นผู้ไม่ประสงค์เพื่อจะฉันกระมัง? ท่านจงไปสู่โรงสวดของพราหมณ์ นำพราหมณ์แก่คนหนึ่งมา." ฝ่ายสามเณรทั้งหลายไม่ได้อะไรๆ จำเดิมแต่เช้า ถูกความหิวบีบคั้น นั่งอยู่แล้ว. ท้าวสักกะปลอมเป็นพราหมณ์แก่มาทรมานพราหมณี จึง (แปลง) เป็นพราหมณ์แก่คร่ำคร่าเพราะชรา ประทับนั่งอยู่บนอาสนะที่เลิศของพราหมณ์ทั้งหลายในโรงสวดของพราหมณ์นั้น. พราหมณ์พอเห็นท้าวสักกะนั้นแล้วคิดว่า "คราวนี้ พราหมณีของเราจักพอใจ" กล่าวว่า "มาเถิดท่าน พวกเราจักไปสู่เรือน" ได้พาท้าวเธอไปสู่เรือนแล้ว. พราหมณีพอเห็นท้าวสักกะเท่านั้น มีจิตยินดีแล้ว ลาดเครื่องลาดบนอาสนะ ๒ (ซ้อน) ในที่เดียวกัน กล่าวว่า "พระผู้เป็นเจ้า เชิญท่านนั่งบนเครื่องลาดนี้เถิด." ท้าวสักกะเสด็จเข้าไปสู่เรือน แล้วไหว้สามเณรทั้ง ๔ รูป ด้วยเบญจางคประดิษฐ์ แล้วจึงประทับนั่งโดยบัลลังก์ที่พื้นท้ายอาสนะของสามเณรเหล่านั้น. ครั้งนั้น พราหมณีเห็นท้าวเธอ กล่าวกะพราหมณ์ว่า "แย่จริง พราหมณ์ท่านนำมาแล้ว ท่านพาพราหมณ์บ้าแม้นั้นมา (อีก), พราหมณ์นั้นเที่ยวไหว้สามเณรปูนหลานของตนได้ ประโยชน์อะไรด้วยพราหมณ์นี้ ท่านจงขับไล่พราหมณ์นี้ออกไปเสีย." พราหมณ์แปลงนั้นถูกเขาจับที่คอบ้าง ที่มือบ้าง ที่รักแร้บ้าง ฉุดคร่าออกไปอยู่ ก็ยังไม่ปรารถนาแม้เพื่อจะลุกขึ้น. ลำดับนั้น พราหมณีกล่าวกะพราหมณ์ผู้สามีนั้นว่า "พราหมณ์มาเถิด ท่านจงจับที่มือข้างหนึ่ง ฉันจักจับที่มือข้างหนึ่ง." ทั้งสองคนจับที่มือทั้งสองแล้วโบยที่หลังอยู่ ได้ช่วยกันคร่าไปไว้ในภายนอกแต่ประตูเรือนแล้ว. ฝ่ายท้าวสักกะก็คงประทับนั่งในที่ตนนั่งนั่นแล กวักพระหัตถ์แล้ว. ทั้งสองผัวเมียนั้นกลับมาเห็นท้าวสักกะนั้นประทับนั่งอยู่อย่างเดิม ร้องอยู่ด้วยความกลัว ปล่อยไปแล้ว. ในขณะนั้น ท้าวสักกะให้เขาทราบความที่พระองค์เป็นท้าวสักกะแล้ว. ลำดับนั้น ผัวเมียทั้งสองได้ถวายอาหารแก่สามเณรเหล่านั้นแล้ว. ชนแม้ทั้ง ๕ รับอาหารแล้ว, รูปหนึ่งทำลายมณฑลช่อฟ้าไป, รูปหนึ่งทำลายส่วนเบื้องหน้าแห่งหลังคาไป, รูปหนึ่งทำลายส่วนเบื้องหลังแห่งหลังคาไป, รูปหนึ่งดำลงในแผ่นดินไป, ฝ่ายท้าวสักกะก็เสด็จออกไปโดยทางหนึ่ง, ชนแม้ทั้ง ๕ ได้ไปสู่ที่ทั้ง ๕ ด้วยประการฉะนี้. พวกสามเณรเล่าเรื่องที่ถูกทรมาน พวกสามเณร. ท่านทั้งหลายจงอย่าถามพวกกระผม, จำเดิมแต่กาลที่พราหมณีเห็นพวกกระผมแล้ว พราหมณีถูกความโกรธครอบงำ ไม่ให้พวกกระผมนั่งบนอาสนะที่ตบแต่งไว้ แล้วยังกล่าวว่า "ท่านจงนำพราหมณ์แก่มาเร็ว" อุปัชฌายะของพวกกระผมมาเห็นพวกกระผมแล้ว กล่าวว่า "การที่พราหมณ์ผู้นั่งอยู่เหล่านี้ได้ (อาหารก่อน) ควร" ให้นำบาตรมาแล้วออกไป, เมื่อนางพราหมณีกล่าวว่า "ท่านจงนำพราหมณ์แก่อื่นมา" พราหมณ์นำพระมหาโมคคัลลานเถระมาแล้ว, ท่านเห็นพวกกระผม ก็กล่าวอย่างนั้นเหมือนกัน แล้วหลีกไป, ทีนั้น พราหมณีกล่าวว่า "พราหมณ์เหล่านี้เป็นผู้ไม่ประสงค์จะฉัน ท่านจงไป จงนำพราหมณ์แก่คนหนึ่ง จากโรงสวดของพราหมณ์มาเถิด" แล้วส่งพราหมณ์ไป พราหมณ์นั้นไปที่โรงสวดนั้นแล้ว นำท้าวสักกะผู้เสด็จมาด้วยเพศแห่งพราหมณ์มา, ในกาลที่ท้าวสักกะนั้นเสด็จมาแล้ว ผัวเมียทั้งสองจึงได้ถวายอาหารแก่พวกกระผม. ภิกษุทั้งหลาย. พวกเธอไม่โกรธแก่เขา ผู้ทำอยู่อย่างนั้นหรือ? พวกสามเณร. พวกกระผมไม่โกรธ. ภิกษุทั้งหลายฟังคำนั้นแล้ว กราบทูลแด่พระศาสดาว่า "พระเจ้าข้า สามเณรเหล่านี้กล่าวคำไม่จริงว่า พวกกระผมไม่โกรธ ย่อมพยากรณ์พระอรหัตผล." พระศาสดาตรัสว่า "ภิกษุทั้งหลาย ธรรมดาพระขีณาสพทั้งหลายย่อมไม่เคียดแค้นในชนทั้งหลาย แม้ผู้เคียดแค้นแล้วเลย" ดังนี้แล้ว ตรัสพระคาถานี้ว่า :-
แก้อรรถ ในกาลจบเทศนา ชนเป็นอันมากบรรลุอริยผลทั้งหลาย มีโสดาปัตติผลเป็นต้น ดังนี้แล. เรื่องสามเณร จบ. ----------------------------------------------------- .. อรรถกถา ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท พราหมณวรรคที่ ๒๖ |