![]() |
บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ |
![]() |
![]() | |
![]() ![]() ![]() ![]() ![]() #- บาลีเป็น ชตุกัณณีปัญหา. ชตุกัณณิสูตร มีคำเริ่มต้นว่า สุตฺวานหํ ดังนี้เป็นต้น. ในบทเหล่านั้น บทว่า สุตฺวานหํ วีรํ อกามกามึ ข้าพระองค์ได้ฟังว่าพระองค์ไม่ใคร่กาม คือข้าพระองค์ได้ฟังว่าพระพุทธเจ้าชื่อว่าผู้เป็นวีระ ผู้ไม่ใคร่กาม เพราะไม่ใคร่กามทั้งหลาย โดยนัยมีอาทิว่า อิติปิ โส ภควา ดังนี้. บทว่า อกามมาคมํ ผู้ไม่มีกาม คือ ข้าพระองค์มาพื่อทูลถามพระผู้มีพระภาคเจ้าผู้ไม่มีกาม. บทว่า สหาชเนตฺต ได้แก่ ผู้มีพระเนตรคือพระสัพพัญญุตญาณเกิดขึ้นพร้อมแล้ว. บทว่า ยถาตจฺฉํ คือ ตามความเป็นจริง. บทว่า พฺรูหิ เม ขอพระองค์จงบอกแก่ข้าพระองค์เถิด ชตุกัณณิมาณพกล่าวทูลวิงวอนอีก. เพราะว่าเมื่อทูลวิงวอน ก็พึงกล่าวได้ตั้งพันครั้ง. ก็เรื่องอะไรจะกล่าวเพียงสองครั้งเล่า. บทว่า เตชี เตชสา คือ พระผู้มีพระภาคเจ้าผู้มีพระเดช ทรงครอบงำด้วยพระเดช. บทว่า ยมหํ วิชญฺญํ ชาติชราย อิธ วิปฺปหานํ คือ ข้าพระองค์พึงรู้ธรรมอันเป็นเหตุละชาติชรา ณ ที่นี้. ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้า เมื่อจะตรัสบอกธรรมนั้นแก่ชตุกัณณิมาณพนั้น จึงได้ตรัสคาถาสามคาถา. ในบทเหล่านั้น บทว่า เนกฺขมฺมํ ทฏฺฐุ เขมโต เห็นเนกขัมมะโดยความเป็นธรรมอันเกษม คือเห็นนิพพานและการปฏิบัติเพื่อถึงนิพพานว่าเป็นธรรมอันเกษม. บทว่า อุคฺคหึตํ ได้แก่ ยึดถือด้วยตัณหาและทิฏฐิ. บทว่า นิรตฺตํ วา ได้แก่ ควรปลดเปลื้องเสีย. บทว่า มา เต วิชฺชิตฺถ คือ อย่าได้มีแก่ท่าน. บทว่า กิญฺจนํ เครื่องกังวล ได้แก่ แม้เครื่องกังวลมีราคะเป็นต้นอย่าได้มีแก่ท่าน. บทว่า ปุพฺเพ ในกาลก่อน คือกิเลสที่เกิดขึ้นปรารภสังขารในอดีต. บทว่า พฺราหฺมณ พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสเรียกชตุกัณณิมาณพ. บทที่เหลือในทุกบทชัดเจนดีแล้ว. พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดงพระสูตรนี้ด้วยธรรมเป็นยอดคือพระอรหัตนั่นแหละด้วยประการฉะนี้. เมื่อจบเทศนาได้มีผู้บรรลุธรรมเช่นในสูตรก่อนนั่นแล. จบอรรถกถาชตุกัณณิสูตรที่ ๑๑ แห่งอรรถกถาขุททกนิกาย ชื่อปรมัตถโชติกา -------------------- .. อรรถกถา ขุททกนิกาย สุตตนิบาต ปารายนวรรค ชตุกัณณีปัญหาที่ ๑๑ จบ. |